ตอนที่แล้วบทที่ 22 การประมูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 ทะลวงอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 23 ลูกแก้วผสานจิตราชัน


บทที่ 23 ลูกแก้วผสานจิตราชัน

คือ....ลูกแก้วผสานจิต! ของสิ่งนี้นับเป็นของล้ำค่าในการฝึกฝนพลังจิต ทำให้พลังจิตเพิ่มมากขึ้น พลังจิตนั้นสำคัญอย่างมากสำหรับปรมาจารย์ค่ายกล นักปรุงยา หรือนักฝึกสัตว์

สำหรับกุนไท่ที่เป็นผู้ใช้มายาจะต้องมีพลังจิตที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน หากพลังจิตของกุนไท่แข็งแกร่งขึ้นจะทำให้พลังมายาของเขาทรงพลังมากยิ่งขึ้น!

พลังจิตนั้นแบ่งออกเป็นห้าขั้น เมื่อผ่านหาห้าขั้นแรกไปแล้ว จะทำให้จิตของเรานั้นวิวัฒนาการ ทำให้ภูมิต้านทานทางจิตแข็งแกร่งขึ้น และยังช่วยลดช่องว่างของคนที่มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าได้อีกด้วย เมื่อได้รับแรงกดดันจะไม่ส่งผลมากนักเพราะมีจิตที่แข็งแกร่ง

เหล่าผู้บ่มเพาะต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ห้องโถงจากที่เงียบสงบมาตลอด พลันเสียงดังระงมขึ้น

“ข้าต้องการมัน! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!”

คนผู้หนึ่งในฝูงชนตะโกนขึ้น

“ข้าคือปรมาจารย์หนึ่งในสิบนักปรุงยา ใครแย่งมันไปจากข้า ถือว่ามีปัญหากับบิดาผู้นี้!”

ชายชราร่างสูงผอมผู้หนึ่งกล่าวตามมาติดๆ

“หึ นักปรุงยาแล้วอย่างไร ข้าคือปรมาจารย์ค่ายกลที่มีชื่อเสียง ข้าก็ต้องการมันเช่นเดียวกัน”

ชายชรารูปร่างอ้วนตะโกนออกมาเช่นกัน สำหรับผู้ที่เป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะธรรมดา พวกเขาต่างไม่ต้องการ เพราะมันไม่จำเป็นสำหรับพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าการเพิ่มพลังจิตในช่วงแรกจะไม่เห็นผลอะไร

เมื่อบ่มเพาะไปในระดับที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้บ่มเพาะแข็งแกร่งกว่าระดับเดียวกันอย่างมาก เพราะเมื่อพลังจิตแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งจะสามารถสร้างการโจมตีจากพลังจิตได้ ซึ่งผู้ที่รู้มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ผู้ดำเนินการประมูลหญิงสาวนั้น เมื่อเห็นท่าทีของผู้คนก็เริ่มกล่าวเพื่อทำให้สินค้ามีราคามากขึ้น

“ทุกท่าน ท่านคงรู้จักมูลค่าของมันอยู่แล้วข้าคงไม่ต้องพูดถึง ทว่ามันไม่ใช่แค่ลูกแก้วผสานจิตที่เคยพบเห็นกันเท่านั้น แต่เป็นถึงลูกแก้วผสานจิตราชัน! ซึ่งจะทำให้พลังจิตเพิ่มขึ้นกว่าลูกแก้วทั่วไปถึงสิบเท่า! ราคาจะเริ่มต้นที่ 1 แสนหินจิตวิญญาณระดับสูง โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5 หมื่นหินจิตวิญญาณระดับสูง เริ่มได้!”

เมื่อสิ้นเสียงของนางนั้น ทุกคนกลับตกตะลึงมากขึ้นไปอีก พร้อมกับเสนอราคากันอย่างบ้าคลั่ง

หนึ่งแสนห้าหมื่นหินจิต

สามแสนหินจิต!

สี่แสนหินจิต!

ราคายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กุนไท่ไม่ได้รีบร้อนที่จะเสนอราคา เขารอให้มันอยู่ช่วงที่คู่แข่งลดน้อยลงเมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้น เขาหันไปหาผู้นำตระกูลเจียวก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านผู้นำตระกูลสนใจสมบัติชิ้นนี้หรือไม่ หากไม่แล้ว ข้าน้อยคงต้องขอซื้อมันไป!”

“ข้าไม่ได้สนใจของสิ่งนี้เลย แต่หากเจ้าต้องการ ข้าจะเอามันมามอบให้เจ้า”

ผู้นำตระกูลเจียวกล่าวตอบ แม้เขาจะอยากได้แต่ก็ไม่ได้อยากแข่งกับกุนไท่ เพราะก่อนหน้านี้กุนไท่ได้มอบโอสถทะลวงวิญญาณให้กับเขา ทำให้สามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นกักเก็บพลังของระดับหลอมรวมพลังได้ในทันที ซึ่งตอนนี้เขากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในท่ามกลางสามตระกูลใหญ่ภายในเมืองอี้แล้ว! เขาจึงค่อนข้างอยากตอบแทนกุนไท่เสียมากกว่า

(ระดับหลอมรวมพลังนั้นแบ่งออกเป็น ขั้นรวบรวมพลัง ขั้นกักเก็บพลัง และขั้นขยายพลัง)

กุนไท่ส่ายหน้าพลางโบกมือเพื่อปฏิเสธ ตอนนี้เขามีหินจิตวิญญาณมากพอแล้ว เขาสามารถซื้ออะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ แต่เขาก็ยังคงกล่าวกับผู้นำตระกูลว่า

“ท่านผู้นำ ข้าอยากให้ท่านช่วย ข้าขอยืมนามท่านในการประมูลเสียหน่อย!”

“ไม่มีปัญหา”

ผู้นำตระกูลเจียวผงกศีรษะ แล้วตระโกนขึ้นมาว่า

“แปดแสนหินจิต!”

ฝูงชนนั้นต่างแปลกใจ เพราะเหตุใดตระกูลเจียวถึงต้องการของสิ่งนี้ สามตระกูลใหญ่นั้นไม่มีใครมีนักปรุงยา หรือผู้ที่ใช้พลังจิตเป็นหลักเลย ถึงแม้พวกเขาจะประหลาดใจแต่ก็ไม่ได้คิดจะเสนอราคาต่อ เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการมีปัญหากับตระกูลเจียว แม้จะเป็นนักปรุงยาก็ตาม

เพราะเบื้องหลังตระกูลเจียวนั้น มีสำนักมังกรครามสาขาใหญ่หนุนหลังอยู่ สาเหตุที่หนุนหลังนั้น เป็นเพราะการคงอยู่ของเจียวเหม่ยซึ่งเป็นศิษย์คนสำคัญของสำนักมังกรคราม!

“ไม่มีผู้ใดเสนอราคาต่อ สมบัติชิ้นนี้เป็นของท่านผู้นำตระกูลเจียว ยินดีกับผู้นำตระกูลเจียวด้วยที่เป็นผู้ได้รับลูกแก้วผสานจิตราชัน! ทางประมูลจะส่งคนไปนำของไปให้ท่านโปรดเตรียมหินจิตวิญญาณไว้ให้พร้อมด้วย”

ผู้ดำเนินการประมูลกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่งดงาม และน่าหลงใหล กุนไท่รับลูกแก้วมา พร้อมกับจ่ายหินจิตวิญญาณระดับสูงไปแปดแสนก้อน แต่เขายังคงเหลืออยู่ยี่สิบสี่ล้านสองแสนหินจิตวิญญาณระดับสูง!

สมบัติชิ้นต่อไปนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะมันเป็นโอสถ ค่ายกล หรือชุดเกราะเท่านั้น แม้กุนไท่จะไม่สนใจ แต่เมื่อตระกูลเจียวสนใจมัน แล้วไม่สามารถเสนอไปมากกว่านี้ เขาก็ช่วยเรื่องหินจิตวิญญาณระดับสูงไป ทำให้ผู้นำตระกูลปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก

แม้ตระกูลเจียวจะเป็นตระกูลใหญ่แต่ทรัพย์สินโดยรวมนั้นยังมีไม่ถึงสิบล้านหินจิตวิญญาณด้วยซ้ำ แล้วเมื่อราคาของโอสถที่ตระกูลเจียวอยากได้ถึงหนึ่งล้านเมื่อไหร่ เขาจะเริ่มคิดหนัก แล้วเมื่อมันถึงเกินล้าน เขาก็ไม่สามารถใช้จ่ายไปมากกว่านี้ได้ เพราะอาจทำให้ตระกูลเจียวขาดแคลนหินจิตวิญญาณได้ และส่งผลกระทบต่อตระกูล

เมื่อการประมูลจบลง กุนไท่ก็ขอตัวลากับผู้นำตระกูลเจียว และเจียวเหม่ยทันที เขาต้องการออกเดินทางไปยังเมืองใหญ่ การมาในครั้งนี้ของเขานั้นถือว่าคุ้มค่ามาก เขาได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลแล้ว!

“น้องไท่! ข้าไปกับเจ้าด้วย”

เจียวเหม่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ท่านไปกับข้าได้?”

กุนไท่ตอบกลับด้วยความสงสัย

“ได้สิ แท้จริงแล้ว ข้าเป็นศิษย์จากสำนักมังกรครามสาขาใหญ่ ไม่ใช่สาขาย่อยของที่นี่ แต่ข้ามาที่นี่เป็นเพราะคิดถึงบิดาของข้าเท่านั้น”

เจียวเหม่ยตอบกลับไป

“มันเป็นเช่นนั้น! งั้นเราก็ไปด้วยกันเถอะ ข้าจะไปหาผู้อาวุโสชงเพื่อขอร่วมเดินทางไปกับเขาด้วย การเดินทางไปกับเขาถือว่าปลอดภัยมาก เพราะหากเดินทางไปเพียงลำพังมันอันตรายมาก และระยะทางมันไกลมากอีกด้วย อาจทำให้เสียเวลาพอสมควร”

กุนไท่กล่าวแล้วเดินไปหาผู้อาวุโสชงพร้อมกับเจียวเหม่ย ผู้อาวุโสชงตอบตกลงทันที แล้วพากุนไท่กับเจียวเหม่ยเข้าไปในขบวนเดินทางของโรงประมูล การเดินทางราบรื่นเป็นอย่างมาก เพราะมีผู้อาวุโสชงที่เป็นถึงระดับผู้เชี่ยวชาญค่อยกำกับการเดินทางของขบวนอยู่ ทำให้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

ระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่นั้น กุนไท่อยู่ในห้องส่วนตัว เขานั่งขัดสมาธิพลางปิดตา จากนั้นก็ไหลเวียนปราณอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความพร้อมให้กับร่างกาย และเส้นลมปราณก่อนที่จะเริ่มทะลวงระดับพลัง การทำแบบนี้นั้นไม่มีใครทำมีเพียงแค่กุนไท่เท่านั้น

วิธีนี้เป็นวิธีโบราณ มันหายสาบสูญไปนานมากแล้ว เขาได้วิธีนี้มาจากผู้อาวุโสทั้งสองที่ค่อยสอนเขามา การใช้วิธีนี้จะทำให้ไม่ต้องปรับสมดุลพลังหลังจากการทะลวงระดับ แต่ปราณมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และไหลลื่นกว่าคนในระดับเดียวกันอย่างมาก กุนไท่หยิบเอาหินจิตวิญญาณระดับสูงก้อนหนึ่งออกมาก่อนจะเริ่มดูดซับมัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด