ตอนที่แล้วบทที่ 85 : ยูนิคอร์น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 87 : สังหารภายในเสี้ยววินาที

บทที่ 86: แลนเซล็อต


แสงศักดิ์สิทธิ์อาบลงบนร่างของเขา ยูนิคอร์นยืนอยู่ข้างแอนนี่ในขณะที่มันจ้องไปที่วิลเลียม มันดูสับสนมาก

“ยูนิคอร์น?” ทันใดนั้นวิลเลียมก็เข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตนี้คืออะไร เขาเคยเห็นสัตว์ลึกลับนี้แค่ในวีดีโอเท่านั้น เขายังรู้เกี่ยวกับยูนิคอร์นและพลังติดตัวของมันผ่านวีดีโออีกด้วย

ยูนิคอร์นนั้นหายากยิ่งกว่ามังกรเสียอีก

ค่าของสัตว์ลึกลับประเภทนี้จึงสูงยิ่งกว่าค่าของมังกรเสียอีก

แอนนี่ที่ยืนเท้าเปล่าพูดขึ้นมา “ใช่ ลูลู่ดูเหมือนจะสนใจในตัวท่านมาก ดังนั้นเธอจึงมาเพื่อเจอท่าน!”

“ลูลู่?” วิลเลียมถอดรองเท้าของเขาออก แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไป ดวงตาสีขาวที่ไร้มลทินของยูนิคอร์นขยายกว้างขึ้นทันที มันมองตรงไปที่ขาของเขา

“โอ้ พี่ชาย! มีอะไรงั้นหรือ?” เจ้าชายดูไม่พอใจ พวกเขาทั้งคู่เป็นเอลฟ์ และแม้ว่าเขาจะเป็นครึ่งเอลฟ์ เท้าของเขาก็ไม่ได้เหม็น

“นี่มันบ้าอะไร! สายตานั่นหมายความว่ายังไง?” วิลเลียมพยายามจะลูบหัวยูนิคอร์น แต่ก่อนที่เขาจะได้สัมผัสมัน ยูนิคอร์นนั่นก็เอนหัวหลบและจามออกมา มันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

“...” วิลเลียมตกอยู่ในห้วงความคิด เขาสำรวจยูนิคอร์นและทำให้รู้ว่ามันเลเวลสูงกว่าเขาแค่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้าให้พูดตามตรง พวกเขาทั้งคู่มีสายเลือดรีเจนดารี ถ้ามันมีทักษะแต่ไม่ได้ซ่อนตัว งั้นก็มาสู้กันเถอะ!

“อย่าใส่ใจเลยนะ ลูลู่ก็เป็นแบบนี้แหละ มันไม่ชอบให้คนอื่นนอกจากเรามาสัมผัส มันไม่ยอมแม้แต่จะให้คนอื่นเห็นตัว!” แอนนี่ยิ้ม “เราคิดว่ามีแค่ตาแบนด์เท่านั้นแหละที่เคยเห็นมัน”

วิลเลียมไม่ได้ให้ความสนใจไปที่ยูนิคอร์น แต่เขากลับถาม “เธอเป็นม้าตัวเมียหรอ?”

“ฟิ้ว!”

แสงสีขาวปัดผ่านวิลเลียม  การโจมตีที่รวดเร็วทำให้เกิดลมแรงซึ่งทำให้ผมของเขาปลิวไปตามสายลม

วิลเลียมมุ่ยหน้าอย่างดูถูก  เขารู้ดีว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่โดนเป้าหมายของมัน…

แอนนี่โอ๋ยูนิคอร์น เธอทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะอธิบาย “ฉันแค่ตั้งชื่อของผู้หญิงให้ ยูนิคอร์นไม่มีเพศหรอก อีกอย่าง ลูลู่ไม่ใช่ม้านะ”

“ใช่แล้ว ข้าไม่ใช่ม้า ยูนิคอร์นผู้ยิ่งใหญ่จะไปเทียบกับม้าธรรมดาๆ ได้เยี่ยงไร?”

จู่ๆ

เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ยูนิคอร์นพูดออกมาเป็นภาษามนุษย์

แต่ที่น่าสนใจคือ ม้าขาวตัวนี้ไม่ได้เปิดปากของมัน…

วิลเลียมนิ่งไปพักหนึ่ง โชคดีที่เขาเคยมีประสบการณ์มากมายและรู้ว่าอสูรเวทย์เกือบทุกตัวที่มีสายเลือดรีเจนดารีมีความสามารถนี้

ดังนั้นเขาจึงเริ่มพูดเชิดชูยกย่อง “ใช่แล้วๆ เจ้าไม่ใช่ม้า  เราคิดว่าเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับม้าเลย  เจ้าดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง!”

ยูนิคอร์นค่อยๆ หรี่ตาของมันลง มันรู้สึกราวกับว่าเจ้าครึ่งเอลฟ์ตรงหน้ามันกำลังโกหก…

แต่มันไม่สามารถมองเข้าไปในความคิดของเขาได้ ช่างน่าชิงชังเหลือเกิน!

อีกอย่าง มันไม่เชื่อว่าชายคนนี้จะบริสุทธิ์ผุดผ่องและมีเมตตากรุณา แต่… มันก็ไม่สามารถใช้ความสามารถในการอ่านใจของมันได้

วิลเลียมขี้เกียจเกินกว่าที่จะอธิบายให้เจ้าม้าขาวฟัง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้ายูนิคอร์นตัวนี้จะไม่สนใจเขา สิ่งที่เขาต้องการคือการเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของเขากับแอนนี่

เพียงแต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปหาแอนนี่ บางอย่างก็เกิดขึ้น เขาบังเอิญไปโดนเข้าที่บั้นท้ายของยูนิคอร์น

นั่นทำให้เจ้ายูนิคอร์นโกรธอย่างไม่อาจควบคุมได้ มันยกขาหน้าทั้งสองขึ้นและพุ่งไปยังวิลเลียม

แต่แอนนี่ก็ก้าวเข้ามาระหว่างพวกเขา เธอดูไม่พอใจและพูดด้วยเสียงต่ำ “ลูลู่ อย่าสร้างปัญหา!”

เจ้ายูนิคอร์นทำเสียงฟึดฟัดและส่ายหัวของมันไปมา จากนั้นมันก็ปัดหางของมันไปทั่วส่วนที่โดนสัมผัส สุดท้ายมันก็ล่องหนหายตัวไป

“ฮึ่ม เราแค่โดนตัวมัน ไม่ใช่ว่าเนื้อมันจะหลุดออกมาสักหน่อย” วิลเลียมหัวเราะ เขารู้สึกว่าการได้สัมผัสยูนิคอร์นนั้นเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าการคุยกับแอนนี่เสียอีก

เขาไม่ได้รับข้อมูลอะไรมากมายจากการดูหน้าต่างสถานะ แต่สิ่งมีชีวิตในตำนานแบบนี้มีค่าความโชคดีสูงเป็นปกติอยู่แล้ว

เขาไม่สามารถยกเลิกผลลัพธ์เชิงลบที่ฟิว โรสเซอร์จะนำกลับมาได้  แต่บางทีผลลัพท์อาจออกมาตรงกันข้ามก็ได้

แน่นอนที่สุด ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความไม่แน่นอน

“แต่เราขอเลือกที่จะเชื่อว่ามันมีจริง เรายังไม่เคยพบคนที่ตายเพราะขุดหลุมศพของตัวเองเลย!” วิลเลียมและแอนนี่พยายามหาเรื่องคุย ที่สุดแล้วเขาก็ได้บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีเรื่องที่คุยกันได้กับเจ้าหญิงคนนี้มากมายเช่นกัน

ไม่นานหลังจากนั้น แอนนี่ก็ได้รับคริสตัลเวทมนต์จำนวนหนึ่งและมองวิลเลียมจากไป สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์

หรือไม่ มันก็มีเหตุผลอื่นภายใต้สายตานั้น

เธอไม่อาจเข้าใจความตั้งใจของวิลเลียมในการมาที่นี่ได้

“หรือมันเป็นเพราะคำสัญญาของเขาในตอนนั้น?” แอนนี่พูดกับตัวเอง ในตอนนั้น เธอเพียงแค่ล้อเล่น คริสตัลเวทมนตร์ 999 ชิ้นไม่ได้มีค่ามากมายสำหรับเมืองแห่งรุ่งอรุณในปัจจุบัน

เธอรู้สึกซาบซึ้งขนาดที่ว่าไม่มีคำใดสามารถอธิบายความรู้สึกของเธอได้ เธอรู้สึกท่วมท้น…

ยูนิคอร์นปรากฏตัวอีกครั้ง และครั้งนี้มันออกมาอย่างเงียบๆ มันไม่สามารถเข้าใจเจตนาของวิลเลียมได้เช่นกัน โดยพื้นฐานแล้ว ยูนิคอร์นรู้สึกว่าครึ่งเอลฟ์ตนนี้แตกต่างจากเจ้าชายเอลฟ์ตนอื่น ๆ มาก

ในความมืดมิดของค่ำคืน

ที่แนวชายแดนของป่าแบล็กลีฟมีคนสามคนกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่ง  พวกเขาทุกคนปกคลุมไปด้วยเลือด สองในสามคนนี้มีท่าทางหวาดกลัวและดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

อัศวินที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่เปล่งประกายดึงเพื่อนของเขาไปด้วยและมุ่งมั่นวิ่งไปข้างหน้า

มันเหมือนกับว่าภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กำลังไล่ตามพวกเขาอยู่

แต่ในป่าเก่าแก่นั้นมองไม่เห็นแม้แต่มือของตัวเองที่อยู่ตรงหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเห็นสิ่งที่ไล่ตามพวกเขาอยู่ได้

แต่ถึงแม้พวกเขาจะได้เห็นเมืองแห่งรุ่งอรุณที่น่าตื่นตา พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าภัยคุกคามที่อยู่เบื้องหลังพวกเขานั้นได้ขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น

อัศวินผู้กล้าหาญหยุด เขาค่อยๆหันกลับมาและตะโกนบอกพวกที่เหลือ “ไปที่เมืองแห่งรุ่งอรุณ เร็วเข้า พวกมันไม่กล้าก้าวข้ามไปในเขต นอกจากนั้น ในเมืองยังมีป้อมปราการของวิหารแห่งแสงอยู่ ข้าจะรั้งพวกมันไว้ให้เอง”

“อย่าลืมบอกท่านแม่ของข้าว่าข้าตายอย่างมีเกียรติเหมือนกับท่านพ่อ!”

“แลนเซล็อต… เจ้าเสียสติไปแล้วหรอ? นี่มันบ้ามากๆ เจ้าไม่สามารถหยุดพวกมันได้หรอก” หนึ่งในอัศวินหยุดและตะคอก แต่เขาไม่ได้ยินเสียงตอบใดๆ เขากำหมัดด้วยความประหม่า จากนั้นเขาก็หันกลับไปและวิ่งต่อด้วยความเศร้า

เขารู้

พวกเขาทั้งสามคนรู้

ต้องมีใครบางคนรั้งพวกมันไว้

ถ้าไม่มีใครยอมตาย พวกเขาหมดทั้งสามคนก็ต้องตาย…

อัศวินอีกสองคนตอนนี้เต็มไปด้วยความกลัว พวกเขายังเกลียดตัวเองที่ไม่กล้าหาญพอ

พวกเขาทรยศกฎของอัศวิน!

พวกเขาไม่อาจเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งโดยไร้ซึ่งความกลัวได้ พวกเขาทั้งไม่กล้าหาญและไม่ภักดี เพราะพวกเขากลัวความตาย

พวกเขาเป็นอัศวินที่วิหารภาคภูมิใจ แต่เมื่อศัตรูได้ทำการสังหารสหายไปหลายสิบคน

พวกเขาก็คิดแต่ว่าจะหนีออกมายังไง หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว

แลนเซล็อตไม่ได้ว่ากล่าวอะไรที่สหายของเขาทิ้งทุกอย่างไว้และวิ่งหนีไป แม้แต่ในกลุ่มอัศวินเอง หลายคนก็กลัวที่จะตาย แต่พวกเขาทำมามากพอแล้ว

“ข้า แลนเซล็อตแห่งวิหารอัศวิน จะต่อสู้กับความมืดมิดให้สมเกียรติ!”

เมื่อพูดคำนี้

แลนเซล็อตก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขากำดาบของเขาแน่นด้วยมือสองข้าง ก่อนจะพุ่งไปในความมืดพร้อมสร้างแสงสว่างสุดท้าย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด