ตอนที่แล้วตอนที่ 41 จับกุมโม่เฉียน (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 พวกเจ้าเป็นแค่ข้าราชบริพาร! (ฟรี)

ตอนที่ 42 แต่งตั้งแม่ทัพใหญ่ (ฟรี)


"ขอบพระทัยฝ่าบาท"

เจี๋ยสวี่ และ เกาชุน ทั้งคู่ ได้ขอบคุณพร้อมกัน

เหรินหยานขุนนางอาวุโสที่มองเห็นสิ่งนี้เขาได้แอบพยักหน้าในใจอย่างลับ ๆ แม้ว่าฝ่าบาทของเขาจะมีอายุเพียง 16 ปี แต่วิธีจัดการเรื่องต่าง ๆ ของเขาช่างไร้ที่ติ

การให้รางวัลแก่นายสิบนายทหารชั้นล่างไม่เพียงแต่แสดงบารมีในฐานะจักรพรรดิ แต่ยังสามารถซื้อใจนายสิบเหล่านี้อีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การได้รับความเคารพที่ดีจากอีกฝ่าย จะ เจี๋ยสวี่ หรือ เกาชุน ก็ดี นับประสาอะไรกับพวกเขา

นี่แหล่ะคือวิธีที่สมควรพึงกระทำ!

"เอาล่ะ!"

ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่โม่เฉียนด้วยรอยยิ้ม"คุณหนูโม่เฉียน ทำไมสตรีที่บอบบางเช่นเจ้าถึงแสร้งปลอมตัวเป็นทหารยามของอาณาจักร หรือว่า เจ้ากำลังจะหลบหนี ไม่ใช่ว่าอาณาจักรหนานหยานคือบ้านของเจ้า ทำไมถึงต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ เช่นนั้น?"

ใบหน้าของ โม่เฉียน ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรู้ว่านี่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญกับชีวิตและความตายของเธอ ถ้าเธอตอบไม่ดี ลู่เฟิง ก็อาจจะพร้อมที่จะฆ่าเธอ

เธอได้คร่ำครวญเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากและตอบกลับ"ฝ่าบาทล้อเล่นหม่อมฉันเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทเป็นคนตรัสเองถ้าพระองค์สามารถชนะศึกประลองได้หม่อมฉันจะต้องเป็นนางสนมของพระองค์ ตอนนี้ ฝ่าบาทได้ชนะศึกประลองเป็นธรรมชาติ ที่หม่อมฉันจะต้องกลับไปเตรียมตัวเพื่อที่จะเป็นนางสนมของฝ่าบาท"

"เหตุผลที่หม่อมฉันปลอมตัวเป็นทหารยามเพราะมันสามารถเดินทางเข้าออกอาณาจักรได้สะดวก หม่อมฉันขอประทานอภัยที่ทำให้ฝ่าบาททรงกังวลเกี่ยวกับการกระทำนี้และขอร้องให้ฝ่าบาทโปรดเมตตา"

"หม่อมฉันเต็มใจที่จะรักษาสัญญาและเป็นนางสนมของพระองค์!"

เมื่อได้ยินคำพูดของ โม่เฉียน เหรินหยาน,ฮูหยิน ก็ขมวดคิ้วแน่น ธรรมชาติพวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้บุตรสาวของกบฏอย่างโม่เฉียนลอยนวลไปอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้ โม่เฉียน ได้ทวงคำสัญญาของฝ่าบาทที่เธอจะต้องกลายไปเป็นนางสนม ด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้พวกเขาพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ

ลู่เฟิง หรือ องค์จักรพรรดิ เป็นคนตรัสพูดออกไปจริง ดังนั้นไม่มีใครกล้าที่จะแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาพูดออกไป

นอกจากนี้เหล่าขุนนางอาวุโสพวกเขายังคงคำนึงถึงชื่อเสียงของจักรพรรดิมากขึ้น ถ้าปล่อยให้ชื่อเสียงของจักรพรรดิตกอยู่ในทิศทางไม่ดีนั่นจะทำให้พวกเขารู้สึกเป็นคนบาปอย่างมาก

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรและหวังว่าลู่เฟิงจะสามารถจัดการปัญหาได้อย่างเหมาะสม

ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ โม่เฉียน เขารู้สึกชื่นชมเธอในใจว่าสมแล้วที่เป็นบุตรสาวของเสนาบดีโม่เต๋าผู้มีอำนาจ การแสดงออกทางความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้จะเรียกว่าโม่เต๋าคนที่สองก็ไม่ผิด

มันคงยากที่จะทำลายชื่อเสียงของตนเองเพียงเพราะผู้หญิงคนนึง แต่น่าเสียดายที่มันใช้ไม่ได้กับลู่เฟิง

เขามองไปที่โม่เฉียนและยิ้มอย่างแผ่วเบา"คุณหนูโม่เฉียน ข้ายอมรับว่าเจ้าฉลาดมาก ด้วยวิธีเหล่านี้ทำให้ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ ข้ารู้สึกชื่นชมเจ้าจากใจจริง!"

โม่เฉียนได้ยิ้มในใจเธอรู้ว่าวันนี้เธอย่อมไม่ตายแน่นอน!

เพราะถ้าลู่เฟิงสั่งฆ่าเธอมันจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของเขาโดยสมบูรณ์ ในอนาคตเขาจะกลายเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือในสายตาของข้าราชบริพาร

เหล่าราชเลขาต่างก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ พวกเขาตีความหมายของคำพูดลู่เฟิงว่า โม่เฉียน คงจะถูกปล่อยตัวไปอย่างแน่นอน

แต่แม้ว่าพวกเขาจะมีความคิดเห็นพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะขัดคำพูดของลู่เฟิง

"หม่อมฉันขอบคุณพระองค์ที่เมตตา!"โม่เฉียนได้ยิ้มเบา ๆ "หม่อมฉันจะเป็นนางสนมที่ดีของพระองค์และจะถวายตัวรับใช้พระองค์ด้วยทุกอย่างที่มี"

หญิงสาวคนนี้เริ่มวางแผนการควบคุมนางสนมในอนาคตไว้แล้ว

"ใครบอกว่าข้าจะเมตตาไม่ฆ่าเจ้า?"ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ โม่เฉียน และ กล่าวพูด

โม่เฉียนถึงกับผงะและพูดด้วยความตกใจ"ฝ่าบาทไม่ใช่เมื่อกี้ท่านตรัสว่า..."

"ข้าตรัสว่าอะไร?"

ลู่เฟิงได้แสดงรอยยิ้มจาง ๆ "เจ้าวางแผนจะใช้คำพูดของข้าเพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ถูกฆ่า เเต่เจ้าคิดหรือว่าข้าจะปล่อยคนที่เคยคิดก่อการกบฏให้หลุดรอดไป ? และ อีกอย่างเจ้าคิดว่าข้าสนใจเรื่องชื่อเสียงพรรคนั้น?"

"จะประชาชนหรือข้าราชบริพารในเมืองหลวง ในสายตาของพวกเขา ข้าคือ ทรราช ? จอมปลิ้นปล้อน?"

"จะบอกให้ว่าข้าไม่สน ชื่อเสียงของข้ามันถูกทำลายไปตั้งแต่ที่บิดาของเจ้า โม่เต๋า ได้ทำวีรกรรมเอาไว้แล้ว ดังนั้นเจ้าคิดว่าข้ายังจะสนใจชื่อเสียงพวกนี้อยู่อีกหรือไม่?"

"ท่าน..."

"ฆ่า!"

"ขอรับ!"

เกาชุนได้ชักดาบออกมาและตัดศีรษะของโม่เฉียนโดยตรง

ศีรษะของสตรีที่สง่างามได้ร่วงหล่นลงพื้น ใบหน้าของเธอยังคงแข็งค้างด้วยความไม่น่าเชื่อว่าลู่เฟิงจะฆ่าตัวเองและไม่สนใจชื่อเสียง

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจรองสำเร็จ : ตัดศีรษะผู้คนจากนิกายหยุนกงที่ยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง รางวัลภารกิจ : ค่าประสบการณ์ 300,000 แต้ม และโอกาสในการอัญเชิญ!"

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีบกับโฮสต์ในการยกระดับพลัง สถานะปัจจุบันคือ ระดับ 1 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน"

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีบกับโฮสต์ในการยกระดับพลัง สถานะปัจจุบันคือ ระดับ 2 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน"

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีบกับโฮสต์ในการยกระดับพลัง สถานะปัจจุบันคือ ระดับ 3 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน"

"..."

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีบกับโฮสต์ในการยกระดับพลัง สถานะปัจจุบันคือ ระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน"

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีบกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการยกขั้นพลังย่อย 5 ระดับ ได้รับโอกาสในการอัญเชิญหนึ่งครั้ง"

ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มขึ้น!

ลู่เฟิง รู้สึกมีความสุขมาก ด้วยค่าประสบการณ์ 300,000 แต้ม ก็เพียงพอที่จะยกระดับพลังของเขาไปถึงระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน การยกระดับความแข็งแกร่งที่รวดเร็วเช่นนี้นอกจากเขาแล้วยังจะมีใครสามารถทำได้อีก?

ลู่เฟิง ได้เปิดหน้าต่างค่าสถานะของเขา

โฮสต์ : ลู่เฟิง

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

ระดับพลัง : ระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน (ต้องใช้ค่าประสบการณ์ 100,000 แต้ม เพื่อยกระดับพลังขั้นต่อไป)

ทักษะต่อสู้ : โจมตีหนัก,ดาบฉิงซาน

พลังพิเศษ : ไม่มี

สัตว์อสูรพันธะสัญญา : ไม่มี

อัญเชิญขุนพล : ฮวามู่หลาน,เกาชุน,เจี๋ยสวี่

อัญเชิญอาวุธวิเศษ : ดาบกานเจียง,ดาบเฉิงอิ๋ง

โอกาสในการอัญเชิญที่เหลืออยู่ : สองครั้ง

ลู่เฟิง มองไปที่หน้าต่างค่าสถานะของเขาด้วยความพอใจ เมื่อเขาประสบความสำเร็จในการยกระดับขั้นพลังย่อย 5 ระดับ ทำให้เขามีโอกาสอัญเชิญเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

นอกเหนือจากรางวัลภารกิจรองในครั้งนี้และโอกาสอัญเชิญทั้งสองครั้งแล้ว เขายังต้องคิดอย่างรอบคอบในการอัญเชิญครั้งต่อไป

สิ่งที่ลู่เฟิงเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ ค่าประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการยกระดับขั้นพลังถัดไป สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเสียยใจเล็กน้อย

ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ดีขึ้นมาก กาสังหารนักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนระดับต้นนั้นไม่สามารถทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์ได้มากเท่าแต่ก่อน!

เขาไม่รู้ว่าจะได้ยกระดับพลังอีกทีเมื่อไหร่

เขาได้ส่ายศีรษะอย่างหมดหนทางและทำได้เพียงแค่วางเรื่องทั้งหมดนี้ลง

เขาเงยหน้าขึ้นมองข้าราชบริพารจำนวนมากก่อนที่จะจ้องมองไปที่เกาชุนด้วยรอยยิ้ม"แม่ทัพเกา ด้วยความดีความชอบของเจ้าในวันนี้ เจ้าจะได้ศักดิ์ ต้าเจียงจวิน แม่ทัพใหญ่ของอาณาจักรหนานหยาน!"

เมื่อข้าราชบริพารได้ยินคำตัดสินนี้การแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

แม่ทัพใหญ่ของอาณาจักรนั้นมีสิทธิ์สั่งการทหารของอาณาจักรโดยตรง ในความเป็นจริงแล้ว ควรจะมีด้วยกันทั้งหมดสองฝ่ายซึ่งเอาไว้สร้างสมดุลถ่วงเอาไว้ซึ่งกันเพื่อไม่ให้เกิดความเลื้อมล้ำทางสมดุลอำนาจทางการทหาร

อย่างไรก็ตามเดิมตำแหน่งแม่ทัพใหญ่อาณาจักรหนานหยาน ไม่ใช่ของ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย เพียงคนเดียว

ก่อนหน้านี้ อดีตแม่ทัพใหญ่ ได้ถูกราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ฆ่า และ ตำแหน่งนี้ก็ว่างมานาน

ตอนนี้ฝ่าบาทต้องการแต่งตั้งให้ เกาชุน เป็นแม่ทัพใหญ่ของอาณาจักร นี่จะไม่ทำให้ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย เคลื่อนไหวหรอกใช่มั้ย

ทันใดนั้นข้าราชบริพารโดยเฉพาะ ขุนนางอาวุโสอย่างเหรินหยาน รู้สึกกังวลมาก ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ได้ควบคุมอำนาจทางการทหารของอาณาจักรแทบจะทั้งหมด เขามีทหารภายใต้อาณัติมากกว่าหนึ่งล้านคนในมือของเขา

และ แม่ทัพใหญ่คนใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นาน จะสามารถแข่งขันกับ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ได้อย่างไร ?

เหรินหยาน และ ฮูหยิน ได้มองหน้ากันก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า"ฝ่าบาท พวกเราขอโต้แย้งการมอบศักดิ์ ต้าเจียงจวินให้กับแม่ทัพเกา"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด