ตอนที่แล้วHPST ตอนที่ 34: แสงสว่างของเหล่าเอลฟ์ประจำบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHPST ตอนที่ 36: น้ำยาสรรพรส

HPST ตอนที่ 35: การโจมตีครั้งที่สอง


HPST ตอนที่ 35: การโจมตีครั้งที่สอง

สภาพอากาศนั้นมืดครึ้ม ดังนั้นปราสาทอันมืดมิดนี้จึงกลายเป็นน่ากลัวอย่างยิ่ง

อีวาน,เฮอร์ไมโอนี่ และแฮรี่รีบวิ่งไปยังห้องนั่งเล่นของกริฟฟินดอร์ พวกเขาพึ่งถูกรบกวนจากสิ่งที่เกิดขึ้น

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามัลฟอยจะเป็นคนที่พยายามจะฆ่าพวกเรา” แฮรี่พูดขณะที่ดูหน้าซีด

“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ ทำไมมัลฟอยถึงอยากฆ่าเราล่ะ?”

อีวานส่ายหัวในจณะที่มองไปที่สีหน้าของแฮรี่ และกล่าว “เอาล่ะ ถึงแม้เขาจะอยากฆ่าจริงๆ เขาคงไม่โง่ขนาดที่จะส่งเอลฟ์ประจำบ้านมาฆ่าเราหรอก”

“ถ้างั้นด๊อบบี้….”

“ฉันไม่คิดว่าเขาโกหก เขาต้องได้ยินเจ้านายของเขาพูดคุยการเปิดห้องแห่งความลับ และพยายามจะช่วยนาย แฮรี่”

“ใช่ ช่วยฉัน โดยไม่ให้ฉันขึ้นรถไฟ หักแขนของฉัน และควบคุมโต๊ะเก้าอี้กว่าแปดสิบตัวมาโจมตีใส่พวกเรา” แฮรี่ถอนหายใจ “ถ้าเขาพยายามจะช่วยฉันแบบนี้ ฉันได้ตายแน่ๆ”

“อย่าโทษเขาจนเกินไปเลย พวกเอลฟ์ประจำบ้านเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชื่อเรื่องการรับใช้เยี่ยงทาสเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้านายได้ พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยเจ้านายของพวกเขา และถ้าเขาทำ เขาต้องแบกรับการลงโทษมากมาย”

“เยี่ยงทาส?” เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงไม่พอใจ “ไม่อยากจะเชื่อ นี่มันยุคไหนแล้วเนี่ยถึงมีทาสในประเทศของเรา!”

“ฉันไม่ได้แคร์เรื่องนั้น” แฮรี่กล่าว “ฉันหวังว่าเขาจะบอกเราว่าใครเป็นคนเปิดห้องแห่งความลับ หรืออะไรที่อยู่ข้างใน ทำไมถึงไม่มีใครสังเกตเห็นปีศาจที่วิ่งไปทั่วทั้งโรงเรียน!”

“บางทีมันอาจจะล่องหนได้”

เฮอร์ไมโอนี่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“หรือบางทีมันอาจปลอมตัวเป็นวัตถุอื่นได้”

“อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัลฟอย” อิวานพูดเร็ว “ลูเซียส มัลฟอยกำลังวางแผนบางอย่าง แต่…….”

คำพูดของเขาไม่สามารถพูดให้จบได้ เมื่อทั้งสามคนหันหลังกลับ พวกเขาเห็นฉากที่น่ากลัว

อีวานรู้สึกว่าหัวใจของเขาหยุดเต้น และหน้าของเขาค่อยๆซีดลง

หญิงสาวจากเรเวนคลอนอนอยู่บนพื้น ตัวเธอเย็นและแข็งทื่อ เธอมีท่าทางที่ดูหวาดกลัวบนใบหน้าของเธอ ดวงตาของเธอจ้องไปที่บนเพดาน มันไม่ใช่แค่เธอแต่ยังมีอีกร่างอยู่ข้างๆเธอ อีวานไม่เคยเห็นภาพแปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน

มันคือเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ เธอไม่ได้มีตัวสีขาวขุ่นและโปร่งใส มีควันดำรอบๆอีกต่อไป เธอนอนอยู่เหนือพื้นกว่าหกนิ้ว ด้งยสีหน้าที่เหมือนกับหญิงสาวจากบ้านเรเวนคลอ

“พวกเราเคยเห็นผู้หญิงจากเรเวนคลอมาก่อนใช่ไหม? เธอชื่อว่าอะไรนะ?”

อีวานอ้าปากค้างขณะมองไปรอบๆโถงทางเดิน เขาเห็นแมงมุมกำลังรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

“เพเนโลพี เครียวอเตอร์ เธอเป็นเด็กบ้านเรเวนคลอ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยน้ำเสียเศร้าหมอง

“การโจมตีอีกครั้ง พวกเราควรไปเรียกให้ใครมาช่วย”

ก่อนที่พวกเขาจะตั้งตัว พวกเขาก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก มันคือพีฟส์

“อ้า พวกเธอทั้งสามนี่!”

พีฟส์กระโดดไปรอบๆและหัวเราะคิกคัก “พวกเธอกำลังทำอะไร ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆ?”

เขาตีลังกา แต่ก็หยุดลงทันทีเมื่อเขาสังเกตเห็นสิ่งที่กำลังนอนอยู่บนพื้น

เขายืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สูดหายใจเข้าลึก ก่อนที่อีวานจะห้ามเขา เขากรีดร้องออกมาสุดเสียง “พวกเธอทำอีกแล้ว! ขนาดผียังไม่เว้น! เผ่นก่อนไม่รอแล้ว!”

ทั้งปราสาทมีชีวิตชีวาทันที ผู้คนแห่กันไปตรงที่พวกเขาอยู่อย่างรวดเร็ว

ในอีกไม่กี่นาทีต่อมาสถานที่เกิดเหตุก็วุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ เพเนโลพีนั้นเสี่ยงที่จะถูกทับ ผู้คนยืนรอบๆเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญจนทำให้แฮรี่ อีวาน กับเฮอร์ไมโอนี่ถูกบีบไปชิดกับกำแพง

ในชั่วครู่ อาจารย์ก็มาและจัดระเบียบ

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลรีบวิ่งไปที่เกิดเหตุและเสกคาถาที่ทำให้เกิดเสียงดังอย่างมากซึ่งทำให้ทุกคนเงียบลง เธอสั่งให้ทุกคนกลับไปที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน

อีวานได้ยินจัสตินกระซิบว่าแฮรี่เป็นผู้สืบทอดขณะที่เขาเดินกลับไป

เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ได้ยินโดยพีฟส์ พีฟส์รีบเปิดปากของเขาทันทีพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ

เมื่อเหล่าอาจารย์มองไปที่เพเนโลพีและเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ พีฟส์ก็ร้องเพลง “โอ้ พอตเตอร์ โอ้ พอตเตอร์ เธอกำลังทรมาน เธอทำลายชีวิต และคิดว่ามันเหมือนแตร”

“หยุดล้อเล่นได้แล้ว พีฟส์!” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลคำราม พีฟส์แลบลิ้นออกมาและรีบวิ่งหนีทันที

ศาสตราจารย์ฟลิตวิกพร้อมกับนักเรียนอีกหลายคนอุ้มเพเนโลพีไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน พวกเขาไม่รู้ว่าทำอะไรกับเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ

ในท้ายที่สุด ศาสตราจารย์มักกอนนากัลใช้คาถาเสกพัดอันใหญ่ออกมา และยื่นให้กับรอนที่พึ่งจะมาถึง และบอกให้เขาพัดเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญขึ้นไปด้านบน รอนมองไปที่อีวานและคนอื่นๆด้วยสีหน้าเป็นกังวลก่อนที่จะจากไป

“มากับฉัน เมสัน พอตเตอร์ และเกรนเจอร์” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลนำพวกเขามาที่รูปปั้นกริฟฟินขนาดใหญ่

มักกอนนากัลพูด “เชอร์เบ็ต เลม่อน”

หลังจากที่พูดจบ รูปปั้นก็กระโดดออกมาข้างๆ เผยให้เห็นบันไดช้าๆ

อีวานกับอีกสองคนเดิมตามศาสตราจารย์มักกอนนากัลและได้ยิงเสียงปัง ทางเข้าปิดอีกครั้ง บันไดขึ้นไปสูงเรื่อยๆ ทำให้อีวานเวียนหัวเล็กน้อย อีวานเห็นประตูไม้โอ๊กสองบานมีที่เคาะประตูทองเหลืองรูปกริฟฟิน

อีวานรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน มันเป็นทางเข้าห้องทำงานของดัมเบิลดอร์

เขาแอบดูมันมาสี่สัปดาห์แล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่งกับความงามของมัน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่กำลังกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

มันบังเอิญเกินไปที่ทั้งสามคนอยู่ที่นั่นในการโจมตีครั้งแรกและครั้งที่สองก็เช่นกัน หากพวกเขาพูดว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับห้องแห่งความลับ ไม่มีใครเลยที่จะเชื่อพวกเขา

ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์นั้นน่าสนใจอย่างมาก มันเป็นห้องทรงกลมที่กว้างขวางสวยงาม และมีเสียงเล็กๆน้อยๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานในนั้น โต๊ะทรงกลมมีอุปกรณ์สีเงินมากมายวางอยู่บนนั้น

บนผนังเต็มไปด้วยรูปของอาจารย์ใหญ่รุ่นก่อน ซึ่งกำลังนอนกรนอยู่ในกรอบรูปของตน บนชั้นวางมีหมวกคัดสรรย่นๆไว้

บนคอนด้านหลังประตูมีนกที่ดูป่วยขนสีแดงและสีทองเกาะอยู่

นี่น่าจะเป็นนกฟีนิกส์ที่มีชื่อว่าฟอกส์ อีวานมองที่มันด้วยความอยากรู้อยากเห็น

หลังจากสังเกตอย่างระมัดระวังดัมเบิลดอร์ก็เข้ามา

“อัลบัส เป็นคุณเครียวอเตอร์และเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ….” ศาสตราจารย์แมคโกนากัลล์กล่าวอย่างร้อนรน

“ฉันรู้มิเนอว่า!” ดัมเบิลดอร์ตอบอย่างใจเย็น “ห้องแห่งความลับได้ถูกเปิดอีกครั้งอย่างแน่นอน”

“แต่อัลบัส คุณต้องรู้….. ใครเป็นคนทำ?”

“คำถามไม่ใช่ใคร” ดัมเบิลดอร์กล่าว “คำถามคือ อย่างไร…...”

อีวานรู้สึกตกใจเล็กน้อยดัมเบิลดอร์ต้องรู้อะไรบางอย่าง

จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าของศาสตราจารย์มักกอนนากัลและรู้ว่าตัวเอง,แฮร์รี่, และเฮอร์ไมโอนี่ไม่มีใครเข้าใจความหมายของดัมเบิลดอร์

หลังจากการ การไตร่สวนที่ไม่น่าจะคาดหวังอะไรได้ ดัมเบิลดอร์แค่ถามพวกเขาเกี่ยวกับฟีนิกส์ฟอกส์ และปล่อยให้พวกเขาไป

อีวานหันกลับมาสงสัยว่าถ้าเขาแค่รู้สึกไปเองหรือไม่ แต่มันรู้สึกเหมือนดวงตาของดัมเบิลดอร์จับจ้องอยู่ที่ตัวเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด