ตอนที่แล้วตอนที่ 110 ชีวิตแสนสงบของพิภพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 112 หมู่บ้านโอปะ

ตอนที่ 111 เดินเคียงหญิงสาว


เช้าวันใหม่มาถึง เหนือภพที่ยังคงลืมตาตื่นตลอดคืนก็กลับไปยังร้านพี่พลเพื่อช่วยเปิดร้านเตรียมของ และนี่ก็เป็นอีกวันที่เหนือภพไม่ได้พูดอะไรเลย นอกเหนือจากการทำงาน พอตกกลางคืนที่ไม่มีภารกิจที่เหมาะสมให้เขาทำ เหนือภพก็ฝึกฝนร่างกายและก็ออกไปเดินเล่นรับลมเย็น

ตามปกติแล้วเหนือภพจะชอบออกไปเดินเล่นในสถานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำกัน ถือเป็นการผ่อนคลายและตรวจดูลาดเลาสถานการณ์ทั่วไปของเมืองด้วย แต่คืนนี้เขาเลือกที่จะมาเดินบนถนนเส้นเดิม เพราะหวังที่จะได้จะพบกับพราวจันทร์ที่ออกมาเดินเล่นยามดึก

“เจอเจ้าอีกแล้วนะ สาวสวย”

“เจ้ามาดักรอข้าหรอเหนือภพ”

“เปล๊า !”

พราวจันทร์หัวเราะขบขันกับท่าทางปฏิเสธเสียงสูงของเหนือภพ จากนั้นเธอก็เดินเคียงข้างเขาอีกครั้ง คืนนี้พวกเขาเดินไปซื้อขนมข้างทางชิมไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน

“แปลกนะ พวกเขาปล่อยคนระดับท่านหญิงอย่างเจ้ามาเดินเที่ยวเล่นในที่แบบนี้ได้ยังไง”

“ก็ข้าทำงานเสร็จแล้วนี่”

พราวจันทร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ ขณะก้มหยิบมะยมเชื่อมในตะกร้ามากิน เหนือภพพยักหน้าหงึกหงัก แต่เมื่อเขาคิดใคร่ครวญถึงงานของพราวจันทร์ เขาก็เบิกตากว้างขึ้น เธอเป็นหญิงคณิกามิใช่หรือ ถ้าเช่นนั้นงานของเธอก็คือการปรนเปรอลูกค้าชั้นสูงสินะ เมื่อเขาจินตนาการไปเรื่อย ๆ ใบหน้าของเขาก็ดำคล้ำขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

พราวจันทร์เห็นเช่นนั้นก็เข้าใจในทันที เธอหลุดหัวเราะออกมาอย่างสดใส เมื่อเธออยู่กับเหนือภพสองต่อสองเธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องวางท่าอะไรมากมาย

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าคิดไปถึงไหนกัน”

“ก็เจ้า….”

“แล้วเจ้าคิดว่าระดับสาวดาวเด่นน่ะ จะมีใครกล้าสู้ราคาสำหรับการบริการที่ลึกล้ำเช่นนั้นด้วยหรือ”

“ถ้าไม่บริการแบบนั้น แล้วเจ้าบริการแบบไหน”

พราวจันทร์ยังคงยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี แม้เหนือภพจะไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่เขาก็มีท่าทีคล้ายกับอาการหึงหวง เธอจึงอารมณ์ดีมากพอที่จะอธิบายให้เหนือภพฟังว่าลูกค้ากระเป๋าหนักที่กล้าจ่ายให้สาวดาวเด่นมาบริการนั้นค่อนข้างมีจำกัด และต่อให้เป็นพวกราชวงศ์ก็ยอมจ่ายแค่บริการร้องรำทำเพลง เล่นหมากกระดานเป็นเพื่อนเท่านั้น บริการที่มากกว่านี้ยังไม่เคยมีใครกล้าจ่ายมาก่อน

เหนือภพได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกขนลุกซู่ หากค่าตัวของเธอแพงขนาดนั้นแล้วเขาจะจ่ายไหวได้อย่างไร

‘เอ๊ะ นี่ข้าคิดอะไรอยู่’

เหนือภพสะบัดหัวเรียกสติคืนมาอีกครั้ง

“แล้วทำไมเจ้าต้องตั้งค่าตัวสูงเกินจริงแบบนั้นด้วยล่ะ ยังไงก็ไม่มีใครจ่ายอยู่แล้ว”

“ก็เพราะสิ่งที่ไม่มีวันเอื้อมถึง ย่อมมีค่ามีความหมายยังไงล่ะ”

จากนั้นเธอก็หัวเราะอย่างมีจริตจะก้านพองาม แล้วก็เดินยักย้ายสะโพกไปหาซื้อขนมร้านต่อไป นี่เป็นช่วงเวลาที่พราวจันทร์รู้สึกผ่อนคลาย การได้พบเจอกับเหนือภพทำให้เธอมีความสุข แม้เธอจะยังคงแสร้งไม่รู้จักเขาในฐานะกลิ่นจันทน์ แต่เธอก็กำลังสานความสัมพันธ์กับเขาในฐานะพราวจันทร์แทน

เวลาผ่านไปอีกนับเดือน เหนือภพถึงจะได้รับการติดต่อจากองค์หญิงบุษย์น้ำเพชร เธอทราบข่าวว่าเขาอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่เธอเพิ่งมีจังหวะเหมาะติดต่อให้เขาเข้ามาพบในยามวิกาล

“เจ้าเรียกข้ามาพบเวลาดึกดื่นเช่นนี้มีอะไรหรือเปล่า”

เหนือภพกล่าวทักทายบุษย์น้ำเพชรอย่างไม่นอบน้อมเท่าที่ควร เขาไม่เคยเห็นว่าราชวงศ์เป็นคนที่สูงส่งและน่ายกย่องมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว

เขาเดินเคียงคู่ไปกับบุษย์น้ำเพชรที่ปลอมตัวออกมาจากวัง เธอมาด้วยชุดหญิงสาวทั่วไปที่ปกปิดใบหน้าด้วยหมวกผ้าสีฟ้าคราม พวกเขาเดินเคียงกันไปในตลาดส่วนที่คึกคักของเมือง หากมองเผิน ๆ จะดูเหมือนว่าคู่รักชายหญิงกำลังพากันออกมาซื้อของ

“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะให้ท่านเข้าร่วมบ้านฮันเตอร์ของข้า แต่มีข้อแม้บางอย่าง”

“ยังไง”

“บ้านฮันเตอร์ของเราแบ่งเป็นสองฝ่ายหลัก ๆ ท่านน่ารู้ดีอยู่แล้ว แต่ว่ายังมีเรื่องที่ท่านไม่รู้อยู่คือ ทั้งสองฝ่ายต่างมีเกณฑ์และกติกาในการทำงานของมันอยู่ โดยท่านจะต้องเริ่มที่ฝ่ายนอกก่อน ฝ่ายนอกก็จะมีด้วยกันสามระดับ ท่านจะเริ่มต้นด้วยที่ระดับ 3 ต้องทำภารกิจแรงค์ F จากสำนักงานฮันเตอร์อย่างน้อย 100 ภารกิจและต้องมีภารกิจแรงค์ E  กับแรงค์ D อย่างน้อยอย่างละ 1 ภารกิจ ท่านถึงจะได้รับการเลื่อนขั้น เป็นฝ่ายนอกระดับ 2 และต้องทำภารกิจเพิ่มอีกเท่าหนึ่ง ท่านถึงจะได้เลื่อนขั้นเป็น ฝ่ายนอกระดับ 1”

“แล้วถ้าข้าต้องการอยู่ในระดับเดียวกับห้าคนนั้นล่ะ”

“ท่านต้องเป็นฮันเตอร์แรงค์ D ก่อนเป็นอย่างต่ำ และมีผลงานภารกิจแรงค์ D อย่างน้อย 10 ภารกิจ ท่านถึงจะมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งในเจ็ดผู้นำฝ่ายนอก”

“งั้นข้าตกลง ข้าจะทำตามที่เจ้าว่า แต่ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

“เรื่องอะไร”

“ท่านรู้ดีว่าข้ามาที่นี่ทำไม”

องค์หญิงบุษย์น้ำเพชรยิ้ม เธอได้ยินข่าวที่ผู้นำตึกลำธารและยอดฝีมือของหอโลหิตหายตัวไป ดังนั้นเธอจึงพอคาดเดาได้ว่าเหนือภพมาที่เมืองหลวงก็เพราะต้องการสืบหาความจริงในเรื่องนี้

“ได้ข้ายอมรับเงื่อนไขของท่าน แต่ท่านต้องช่วยข้าอีกอย่างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าหวังว่าท่านจะช่วยเหลือคนของมัจฉาสวรรค์ในนามของข้า”

เหนือภพนิ่งไปครู่หนึ่งด้วยความตกใจ บุษย์น้ำเพชรรู้เรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับมีนาได้อย่างไร ที่สำคัญสมุทรไม่ใช่คนที่จะปากโป้งบอกคนอื่น และก็ไม่มีทางที่ใครจะเค้นคอถามเขาได้เช่นกัน เหนือภพไม่มั่นใจว่าบุษย์น้ำเพชรวางแผนอะไรอยู่ในใจ แต่เขาก็ทำได้แค่พยักหน้า

“ได้ ข้าจะทำตามนั้น”

เมื่อพวกเขาตกลงกันเสร็จ พวกเขาก็พากันเดินตรงไปยังร้านที่อยู่ใกล้กำแพงพระราชวังมากที่สุด โดยไม่รู้เลยว่าอีกมุมหนึ่งของตลาดมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ สายตาคู่นั้นคือสายตาจ้องเขม็งจากพราวจันทร์ เธอออกมาเดินเล่นบนถนนสายเดิม แต่เธอกลับไม่พบเห็นเหนือภพเหมือนเคย เธอจึงเปลี่ยนเส้นทางเดินเข้ามาในตลาดที่คึกคักแทน และสุดท้ายเธอก็ได้พบเห็นเหนือภพเดินเคียงคู่ไปกับหญิงสาวคนหนึ่ง

จากนั้นเหนือภพก็ไม่มีเวลาว่างในยามวิกาลอีกเลย เขาใช้เวลากลางคืนทุกวันไปไล่ทำภารกิจแรงค์ F  ไม่ว่าจะมีกี่ภารกิจเขาก็รับทำทั้งหมดทั้งนอกเมืองและในเมือง จนในที่สุดเขาก็ทำภารกิจจนครบ 100 ภารกิจ   จากนั้นเขาก็ได้รับภารกิจแรงค์ E มาจากสำนักงานฮันเตอร์

“เออพี่ชาย ท่านจะทำภารกิจนี้หรอ ท่านมีกลุ่มหรือยัง ให้ข้าร่วมด้วยได้ไหม”

ฮันเตอร์หนุ่มอายุน้อยกว่าเหนือภพเอ่ยถาม เมื่อเห็นเหนือภพกำลังทำความเข้าใจกับภารกิจแรงค์ E ที่เขาเพิ่งดึงมันออกมาจากป้ายประกาศ

เนื้อหาของภารกิจนี้พูดถึงสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นที่ทางใต้ของเมืองหลวง ที่นั่นมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า หมู่บ้านโอปะ มีข่าวลือในหมู่บ้านว่ามีสัตว์อสูรลักพาตัวหญิงสาวไปจากหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากฮันเตอร์

เหนือภพจ้องไปที่เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาคนนั้น

“ไหนเจ้าบอกข้าทีสิ เจ้ามีดีอะไรที่ข้าควรจะรับเจ้าเข้าร่วมด้วย”

“เอ่อ ข้าใช้อาคมประเภทสนับสนุนได้”

“แล้ว ?”

“เอ่อ ข้ามีอาวุธเคลือบแร่สองสีด้วย”

“แค่เนี๊ย ?”

“ข้า.. เอ่อ เป็นคนจากหมู่บ้านโอปะ สามารถนำทางให้ท่านได้”

เด็กหนุ่มพูดตะกุกตะกักอย่างประหม่า แม้เขาไม่รู้เลยว่าเหนือภพเป็นฮันเตอร์แรงค์ F เช่นเดียวกันกับเขา แต่เขาก็พอจะดูออกว่าเหนือภพมีฝีมือสูงกว่าเขาแน่นอน

“หืม ?”

เหนือภพหันมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างสนใจ เขามีความคิดดี ๆ แล้ว หากมีคนในพื้นที่เข้าร่วมภารกิจด้วยมันน่าจะดี และน่าจะจบภารกิจได้ไว

“เจ้าชื่ออะไร”

“ข้าชื่อ ทิว ครับ”

“ข้าเลือกภารกิจนี้”

เหนือภพหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่สำนักงานฮันเตอร์ที่กำลังติดใบภารกิจอยู่ พร้อมกับยื่นใบภารกิจระดับ E ที่เขาเลือกมาให้เจ้าหน้าที่ ส่วนทิวก็เข้าใจว่าเหนือภพรับเขาเข้าทีมเรียบร้อย เขาจึงยืนอยู่ข้างเหนือภพเงียบ ๆ ไม่จากไปไหน

“ได้  ๆ รอข้าครู่เดียว ข้าขอจัดการใบภารกิจพวกนี้ก่อน”

เจ้าหน้าที่เอ่ยตอบ ขณะไล่แปะใบภารกิจอื่น ๆ ลงไปบนป้ายประกาศตามระดับ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็หันมาอ่านใบภารกิจที่เหนือภพเลือก พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลภารกิจในฐานข้อมูลที่บันทึกเอาไว้เพื่อบอกข้อมูลที่ถูกต้องแก่ฮันเตอร์ผู้รับงานอีกที

“มีกันแค่สองคนเองหรอ”  เจ้าหน้าที่ถึงกับหันมาถามด้วยความสงสัย

“ไม่ได้เหรอ”

“มันก็ได้ เพียงแต่ภารกิจนี้ยังมีความคลุมเครือเกี่ยวกับระดับสัตว์อสูรอยู่ ผู้ว่าจ้างบอกว่าเป็นแค่สัตว์อสูรแรงค์ E แต่เมื่อเช้ามีผู้ว่าจ้างงานอีกคนจากหมู่บ้านเดียวกันมาแจ้งภารกิจ เนื้อหาการจ้างวานคล้ายกับ ภารกิจอันนี้เลย เจ้าลองดูนี่”

เหนือภพอ่านใบภารกิจอีกใบที่เจ้าหน้าที่หมายถึง มันเป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผิด แตกต่างกันแค่รูปแบบการเขียน ระดับและชื่อผู้ว่าจ้างงานเท่านั้น

“สัตว์อสูรระดับ D เลยหรือครับ”

“ใช่ กรณีแบบนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนี้ทางสำนักงานเราก็ส่งคนไปตรวจสอบเพื่อวัดระดับที่แน่นอน เจ้าจะรอก่อนหรือจะเปลี่ยนภารกิจก็ขึ้นอยู่กับเจ้า แต่ข้าแนะนำให้เจ้าเปลี่ยนภารกิจไปดีกว่า กรณีแบบนี้มีโอกาสสูงมากที่สัตว์อสูรจะมีระดับมากกว่าที่ระบุในใบภารกิจ”

“เอาไง ทิว”

เหนือภพหันไปถามหนุ่มน้อยผมดำเข้มที่ถูกนับเป็นเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ของเขา

“เอ่อ  ยังไง… ก็ได้ครับ”

ทิวดูเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจอย่างมาก

“งั้นข้าเอาภารกิจนี้นี่แหละ”

เหนือภพตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนจะคว้าเอาภารกิจระดับ D ที่น่าจะเป็นภารกิจซ้อนในหมู่บ้านเดียวกันมาด้วย ทำให้เสร็จไปเลยทีเดียวก็ดีเขาจะได้เลื่อนระดับเป็นฝ่ายนอกระดับ 2 สักที อย่างน้อยมันก็ทำให้เขามีเงินเดือนเพิ่มขึ้น แต่การตัดสินใจของเหนือภพกลับถูกคัดค้านโดยเจ้าหน้าที่

“ไม่ได้ อันตรายเกินไป”

“อะไร พี่อนุโลมให้ผมทำภารกิจข้ามขั้นได้ไม่ใช่หรอ”

“พิภพเจ้ามันแค่ฮันเตอร์แรงค์ F ข้าอนุโลมให้เจ้าทำแรงค์ E ได้ แต่เจ้าก็อย่าบ้าข้ามขั้นขนาดนั้นสิโว้ย”

เจ้าหน้าที่เตือนด้วยความหวังดี แต่มีหรือที่เหนือภพจะฟัง เหนือภพคว้าเอาใบภารกิจทั้งแรงค์ E และ แรงค์ D ที่เป็นต้นฉบับ แล้วก็วิ่งลากทิวออกไปจากสำนักงานฮันเตอร์ด้วยความรวดเร็วสูง โดยที่ไม่ลืมตะโกนกลับไปว่า

“อย่าลืมลงทะเบียนให้ข้าด้วยนะ”

“ไอ้หมอนี่...”

“อีกแล้วเหรอ”

เจ้าหน้าที่สาวที่นั่งอยู่ไม่ไกลพอจะคาดการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมีเพื่อนร่วมงานหลายคนที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้จากพิภพมาแล้วหลายสิบครั้ง

“ใช่ ถ้าไอ้เด็กบ้านั่นกลับมาอีกที ข้าจะไม่ให้มันทำภารกิจแล้ว”

“อย่ากังวลไปเลยจ้า เด็กคนนั้นไม่เป็นอะไรหรอก”

“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องนั้น แต่ว่ากฎต้องเป็นกฎ หากเบื้องบนรู้ว่าข้าให้พวกหน้าใหม่ทำภารกิจข้ามขั้น คงได้ซวยกันทั้งสำนักงานแน่”

เจ้าหน้าที่สาวนิ่งไปเมื่อได้ยินความกังวลของเพื่อนร่วมงาน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด