ตอนที่แล้วบทที่ 25 อาวุธคู่กาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 ปรับกลิ่นอาย

บทที่ 26 ทวีปทราบทมิฬ


บทที่ 26 ทวีปทราบทมิฬ

เมื่อมาถึงตำหนักของเจ้าสำนักแล้ว กุนไท่ก็ได้พบกับกุนจวินที่กำลังดื่มชาอย่างสงบ ณ สวนหลังตำหนัก

“ท่านพ่อ!”

กุนไท่กล่าวเรียกบิดาของตนขึ้น แล้วปลดปล่อยพลังปราณออกมา เพื่อให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ ก่อนจะเรียกเอาขลุ่ยจักรพรรดิวิญญาณออกมา

กุนจวินที่ได้ยินเสียงบุตรของตนนั้นก็คิดไว้แล้วว่ากุนไท่คงทะลวงมาได้แล้ว แต่เมื่อเขาเห็นอาวุธคู่กายด้วยแล้วนั้น เขาพลันยืนขึ้นโดยสัญชาตญาณทันที พร้อมกับมือที่ถือแก้วชานั้นสั่นเล็กน้อย แต่ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง มันเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนจะรีบสงบใจลงอย่างรวดเร็ว

“ช่างยอดเยี่ยมนัก! ลูกไม่ทำให้พ่อผิดหวัง แถมยังสามารถปลุกอาวุธคู่กายขึ้นมาได้อีกด้วย ข้ากุนจวินมีบุตรชายที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากข่าวนี้แพร่ออกไปคงทำให้เจ้าพวกทวีปทรายทมิฬบัดซบพวกนั้น เกรงกลัวขึ้นมาแน่!”

“ท่านพ่อ ทวีปทรายทมิฬ คือ?...

“เป็นทวีปขนาดใหญ่ และเป็นพวกชั่วช้า! พวกมันต้องการครอบครองดินแดนทั้ง 7 ของทวีปเรา! ตอนนี้พวกเรากำลังทำสงครามกับพวกมันอยู่ พวกมันเห็นพวกเราเป็นแค่ทวีปขนาดกลาง จึงจะคิดจะรังแกได้ง่าย?”

กุนจวินพูดอย่างโกธรแค้น

“ดินแดนทั้ง 7 ของเรานั้นมีสิ่งใดพิเศษหรือ? นอกจากเจริญรุ่งเรื่องด้านการค้าขายแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดเลย”

กุนไท่ถามกลับด้วยความสงสัย

“มันไม่ใช่แค่นั้น ดินแดนทั้ง 7 ยังเป็นกุญแจสำคัญที่เอาไว้เข้าสู่พื้นที่บรรพบุรุษของเรา!”

กุนจวินตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

“อย่าบอกนะว่า…พวกมันต้องการสมบัติสืบทอดของตระกูลเรา?”

กุนจวินไม่ตอบแต่พยักหน้าตอบแทน ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า

“ในสงครามครั้งนี้เจ้ายังช่วยข้าไม่ได้ เจ้ายังอ่อนแอเกินไป อย่างต่ำเจ้าต้องอยู่ระดับผู้เชี่ยวชาญ! ส่วนรางวัลที่ข้าจะให้เจ้านั้น ข้าจะให้เจ้าไปฝึกอยู่ในพื้นที่บรรพบุรุษของเรา เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้าจะส่งเจ้าไปสมัครเป็นศิษย์ของนิกายฟ้าสวรรค์คำรามพิโรธ! นิกายนี้ตั้งอยู่ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ ทวีปศักดิ์สิทธิ์อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ มีความแข็งแกร่งที่ยากจะหยั่งถึง เพียงแค่ผู้อาวุโสในนิกายเพียงคนเดียวก็สามารถทำลายทวีปขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย!”

กุนไท่ที่ได้ฟังนั้นรู้สึกตกใจอย่างมาก คนๆหนึ่งจะมีพลังมากขนาดนั้น นั่นมันไม่ต่างจากเทพเจ้าเลย!

“อีก 3 วัน ข้าจะพาเจ้าเข้าไปในพื้นที่บรรพบุรุษของเราตระกูลกุน! เจ้าก็พักผ่อนและเตรียมตัวให้เรียบร้อย”

กุนจวินพูดเสร็จพลันอันตรธานหายไป จากนั้นกุนจวินก็ได้เรียกผู้นำดินแดนทั้งเจ็ดมาหารือ ได้แก่ ดินแดนปฐพี ดินแดนวารี ดินแดนวายุ  ดินแดนอัคคี ดินแดนอัสนี ดินแดนราตรี และดินแดนแสงสว่าง เพียงดินแดนเดียวก็เทียบได้กับทวีปขนาดเล็กทวีปหนึ่งได้เลยทีเดียว

การที่จะเข้าสู้พื้นที่บรรพบุรุษของตระกูลกุนนั้น ต้องมีกุญแจทั้งเจ็ดดอก โดยผู้นำของแต่ละดินแดน ต้องเก็บไว้คนละดอก และปกป้องมันด้วยชีวิต สาเหตุที่ให้ดินแดนทั้งเจ็ดปกป้องนั้น นั่นเป็นเพราะว่าหากเก็บไว้ที่กุนจวินเพียงผู้เดียวมันจะไม่ปลอดภัย

แต่หากเก็บไว้กับผู้นำดินแดนทั้งเจ็ดจะปลอดภัยกว่า เพราะผู้นำของแต่ละดินแดนจะสืบทอดวิชาลับของแต่ละคนที่สามารถส่งกุญแจไปให้ผู้ที่ไว้ใจได้โดยไม่คาดฝัน และที่สำคัญมันคือความตั้งใจของบรรพบุรุษของตระกูลกุนด้วย ไม่มีใครกล้าคิดจะเปลี่ยนมัน และเรื่องนี้ถือเป็นความลับ สมบัติส่วนมากจะเก็บไว้กับตัวแต่ใครจะไปคิดว่าเก็บไว้ที่บริวารกัน!

เมื่อผู้นำดินแดนทั้งเจ็ดคนได้มาถึง พวกเขาพลันเข้าใจถึงความตั้งใจของเจ้าสำนักกุนจวินในทันที หลังจากที่ได้รับกุญแจมาแล้ว เขาก็รีบพากุนไท่เข้าสู่เขตหวงห้ามของสำนัก เบื้องหน้าของกุนไท่นั้นมีต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งที่ดูธรรมดา แต่เนื่องจากการนำของกุนจวิน ต้นไม้ต้นนั้นได้ดูดร่างของทั้งสองเข้าไปในต้นไม้ราวกับแม่เหล็ก

กุนไท่รู้สึกตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อน และทรงพลังเช่นนี้มาก่อน ข้างในเป็นห้องโถงที่มีขนาดใหญ่มันดูเก่าแก่ และโบราณมาก เพียงแค่พื้นหินนั้นยังปล่อยกลิ่นอายที่ลึกลับออกมา มันสามารถช่วยให้กุนไท่ฝึกฝน และก้าวหน้าขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ตรงกลางห้องมีศิลาขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ มันสลักชื่อของทุกคนที่ใช้แซ่กุน กุนไท่เดินผ่านศิลานั้นไป และพบประตูบานหนึ่งมันมีช่องให้เสียบใส่กุญแจทั้งเจ็บดอกอยู่ กุนจวินไม่รอช้าเสียบกุญแจทั้งหมดลงไป

กรึก ครืนนน!

ประตูบานใหญ่พลันเปิดออก สายตาของกุนไท่สอดส่องเข้าไปแล้วรู้ว่าข้างในเป็นห้องฝึกฝนที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายจากยุคบรรพกาล แต่ทันใดนั้นเมื่อสายตาของกุนไท่ไปตกอยู่ที่เงามนุษย์ร่างหนึ่งที่กำลังนั่งขัดสมาธิ เป็นชายชราที่ผอมแห้งหนังติดกระดูก สวมใส่อาภรณ์สีดำ ผมสีขาวที่กระเซอะกระเซิงสยายราวกับมีสายลม แต่ในห้องที่ปิดตายเช่นนี้มันจะไปมีลมได้อย่างไร!

พลังปราณที่ยากจะหยั่งถึงของชายชราผู้นั้นระเบิดออกมา พร้อมกับเปลือกตาที่เปิดขึ้น แล้วจ้องมองกุนจวินกับกุนไท่อย่างแปลกประหลาด

“คาราวะ ท่านพ่อ!”

กุนจวินกล่าวขึ้นพลางโค้งคำรับ

“โอ้ จวินเอ่อร์? ไม่ได้พบเจ้าตั้งร้อยปี เติบโตขึ้นเยอะ มาถึงระดับนี้ได้แล้วสินะ ฮ่าๆๆ”

ชายชรายืนขึ้นพลางกล่าว พร้อมกับเข้าไปกอดกุนจวินอย่างเอ็นดู กุนไท่ที่ยืนอยู่นั้นรู้สึกเหลือเชื่อ รู้สึกว่าบิดาของตนนั้นมีความลับกับเขามากมาย กุนไท่มิอาจทราบได้ว่าชายชราผู้นี้อยู่ในระดับใด แต่เขาสัมผัสได้ว่าแข็งแกร่งกว่าบิดาของเขามากมายนัก และที่สำคัญเมื่อกี้บิดาของเขาเรียกอีกฝ่ายว่าท่านพ่อ! หรือว่าจะเป็นท่านปู่กัน?

“หลานชายคาราวะท่านปู่”

เสียงของกุนไท่ดังขึ้น มันได้ทำให้ชายชราหันมาสนใจทันที ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า

“อย่าบอกนะว่า นี่คือบุตรชายของเจ้า?”

“ใช่แล้วท่านพ่อ นี่คือหลานของท่านไง กุนไท่! ตอนนี้อายุสิบห้าปีแล้ว ระดับบ่มเพาะอยู่ที่สร้างรากฐาน ขั้นร่างกาย!”

กุนวินชี้ไปที่กุนไท่พลางแนะนำ ชายชรายิ้มแย้มจนแก้มปริ แววตาปรากฏความรัก และเอ็นดู ก่อนจะเข้าไปยกกุนไท่ขึ้นมาพลางตบก้น ราวกับเด็กทารกแล้วกล่าวออกมาว่า

“หลานชายข้ายอดเยี่ยมนัก มีพรสวรรค์มากกว่าข้า และบิดาของเจ้าเสียอีก สวรรค์ช่างเมตตาส่งมอบสวรรค์ล้ำค่ามาให้แก่ข้า! เจ้ายังไม่รู้นามของข้าอย่างนั้นสินะ ปู่ของเจ้ามีนามว่า กุนคุน!”

กุนไท่ที่ถูกอุ้มราวกับเด็กน้อยนั้นรู้สึกเขินอาย ได้แต่ยิ้มแห้งก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า

“ท่านปู่วางข้าลงเถอะ!”

เมื่อสิ้นเสียงของกุนไท่ ชายชราพลันหัวเราะลั่น ก่อนจะหันไปหากุนจวิน และถามขึ้นมาว่า

“เจ้าพากุนไท่มาที่นี่ เพื่อให้เขาฝึกกับข้าสินะ!”

“ใช่แล้วท่านพ่อ ตอนนี้ไท่เอ่อร์ต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไปเป็นศิษย์ของนิกายฟ้าสวรรค์คำรามพิโรธ!”

กุนจวินตอบกลับไป

“ข้าได้ยินมาว่านิกายนี้จะรับศิษย์ปีหน้า เขื่อนไขคืออายุห้ามเกิน 25 ปี ระดับบ่มเพาะอย่างต่ำคือสร้างรากฐาน ขั้น ร่างกาย! แต่เขื่อนไขนี้แค่ศิษย์ระดับต่ำเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสายนอก ส่วนศิษย์สายนอกอายุห้ามเกิน 25 ปี ระดับบ่มเพาะอย่างต่ำระดับสร้างรากฐาน ขั้นจิตใจ และขั้นวิญญาณ! ศิษย์สายในอายุไม่เกิน 30 ปี อย่างต่ำจะต้องอยู่ในระดับหลอมรวมพลัง ส่วนศิษย์หลักนั้นไม่มีผู้ใดรู้ อย่างว่าแต่ศิษย์สืบทอดที่มีตำแหน่งสูงกว่าศิษย์หลักเลย!”

กุนคุนกล่าวออกมาอย่างเคร่งครึม แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด