ตอนที่แล้วตอนที่ 47 เสียหายอย่างหนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 ฉันต้องการตัวเธอ

ตอนที่ 48 บารอน


ตอนที่ 48 บารอน

หลังจากที่ทุกคนกลับเข้าเมืองเจสเปอร์นำทุกคนตรงไปที่ห้องสมุดประจำเมืองเพื่อไปส่งเควสที่ได้รับมาจาก ศจ.อลาสเตอร์ นอกจากหิมะน้อยและเจสเปอร์แล้วทุกคนต่างพึ่งเคยมาห้องสมุดประจำเมืองเป็นครั้งแรก โบม่อนและลูอิสยังคงเดินตามประกบริคเตอร์เด็กหนุ่มประจำปาร์ตี้ที่ยังคงประหม่าหลังจากรู้ความจริงที่ตัวเองได้มาอยู่ในปาร์ตี้ที่ใฝ่ฝันโดยที่ไม่ล่วงรู้มาก่อน

เจสเปอร์พูดคุยกับ NPC บรรณารักษ์คนเดิมประจำห้องสมุดสักครู่ ก็นำทุกคนขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อเข้าพบ ศจ.อลาสเตอร์ เขาเคาะประตูอยู่สักพักไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู ใบหน้าของชายคนที่มาเปิดประตูมีสีหน้าที่เคร่งเครียด หมองคล้ำ ดู ท่าแล้วน่าจะอดนอนมานานหลายวัน ศจ.ดูแก่กว่าตอนที่เจสเปอร์พบครั้งล่าสุดไปมาก อาจด้วยเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาทำให้ ศจ.ไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลยทำให้ใบหน้าดูแก่ลงไปมาก

“เจ้าเองหรือ มาที่นี้มีธุระอะไรหรือเปล่า เข้ามาๆ” ศจ.อลาสเตอร์หลบทางให้คนอื่นเข้าไปภายในห้องที่มีกองหนังสือ เอกสาร ม้วนคัมภีร์ และอักขระวงเวทย์ต่างๆ อยู่เต็มไปหมดทั่วทุกซอกมุม

คนอื่นอาจจะมองกองหนังสือและของที่รกเต็มห้องว่าเป็นกองขยะ ที่รกรุงรัง แต่เจสเปอร์กับเห็นต่าง กองเอกสารพวกนี้บรรจุความรู้อยู่มากมายรวมไปถึงเควสลับที่อาจนำไปสู่ขุมพลังที่เขาไม่เคยพบมาก่อนก็เป็นได้ อย่าลืมว่าภายในอดีตของเขา ศจ.อลาสเตอร์เคยได้ก้าวเข้าขึ้นสู่ตำแหน่งผู้อาวุโสประจำสภาผู้ควบคุมธาตุ และขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว เพราะเหตุนี้เองเจสเปอร์เลยผูกมิตรกับ NPC ศจ.อลาสเตอร์เอาไว้ให้มากที่สุดเอาไว้นั่นเอง แม้จะไม่มีลายลักษณ์อักษรที่ยืนยันว่าการเติบโตของ ศจ.อลาสเตอร์อยู่ในระดับขั้นไหน แต่เจสเปอร์สันนิฐานเอาไว้ว่าไม่ต่ำกว่าระดับเหนือฟ้า อย่างแน่นอน

เมื่อเขาและคนอื่นหาจุดวางเท้า ภายในห้องที่เต็มไปด้วยกองหนังสือได้แล้ว เจสเปอร์ก็หยิบเอา แร่ ‘Telelium’ ออกมา แสงสีฟ้าทอประกายสาดส่องไปทั่วทั้งห้อง ออร่าเวทย์มนต์ที่อยู่ภายในแร่ Telelium แผ่ขยายแสงอันอบอุ่นให้ผู้ที่ได้สัมผัสมันราวกับได้แช่น้ำอุ่นในยามที่ร่างกายเมื่อยล้าให้คลายลง ทุกคนๆแม้จะเคยเห็นความอัศจรรย์ของมันมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่อาจทนต่อความอบอุ่นที่ออกมาจากมันได้เลย

ศจ.อลาสเตอร์เองเช่นกัน แม้แต่ NPC ระดับสูงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากออร่าของแร่ไปได้เลย สายตาและมือ ยื่นออกไปจับมันอย่างช้าๆ

“ลูกศิษย์ของข้าทำได้ เจ้าทำมันได้ เจ้าเอามันมาได้” น้ำตาหยดเล็กๆไหลออกมาจากรอบดวงตาของ ศจ.อลาสเตอร์ น้ำตาหยดเล็กๆและร่างกายที่สั่นเครือ มองจ้องมาที่เจสเปอร์ ด้วยความภาคภูมิใจ

ภายในห้องยังไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมา พวกเขาไม่อยากทำลายบรรยากาศอันแสนอบอุ่นนี้ไป มันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราได้ตอบแทนพระคุณของอาจารย์ เหมือนวันที่เราเรียนจบมัธยมไปแล้วกลับมาเยี่ยมโรงเรียนและได้พบกับอาจารย์ในตอนที่เราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว ยังไงยังงั้น

“ข้าภูมิใจจริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก สิ่งที่พวกเจ้าทำมันมีค่าต่ออาณาจักรกรีนเวต้าเป็นอย่างมาก เอาล่ะรอข้าสักครู่ข้ามีเรื่องที่จะต้องทำอีกสักหน่อย เอาล่ะนี้เป็นของรางวัลสำหรับพวกเจ้า”

เมื่อได้ยินคำว่า รางวัล ทุกคนในปาร์ตี้ก็ต่างตื่นเต้นดีใจ แม้มันจะเป็นแค่สิ่งตอบแทนเล็กน้อยที่พวกเขาได้รับ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้หัวใจของพวกเขาเบิกบาน รางวัลที่ทุกคนได้รับเหมือนกันทั้งหมดคือ ค่าสถานะพิเศษ 30 แต้ม ค่าทักษะพิเศษอีก 5 แต้ม พร้อมกับเงินคนละ 10 เหรียญทอง

ใครอาจจะมองว่า 20 เหรียญทองเล็กน้อยเกินไปกับความเหนื่อยยากที่ไปพบเจอมาแต่อย่าลืมว่า โดยเฉลี่ยของผู้เล่นทั่วไปสามารถหาเงินได้เพียง 3-5 เหรียญเงินต่อวันเท่านั้น มีเพียงเจสเปอร์เพียงคนเดียวที่ได้รับค่าความเลื่อมใสจาก ศจ.อลาสเตอร์เพิ่มขึ้นถึงระดับ ‘เชื่อใจ’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ หาก ศจ.อลาสเตอร์มีเควสอะไร เจสเปอร์จะเป็นคนแรกๆที่มีโอกาสได้ทำ

ศจ.อลาสเตอร์ หลังจากที่มอบรางวัลเล็กน้อยแล้วก็กลับออกมาพร้อมกับจดหมายในมือทั้ง 6 ฉบับพร้อมกับส่งมอบพวกมันให้พวกเขาทุกคนภายในห้อง

ทุกคนต่างรับจดหมายมาด้วยความสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไรออกไป เจสเปอร์นำพาพวกเขาทั้งหมดกลับไปที่ โรงตีเหล็กอีกครั้งเพื่อพา คราซ่า ไปกับตนด้วย

การตอบรับในโรงตีเหล็กไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วหลังจากที่คราซ่ากลับมาจากการผจญภัยพร้อมกับนำอุปกรณ์ แร่ จำนวนมากติดตัวกลับมาด้วยนั้น ถูกนำมาแจกจ่ายให้กับเหล่าช่างตีเหล็กทั้งหมดในที่นี้ได้ฝึกฝน ความสามารถจนสูงขึ้นหลายระดับ ค่าความเลื่อมใสที่มีต่อปาร์ตี้ Rising Sun ถูกยกให้อยู่ในลำดับความสำคัญที่สูงส่งสำหรับช่างตีเหล็กในที่นี้ เมื่อพวกเขาปรากฏตัวที่หน้าประตูโรงตีเหล็กทุกคนต่างหันมาโงคำนับทั้ง 6 คน อย่างนอบน้อมแล้วค่อยกลับไปตั้งสมาธิกับงานตรงหน้าของตนเองต่อไป

หลังจากที่พวกเขาพูดคุยกับหัวหน้าช่างตีเหล็ก สมิธ อยู่สักพัก คราซ่าและคนอื่นอีก 4 คนก็เดินออกมาพร้อมกับหอบหิ้ว อาวุธ ชุดเกราะ ต่างๆออกมามากมาย จนกองพะเนินเต็มโต๊ะ

“นี้คืออาวุธและอุปกรณ์ที่พวกเราดัดแปลงและหลอมขึ้นมาใหม่ ท่านขุนนางโปรดพิจารณามันด้วยเถิด” คราซ่าผายมือออกเพื่อให้ทุกคนได้ตรวจเช็คไอเท็มตรงหน้า

“มีเพียงเท่านี้เองหรือ?” เจสเปอร์ทิ้งคำพูดที่หนักหน่วงและรุนแรงเข้าใส่ น้ำเสียงของเขาเจือปนไปด้วยความไม่พอใจ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงหลุมพรางที่เจสเปอร์ขุดเอาไว้เพื่อล่อให้คราซ่าและเหล่าช่างตีเหล็กบริเวณนั่นทั้งหมดมาติดกับ

อามมี่ โบม่อน ลูอิส หิมะน้อยและริคเตอร์ ต่างหันมามองเจสเปอร์ ด้วยความสงสัย ไอเท็มที่คราซ่าและพวกยกมาก็สามารถนำไปทำเงินได้ตั้งมากมายแล้วไม่ใช่หรือยังไง ?

บรรยากาศในโรงตีเหล็กเปลี่ยนเป็นเงียบสะงัด ไม่มีเสียงค้อนที่ทุบลงบนทั่งดังออกมาอีกต่อไปแล้ว ทุกคนต่างหยุดมือลง มีเพียงไม้ที่เผาไหม้จากเปลวไฟเท่านั้นที่ส่งเสียงออกมา ทุกคนต่างก้มหน้าลง

“ท่านขุนนางอย่าได้ขุ่นเคือง ทางสมาคมช่างตีเหล็กของเราเองก็อยากจะทำให้ท่านประทับใจเพียงแต่ว่า พวกเราตอนนี้เองก็มีปัญหากับพวกพ่อค้าและช่วงนี้ท่านขุนนางน่าพอจะทราบว่ามีผู้กล้ามากมายเข้ามาทำมาหากินในเมืองนี้กันมากขึ้น ทางสมาคมของเราเองได้รับผลกระทบนี้จึงไม่อาจหาเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีกว่านี้มาพัฒนาได้เลย ได้โปรดท่านขุนนางอย่าถือโทษเลย”

เมื่อได้ฟังที่ช่วงตีเหล็กสมิธพูด เจสเปอร์พนักหน้าเล็กน้อยพลางตรวจเช็คอุปกรณ์ ดาบทั้งหมดที่ถูกตีขึ้นใหม่ มีค่าสถานะและน้ำหนักที่ดีเพียงพอต่อการนำไปขาย แต่ถ้าจะให้เป็นที่นิยมของผู้เล่น อุปกรณ์พวกนี้จะต้องล้ำหน้ากว่าของของผู้ที่เล่นคลาสอาชีพพ่อค้า.

“เข้าใจแล้ว ในเมื่อทางสมาคมช่างตีเหล็กเองกำลังประสบปัญหา ฉันเองที่มีความสนิทสนมกับที่นี้เป็นอย่างดี จะขอยื่นมือเข้าช่วยเหลือเท่าที่จะทำก็แล้วกัน”

เจสเปอร์ลั่นวาจาเมื่อครู่ออกไปทุกคนจึงมีท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้คาดหวังให้เจสเปอร์ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหรือทำสิ่งใดให้ ขอเพียงไม่ถือสาที่พวกเขาทำงานได้ไม่ดีก็เพียงพอแล้ว

หลังจากเสร็จธุระกับสมาคมช่างตีเหล็กแล้ว เขาและคนอื่นๆก็มุ่งหน้าตรงไปที่ปราสาทว่าการประจำเมืองโดยมีคราซ่าติดตามมาด้วยเช่นกัน การเข้าพบเจ้าเมืองไม่ยุ่งยากเหมือนครั้งก่อนอีกต่อไปเพราะ ศจ.อลาสเตอร์แจ้งการขอเข้าพบเอาไว้ก่อนแล้ว ทหารยามพาพวกเขาทั้งหมด 6 คนและคราซ่าไปนั่งรอในห้องทำงานของท่านเจ้าเมือง

ทุกคนนอกจากเจสเปอร์พึ่งเคยเข้าปราสาทประจำเมืองเป็นครั้งแรกก็เกิดอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งตัวคราซ่าเองก็นั่งนิ่งเป็นก้อนหินตั้งแต่เข้ามาที่ห้องแล้ว

“พวกนายผ่อนคลายหน่อยเถอะ เหงื่อพวกนายออกกันเยอะมากเลย”

เจสเปอร์พยายามปลอบใจเพื่อนของตน แต่คำพูดก็ไร้ความหมายไปในทันที เมื่อประตูห้องทำงานถูกเปิดออก หญิงสาวที่มีร่ายกายงามสง่าได้เดินเข้ามาในชุดของชนชั้นสูง ตามด้วยองค์รักษ์อีกนับ 10 คนที่และคนสุดท้ายที่ตามมาที่หลังคือชายร่างอ้วนเจ้าเมือง Fernando นั่นเอง

พวกเขาต่างยืนขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน โค้งคำนับให้กับองค์หญิง ซีซีเรีย ประจำราชวงศ์กรีนเวต้า ด้วยความน้อบนอม ความงามขององค์หญิงสะกดให้ทุกสายตาของทุกคนในปาร์ตี้ต่างเคลือบเคลิ้มไปกับความงดงาม

“ข้าได้รับเรื่องจาก ศจ.อลาสเตอร์แห่งสมาคมผู้ควบคุมธาตุแล้ว เราขอขอบคุณผู้กล้าเป็นอย่างมากที่ช่วยเหลือ อาณาจักรกรีนเวต้าของเราให้ก้าวหน้า”

องค์หญิงทิ้งช่วยระยะคำพูดสักครู่ให้ทุกคนได้ตั้งสติ

“เหนือสิ่งอื่นใดผู้กล้าทุกท่านในที่นี้ยังมีความดีความชอบอีก 1 อย่างนั้นคือ การสังหารราชินีเมดูซ่าที่เป็นภัยต่อเมืองอัลคาเดียและอาณาจักรมาอย่างยาวนานลงได้ นี้คือรางวัลคุณงามความดีของพวกท่าน”

‘ติ้ง!!’

[ภารกิจลับ : สังหารราชินีเมดูซ่าแห่งภูเขาแรร์เอิร์ธเสร็จสิ้น]

[ภารกิจลับ : ส่งมอบแร่หายาก Telelium เสร็จสิ้น]

[คุณได้รับ 50 เหรียญทอง เป็นรางวัลในการพิชิตราชินีเมดูซ่า]

[คุณได้รับ 50 เหรียญทอง เป็นรางวัลในส่งมอบแร่ Telelium]

[คุณได้รับ 1500 ชื่อเสียงในอาณาจักรกรีนเวต้าทั้งหมด ทำให้คุณได้เลื่อนระดับเป็นขุนนางประจำอาณาจักร กรีนเวต้า]

[คุณได้รับ 4000 ชื่อเสียงในเมืองอัลคาเดีย ทำให้คุณเลื่อนระดับเป็น บารอน ประจำเมืองอัลคาเดีย]

[คุณได้รับ 10 แต้มสกิล]

[คุณได้รับ 50 แต้มสถานะ]

[คุณได้รับ Experience potions จำนวน 10 อัน ]

ค่าความเลื่อมใสกับองค์หญิง ซีซีเรียเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ ‘เป็นมิตร’

แต่ก่อนที่ตัวเจสเปอร์จะดีใจที่ตัวเองได้เลื่อนศักดินาเป็น ยศ บารอน ก็ถูกเสียงตะโกนดีใจของทุกคนๆในปาร์ตี้กลบไปทั้งหมด

“ขุน...ขุนนาง!! พวกเราได้เป็นขุนนางประจำเมืองนี้”

ทุกคนต่างกู่ร้องด้วยความดีใจแต่เหนือสิ่งอื่นใด คราซ่า เป็นลมสลบไปแล้ว เพราะแม้แต่ NPC ช่างตีเหล็กอย่างเขาที่ได้ร่วมผจญภัยก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนางเช่นเดียวกันมีศักดิ์เทียบเท่าหัวหน้าสมาคมช่างตีเหล็กสมิธประจำเมืองอัลคาเดียไปแล้ว

องค์หญิงซีซีเรียและเจ้าเมือง Fernando ต่างหัวเราะกับการแสดงออกของผู้กล้าที่แข็งแกร่งแสดงออกมา แต่ความเรียบร้อยคือสิ่งที่องค์รักษ์ทุกคนต้องทำตาม องค์รักษ์ยืนจ้องมองพวกเขาทันทีเมื่ออาการดีใจเลยเถิดไป.

“เราดีใจที่ผู้กล้าทุกท่าน ชื่นชอบกับรางวัลตอบแทนครั้งนี้ หากในอนาคตราชวงศ์กรีนเวต้าประสบภัยเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านผู้กล้าทุกท่านจะยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีก”

ทุกคนๆเมื่อได้ฟังคำขอที่แสนไพเราะน่าฟังจากองค์หญิง ซีซีเรีย คงไม่มีกล้าปฏิเสธคำขอเหล่านั้นได้ลงเป็นแน่.เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นหมดแล้ว พวกเขาก็ขอตัวลา แต่ก่อนที่จะออกจากห้องทำงานองค์หญิงซีซีเรียได้รั้งตัวเจสเปอร์ไว้สักครู่เพื่อหารือถึงเรื่องบางเรื่อง

มันคือเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังจากที่เจสเปอร์ได้เลื่อนสถานะกับองค์หญิงซีซีเรีย เป็นระดับ ‘เป็นมิตร’ นั่นเอง

“ท่านผู้กล้าเจสเปอร์ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะรบกวนท่านมากน้อยแค่ไหน แต่ข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยเหลือข้าอย่างนึงจะได้หรือไม่”

องค์หญิงยังคงงามสง่าเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่น้ำเสียงของเธอครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นไปมาก

“เรียนองค์หญิง หากเป็นเรื่องที่องค์หญิงประสงค์ ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ”

เจสเปอร์ตอบกลับไปด้วยความมุ่งมั่นถึงแม้เขาพอจะเดาออกว่าต้องเป็นภารกิจที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่เพื่ออนาคตของตัวเองและคนอื่นๆในปาร์ตี้ Rising Sun แล้ว เขาพร้อมยอมทำทุกอย่าง

“ท่านเคยได้ยินเรื่องป้อมปราการ Mirage Tower ที่ตั้งอยู่บนเกาะ ทางทิศเหนือของเมืองอัลคาเดียหรือไม่?”องค์หญิงเว้นระยะประโยคเหมือนเช่นเคยก่อนที่จะพูดต่อไป

“เมื่อก่อนนั้น ป้อมปราการ Mirage Tower เคยเป็นสถานที่เงียบสงบและเป็นสถานที่สวยงาม เสด็จแม่ของฉันโปรดปรานที่นั่นมากแต่แล้ว ก็เกิดเสียงประหลาดจากภายใต้พื้นดิน มีม่านหมอกปกคลุมไปทั่วป้อมปราการ เสด็จแม่ที่เดินทางไปพักผ่อนอยู่ก่อนหน้านั่นได้หายตัวไป แม้เสด็จพ่อจะส่งคนออกตามหาและองค์รักษ์ฝีมือดีเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครรอดกลับมาได้เลย เรื่องนี้มันผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว ฉันเองก็หมดหวังว่าท่านแม่จะมีชีวิตอยู่ไปแล้ว แต่อย่างน้อยขอแค่ได้รู้ว่าท่านจากไปด้วยสาเหตุอะไรก็ยังดี ฉันจึงอยากจะขอร้องท่านผู้กล้าได้โปรดสืบเรื่องนี้ให้แก่ฉันจะได้ไหม”

ติ้ง!!

[ภารกิจลับ:ออกตาหาสาเหตุการจากไปของราชินีที่ป้องปราการMirage Tower]

[ไม่สามารถปฏิเสธภารกิจได้]

เจสเปอร์เมื่อได้รับฟังคำขอทั้งหมดก็พอเข้าใจแล้วว่าเหตุใด องค์หญิงซีซีเรียถึงเดินทางมาที่เมืองอัลคาเดียแห่งนี้ การตรวจงานและพักผ่อนเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้นเป้าหมายจริงๆแล้วขององค์หญิงคือมาเพื่อสืบความจริงการตายของเสด็จแม่ของเธอต่างหาก

ในเมื่อภารกิจไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาก็ต้องรับภารกิจนี้ไปด้วยความเต็มใจ เจสเปอร์กล่าวลาองค์หญิงและออกจากปราสาทประจำเมืองมาอย่างเงียบๆ

ตรู๊ด ตรู๊ด!!

[มีสายโทรเข้าจากหมายเลข: xxxx-xxxx-xxxx]

[กรุณาออฟไลน์เพื่อรับสายสนทนา]

หมวก VR รุ่นปานกลาง ยังคงไม่รองรับกับเชื่อมต่อโทรศัพท์จากบุคคลภายนอกได้ ทำให้เจสเปอร์จำเป็นที่จะต้องออฟไลน์เพื่อรับสายโทรศัพท์นี้

เจสเปอร์ถอดหมวกของตนออกพร้อมๆกับยกสายโทรศัพท์ขึ้นเพื่อพูดคุยกับปลายสาย

“ดูเหมือนเธอจะค่อนข้างยุ่งน่ะ ถึงไม่ติดต่อฉันมาเลย” เจสเปอร์หยอกล้อปลายสายทันทีเมื่อเขารับสายสนทนา

“ขอโทษ...ตารางงานของฉันค่อนข้างยุ่งเมื่อหลายวันมานี้”ปลายสายมีเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยก่อนที่จะตอบออกมา

“เข้าเกมมาเถอะ ฉันจะพาเธอทำเควสเองส่วนค่าตอบแทนฉันไม่ต้องการ เพียงแต่อยากได้ขอแลกเปลี่ยนสักข้อ เมื่อออนไลน์แล้วฉันจะบอกกับเธอเอง นี้คือหมายเลขไอดีของฉัน...”

เจสเปอร์ให้หมายเลขไอดีของตนภายในเกมกับผู้หญิงที่อยู่ปลายสายให้ได้รับรู้ ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ลงพร้อมๆกับสวมหมวก VR กลับไปออนไลน์อีกครั้งนึง

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด