ตอนที่แล้วตอนที่ 52 เทคนิคเล็กๆที่ถูกมองข้าม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 ต้อนรับ 2 สาวเข้าปาร์ตี้

ตอนที่ 53 คำสั่งเสียองค์ราชินี


ตอนที่ 53 คำสั่งเสีย

ลำแสงชำระล้างถูกเตรียมไว้เพื่อแขกคนสำคัญอย่างปีศาจแห่งความมืด Stod อย่าสมเกียรติและนั้นคือสิ่งที่มันจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายบนโลกใบนี้ เมื่อแสงสีขาวบริสุทธิ์อาบลงที่ร่างองค์ราชินี ความมืดภายในก็ไม่อาจที่จะอาศัยอยู่ได้อีก Stod กรีดร้องออกมามันกำลังจะสลายไป

“เจ้ามังกรปีศาจ Xanidarth จะต้องไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่”

ปีศาจ Stod ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะมลายหายไป ในเวลาเพียงไม่กี่วันเจสเปอร์ถูกหมายหัวมากกว่า 2 เผ่าพันธุ์ ชีวิตของเขาในโลก The Era Online คงไม่อาจสุขสงบได้อีกต่อไป

เมื่อปีศาจแห่งความมืด Stod สูญสลายไปร่างขององค์ราชินีก็ล้มลง เจสเปอร์วิ่งเข้าไปช้อนร่างกายเธอไม่ให้ตกกระแทกพื้น ศีรษะขององค์ราชินีหนุนหนอนอยู่บนวงแขนของเจสเปอร์แม้ร่างกายของเธอจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่สายตาที่อบอุ่นที่เธอมองมาไม่ต่างอะไรกับแม่ที่มองลูกของตัวเองเลย

“ขอบใจพวกเจ้าทั้งสองคนมาก...ที่ปลดปล่อยคำสาปนี้” องค์ราชินีฝืนพูดด้วย น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา ใกล้จะสิ้นลม มือที่แห้งเหี่ยวเลื่อนมาจับลงที่ใบหน้าของเจสเปอร์พร้อมกับลูบเบาๆ

“ฝากบันทึกนี้นำไปให้กับพระสวามีของข้าและลูกของข้าด้วย ถือเป็นคำร้องสุดท้ายจากหญิงชราคนนี้จะได้หรือไม่”

“...”

เขาและไอรีนต่างพยักหน้าตอบกลับให้รับรู้ ใบหน้าที่ซีดเซียวมีรอยยิ้มดั่งสาวแรกแย้มปรากฏออกมาอย่างสุขใจ เธอชี้มืออกไปที่แท่นพิธีที่มีหนังสือเล่มนึงวางไว้อยู่ เธอยกค้างอยู่อย่างนั้นพยายามที่จะคว้าจับเอาไว้ในมือเป็นครั้งสุดท้าย แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอและต้องคำสาปมานานนับหลายสิบปีเมื่อคำสาปร้ายหมดไป วินาทีสุดท้ายของเธอก็หมดลง มือข้างนั่นตกลงตามแรงโน้มถ่วง ดวงตาของเธอปิดลงคลายคนนอนหลับ มันคงเป็นการหลับที่เธอเฝ้ารอมานานเพราะรอยยิ้มยังคงปรากฏให้ผู้กล้าทั้ง 2 คนเห็น...

“พักผ่อนเถิดองค์ราชินี” เจสเปอร์อุ้มร่างของเธอไปนอนลงบนเตียงสีขาวที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมห้อง นี้คือที่สุดท้ายที่เธอเฝ้ารอมานาน เตียงนุ่มๆกับผ้าแพรพริ้วๆ หาใช่แท่นพิธีอีกต่อไป

“...”

เกิดความเงียบขึ้นมาในบัดดล เจสเปอร์และไอรีนไม่มีใครพูดอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่คำเดียวทั้งสองมองหน้ากันและกัน ไม่มีคำพูดใดๆ เป็นเพียงเวลาชั่วขณะ เจสเปอร์คว้าร่างของไอรีนมากอดเอาไว้แนบกาย

ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ อาจจะเป็น วินาทีเดียวหรือเสี้ยววินาที แต่ความรู้สึกที่เจสเปอร์โอบกอดไอรีนไว้ ช่างยาวนานเหลือเกิน ในที่สุดเควสลับนี้ก็จบสิ้นเสียที

มันเป็นเควสที่เจสเปอร์ทำแล้วรู้สึกว่าเหนื่อยร่างกาย เหนื่อยทั้งจิตใจมากเหลือเกิน

เมื่อร่างที่แนบชิดผละออกจากกัน ความเขิลอายก็บังเกิดขึ้น เขารีบขอโทษหญิงสาวทันทีเมื่อเห็นความเนียมอายในสายตาเธอ เขารู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ที่ฉวยโอกาสและปล่อยให้บรรยากาศเข้ามาเหนือการควบคุม แต่ลึกๆแล้วนี้คืออ้อมกอดที่เขาถวิลหาอยู่มานานแล้วก็เป็นได้

...........

เจสเปอร์เดินไปเก็บบันทึกขององค์ราชินีที่พระองค์ฝากฝังเอาไว้ก่อนสิ้นลม เข้าช่องเก็บของตัวเองโดยไม่ได้เปิดอ่านมัน

ไอเท็มที่ปีศาจ Stod ทิ้งเอาไว้มีมากมายหมาศาลแค่ลำพังตัวมันก็ทิ้งเหรียญทองเปล่าไว้มากถึง 22 เหรียญทองแล้ว และไอเท็มมีค่าอีกมากมายอาธิเช่น

[The Nightmare Secret Order(B)] ที่สามารถอัญเชิญอัศวินแห่งความมืดถึง 5 ตน จำนวน 1 อัน

[Mask of Madness] หน้ากากที่เพิ่มค่าความว่องไวให้กับผู้ใช้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ความรวดเร็วมีผลคล้ายอาการบ้าคลั่งของอาชีพ นักรบผู้บ้าคลั่ง(Berserker)

[Claw of Shadows] สนับมือแห่งความมืดที่เพิ่มค่าความว่องไว อย่างต่อเนื่องเมื่อโจมตี

[Soul Staff] มีเพิ่มพลังเวทมนต์ให้กับผู้ใช้พร้อมกับ ให้ผู้ใช้สามารถเก็บรวบรวมวิญญาณ ยิ่งมีค่าวิญญาณในคทานี้จะยิ่งทำความรุนแรงได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น จำกัด 100 ดวงวิญญาณ

ที่กล่าวมานั้นมีเพียงหน้ากากและม้วนคำสั่งเท่านั้นที่เจสเปอร์สามารถใช้ได้ ไอรีนเองก็ได้รับอุปกรณ์ที่เหมาะกับอาชีพของเธอมากถึง 2 ชิ้น และที่สำคัญคือไอเท็มทุกชิ้นมีเกรดสีเขียวทั้งหมด เมื่อเก็บรวบรวมไอเท็มอื่นตามปราสาทจนครบทุกซอกแล้ว เจสเปอร์และไอรีนก็เลือกที่จะเดินทางออกมาจากทางเดินลับใต้ดินเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางกลับ

หลังจากที่ปีศาจแห่งความมืด Stod ถูกกำจัดไปได้แล้ว คำสาปที่ปกคลุมป้อมปราการ Mirage Tower ก็เสื่อมลง แสงพระอาทิตย์อ่อนๆสาดส่องลงมาจากฟากฟ้าทะลุม่านหมอกลงมา ขับไล่ความมืดที่เกาะกุมสถานที่แห่งนี้ให้หมดไป

เจสเปอร์และไอรีนมองดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับป้อมปราการแห่งนี้ก่อนที่จะละสายตาเดินทางกลับ แม้เกม The Era Online สามารถที่จะครอบครองพื้นที่เป็นของกิลด์ตัวเองได้แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายพร้อมๆกับค่าดูแลที่ต้องสร้างอีกมากซะจนเขารู้สึกท้อแท้

ส่วนเรื่องสร้างกิลด์เขามีแผนที่จะทำมันอยู่ในใจแล้วและเขาเชื่อว่าอีกไม่นาน กิลด์ Rising Sun จะก่อตั้งขึ้นอีกในไม่ช้าและจะทำให้ทั่วทั้งอาณาจักรกรีนเวต้าสั่นสะเทือนยิ่งกว่าเก่า

เมื่อทั้งสองเดินทางกลับเข้าเมืองอัลคาเดีย ไอรีนก็ต้องรีบขอตัวออฟไลน์เพื่อไปทำธุระของเธอในโลกจริง พร้อมกับบอกว่าให้เจสเปอร์ไปส่งเควสลับจากองค์หญิงได้เลยไม่ต้องรอเธอเพราะเธอได้ไอเท็มมามากจากป้อมปราการ Mirage Tower แถมยังได้สกิลลับจากเควสอาชีพของเธอที่เจสเปอร์ช่วยออกตามหาแม่ชี Martha ก็นับว่ามากเกินพอสำหรับเธอแล้ว

แต่เธอไม่อาจโต้เถียงความดื้อดึงที่ยืนกรานของเจสเปอร์ว่าจะไปส่งเควสนี้พร้อมๆกันไปได้ ทำให้ทั้งสองต้องนัดเวลาออนไลน์กันอีกครั้ง

เมื่อไอรีนออฟไลน์ออก เจสเปอร์เองก็เลือกที่จะออฟไลน์ตามเธอไปเช่นเดียวกัน ธุระของเจสเปอร์ในวันนี้คือไปรับรถที่ได้ซื้อเอาไว้เมื่อหลายวันก่อนนั่นเอง

เมื่อเจสเปอร์ได้ก้าวเท้าเข้ามาที่ศูนย์รถยนต์ก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากพนักงานทุกคน ซึ่งแตกต่างจากรอบที่แล้วที่มาซื้ออยู่มาก พนักงานเดินนำเขาไปห้องรับรองที่ ขาวสะอาด มีโซฟานุ่มๆ เสิร์ฟด้วยชาคุณภาพดีจากภูเขาลึกที่มีชื่อ ไม่นานนักผู้จัดการศูนย์จำหน่ายรถยนต์และพนักงานขายหญิงอีก 1 คน ก็เดินเข้ามาในห้อง

แต่พนักงานขายหญิงที่เข้ามาในรอบนี้ไม่ใช่คนเดิมที่ชื่อ ซันนี่ ที่เจสเปอร์ตกลงซื้อรถกับเธอในตอนแรก ผู้จัดการที่กล่าวแนะนำตัวเอง รีบคลายความสงสัยในทันทีพร้อมกับให้เหตุผลว่า พนักงานซันนี่ได้ลาออกจากบริษัทไปแล้วเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว ส่วนคนที่จะมาดูแลเรื่องต่อจากนี้จะเป็นพนักงานหญิงที่ทางบริษัทเลือกมา ผู้จัดการกล่าวรับรองว่าเธอทั้งเก่ง ฉลาดและที่สำคัญดูแลลูกค้า VIP มาแล้วหลายคน

เจสเปอร์จำได้ว่าเธอคือคนที่วิ่งตามลูกค้าหนุ่มอีกคนในวันนั้น ท่าทางที่เธอมองเขาในวันนั้นที่ส่งสายตาดูถูกมา ทำให้เจสเปอร์จำเธอได้แม่นยำ แต่การมองของเธอในวันนั้นหาใช่เรื่องที่เขาสนใจ สาเหตุที่พนักงานที่ทำให้เขาตัดสินใจซื้อรถลาออกต่างหากที่สำคัญกว่า

“พอจะบอกเหตุผลส่วนตัวที่เธอออกได้ไหม”

เขาอยากรู้เหตุผลที่มากกว่านี้แต่ทางผู้จัดการไม่ยินยอมที่จะตอบคำถามของเขาแบบตรงไปตรงมา คำตอบที่เจสเปอร์ได้ยินมีแต่พูดวกวนหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ

“เธอให้เหตุผลว่าต้องการออกไปเรียนรู้สิ่งต่างๆให้มากกว่านี้ เพราะเธอเชื่อว่าเธอยังขาดประสบการณ์อยู่มากจึงได้ตัดสินใจขอลาออก”

ขาดประสบการณ์? พนักงานขายซันนี่ขาดประสบการณ์ เจสเปอร์ที่ได้ยินถึงกับสะดุดกับคำนี้ ถ้าวันนั้นคนที่มาต้อนรับเขาไม่ใช่เธอ เจสเปอร์คงไม่รีบเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็วขนาดนั้นแน่

เธอมีจิตวิญญาณของการขายที่ดี เธอไม่โกหกหรือคิดจะเอาเปรียบผู้ซื้อ ที่เจสเปอร์เชื่อแบบนั้นก็เพราะว่าในสัญญา เธอระบุถึงข้อสำคัญที่ต้องระมัดระวังจนหมดเปลือก ข้อไหนที่เขาต้องระวังข้อไหนที่ลูกค้าต้องทำความเข้าใจให้ดี เธอยอมเสียเวลาในจุดนี้เพื่อแนะนำแก่เขาจนหมด

ผู้จัดการและพนักงานหญิงอีกคนพูดเล่าอธิบายต่อไปเรื่อยๆมีการสอดรับ หัวเราะหยอกล้อการลาออกของพนักงานซันนี่ ราวกับเตรียมตัวกับเรื่องนี้มาอย่างดี ซึ่งยิ่งฟังก็ยิ่งทำให้เขาทนฟังต่อไปไม่ไหวจนในที่สุดเจสเปอร์ได้พูดประโยคหนึ่งออกมาที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเงียบ

“ในตัวสัญญาที่ผมถือครองผมสามารถเลือกพนักงานที่จะมาดูแลผมได้ใช่หรือไม่”

“ใช่ครับ”ผู้จัดการหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะตอบรับ “แต่ข้อสัญญาระบุว่าต้องเป็นพนักงานของทางเราเท่านั้น”

“งั้นก็ดีช่วยเปลี่ยนใครเข้ามาดูแลแทนพวกคุณสองคนก็แล้วกัน ผมหมดเรื่องที่จะต้องคุยแล้วขอตัว”

เจสเปอร์หยิบกุญแจรถที่ใส่กล่องใบหรูออกมาแล้วเดินออกมาจากห้องรับรองพร้อมกับเดินตรงไปยังรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Tesson คันสีดำ เงางาม 2 ประตู ที่จัดเตรียมรอเขาอยู่ภายนอก พร้อมกับสตาร์ทเครื่องขับออกไปทันที

พนักงานที่ศูนย์บริการแห่งนี้ที่ยืนรอคอยต้อนรับเตรียมที่จะถ่ายรูปต่างงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ลูกค้าขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ถ่ายรูปและของขวัญจากทางบริษัท

เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นยังไงอีกเจสเปอร์ไม่สนใจอีกต่อไป แต่สิ่งที่เขาทำไปครั้งนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา แต่สำหรับผู้จัดการสาขาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่เจสเปอร์คิด ผู้จัดการสาขาใหญ่ของศูนย์บริการแห่งนี้หลังทราบเรื่อง ลุกค้าไม่พอใจกับการกระทำของบริษัทก็รีบดำเนินการตรวจสอบภายในทันทีและเมื่อความจริงปรากฏก็สั่งลงดาบผู้จัดการและพนักงานหญิงคนนั้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมาทันที

..............

เจสเปอร์จอดรถของตนไว้ข้างทางเพื่อใช่โทรศัพท์ โดยสายที่เขาโทรไปไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก ซันนี่ พนักงานสาวนั่นเอง เจสเปอร์ติดต่อขอพบเธอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้ๆกับศูนย์บริการที่เขาเพิ่งจากมา

ซันนี่เองแม้จะไม่เต็มใจที่จะมาพบเจอ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธคำขอของอดีตลูกค้าเช่นเขาได้ เธอมาถึงร้านกาแฟที่ชุดเรียบร้อย เสื้อสีขาวสวมทับด้วยเสื้อสูทสีดำสอดรับกับกระโปรงดำคลุมถึงเข่า ดูจากลักษณะจากแต่งตัวเธอคงออกไปสัมภาษณ์งานมาก่อนหน้านี้

เจสเปอร์พูดคุยกับเธอพร้อมกับขอให้เธอเล่าถึงสาเหตุที่ลาออกให้ฟัง เธอกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก่อนที่จะพูดความจริงออกมา

โดยความจริงทั้งหมดนั้นคือพนักงานรุ่นพี่บังคับให้แลกลูกค้าอยู่หลายครั้งก่อนแล้ว มาหนักที่สุดก็คือกรณีของเจสเปอร์ที่ถือว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัท พนักงานรุ่นพี่หวังที่จะเลื่อนตำแหน่งและเงินเดือน จึงขอแกล้มบังคับให้เธอส่งมอบลูกค้าให้ แต่ซันนี่ไม่ยินยอมเพราะเธอจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้เพื่อนำมาเลี้ยงดูครอบครัว ทำให้เกิดปากเสียงระหว่างกันเมื่อผู้จัดการสาขาลงมาตัดสิน ด้วยทั้งสองพนักงานรุ่นพี่กับผู้จัดการสาขามีสัมพันธ์สวาทกันลับๆอยู่ก่อนหน้านี้ ซันนี่ที่เป็นเพียงพนักงานใหม่ก็ได้ก้มหน้ายอมรับอำนาจที่เธอไม่อาจสู้ได้อีกจึงขอลาออกเพื่อหนีจากอำนาจของบริษัทแห่งนั้น.

เธอเล่าเรื่องอธิบายอยู่นาน จนน้ำในแก้วของเจสเปอร์หมดลง

“แล้วในตอนนี้คุณกำลังหางานอยู่ใช่ไหม ผมมีงานบางอย่างให้คุณทำส่วนเงินเดือน เดือนแรกก็เอาเป็นสองเท่าของที่คุณเคยได้ก็แล้วกัน” ด้วยความสามารถด้านการพูดเช่นนี้ เจสเปอร์ก็รู้อยู่แล้วว่าจะใช้งานซันนี่ยังไงในแผนการของเขา

“แต่คุณยังเรียน..หรือว่างานที่คุณจะให้ฉันทำคือ....ฉันขอปฏิเสธ” ซันนี่รีบกล่าวปฏิเสธทันควัน แม้เธอจะตกงานแต่เธอจะไม่มีวันยอมลดคุณค่าของตัวเองโดยเด็ดขาด

“ไม่ใช่เรื่องแบบที่คุณคิดหรอก คุณเคยได้ยินเกม The Era Online บางไหม นั้นละคืองานที่ผมจะให้คุณทำ แม้ว่าในตอนนี้เงินมันอาจจะไม่สูงมากอย่างที่ผมหวังไว้ แต่ผมรับรองว่าถ้าหากได้คุณเข้ามาช่วยเหลือละก็ มันจะมากกว่าเงินเดือนที่คุณได้เป็น 10 เท่า เป็นยังไงคุณตกลงไหม”

ซันนี่ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะตอบตกลง เธอเคยได้ยินเรื่องเกมที่ชายตรงหน้าพูดถึงมาบางแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่ชอบเล่นเกม แต่มันก็โด่งดังมากในทุกเพศทุกวัยและที่สำคัญราคาของหมวกที่ต้องใช้เล่นก็มากซะจนเธอไม่กล้าที่จะซื้อมัน

“ฉันรู้จักที่คุณพูดแต่ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อหมวกพวกนี้ หากคุณมีเงินให้ฉันยืมเพื่อซื้อหมวกพวกนี้มาเริ่มทำงาน ฉันก็ตกลง”

“เรื่องหมวกคุณไม่จำเป็นที่จะต้องยืมเพื่อซื้อมันหรอก ผมมีให้คุณเตรียมรอไว้อยู่แล้ว”

เจสเปอร์คุยรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่ที่เธอต้องทำทั้งหมดให้เธอฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ในที่สุดปัญหาอีกข้อก็หมดไปสักที ซันนี่เองที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้งานก็มีท่าทีที่ผ่อนคลายลง ถึงแม้ว่างานที่เธอทำจะดูไม่ค่อยมั่นคงแต่ถ้าชายหนุ่มตรงหน้ามีเงินจ่ายค่าจ้างให้เธอ เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสงสัยอะไรอีก เพราะเท่าที่เธอได้ฟัง มีเพียงงานขายของในเกมและดูแลติดต่อคนอื่นๆในอนาคตเท่านั้น

โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าในอนาคตข้างหน้าคนที่เธอจะต้องติดต่อด้วย ไม่ใช่ระดับคนทั่วไปธรรมดา 2-3 คน แต่อาจเป็นถึงคนใหญ่คนโตของประเทศอื่นๆที่เธอไม่เคยคิดฝันด้วยซ้ำไป....

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด