ตอนที่แล้วบทที่ 236 ข้าจะ...เจ้า 1 (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 237 ข้าจะ...เจ้า 2 (2)

บทที่ 237 ข้าจะ...เจ้า 2 (1)


บทที่ 237 ข้าจะ...เจ้า 2

หุบเขาแห่งความตายทำหน้าที่แบ่งกั้นทั้งสองอาณาจักรเอาไว้ ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งในการทำศึกด้วยยุทธวิธีทางราบเพียงใด ถ้าพวกเขาไม่สามารถข้ามฝั่งมาได้ความแข็งแกร่งที่มีก็ถือเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ อันที่จริงนักเวทย์ของฝ่ายอาณาจักรเบร็คมีข้อได้เปรียบมากกว่าเพราะพวกเขาสามารถใช้พลังเวทย์โจมตีจากระยะไกลได้

พวกเขาอาจมีทหารเป็นจำนวนมากแต่ถ้าไม่สามารถข้ามฝั่งเข้ามาได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร

“…นายน้อยคาร์ล นั่นคือสิ่งที่ข้าอยากจะถามท่านเช่นกัน สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?”

โรสลินรอคาร์ลมาจนถึงตอนนี้ เธอกำลังรอให้คาร์ลแจ้งข้อมูลที่ได้มาจากโคลเปย์แต่เมื่อได้ยินคำถามจากคาร์ลเมื่อครู่นี้ทำให้เธอรู้ว่าคาร์ลไม่ได้ข้อมูลใดๆจากโคลเปย์เช่นกัน

“ราอนกำลังป่วย”

สีหน้าของโรสลินเปลี่ยนไปทันที เธอหยิบอุปกรณ์เวทย์สื่อสารออกมาและยื่นมันไปให้กับคาร์ล

“ท่านจะให้ข้าเชื่อมต่อสัญญาณไปที่ใด?”

“องค์รัชทายาทอัลเบิร์ก”

โรสลินไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเธอเริ่มร่ายพลังเวทย์เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณให้กับอุปกรณ์เวทย์สื่อสารอย่างไรก็ตามเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น

ปี๊บ!!!!! ปี๊บ!!!!! ปี๊บ!!!!!

อุปกรณ์เวทย์สื่อสารในมือของคาร์ลกำลังส่องแสงสีแดงขึ้นมา โรสลินจึงจัดการรับสัญญาณให้กับเขาทันที

[“คาร์ล”]

“ถวายบังคมพะยะค่ะองค์ชาย...เขาบอกอะไรบ้างพะยะค่ะ?”

นอกจากคาร์ลแล้วอัลเบิร์กเป็นเพียงคนเดียวที่โคลเปย์สามารถติดต่อไปหาได้ อัลเบิร์กเป็นคนเดียวที่รู้ว่าคาร์ลกำลังวางแผนจะทำอะไรและคอยจัดการธุระต่างๆให้ตามความเหมาะสม

คาร์ลมั่นใจว่าโคลเปย์จะแจ้งข้อมูลของศัตรูผ่านทางอัลเบิร์กหากไม่สามารถติดต่อเขาได้

เขากำลังรอฟังคำตอบจากอัลเบิร์ก

ทันใดนั้นเอง

“ท่านผู้บัญชาการ!..ทหารของข้าศึกกำลังขยับถอยหลังขอรับ!”

หนึ่งในอัศวินตะโกนบอกโรสลินซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คาร์ลมองเห็นทหารของศัตรูเดินถอยหลังกลับไปอย่างเป็นระเบียบ

ทหารจำนวนมากต่างขยับตัวพร้อมเพรียงกัน

บู้ม!!!บู้ม!!!บู้ม!!!

พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน ในขณะเดียวกันก็ปรากฏช่องทางขนาดใหญ่เมื่อทหารของศัตรูพากันแหวกตัวออก

เสียงของอัลเบิร์กลอดเข้ามาในหูของคาร์ลในจังหวะนั้นพอดี

[“อาจเป็นเพราะได้แรงบันดาลใจจากโครงกระดูกบินได้ของหมอผีเมื่อครั้งที่ทำศึกกับพวกเจ้าในอาณาเขตเฮนิตัส..พวกเขาจึงได้สร้างปีกขึ้นมา”]

อัลเบิร์กพูดด้วยความเร่งรีบ

คาร์ลมองเห็นสมาชิกของเผ่าหมีเดินออกมาจากช่องทางที่ทหารเพิ่งเปิดทางให้

[“การที่ไม่มีโคลเปย์อยู่ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมไวย์เวิร์นทั้งหมดได้ พวกเขาจึงจัดการฆ่าพวกมันทั้งหมด จากนั้นคนแคระไฟได้ใช้กระดูกของไวย์เวิร์นและหินมนตราสร้างปีกขึ้นมา โครงกระดูกหนึ่งชิ้นสามารถสร้างปีกได้หลายปีก”]

บู้ม!!!บู้ม!!!บู้ม!!!

แผ่นดินสั่นสะเทือนทุกครั้งที่เผ่าหมีก้าวเดิน

พวกเขาเป็นสัตว์อสูรที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งในลำดับต้นๆและมีจำนวนสมาชิกในเผ่ามากที่สุด

สมาชิกของเผ่าหมีมีปีกขนาดใหญ่ติดอยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง

มันเป็นปีกขนาดใหญ่ที่เลียนแบบมาจากปีกไวย์เวิร์น ร่างกำยำของสมาชิกจากเผ่าหมีที่กลายร่างเป็นที่เรียบร้อยสามารถแบกปีกขนาดใหญ่ไว้บนร่างของพวกมันได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของพวกมัน

โรสลินเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ

“พวกมันมีจำนวนเท่าไหร่เพคะ?”

เธอมองไปยังอีกฝั่งของหน้าผาที่เริ่มมีสมาชิกจากเผ่าหมีปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ

[“ประมาณ 1,000”]

‘1,000’

นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ มีศัตรูอย่างน้อย 1,000 ตัวที่สามารถบินในอากาศได้

[“ในจำนวน 1,000 นี้ไม่ได้มีเพียงเผ่าหมีเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเผ่าคนแคระไฟอีกด้วย”]

คาร์ลมองไปยังร่างเล็กๆแต่กำยำของคนแคระไฟ บนไหล่ของพวกเขามีปีกขนาดเล็กติดอยู่ทั้งสองข้าง

นับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในครั้งนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เผ่าคนแคระไฟได้ปรากฏตัวขึ้นมา

พวกเขามีรูปร่างแคระแกร็นแต่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ในมือก็ถืออาวุธที่ดูร้ายกาจเอาไว้ คนแคระเป็นชนเผ่าที่รู้จักกันทั่วไปว่ามีความแข็งแกร่งทางร่างกายเป็นอย่างมาก

โรสลินมองดูพวกเขาพร้อมขมับที่เต้นตุบๆไปด้วยความเครียด

‘ปีกพวกนั้นจะถูกเปิดใช้งานด้วยวิธีใด? ถ้าพวกเขาใช้หินมนตราก็แสดงว่ามีการใช้พลังเวทย์? แล้วพวกเขาไม่กลัวว่านักเวทย์ของอาณาจักรเบร็คจะจู่โจมพวกเขาเมื่อเหาะอยู่กลางอากาศหรอกรึ?’

ทันใดนั้นก็มีคำถามอีกอย่างโผล่เข้ามาในหัวของเธอ

‘…แล้วทหารพวกนั้นล่ะ? จะข้ามฝั่งมาได้อย่างไร?’

ในไม่ช้าคาร์ลและอัลเบิร์กก็เป็นคนไขความกระจ่างให้กับเธอ

“ไม่ได้มีแค่นี้ใช่มั้ยพะยะค่ะ?”

[“ใช่..ยังมีอีกอย่าง”]

อัลเบิร์กตอบคาร์ลกลับทันที

เอี๊ยดดดดดดด!!!!ครืดดดดดดดด!!!!!

พวกเขาได้ยินเสียงเหมือนเครื่องจักรบางอย่าง มันฟังดูคล้ายกับล้อหนักๆกำลังบดไปตามพื้นดิน

“ท่านผบ.! อัศวินก็กำลังขยับถอยหลังเช่นกันขอรับ!”

ตอนนี้อัศวินของข้าศึกก็กำลังขยับถอยหลังเช่นกัน ศัตรูเรือนหมื่นขยับเคลื่อนไหวกันอย่างพร้อมเพรียง มีสิ่งของขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงช่องว่างระหว่างอัศวินและทหาร

[“พวกเขากำลังจะสร้างสะพาน”]

สิ่งที่สามารถเชื่อมหุบเขาทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกันและสามารถสัญจรข้ามไปยังสถานที่ต่างๆของอีกฝั่งหนึ่งได้ คนแคระไฟประกาศว่าพวกตนกำลังจะสร้างสะพานบนหุบเขาแห่งนี้

จนกว่าจะติดตั้งสะพานเป็นที่เรียบร้อย ศัตรูที่มีปีกติดอยู่บนไหล่ถึง 1,000 ชีวิตจะต่อสู้เพื่อทำการถ่วงเวลาเอาไว้

ศัตรูทั้ง 1,000 ชีวิตนี้ไม่ได้มุ่งเป้าเพื่อโจมตีพวกเขาโดยตรง

ศัตรูทั้ง 1,000 ชีวิตนี้ต่างมุ่งเป้าไปที่การป้องกันเช่นกัน

หน้าที่ของพวกเขาคือการปกป้องสะพาน

“…นั่นมันคือสะพานรึ?”

โรสลินไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่อัลเบิร์กพูด

“ไม่! นั่นไม่ใช่สะพาน!”

มันไม่ใช่สะพาน

“มันมีระเบิดพลังเวทย์อยู่ในนั้นด้วย”

โรสลินมองไปยังสิ่งของที่มีรูปทรงคล้ายรถปืนใหญ่ ทั้งตัวรถและล้อของมันถูกติดตั้งบางอย่างเอาไว้ เธอมั่นใจว่ามีระเบิดพลังเวทย์อยู่ในนั้น

ครืดดดดดดดดด------!!!

แรงสั่นสะเทือนที่มาจากหุบเขาอีกฝั่งหนึ่งทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจ มันจะต้องเต็มไปด้วยระเบิดพลังเวทย์อย่างไม่ต้องสงสัย

โรสลินได้ยินเสียงของคาร์ลดังขึ้นในขณะนั้น

“ทหารและอัศวินยังคงขยับถอยหลังต่อไป ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันคือการปิดบังสิ่งเหล่านี้เอาไว้”

เป้าหมายของพวกเขาคือปิดบังสิ่งเหล่านี้จากสายตาของอาณาจักรโรมันและอาณาจักรเบร็ค

โรสลินมองไปที่ปีกและระเบิดพลังเวทย์ที่อัศวินและทหารของศัตรูพยายามปกปิดเอาไว้

“หากหน้าผาทั้งสองด้านถูกทำลายลง มันก็จะสร้างเส้นทางเชื่อมระหว่างหุบเขาทั้งสองฝั่งได้ ข้าคิดว่านั่นก็คือสะพานเช่นกัน”

โรสลินก้มลงมองด้านล่าง

เธอมองเห็นพื้นดินไกลๆจากสายตา

แน่นอนว่าหน้าผาทั้งสองด้านอยู่คนละฝั่งของหุบเขา แต่ถ้าหน้าผาทั้งสองฝั่งนี้ถล่มลง เศษซากจากหน้าผาขนาดใหญ่ก็จะปกคลุมช่องว่างตรงกลางจนสามารถใช้เป็นสะพานข้ามเข้ามาได้

โรสลินยังคงมองเห็นศัตรูก้าวถอยหลังอย่างเป็นจังหวะ พวกเขาทำเช่นนี้ราวกับต้องการสร้างความมั่นใจว่าระเบิดพลังเวทย์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเอง

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด