ตอนที่แล้วตอนที่ 1 ปรมาจารย์จอมวายร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 จะสอนศิษย์ให้ได้ดีโดยไม่ใช้กำลังมันคือความเกียจคร้านของอาจารย์!

ตอนที่ 2 ฟังนะ ข้ามีแผน


ตอนที่ 2 ฟังนะ ข้ามีแผน

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

เมื่อลู่โจวเห็นว่าวรยุทธ์ของเขาอยู่ที่ขั้น 9 เท่านั้น แถมนั่นเป็นเพียงการผ่อนคลายร่างกายเท่านั้น ตัวเขาก็ส่ายหัวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ น่าเสียดายที่วรยุทธ์ของจีเทียนเด๋าก่อนหน้านี้ได้หายไปทั้งหมดแล้ว นอกจากร่างกายอันแก่ชราตอนนี้ตัวเขาเหลือเพียงพละกำลังจากทักษะในการผ่อนคลายร่างกายเท่านั้น

การ์ดระเบิดจุดสุดยอดจีเทียนเด๋า? "หมายความว่าถ้าหากใช้การ์ดนี้จะสามารถใช้พลังของจีเทียนเด๋าในตอนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดได้สินะ?" ระบบที่คอยแนะนำไม่ได้ตอบโต้อะไร ดูเหมือนว่ามันคงจะใช้แบบนั้นแหละ การ์ดนี้มันมีทั้งหมด 3 ใบ ฉันคงจะใช้ความสามารถได้ราวๆ ชั่วโมงครึ่ง

ด้วยความแข็งในตอนนี้ที่สูญเสียพลังจากการฝึกฝนไป จีเทียนเด๋าก็ยังสามารถต่อกรกับเหล่ายอดฝึมือทั้ง 10 ได้อย่างสูสี ดังนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่ายอดฝีมือจะชนะตัวเขาในร่างจีเทียนเด๋าที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดได้

"การ์ดแห่งชีวิต สิ่งนี้คงจะสามารถเพิ่มพลังชีวิตของตัวฉันได้สินะ?"

สำหรับลู่โจวในตอนนี้แล้วสิ่งนี้คือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด

ลู่โจวแทบที่จะไม่ได้ใช้เวลาคิดอีกต่อไป เขารีบใช้การ์ดพลังชีวิตในทันที การ์ดที่ถูกใช้นั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เศษการ์ดทั้งหมดได้กลายเป็นประกายแสงหมุนรอบตัวของเขา

ร่างกายลู่โจวในตอนนั้นสั่นอย่างไม่หยุดยั้ง!

พลังชีวิตของต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบๆ ถูกดึงออกมา พลังงานจากทั่วทั้งภูเขาได้ไหลมาเป็นกระแสพลังงาน ในไม่ช้ากระแสแห่งพลังงานพวกนี้ก็มาบรรจบกันอย่างรวดเร็ว ทั้งพลังจากภูเขาและพลังจากที่ราบนั้นผสานกันอย่างลงตัว

ผิวพรรณของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป

เส้นผมของเขาเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

สายตาที่พร่ามัวของเขาเริ่มกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจน

กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงเริ่มกลับมามีพลังอีกครั้ง

ลู่โจวมองไปที่แถบเมนู ตอนนี้พลังชีวิตของตัวเขากำลังถูกฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้าๆ

ผลของการ์ดแห่งชีวิตนี่มัน...มหัศจรรย์เกินไปแล้ว!

ในไม่ช้าความรู้สึกที่ตัวเขามีก็เริ่มจะกลับมาสงบลงอีกครั้ง

และในขณะเดียวกันนั้น...

ในตอนที่ลูกศิษย์สาวกทั้งสี่กำลังเดินลงไปที่เชิงเขา พวกเขาทั้งหมดก็สัมผัสพลังที่แข็งแกร่งจากยอดของภูเขาที่พวกเขาจากมาได้

"นี่มันคลื่นพลังอะไรกัน!" ศิษย์พี่คนที่สามอุทานขึ้นมา

"หรือว่าท่านอาจารย์จะยังมีทักษะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานที่ยังไม่ได้สอนให้กับพวกเรากัน!"

"ตั้งแต่ถูกทรยศมาท่านอาจารย์ก็คงจะต้องมีเคล็ดลับเก็บเอาไว้โดยที่ไม่ยอมสอนพวกเราอย่างงั้นสินะ!"

"แต่...ในตอนที่ข้าอยู่ใกล้กับท่านอาจารย์ ตัวข้าสัมผัสถึงพลังจากร่างกายของท่านไม่ได้เลย ร่างกายของท่านอาจารย์ไม่มีความผันผวนของพลังงาน แถมตอนนี้ที่โลกภายนอกยังมีข่าวลือมาว่าท่านอาจารย์กำลังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย"

"อย่าไปเชื่อข่าวบ้าๆ นั่นสิ! การปกปิดพลังงานที่ผันผวนในร่างกายนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าหากจะวัดจากพลังที่พวกเราสัมผัสได้ ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของอาจารย์คนนั้นแน่นอน"

"ศิษย์น้องหญิง อาจารย์น่าจะให้ความสำคัญกับเธอมากที่สุดแล้วนะ เธอรู้หรือเปล่านั้นมันเคล็ดวิชาอะไรกัน?" ศิษย์คนที่สามได้ถามไปยังศิษย์คนที่เก้า

"หะ? ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกันศิษย์พี่ สิ่งที่ข้ารู้มีเพียง...ท่านอาจารย์น่ะ เป็นคนที่มักจะคาดไม่ถึงอยู่เสมอ!" น้องหญิงหยวนเอ๋อตัวน้อยพึมพำออกมา

ในระหว่างศิษย์ทั้งสี่กำลังทำการลาดตระเวน พวกเขาก็ได้ยินเสียงของพวกศัตรูดังมาจากด้านนอกม่านพลังป้องกัน

"ฟังไว้ซะไอพวกวายร้ายแห่งภูเขาทอง! พวกเราล้อมเอาไว้หมดแล้ว! รีบออกมารับความตายซะเจ้าพวกกะเฬวกะราก"

เสียงต่อว่านั้นดังไปทั่วทั้งภูเขา

ศิษย์คนที่เก้าแหงนหน้ามองท้องฟ้า ตอนนั้นเองเธอเห็นรถม้ากำลังบินข้ามท้องฟ้าไป

"นั่นโจจี้เฟิง ศิษย์คนโตของสำนักดาบสวรรค์นิ ข้าเคยได้ยินมาว่าเจ้านั้นได้ไปบุกดินแดนภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์โฉมใหม่มาเมื่อไม่นานมานี้"

"เจ้านั่นเพิ่งจะออกมาจากดินแดนนั่นมาสินะ ถ้าหากเจ้านั่นได้มาสู้ตัวต่อตัว ข้าไม่คิดเลยนะว่าเจ้านั่นจะสามารถต่อกรกับศิษย์น้องหญิงของพวกเราได้"

"แต่น่าเสียดายที่พวกนั้นมากันเยอะเกินไป..."

"..."

ในบรรดามหาเก้าวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่ของภูเขาทอง ซีหยวนเอ๋อเป็นมหาวายร้ายคนสุดท้ายที่เพิ่งจะเข้าร่วมสำนักมา แน่นอนว่าวรยุทธ์ที่เธอมีนั้นอยู่ในระดับที่อ่อนแอมากที่สุด ตอนนี้ระดับพลังของเธอคงจะเทียบเท่าได้กับพลังของผู้รักษาความปลอดภัยของดินแดนภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงเท่านั้น

"เจ้านั่นไม่น่ากังวลอะไรหรอกนะ... ปัญหาที่แท้จริงของพวกเราตอนนี้คือพวกเหล่ายอดฝีมือทั้ง 10 มากกว่า พวกมันทั้งหมดคงจะแข็งแกร่งพอๆ กับยอดฝีมือของดินแดนแห่งภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์โฉมใหม่"

"พวกเราไม่มีโอกาสที่จะขอความช่วยเหลือจากศิษย์พี่ใหญ่ได้แล้ว อาจารย์ในตอนนี้คงจะเป็นเพียงความหวังเดียวแล้วล่ะ แต่ยังไงท่านอาจารย์ก็ต้องขับไล่ศัตรูทั้งหมดกลับไปได้แน่" ศิษย์คนที่สามพูดขึ้น ด้วนมูเฉิงได้พูดออกมาพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างกอดไว้ที่อกของตัวเอง

เมื่อได้ยินแบบนั้นศิษย์คนที่สี่อย่างหมิงชี่หยินก็ได้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมาและพูดขึ้นว่า "ยังไงข้าก็เป็นศิษย์ทรยศอยู่แล้ว ไม่มีใครหยุดพวกเราแน่ถ้าหากพวกเราหนีกันไปตอนนี้ จริงไหม?"

ด้วนมูเฉิง, จ้าวยู่ และน้องเล็กหยวนเอ๋อได้เงียบไปพร้อมกัน หลังจากเงียบไปได้พักหนึ่งด้วนมูเฉิงจึงพูดออกมาอีกครั้ง "พวกเราจะออกไปได้ยังไงกันถ้าท่านอาจารย์ยังไม่ให้อาวุธกับพวกเราน่ะ?"

ศิษย์คนที่ห้าอย่างจ้าวยู่ได้ยิ้มออกมาอีกครั้ง ปากสีแดงของเธอได้ขยับออกมาก่อนที่จะพูดขึ้น "อะไรจะไปสำคัญกว่ากันล่ะระหว่างชีวิตของศิษย์พี่กับอาวุธที่พังทลายไปแล้วนั่น?"

ศิษย์คนที่เก้าที่ได้ฟังศิษย์พี่ทั้งสองคนกำลังโต้เถียงกันได้จ้องมองไปยังทั้งสองอย่างลำบากใจก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเหลือทน "ศิษย์พี่ชาย ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่ทั้งสองคนไม่อยากสู้เคียงข้างท่านอาจารย์แล้วอย่างงั้นหรอคะ? ถ้าหากพวกศิษย์พี่หนีไปแบบนี้แล้วท่านอาจารย์จะสอนเคล็ดวิชาให้กับพวกเราต่อไปได้ยังไง?"

ศิษย์พี่หญิงจ้าวยู่ได้ยกมือปิดปากศิษย์น้องเอาไว้ก่อนที่จะพูดต่อไป "ศิษย์น้องเล็ก เธอน่ะเพิ่งจะเข้าร่วมสำนักของพวกเราเมื่อไม่นานมานี้ ยังมีอีกหลายอย่างนะที่เธอยังไม่รู้น่ะ..."

หมิงซี่หยินได้ตะคอกออกมาอย่างเบาๆ "แม้ว่าท่านอาจารย์จะคอยสอนเคล็ดวิชาให้กับพวกเรา แต่ตาแก่นั่นก็ทรมานพวกเราด้วยเหมือนกัน ใช่ไหมล่ะ?"

"แต่พวกเราทั้งหมดก็แข็งแกร่งได้เพราะวิธีแบบนั้นนิ ถูกไหม?" หยวนเอ๋อไม่เข้าใจพวกศิษย์พี่

"เธอมันไร้เดียงสาไป เธอกำลังหลงระเริงไปกับชื่อเสียงอันโด่งดังของหุบเขาทองรวมไปถึงชื่อเสียงของจอมมหาวายร้ายทั้งเก้ามากไปนะ"

นิสัยเห็นแก่ได้คดเคี้ยวราวกับงูร้าย นิสัยของศิษย์ทั้งหมดเองก็เป็นเช่นเดียวกับอาจารย์ของเขา

"แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนี่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการทรยศอยู่ดีนะคะ!" หยวนเอ๋อพูดออกมาอย่างดื้อดึง

ศิษย์ทั้งสามคนที่เหลือได้แต่ถอนหายใจออกมา ท่านอาจารย์คนนี้ของพวกเขาบางครั้งก็อารมณ์ร้าย ทำร้ายพวกเขาอย่างรุนแรง สำหรับศิษย์พี่ใหญ่ที่ได้จากไปรวมถึงศิษย์พี่คนรอง ลูกศิษย์ทั้งหมดที่เหลือต่างที่จากไปเองท่านอาจารย์ก็ไม่เคยบอกเหตุผล ดูเหมือนว่าอาจารย์จีเทียนเด๋าจะไม่เคยบอกอะไรกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในขณะเดียวกันนั้นเองลู่โจวก็กำลังศึกษาระบบของโลกใบนี้อยู่

หลังจากที่ใช้การ์ดแห่งชีวิตไป ร่างกายของลู่โจวก็กลับมารู้สึกกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง แม้ว่ามันจะไม่ได้รู้สึกมีพลังเหมือนกับตัวเขาตอนหนุ่มๆ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาสามารถขยับตัวไปรอบๆ ได้

ลู่โจวได้ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะปล่ายลมหายใจออกมาพร้อมกับยืดเส้นยืดสายง่ายๆ หลังจากที่ทำความคุ้นเคยใหม่กับร่างกายได้แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา "แต่ก็ยังแก่ไปสินะ"

ในชาติก่อนของเขา ไม่ว่าเขาจะทํางานหามรุ่งหามค่ำและนอนดึกมากสักแค่ไหน ร่างกายเดิมของเขาก็มีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น เขาไม่ชินกับร่างกายของชายชราอายุมากแบบนี้

โชคดีที่ตอนนี้พลังชีวิตของเขากลับมาเป็น 313 วันแล้ว

ลู่โจวได้สังเกตมาว่าตัวเขาสามารถแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชาของตัวเอง, อาวุธ และการ์ดพลังชีวิตมาจากช็อปปิ้งมอลได้ นั่นหมายความว่าตัวเขาสามารถเลือกสายที่จะฝึกฝนได้ด้วยตัวเอง

313 วันคงจะห่างไกลจากความหนุ่มแน่นไปอีกมาก เขาจะต้องกลับไปเป็นปกติและเคลื่อนไหวให้ได้อย่างคล่องแคล่วอีกครั้ง ความรู้สึกของการแก่ชรานั้นช่างเป็นอะไรที่แย่จริงๆ

หรือบางทีตัวเขาอาจจะกลับไปเป็นหนุ่มได้อีกครั้ง? แต่ตอนนี้ตัวเขาก็ไม่มีการ์ดพลังชีวิตมากพอที่จะทำอะไรแบบนั้นได้อีกต่อไป ถ้านึกถึงปัญหาเฉพาะหน้าที่ได้รับการแก้ไขแล้วตอนนี้ลู่โจวก็วางใจไปได้เปราะหนึ่ง

ลู่โจวได้แต่คิดว่าคงจะไม่มีคนอื่นที่เดินทางข้ามมิติมาอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับเขา

"น่าเสียดายที่ฉันได้ของขวัญพวกนี้มาน้อยเกินไป ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้สมองที่มีคอยแก้ปัญหาแทนสินะ" ลู่โจวขบคิดอยู่คนเดียว ครู่ต่อมาเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากศาลา

แดดของสายวันนี้ก็ยังคงสว่างไสวเช่นเดิม แม้ว่าความทรงจำเดิมของจีเทียนเด๋าจะให้ข้อมูลต่างๆ กับลู่โจวมาแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นโลกใบนี้กับตาตัวเอง ตัวเขาก็ยังประหลาดใจอยู่ดี เบื้องหน้าของเขามีท้องฟ้าที่สดใสอยู่

ตู้ม!

เกิดการระเบิดขึ้นที่ด้านหลังของภูเขาทอง ภูเขาทั้งลูกได้รับแรงสั่นสะเทือนอันรุนแรง

ลู่โจวขมวดคิ้วของเขา มีผู้ฝึกยุทธ์สามารถทำลายการป้องกันได้ด้วยอย่างงั้นหรอ?

ตู้ม!

เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อจ้องมองม่านพลังป้องกันที่มองไม่เห็น

ภูเขาทองเป็นเหมือนกับดินแดนอันมีค่าที่แท้จริง นอกเหนือจากพลังป้องกันอันทรงพลังแล้วมันยังมียุทธศาสตร์อันแข็งแกร่งโดยธรรมชาติ และด้วยพลังที่แข็งแกร่งนี้เองทำให้ที่แห่งนี้ยากที่จะถูกตีแตกได้

ชึบ, ชึบ, ชึบ...

ในพริบตาเดียวลูกศิษย์ทั้งสี่ก็ได้ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าลู่โจว พวกเขาทั้งสี่ถึงกับผงะที่เห็นลู่โจวยืนอยู่

"ท่านอาจารย์!"

"ท่านอาจารย์!"

"ท่านอาจารย์!"

“ท่านอาจารย์สวัสดีค่ะ!!!”

คนที่พูดทักทายเขาช้าที่สุดก็คือศิษย์คนที่เก้าอย่างซีหยวนเอ๋อ

ลู่โจวสังเกตเห็นรอยยิ้มใบหน้าของเธอได้

"ท่านอาจารย์ ท่านดูเด็กลงนะคะ" หยวนเอ๋อพูดพร้อมรอยยิ้ม

"เจ้ามานี่สิ"

"ค่ะ"

ตอนนั้นเองภาพที่จีเทียนเด๋าพูดออกมาก็ได้ปรากฎขึ้นภายในใจของลู่โจว เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าศิษย์จอมวายร้ายทั้ง 9 ของเขาจะมีด้านที่อ่อนโยน เขายกมือขึ้นก่อนที่จะใช้มือตบไปที่หน้าผากศิษย์คนที่เก้าเบาๆ

"เธอก็ยังเป็นคนที่ดีที่สุดอย่างเคยสินะ"

ด้วนมูเฉิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น "ท่านอาจารย์ พวกนั้นพยายามทำกลายการป้องกันของพวกเรา ให้ข้าไปจัดการพวกมันเถอะท่านอาจารย์! ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดเอง!"

ลู่โจวใช้สายตาของเขาเหลือบมองไปที่ด้วนมูเฉิง

การจ้องมองของลู่โจวทำให้หัวใจของด้วนมูเฉิงสั่นกลัว เขากลืนน้ำลายก่อนที่จะรีบก้มหน้าลง ด้วนมูเฉิงไม่กล้ามองตรงมาที่ผู้เป็นอาจารย์

"ข้าน่ะเตรียมแผนที่เอาไว้แล้ว ตามข้ามา!" ลู่โจวพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

"พวกเราเข้าใจแล้วท่านอาจารย์"

หลังจากที่ได้รับพลังชีวิตเพิ่มมา ตอนนี้ขาของลู่โจวก็สามารถเดินได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ศิษย์สาวกทั้งสี่รีบเดินตามหลังเขาไปด้วยความเคารพ พวกเขาทั้งหมดกำลังเดินออกไปด้านนอกภูเขาทอง

ที่ด้านนอกของภูเขาเองผู้ฝึกยุทธ์หลายพันคนกำลังยืนเรียงรายกันอยู่เป็นหลายสิบกลุ่ม พวกเขาได้กระจายกำลังคนออกเป็นกลุ่มเล็กๆ บางคนตอนนี้กำลังขี่ดาบที่ลอยได้อยู่ ส่วนบางคนกำลังอยู่บนรถม้าที่กำลังลอยเหนือพื้นดิน

ธงมากมายหลายสำนักได้โบกสะบัดไปมาตรงหน้าของพวกเขา ทั้งสำนักดาบสวรรค์ สำนักต้วนหลินหนึ่งในสำนักที่ศึกษาศาสตร์แห่งขงจื๊อ และปฐมแห่งภาคีเต๋า...

"พยามให้มากกว่านี้ทุกคน! ม่านพลังป้องกันนั่นอยู่ได้ไม่นานหรอก! ปรมาจารย์จอมวายร้ายคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสมา ตอนนี้แหละเป็นโอกาสของพวกเรา ถ้าหากเป็นภูเขาทองในสมัยอดีต พวกมันก็คงจะออกมาต่อกรกับเราแล้ว"

"แน่นอน! หมอนั่นมันคงจะกลัวจนหัวหดไม่กล้าออกมาเผชิญหน้ากับพวกเราแล้ว! พยายามต่อไปเร็วพวกเรา!"

รถม้าที่กำลังลอยอยู่บนฟากฟ้าได้ส่งเสียงแตรรบดังกังวาลออกมา "ฟังซะไอพวกวายร้ายแห่งภูเขาทอง! พวกเราล้อมเอาไว้หมดแล้ว! รีบออกมารับความตายซะ!"

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด