ตอนที่แล้วตอนที่ 50 ความเงียบน่ากลัวที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 52 เทคนิคเล็กๆที่ถูกมองข้าม

ตอนที่ 51 องค์ราชินี


ตอนที่ 51 องค์ราชินี

ในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีเจสเปอร์สามารถสังหาร Nightmare Warriors ได้สำเร็จเมื่อร่างของมันได้ล้มลง ช่วงเวลาสกิลก็หมดลง ความเงียบคือนิรันดร์ เป็นทักษะที่อันตรายมากพอดู เจสเปอร์เหลือบมองไปที่ซากศพของมันหากเขาโจมตีปิดฉากช้าไปเพียงเสี้ยววินาที คงเป็นตัวเองที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้

ถึงแม้การต่อสู้จะบีบหัวใจมากแค่ไหน ก็ไม่อาจปฏิเสธความสุขการได้เก็บของจากกองซากศพของมันเลยแม้แต่น้อยไอเท็มที่ดร็อปออกมา มีเสื้อคลุมสีดำ [Assassin Cloth],[Mask Of Shadow] นี้คือไอเท็ม 2 ชิ้นที่ดีที่สุดที่ดร็อปออปมาแล้ว

ไอเท็มทั้ง 2 ชิ้นมีเลเวลขั้นต่ำในการใช้งานอยู่ 30 และจำกัดคลาสนักพเนจรเพียงเท่านั้น และเมื่อได้อ่านถึงข้อจำกัด เจสเปอร์ได้นึกถึงไอเท็มชิ้นนึงที่มีข้อจำกัดด้านอาชีพที่อยู่ในช่องเก็บของเขามานาน [Healing Staff:สีเขียว] ที่เป็นไอเท็มจากดันเจี้ยนสุสานนักรบ

เจสเปอร์หยิบคทาออกมา แม้เลเวลของไอรีนในตอนนี้จะเลยข้อจำกัดมามากแต่ค่าสถานะที่เพิ่ม พลังในการรักษาถึง 8% เป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลย

“ไอรีนเอ่อ...ฉันมีอะไรจะให้เธอ”

เจสเปอร์ส่ง Healing Staff ไปให้เธอ เธอมองดูและอ่านค่าสถานะของมันอย่างรายละเอียดก่อนจะยิ้มออกมาด้วยแววตาที่มีความสุข เธอเก็บคทาอันเก่าของเธอลงกระเป๋าแล้วใช้คทา Healing Staff  อันใหม่ที่ได้รับมาจากเจสเปอร์แทน

“ขอบคุณ”

เธอยังคงมีความอายอยู่บางที่จะสนทนากับชายหนุ่มตรงหน้า การออกมาผจญภัยกันสองต่อสองในสถานที่แบบนี้ เหมือนคู่รักวัยรุ่นที่มาเที่ยวบ้านผีสิงหรือดูภาพยนตร์สยองขวัญในโรงหนังยังไงยังงั้น

ทั้งคู่ยังคงเดินสำรวจ สถานที่นี้ต่อไปมีซากศพแห้งเต็มอยู่ทั่วไปหมดบางตัวสามารถลุกขึ้นมาได้ไล่ตามพวกเขาได้ ส่วนบางตัวทำได้เพียงส่งเสียงอยู่ในลำคอ ไอรีนคลาสผู้รักษาไม่อาจทนเห็นร่างที่ไร้วิญญาณตรงหน้าได้เลยแม้แต่น้อย เธอทำการสวดส่งวิญญาณและใช้ลำแสงชำระล้างตลอดทางทุกครั้งที่พบเจอ ค่าพลังเวทมนต์เธอเองใกล้ที่จะหมดลงแต่เธอยังคงใช้ลำแสงชำระล้างต่อไปด้วยใจที่บริสุทธิ์

“พักกันสักหน่อยไหมเธอหักโหมเกินไปแล้ว”

เจสเปอร์ถามเธอด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ปราบอัศวินแห่งความมืด Nightmare Warriors เมื่อหลายชั่วโมงก่อนพวกเขาก่อนสำรวจกันจนไม่ได้หยุดพักเลย

เธอเองพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะหาที่เหมาะๆนั่งลงโดยมีเจสเปอร์นั่งอยู่ข้างๆ อาหารและเครื่องดื่มถูกนำออกมาวาง พวกเขาต่างดื่มกินอาหารเพื่อทำการพักผ่อนค่าความอดทนให้ฟื้นคืน

“ช่วงนี้เธอเป็นยังไงบาง ถ่ายละครเหนื่อยหรือเปล่า”

เจสเปอร์พยายามหาหัวข้อสนทนาเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป แต่คำถามที่เขาถามมา ทำให้ไอรีนนิ่งไปสักครู่ก่อนที่จะตอบออกมา

“ฉันเหนื่อยแต่ทำอะไรไม่ได้ สัญญาของพวกเรากำลังจะหมดในปีหน้าแล้ว แต่ทางบริษัทคงไม่ต่อสัญญาครบทุกคน อาจมีฉันเพียงคนเดียวที่ได้รับสัญญา แต่พวกเขารู้ว่าฉันคงไม่ต่อสัญญาแน่ๆ ทางค่ายเลยหวังที่จะโกยเงินจากฉันให้มากที่สุดในตอนนี้”

ใบหน้าของเธอเศร้าหมองลงไปหลังจากที่ได้เล่าให้ฟัง อดีตของเจสเปอร์กำลังทำหน้าที่ของมันตามดังเช่นอดีตที่เคยเป็น เมื่อสัญญาของไอรีนใกล้หมดลงทางค่ายจะเสนอขอแลกเปลี่ยนให้เธอต่อสัญญา วง Blessing จะไม่ถูกยุบคนอื่นๆจะได้รับการต่อสัญญาแต่ท้ายที่สุดแล้วคนอื่นแม้ได้รับสัญญาแต่ก็ไม่ได้รับงานใดจากทางค่ายเลยแม้แต่น้อย ส่วนมันจะเป็นยังไงต่อนั่น เจสเปอร์เองไม่อยากจะคิดถึงมัน.

เจสเปอร์ปล่อยให้ไอรีนนั่งพักอยู่ที่เดิมและเดินสำรวจรอบห้องเพื่อหาร่องลอยอื่นๆ ภาพแขวนและของตกแต่งในป้องปราการแห่งนี้ ล้วนเป็นของมีค่าเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เสื้อผ้าที่พบเห็นจากซากศพที่ไร้วิญญาณสวมใส่พอจะบอกได้ว่า สถานที่แห่งนี้น่าจะเกิดเรื่องขึ้นฉับพลัน แต่อะไรล่ะที่ทำให้ที่นี้ต้องคำสาป

“เจสเปอร์!!!”

เสียงร้องตะโกนของไอรีนทำให้เจสเปอร์หันหลังมาตามเสียง เธอชี้นิ้วไปที่หน้าต่างที่มีหมอกสีดำบางอย่างลอยผ่านหน้าต่างไป ทั้งสองรีบวิ่งตามออกไปในทันที แต่อุปสรรคที่ตรงหน้าทำให้พวกเขาต้องหยุดฝีเท้าลง

Nightmare Warriors จำนวน 5 ตัว ยืนคุมทางขึ้นชั้นบนสุดเอาไว้อยู่ มันออกเดินลาดตะเวนพร้อมกับตวัดดาบสังหารซากศพที่ไร้วิญญาณให้พ้นทาง ซากศพจำนวนมากแม้จะถูกฟันจนขาแขนขาด มันยังคงลุกขึ้นมาใหม่เรื่อยๆเพื่อที่จะผ่านทางขึ้นไปชั้นบนให้ได้

‘ต้องมีความลับอะไรซ่อนอยู่ที่ชั้นบนอย่างแน่นอน’ เจสเปอร์ที่แอบอยู่หลังประตูกำลังคิดหาหนทางที่จะฝ่าอัศวินแห่งความมืด ไอรีนที่แอบอยู่ด้านข้างพลันสะกิดให้เจสเปอร์หันมา

เจสเปอร์เห็นร่างเงาของผู้หญิงคนนึงที่งามสง่าใบหน้าของเธอคุ้นตาเขามาก แต่เขานึกไม่ออกว่าเขาเคยพบเจอที่ไหนมาก่อน ร่างเงาของผู้หญิงดูท่าทางกำลังตื่นตระหนกเธอพยายามที่จะสื่อสารแต่ด้วยเหตุอะไรบางอย่างทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ เธอชี้นิ้วออกไปที่นอกหน้าต่างด้วยท่าทีร้อนใจ หมอกสีดำที่พวกเขาพบเห็นก่อนหน้านี้พุ่งเข้ามาในป้อมปราการด้วยความเร็ว

‘Nightmare Shadows’

เมื่อเข้ามาภายใน ร่างหมอกที่ปกคลุมตัวมันก็หายไป พวกมันมีลักษณะแบบเดียวกับ อัศวินแห่งความมืดทุกประการ เพียงแต่อาวุธที่มันใช้คือกรงเล็กแหลมยาวทั้ง 2 ข้างมันพุ่งหาร่างเงาผู้หญิงสีขาวอย่างรวดเร็ว หมายที่จะจับตัวเธอกลับไป

เจสเปอร์คงไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเขายกดาบเข้าไปขวางเอาไว้ได้สำเร็จ ร่างเงาสีดำหันมามองเจสเปอร์ มันไม่มีใบหน้าหรือแม้กระทั่งดวงตา กรงเล็บที่กางออกของมันพร้อมที่จะเข้าขย้ำเหยื่อ มันเดินเข้าหาเจสเปอร์หามีความเกรงกลัวต่อดาบที่อยู่ในมือของเขาเลย

ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากต้องปะทะเพียงอย่างเดียว สกิลบัพถูกอัดแน่นดาบอีเทอนัลวอร์เบลดร่ำร้องที่จะปะทะ การปะทะเกิดขึ้นโดยไม่มีใครให้สัญญาณ ร่างเงาสีดำเปิดฉากการโจมตี กรงเล็บที่แหลมคมของมันหมายจะคว้าเข้าที่คอของเจสเปอร์แต่พลาดไปทำให้มันคว้าได้เพียงอากาศ ก่อนที่กรงเล็บอีกข้างจะจู่โจม เจสเปอร์ยกโล่ Pure Orb ขึ้นเป็นการ์ดป้องกัน

‘เพล้ง’ โล่ที่ยกมาป้องกันกรงเล็บได้ทันเวลา การโจมตีทั้ง 2 ครั้งของมันพลาดเป้า โอกาสเป็นของเจสเปอร์ ดาบในมือกวัดแกว่งกรีดเฉือนโต้กลับไป ดาบกรีดเฉือนและเวทย์ที่สุ่มออกมาเข้ากระทบกับร่างของมัน จนมันต้องถอยหลัง

‘ดูท่าแกจะรวดเร็ว แต่ก็เปราะบางสินะ’ เขาวิเคราะห์ศัตรูที่ได้ประดาบกันเมื่อครู่ออกอย่างรวดเร็วในเมื่อรู้ถึงจุดอ่อนของศัตรู เขาก็เลือกที่จะปักหลักอยู่กับที่รอสวนกลับหากให้เขาเข้าปะทะกับมันโดยตรง เกรงว่าความเร็วที่เขามีอาจไล่ตามมันไม่ทัน การหลบหลีกจะยิ่งยากขึ้นไปอีกเมื่ออีกฝ่ายมีความเร็วที่เหนือกว่า

“ไอรีนพลังเวทมนต์ของเธอเหลืออยู่อีกเท่าไร”

ในเมื่อเลือกที่จะใช้แผนตั้งรับและรอสวน สิ่งแรกที่เป็นหลักสำคัญเลยคือต้องมีผู้รักษาที่ไว้ใจได้

“มีเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่ง”

“คำนวณการใช้งานให้ดี ไม่จำเป็นต้องฮีลฉันทุกครั้งที่โดนโจมตีตกลงไหม”

ถึงแม้เจสเปอร์มีความคิดที่จะฝึกไอรีนให้ทัดเทียมคนอื่นในปาร์ตี้ แต่การฝึกในสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกด้าน ก็ทำให้ตัวเขาอดที่จะหวั่นกลัวไม่ได้

ร่างเงาแห่งความมืดหลังจากที่โดนการโต้กลับไปหลายทีจนต้องถอยหนี เมื่อมันตั้งหลักได้อีกครั้ง กรงเล็บที่แหลมคมรวดเร็วของมันเข้าแลกกับดาบและโล่ เจสเปอร์ได้แต่ถูกมันโจมตีกดเอาไว้ เขาทำได้เพียงแต่รอจังหวะ พลังชีวิตค่อยลดๆลง ไม่มีทางที่จะรับการโจมตีที่ว่องไวขนาดนี้ไปได้ตลอด และร่างเงามืดไม่มีทางที่จะโจมตีอย่างต่อเนื่องไปได้ตลอดเช่นกัน เขาทนรับกรงเล็บที่บ้าระห่ำอยู่นานเกือบนาที ความเร็วของร่างเงาแห่งความมืดก็ค่อยช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

“จังหวะนี้แหละ!!”

ลำแสงรักษาคุมร่างของเจสเปอร์เอาไว้ พลังชีวิตกลับมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยเช่นเดิม คลื่นวิถีดาบโต้กลับฟาดฟัดออกไป อัดกระแทกเข้าที่ตัวร่างเงาแห่งความมืดเข้าอย่างจัง จนมันเซถลา

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนคลื่นกระแทกเมื่อครู่จะทำความเสียหายให้แก่ร่างเงาแห่งความมืดเป็นอย่างมาก ร่างกายของมันเริ่มมีอาการชักกระตุกอย่างเห็นได้ชัด เจสเปอร์ที่สังเกตุความผิดปกตินี้ก็รีบที่จะส่งสัญญาณบอกผู้รักษาด้านหลังโดยทันที

“ไอรีนเธอใช้ลำแสงชำระล้างใส่มันอย่างต่อเนื่องหน่อย ฉันว่าฉันสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง”

เจสเปอร์วิ่งเข้าไปรั้งตัวร่างเงาเอาไว้ ลำแสงชำระล้างสีขาวบริสุทธิ์ก็สาดส่องลงที่ตัวร่างเงาแห่งความมืด แสงสว่างค่อยๆความมืดที่ปกคลุมร่างของมันออกอย่างช้า

“เอาอีกอย่าหยุด เร็วเข้า ฉันจะรั้งไว้ไม่ไหวแล้ว”

มันดิ้นรนอย่างรุนแรง มันพยายามที่จะหนี แต่เจสเปอร์ยังคงรั้งมันให้อยู่กับที่ แต่ความชั่วร้ายที่อยู่ภายในร่างเงาแห่งความมืดที่เกรงกลัวต่อแสงชำระล้างจากไอรีน ดิ้นรนอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายสะบัดร่างของมันออกมา ร่างสีดำหลุดออกจากร่างเงาแห่งความมืดที่บัดนี้กลายเป็นชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างผอมเพรียว ผิวหนังขาวซีด คล้ายกับศพที่ถูกดูดวิญญาณ

ร่างสีดำที่หลุดออกมา พุ่งตรงเข้าใส่เจสเปอร์จนล้มลงแม้ความเสียหายที่มันทำจะไม่รุนแรง แต่คำสาปและสถานะที่มันทิ้งเอาไว้ทำให้เจสเปอร์ไม่สามารถรั้งมันไว้ได้อีกต่อไป แขนและขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการเขากำลังติดสถานะ ‘อัมพาต’

เจสเปอร์พยายามตะโกนให้ไอรีนหนีไปแต่ริมฝีปากของตนยังคงปิดสนิท เขาพยายามฝืนดิ้นรนแต่ไม่อาจต้านทาน สถานะ ที่ได้รับเอาไว้ และได้แต่มองร่างเงาสีดำพุ่งตรงเข้าใส่ไอรีน

หลังจากที่ร่างเงาสีดำจัดการเจสเปอร์ให้อยู่นิ่งๆได้แล้ว มันก็หันร่างเขามันลอยเข้าใส่ไอรีนที่สร้างความเสียหายให้แก่มันโดยทันที

ไอรีนไม่หลบ ไม่กระโดดหนี หรือยกการ์ดขึ้นป้องกัน เธอกำไม้คทาเอาไว้แน่น ปลายคทาชี้เข้าใส่ร่างเงาสีดำที่พุ่งเข้ามา สายตาที่จดจ่ออยู่ที่เป้าหมาย

‘อ้ากกกกกก’

เกิดเสียงร้องโหยหวนทันทีที่เมื่อลำแสงอาบร่างเงาสีดำ แสงสายหนึ่งทะลุออกมาจากร่างของมัน ตามด้วยอีกสาย.... ลำแสงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็พาให้ร่างของมันสลายออก

เจสเปอร์ที่เฝ้าดูได้แต่เป่าปากแสดงความโล่งใจออกมา แต่สถานะอัมพาตก็ยังตราตรึงไม่ให้เขาได้ขยับไปไหน หญิงสาวหันมามองเพื่อนในปาร์ตี้ของเธออย่างอารมณ์ดี เธอนั่งลงมองร่างชายหนุ่มพร้อมกับขยี้ผมของเจสเปอร์เบาเป็นเชิงหยอกล้อก่อนที่จะล้างสถานะผิดปกติให้กับเขา

< Purification!!>

[Purification]

[รายละเอียด: ชำระล้างดีบัฟผิดปกติทั้งหมดที่ได้รับแก่เป้าหมาย]

“เอ่อ...ขอบคุณ” เจสเปอร์จัดแต่งทรงผมตัวเองให้กลับมาเป็นแบบเดิมพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณด้วยความอาย ที่เขาอายไม่ใช่ว่าเธอแกล้งเขาแต่อย่างใดแต่ที่อายก็เพราะต้องมานอนมองเธอต่อสู้กับมอนสเตอร์แทนตัวเองต่างหาก

ร่างเงาผู้หญิงที่หลบซ่อนอยู่ตรงซอกกำแพง ปรากฏตัวออกมาแล้วเดินมาตรงที่ทั้งคู่ยืนอยู่ เธอเดินมาทางศพของชายผู้ที่ถูกร่างเงาสิงสู่ พร้อมกับลูกเปลือกตาของชายผู้นั่นลง

“หลับซะเถิด ทหารกล้าของข้าเจ้าทำหน้าที่มามากพบแล้ว” เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือก่อนที่จะหันมาพูดคุยกับทางเจสเปอร์

“คุณพูดได้แล้วยังงั้นหรือ” เจสเปอร์ถามออกไปด้วยความสงสัย

“ที่ข้าไม่สามารถพูดได้เป็นเพราะปีศาจเงาดำตัวเมื่อครู่นั่นแหละ” เธอกล่าวออกมา คำพูดที่เธอพูดหากฟังดูดีจะรู้ว่าเป็นเสนียงของคนผู้สูงศักดิ์ และยิ่งประกอบคำพูดเธอตอนปิดตาให้ศพของชายที่ถูกสิงสู่จากปีศาจเงา เจสเปอร์จึงได้ถามคำถามพวกนี้ไป

“คุณคือราชินีแห่งราชวงศ์กรีนเวต้า มารดาขององค์หญิง ซีซีเรียมใช่หรือไม่”

เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะพยักหน้ารับมัน

“เนิ่นนานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ยินคำเรียกเช่นนี้ จนข้าเกือบลืมว่าตัวข้าเป็นใคร องค์หญิงตัวน้อยของข้าบัดนี้เป็นอย่างไรบาง”

“องค์หญิง ซีซีเรีย เติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี เธอให้กระหม่อมออกตามหา องค์ราชินี ครั้งนี้ด้วยตัวพระองค์เอง พะยะค่ะ”

เกิดความเงียบขึ้น ดวงตาของเธอแม้จะเป็นร่างเงาที่เจสเปอร์และไอรีนก็สัมผัสได้ว่าเธอกำลังโศกเศร้ามากแค่ไหน

“พวกเจ้ากลับไปเถิด ที่แห่งนี้ถูกคำสาปยึดครองไปได้ทั้งหมดแล้ว เหล่าองค์รักษ์ของข้าเองก็เป็นแบบที่เจ้าได้เห็น ถูกปีศาจเข้าสิงกันจนหมด แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่อาจต้านทานคำสาปนี้ได้”

ราชินีได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดของป้อมปราการ Mirage Tower ให้พวกเขาทั้งสองได้ฟังจนได้ความว่า มีอยู่วันหนึ่งมีเอกอัครราชทูตเดินทางจากเมืองแบล็คแคสเทินมาเยือนสถานที่แห่งนี้พร้อมกับหีบสมบัติเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่ออาณากรีนเวต้า แต่ในขณะนั้นมีเพียงองค์ราชินีเท่านั้นที่พักอาศัยอยู่

องค์ราชินีต้อนรับคณะทูตด้วยความเต็มใจแต่หารู้ไม่ว่า เหล่าคณะทูตที่เดินทางมาคือปีศาจแห่งความมืดที่เป็นข้ารับใช้ของ มังกรปีศาจ Xanidarth พวกมันทำการสาปที่นี้ให้กลายเป็นรังของพวกมัน แม้จะมีทหารเข้ามาช่วยเหลือแต่ทุกคนก็ถูกดูดวิญญาณจนหมดสิ้นเหมือนซากศพที่เขาได้พบนั้นเอง

เมื่อพวกมันยึดเมืองแบล็คแคสเทินได้สำเร็จก็จากที่แห่งนี้ไปเหลือเพียงคำสาปกับลูกสมุนแห่งความมืดส่วนนึงของมันปกครองสถานที่นี้เอาไว้.

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด