ตอนที่แล้วบทที่ 23 ลูกแก้วผสานจิตราชัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 อาวุธคู่กาย

บทที่ 24 ทะลวงอย่างต่อเนื่อง


บทที่ 24 ทะลวงอย่างต่อเนื่อง

ภายในร่างกายของกุนไท่นั้น มีแหล่งกำเนิดลมปราณอยู่ มันมีลักษณะเป็นจุดแสงดาวขนาดเท่ารูเข็ม ภายใต้การดูดซับหินจิตวิญญาณนั้น พลันทำให้มันส่องสว่างมากขึ้น

การสร้างจุดแสงดาว ถือเป็นการบ่งบอกว่าคนผู้นั้นทะลวงมาระดับสร้างรากฐานแล้ว แต่กุนไท่กลับยังไม่ทะลวง แม้เขาจะสร้างจุดแสงดาวขึ้นมาได้แล้วก็ตาม มันจึงทำให้เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องโยนความคิดนี้ทิ้งไป เพราะต้องตั้งใจดูดซับหินจิตวิญญาณ!

หนึ่งก้อน สองก้อน สามก้อน....

พอมาถึงก้อนที่สิบ จุดแสงดาวก็มีขนาดเท่าลูกบอล จากนั้นภายในร่างกายของกุนไท่ก็เกิดเสียงปังดังขึ้น พลังงานในร่างกายหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับระเบิดพลังปราณออกมา และยากจะควบคุมกลิ่นอายของตนไม่ให้ออกมา

กลิ่นอายพิเศษหาใดเปรียบฟุ้งกระจายภายในห้อง หากไม่ได้ค่ายกลปิดกั้นในห้องนี้นั้น ปานนี้คงทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบ ได้หลับกลางวันแล้วเป็นแน่!

กุนไท่เปิดเปลือกตาพร้อมกับดวงตาที่กระจ่างใส และเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ในที่สุดก็ทะลวงเข้าสู่ระดับสร้างรากฐานเสียที แม้จะอยู่เพียงขั้นร่างกาย แต่กลับสามารถต่อสู้กับขั้นวิญญาณได้อย่างสูสี แม้จะเอาชนะไม่ได้ แต่หากเป็นขั้นจิตใจนั้นสามารถเอาชนะได้โดยง่าย!”

คนทั่วไปจุดแสงดาวของพวกเขาจะเท่ารูเข็มเท่านั้น แต่กุนไท่มีขนาดเท่าลูกบอลแล้ว ซึ่งมีขนาดพอๆกับขั้นวิญญาณ แล้วหากเขามาถึงขั้นวิญญาณล่ะ มันจะขนาดไหนกัน!

กุนไท่รีบเก็บกลิ่นอาย ก่อนจะกลับมาอยู่ในสภาพของคนทั่วไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอาลูกแก้วผสานจิตราชันออกมา ตอนนี้เขาอยู่ขั้น 3 จุดสูงสุดของพลังจิต เขาไม่รอช้ารีบดูดซับมันอย่างรวดเร็ว พลังจิตของเขาค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น

ภายในหัวของเขานั้นเริ่มรู้สึกหนัก และเจ็บปวด แต่หลังจากนั้นพลังจิตก็มาถึง ขั้น 4! แต่มันไม่หยุดอยู่แค่นั้น มันได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกแก้วผสานจิตราชัน มันมีพลังมากกว่าลูกแก้วธรรมดาถึงสิบเท่า!

พลังจิตของกุนไท่ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความรู้สึกที่ปวด และหนักที่ส่วนหัว กลับกลายเป็นความรู้สึกที่สบาย และปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดพลังจิตก็มาถึงขั้น 5 และยังอยู่จุดสูงสุดอีกด้วย อีกเพียงก้าวเดียวพลังจิตจะเข้าสู่ระดับใหม่แล้ว!

กุนไท่ลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นก่อนจะออกมาจากห้องที่เขาบ่มเพาะเพื่อออกมารับลม เขาปิดตัวบ่มเพาะไปประมาณสิบวันได้ ตั้งแต่ออกเดินทาง ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงของการเดินทาง ทัศนียภาพโดยรอบนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเร็วของรถลากสัตว์อสูร

เขาคิดว่าจะไปหาเจียวเหม่ยที่ห้องของนางเสียหน่อย แต่กลับพบว่านางก็กำลังปิดตัวบ่มเพาะเพื่อทะลวงระดับอยู่ หากนางทะลวงได้ละก็ นั้นหมายความว่า นางจะเป็นรุ่นเยาว์อายุเพียงสิบเจ็ดปีที่อยู่ในระดับสร้างรากฐาน!

ตำแหน่งในสำนักของนางนั้นจะสูงมากขึ้นไปอีก แต่หากมาเทียบกับกุนไท่นั้น มันเทียบไม่ได้เลย! แต่สำหรับผู้อื่นแล้วนั้นยังไงนางก็เป็นผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์อยู่ดี

หนึ่งเดือนผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงเขตของเมืองใหญ่แล้ว กุนไท่มองออกไปทางหน้าต่างก็เห็นกำแพงที่ใหญ่โตสูงถึงสิบกว่าเมตร บนกำแพงมีทหารที่รักษาการอยู่ตามจุดต่างๆ มองดูแล้วไม่ต่างจากอยู่ในช่วงสงคราม เพราะมันดูเข้มงวดเป็นอย่างมาก

หน้าประตูใหญ่นั้นมีขบวนคนเดินทางมากมายที่ต่างต้องการจะเข้าเมือง พวกเขาต่างถูกทหารยามที่หน้าประตูหลายสิบคนตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ส่งผลให้การเข้าเมืองเป็นไปอย่างเชื่องช้า

เมืองใหญ่นี้ช่างสมเป็นเมืองใหญ่ เพราะเพียงทหารยามกลับมีระดับถึงสร้างรากฐาน ขั้นวิญญาณที่มีพลังเทียบเท่าผู้อาวุโสระดับสูงในตระกูลเจียวซึ่งเป็นตระกูลใหญ่! ผู้อาวุโสชงแสดงป้ายว่าเป็นขบวนจากหอประมูล ทำให้ทหารยามทำความเคารพ และปล่อยให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ผู้อาวุโสปรากฏตัวข้างๆกุนไท่ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า

“เมืองนี้มีชื่อว่าเมือง ‘ต้าหวาง’ ในอดีตนั้นผู้สร้างเมืองนี้นั้นเป็นตัวตนของเซียนเลยก็ว่าได้ เขาสามารถไปถึงระดับที่มนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนไม่สามารถไปถึงได้ และเมืองนี้เป็นเมืองที่ปกครองจักรวรรดิ ‘หมิงเวย’ ซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่นี้อยู่ มันสมแล้วที่ได้ชื่อว่าเมืองต้าหวาง (เมืองแห่งมหาราชา) ผู้ที่ปกครองเมืองนี้นั้นเป็นลูกหลานของผู้สร้างเมืองนี้ขึ้นมา สืบทอดต่อๆกันมาหลายหมื่นปีแล้ว การดำรงของพวกเขานั้นเป็นราวกับเทพเจ้า คนในจักรวรรดิต่างเรียกขานพวกเขาว่า ราชวงศ์หย่ง”

กุนไท่รีบจดจำข้อมูลทั้งหมดลงไปในหัวของเขาทันที ทันใดนั้นห้องของเจียวเหม่ยก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเจียวเหม่ยก้าวออกมาอย่างงดงาม นางนั้นได้ทะลวงเรียบร้อยแล้ว!

“ยินดีกับพี่เหม่ยด้วยที่สามารถทะลวงได้!”

กุนไท่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าก็เหมือนกัน”

สิ้นเสียงของเจียวเหม่ย กุนไท่รู้สึกตกใจ และประหลาดใจ! เหตุใดนางถึงได้มองออกกัน เขาอุตส่าห์ปกปิดไว้เพื่อมิให้มีใครสนใจ

ผู้อาวุโสชงก็ตกใจอย่างมากที่เจียวเหม่ยทะลวงมาได้ แต่เขาตะลึงกับกุนไท่เสียมากกว่า เพราะกุนไท่เพียงสิบห้าปีเท่านั้น ตอนแรกเขาไม่ได้สังเกตุเพราะไม่ได้ใส่ใจใครจะไปคิดว่าเวลาเพียงแค่เดือนเดียวจะสามารถทะลวงมาได้

เขารู้สึกว่าการบ่มเพาะของเขาต้องมีปัญหาเป็นแน่ เพราะกว่าตนจะไปถึงระดับสร้างรากฐานได้นั้น อายุก็ปาไปสามสิบปีแล้ว แต่เด็กน้อยสองคนตรงหน้าของเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดประเภทใดกันแน่!

“เจ้าหนู หากเจ้าไม่มีที่พัก มาพักที่โรงประมูลของข้าได้นะ”

ผู้อาวุโสชงหันไปหากุนไท่พร้อมกับกล่าวขึ้น

“ไม่เป็นไรผู้อาวุโส ข้าสามารถหาเองได้”

กุนไท่ตอบกลับพลางส่ายหัว เขาวางแผนไว้แล้วว่าหลังจากที่มาถึงที่นี่ เขาจะทำสิ่งใดต่อ

กุนไท่กับเจียวเหม่ยได้แยกตัวออกมา เจียวเหม่ยจะต้องกลับสำนักของนางแล้ว ทั้งสองจึงแยกกัน กุนไท่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เขาเดินไปทางตะวันตกของเมือง บริเวณใกล้ๆเมืองมีเทือกเขาอยู่มันถูกเรียกว่า เทือกเขาไม้ป่าสงบ

ที่แห่งนี้ไม่มีอันตรายอันใด สัตว์อสูรในพื้นที่แห่งนี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่กลับไม่ได้ดุร้าย ทำให้พื้นที่แห่งนี้ไม่มีผู้ใดนิยมมาฝึกฝนมากนัก แต่ที่กุนไท่มาที่นี่ นั่นเป็นเพราะเขาต้องการสถานที่เงียบสงบ และสิ่งแวดล้อมที่ดี เขาถึงจะสามารถปลุกอาวุธคู่กายขึ้นมาได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด