ตอนที่แล้วตอนที่ 15 : รู้ตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 : ไม่มีกูไม่มีมึง

ตอนที่ 16 : ยอมหักไม่ยอมงอ


กล้ารักกันต์ โดย ศศิศิลป์

ตอนที่ 16 : ยอมหักไม่ยอมงอ

___________________________________________

- กันติทัต -

อุ่กกก แค่ก อุ่บ

อ้วกแต่เช้า ตื่นลืมตาลุกขึ้นนั่งก็ต้องวิ่งไปอ้วกทันที เป็นการอาเจียนที่หนักที่สุดเท่าที่เคยเป็นในชีวิต มันยิ่งกว่าแฮงค์ซะอีก

ไม่สามารถเดินไปไหนได้เลย เวียนหัวไปหมด จนต้องประคองตัวเองกับกำแพงเดินกลับมาจากห้องน้ำ

"ฮึก ก แค่กๆ ..." ร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ทำไมถึงเป็นขึ้นมา แต่มันอึดอัด งุ่นง่าย

ก๊อกๆๆ แกรก

"กันต์...ทำไมยั..." แม่ที่เปิดเปิดประตูเข้ามาถึงกับตกใจ

"เป็นอะไร..ร้องไห้ทำไม?"

"ม ไม่รู้ ฮึก ก แม่... เวียนหัวไปหมดแล้ว อ้วกไปหมดไส้แล้ว...แค่กๆ ไม่ชอบ ฮึก กเลย"

"โถ่เอ้ย...อยู่นี่ก่อนแม่จะไปเอาข้าวมาให้กิน เดินลงไปเดี๋ยวจะเป็นลมล้มเอาเปล่าๆ" พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป

ถ้ากล้าอยู่ตรงนี้ก็คงช่วยอะไรได้บ้าง...

ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ดด

โทรไปก็ไม่มีใครรับ คงจะโกรธและเกลียดกันไปแล้ว...

Rrrrrrrrr

"ฮัลโหลกล้า!!"

"ไม่ใช่พี่ นี่กรรณเอง"

"อ้าวกรรณ ..."

"พี่เป็นไงบ้าง ทางนั้นโอเคมั้ย?"

"ฮึก ก ไม่โอเคเลยกรรณ ไม่เลย ...กล้าหายโกรธพี่หรือยัง?" เสียงมันจะสั่นมันจะร้องทำไมไม่รู้ จนต้องล้มตัวลงไปนอน

"พี่กันต์อย่าร้องสิ ทางนี้ก็...ไม่ค่อยโอเท่าไหร่"

"กล้าเป็นอะไร!"

"ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่พูดไม่จากับใคร.. ผมพยายามแล้วนะ"

"ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ...เอาไว้ พี่ดีขึ้นพี่จะไปขอโทษเขาเอง"

"พี่มันเข้าใจว่า...พี่ไม่ได้อยากมีลูกกับมัน แล้วที่อยู่ทุกวันเพราะสถานการณ์บังคับ..มันแค่น้อยใจน่ะพี่ กรรณรู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นใช่มั้ยพี่"

นี่...กล้าคิดอย่างนั้นเองหรอ คำถามของกรรณมันก็เหมือนว่าสงสัยในตัวเขาอยู่เหมือนกัน

"หึ ฮึกก ก พี่จะไปคุยกับกล้าเอง"

ผมวางสายไปก่อนเพราะแม่เอาข้าวมาให้กิน พร้อมกับกินยา

"แม่..กันต์จะไปหากล้า"

"เดี๋ยวจะฟาดให้! เอาตัวเองก่อนมั้ย? เรื่องที่แกต้องแก้ก็อีกเรื่อง แต่สภาพนี้จะไปยังไง นอนพักเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน" โดนคุณวันดีดุจนได้ เธอรอจนผมทำท่าจะพักผ่อนลงไปถึงยอมออกไป

ช่วงบ่ายนี้อาการแพ้ดีขึ้นถนัดตา แต่ก็เพราะยังอ่อนเพลียเลยต้องหาตัวช่วยมาด้วย

"เดินเข้าไปสิ.." ต๊อดที่ได้รับหน้าที่สารถีและคนกลางบอก ผมพยักหน้าให้มันก่อนจะเดินเข้าไปในออฟฟิศ ในห้องไม่มีใครอยู่เลย

กลิ่นแอลกอฮอลในแก้วใบเล็กๆคลุ้งอยู่เล็กน้อย เหมือนว่าคนบนเก้าอี้นั่นจะใช้มันระบายความเครียด

"กล้า.."

"..." เรียกอย่างนี้แล้วมันดูแค่ตกใจแล้วก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิม

"กล้า...กูขอโทษ..."

"อืม"

"มึงจะโกรธกูไปถึงไหน ให้อภัยกูได้มั้ย กูรู้ว่ากูโง่ แล้วก็ทำพลาด ขอโทษที่ไม่นึกถึงใจมึง ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ.." ผมเดินเข้าไปหามัน แม้ว่ากลิ่นเหล้านั่นจะทำให้ข้าวเริ่มตีขึ้นมาแล้ว

"กูไม่โกรธแล้ว กลับไปเถอะ...กรรณบอกว่ามึงไม่ค่อยโอเคนี่"

"ก็ยิ่งอย่างนั้นมึงต้องยิ่งกลับไปดูแลกูมั้ย ทำไมต้องหลบมาอยู่ที่นี่...กลับไปอยู่ด้วยกัน" หน้ามันนิ่งมากจนเดาไม่ออก

"มึงไม่ต้องห่วงเลยนะ กูรับผิดชอบลูกแน่...แต่กูไม่อยู่ให้มึงรำคาญนี่ไง"

"กูไม่ได้รำคาญ อย่ามาคิดแทน!"

"..."

"แล้วที่มึงบอกว่ากูยอมมึงเพราะลูกเพราะสถานการณ์มันบังคับนั่นด้วย เลิกคิดไปเองได้แล้วกล้า!" ผมโมโหจริงๆ มันเป็นบ้าอะไร

"แล้วจะให้กูคิดยังไงอะ มึงไม่ยอมบอกใครๆว่าเราเป็นอะไรกัน แต่งก็ไม่แต่ง บอกรักกูมึงยังไม่เคยเลย! ก่อนหน้านี้เราเป็นยังไงมึงก็รู้ มึงจำยอมให้มันเป็นอย่างงี้เพราะมีเรื่องลูกไม่ใช่หรือไง?" ผมได้ฟังแล้วโมโห มันก็จริงที่ไม่ได้แสดงออกไปแต่เพราะผมไม่รู้ว่าต้องทำตัวยัง ไม่ใช่เพราะรังเกียจมัน

"มึงจะให้กูทำยังไง กูไม่รู้ว่าคนรักกันมันต้องทำแบบไหน ต้องขนาดไหน เราต้องเรียนรู้กันมั้ยกล้า..ให้เวลากูได้ปรับตัว ฮึก ก มึงคิดว่ากูอยากเป็นอย่างงี้หรอ ต ตอนนี้กูร้องไห้ทำไมยังไม่รู้เลย!"

"มึงไม่อยากเป็นแบบนี้? มึงจะหมายถึงมึงไม่ได้อยากจะท้องใช่มั้ย? ...แล้วถ้าแค่บอกคนอื่นมึงยังลำบากใจอะ เราจะอยู่ด้วยกันได้ไง.."

"หรือมึงจะไม่ยอมรับว่าลูกไม่ได้เกิดมาจากความผิดพลาด? แล้วมึงพูดแบบนี้คือจะเลิกกันใช่มั้ย มึงจะเอาแค่ลูกใช่มั้ย?" สมองมันบอกให้พูดออกไปอย่างนั้น เพราะดูเหมือนยังไงเขาก็จะไม่ให้อภัย แต่เขายืนยันว่าเขาจะรับผิดชอบลูกในท้อง

"สำหรับกูสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดพลาด! เราได้ตั้งใจจะมีแต่เขาคือความรักที่กูมีให้มึงจริงๆ! แต่ถ้ามึงจะอยากให้เป็นอย่างนั้นกูก็พร้อมทำให้! "

กึก ผลั่กกก

เพล้งงง!!

กันติทัตหยิบกระดาษบนโต๊ะปาใส่หน้าปาณัสม์จนกระจาย มือไปโยนแก้วใส่น้ำสีอำไพหล่นแตกกระจาย

"เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น!" ต๊อดเดินเข้ามา สวนกับผมที่จะเดินออกไป

"ฮึก ก ถามมันดูแล้วกัน" น้ำตามันพรั่งพรูออกมาจนมองอะไรไม่ชัดสักอย่าง

มันคงช้าไปแล้วที่จะขอโอกาส ที่ผ่านมาเป็นกล้ามาเสมอที่เป็นฝ่ายเดินหน้า มาวันนี้เขาคงไม่อยากจะเดินไปด้วยกันอีกแล้ว

- ปาณัสม์ -

"มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้กล้า?" ต๊อดดูเลือดขึ้นหน้ายิ่งมันเป็นแก้วและกลิ่นที่อบอวลมันยิ่งดูพร้อมเข้ามาต่อยผมเต็มที่

"ก็แค่บอกว่าถ้ามันจะให้กูเอาแค่ลูกกูก็พร้อมทำให้มัน"

"มึงพูดส้นตีนอะไรออกมา!!"

"มึงถามมันสิ ... มันบอกว่าลูกของกูกับมันเกิดเพราะความผิดพลาด! ไม่อยากจะคิดเลยว่าที่ผ่านมามันต้องฝืนอยู่กับกูแค่ไหน...นี่กูก็ไม่อยู่ให้มันต้องฝืนแล้วไง.."

"กล้าอย่าโง่!! ถ้ามันไม่รักมึงมันจะโทรให้กูพามาตามมึงกลับบ้านทำไม? ไว้มึงมีสติมึงค่อยคิดใหม่นะว่าทำอะไรลงไป...มึงอยู่กับมัน มึงสิต้องรู้ดีว่ามันเป็นคนยังไง?" มันพูดด้วยอารมณ์โกรธ ทำท่าจะเดินหันหลังตามกันต์ไป

"มึงชอบมันใช่มั้ย?" ผมถามเพราะมองมันมานาน อาการของมันไม่เหมือนที่เพื่อนเขาทำ ไม่ได้ใกล้ชิดเหมือนไอ้ปราบจนน่าหมั่นไส้ แต่ก็พอจะรู้ว่าไม่ปกติ มันชะงักกลับมามอง

"ใช่...กูชอบกันต์แต่เพราะเห็นว่ามันรักกับมึง...แต่ถ้ามึงจะระยำแบบนี้ กูจะดูแลมันเอง!" มันพูดจบก็เดินออกไป

ปัง!!

"โถ่โว้ยยยยย!!" เอกสารถูกกวาดลงจากโต๊ะระเนระนาด

ทำไมใครๆก็ดูจะรักและชอบมัน ทั้งการกระทำไอ้ปราบ คำสารภาพไอ้ต๊อด แม้แต่สายตาไอ้นิวตอนเจอกันต์แรกๆผมก็ยังจำได้ ถ้าไม่ใช่ผมมันก็คงมีอีกหลายคนพร้อมจะโฉบไป

ก่อนหน้าผมก็อยากที่จะครอบครองมันคนเดียวด้วยทุกวิถีทาง คอยตาม คอยหวง ให้อภัยในทุกการกระทำที่ไม่ชัดเจนของมัน ได้ใจว่ามันเป็นของผมแล้ว แต่เจอที่มันปล่อยให้พรีมเข้าใจว่ามันเป็นครอบครัวกับปราบ

ใจมันสลายไปเลย นอกจากความไม่ชัดเจนแล้ว มันยังทำให้ผมรู้สึกว่ามันถูกเข้าใจว่าเป็นของใครก็ได้มากกว่าที่มันบอกใครๆว่าเรามีลูกด้วยกัน

เด็กคนนึงที่ก็ไม่ได้เกิดมาจากการวางแผนพร้อมว่าจะต้องมี เขามาเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่จะเรียกว่าความผิดพลาดมันก็ใจร้ายเกินไป เพราะทุกครั้งเราสองคนทำมันด้วยความรักไม่ใช่หรือไง...หรือเป็นรักของผมคนเดียว ส่วนมันเป็นแค่อารมณ์ทางเพศ...

นั่นคือสิ่งที่คิดมาตลอด...ทั้งน้อยใจ เสียใจ

แกรก แกรกก

"มึง!!" กรรณเปิดประตูแล้ววิ่งเข้ามาซัดผมเข้าเปรี้ยงจนแทบตกเก้าอี้

"มึงทำบ้าอะไรกรรณ!!"

"มึงอะทำบ้าอะไรกล้า!! เมียมึงถ้าไม่ดูแลกูที่เป็นน้องมึงจะประเคนใส่พานถวายให้คนอื่นเอง!!" มันบอกฟึดฟัด พร้อมเข้ามายำอีกรอบ

"มึงพูดอะไร!"

"มึงอะพูดอะไร? มึงจะเอาแต่ลูกใช่มั้ย? สมพรปากมึงแน่!!" มันทิ้งท้ายไว้แบบนั้น

ผมเดินออกไปดูเห็นพ่อกับแม่ยืนหน้าเครียดอยู่ ลิบๆเห็นรถที่วิ่งออกไปอย่างเร็ว

"เกิดอะไรขึ้น?" ผมถามคนงานที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบ

"พ่อ แม่...เกิดอะไรขึ้นครับ?" แม่ไม่แม้แต่จะมองหน้าผมเดินหนีออกไปอีกทาง

"แกตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย?"

"อะไรพ่อ?"

"ที่แกจะรับผิดชอบแค่ลูกน่ะ?"

"..."

"พ่อไม่ว่าอะไรหรอก...ยังไงพ่อก็อยากจะมีหลาน แต่พ่ออยากจะมีแม่ของหลานเขาด้วยนะ"

"ผมแค่โกรธ ผมเสียใจ...กันต์ไม่ได้รักผม"

"เขาบอกหรือ? ว่าเขาไม่ได้รัก.."

ผมส่ายหน้า

"แต่เขาก็ไม่เคยบอกเหมือนกันว่าเขารัก.." พ่อได้ยินก็ถอนหายใจยาว

"สำหรับบางคนมันก็ยากที่จะเอ่ยออกมา คนเป็นผัวเมียกันไม่ใช่ทุกอย่างมันจะง่าย มันต้องใช้เวลา...แกทั้งคู่ใช้อารมณ์มากไปเสียหน่อย..."

"ผมรักมัน รักมาก และคาดหวังว่ามันจะรักผมบ้าง แสดงออกบ้าง แต่ที่ผมเจอมา..."

"รักแล้วทำไมพูดไปอย่างนั้น..."

"ผมแค่บอกว่าถ้าเขาต้องการผมจะทำให้ ไม่ได้บอกว่าผมตัดสินใจจะเอาแค่ลูก"

"เอาเถอะ แกต้องตัดสินใจเองแล้วต่อจากนี้ ถ้าพร้อมจะให้เขาไปเป็นของใครแล้วคิดว่าทำใจได้ก็เอาเถอะ.." พ่อทิ้งไว้แค่นั้น

"อ้อ แล้วคนเขาไม่รักน่ะ เขาไม่มาตามให้กลับไปทั้งที่แพ้ท้องจนเป็นลมขนาดนั้นหรอ..."

เป็นลม? หาหมอ?

"เดี๋ยวพ่อ!!"

"อีกเดี๋ยวพ่อกับแม่จะตามไปเยี่ยมกันต์...ในฐานะปู่กับย่า แต่แกจะไปในฐานะผัวหรือพ่ออย่างเดียวก็เรื่องของแกนะ"

เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหายไปในบ้าน

มิน่า กรรณโกรธผมขนาดนั้นเพราะอะไรละ?

นี่แกโง่ให้เมียที่แพ้ท้องเดินร้องไห้ออกไปจนเป็นลมเลยหรือปาณัสม์...

มึงนี่มันใช้แต่อารมณ์จริงๆไอ้กล้า

17.08.2020

ตอนที่แล้วตอนที่ 15 : รู้ตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 : ไม่มีกูไม่มีมึง
แบ่งปัน
สวัสดีค่า สำหรับใครที่เข้ามาอ่านงานเรา ไม่ต้องคอมเม้นท์เราก็ได้ เข้ามาติดตามกันก็ชื่นใจแล้ว จะพยายามอัพเดทผลงานเรื่อยๆเลยนะ ติชมอยากให้เปลี่ยนแปลงตรงไหนบอกได้เลยพร้อมพัฒนาแก้ไขให้ทุกคน เราตั้งใจเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็น ศศิศิลป์ ศศิ ที่แปลว่าดวงจันทร์ และศิลป์ ที่หมายถึงศิลปะ เพราะส่วนตัวเราชอบคิดเรื่องที่จะแต่งในตอนกลางคืน เกือบทุกเรื่องจะเขียนจบในเวลาที่ฟ้ามืดแล้ว ศิลปะทางภาษาของเรามักจะทำงานในตอนกลางคืนว่างั้นก็ได้ ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะ ศศิศิลป์
0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด