ตอนที่แล้วตอนที่ 40 คำขอของศาสตราจารย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 42 ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ตอนที่ 41 ราชินีเมดูซ่า


ตอนที่ 41 ราชินีเมดูซ่า

ช่วงเวลาบ่ายๆในเกม The Era Online ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงแดดตกกระทบกับผิวกายเผยให้เห็นเหงื่อเม็ดเล็กตามร่างกาย ในที่สุดคณะปาร์ตี้ทั้งหมด 6 คนกับอีก 1 NPC ก็ได้เดินทางมาถึงภูเขาแรร์เอิร์ธ

“พักผ่อนกันตรงนี้ก่อนเถอะ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเข้าข้างใน”

เจสเปอร์พูดพลางนั่งลงบนขอนไม้ ทุกคนเองต่างก็ทำตามเนื่องจากทุกคนเร่งเดินทางกันมาหลายชั่วโมงได้พักผ่อนสักเล็กน้อยก่อนออกไปทำภารกิจก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลว

“คราซ่าช่วยมาตรงนี้สักครู่ได้ไหม”

เจสเปอร์กวักมือเรียกพร้อมๆกับหยิบของหลายๆอย่างออกมาจากช่องเก็บของของตนเองออกมา ทั้งหมดที่เจสเปอร์หยิบออกมาคือวัตุถิบของมอนสเตอร์ รวมถึงบอส ที่เจสเปอร์เคยไล่ล่ามา

“ของพวกนี้พอจะเอาไปทำอาวุธหรือชุดเกราะอะไรได้บางไหม”

แววตาของคราซ่าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้เห็นวัตุดิบมากมายพร้อมกับแร่หายากบางอย่าง เนื่องจากคราซ่าเป็น NPC ช่างตีเหล็กแบบแปลนและการเรียนรู้จะแตกต่างจากผู้เล่นพ่อค้าสายช่างเหล็กอยู่มากพอสมควร ผู้เล่นช่างตีเหล็กจะสามารถเติบโตได้ตามเลเวลและจำนวนแบบแปลนที่มี หากกิลด์ใดสามารถเลี้ยงดูผู้เล่นสายผลิตได้ดี ช่างตีเหล็กก็จะก้าวหน้าเหนือล้ำเทียบเท่า NPC ที่มีค่าเติบโตระดับตำนานได้เลย

แล้วถ้า NPC ระดับตำนานได้รับการเลี้ยงดูเหมือนอย่างผู้เล่นสายผลิตสักคนหนึ่งละ?

เคล็ดลับนี้เคยปรากฏขึ้นครั้งแรกในอดีตของเขาโดยบังเอิญ มีผู้เล่นที่ค่อนข้างจะขี้เกียจรับซื้อ NPC  มา 1 คน เพื่อเอาไว้คอยปรนิบัติตัวเอง สกิลทำอาหาร ทำชุดป้องกัน แบบแปลนทำอาวุธ ถูกเรียนรู้โดย NPC คนนั้นเพียงคนเดียว ด้วยสถานะความเติบโตที่อยู่ในระดับสูงทำให้ NPC รับใช้ตนนั่นแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไปมาก แต่โดยความที่ไม่รู้ของผู้เล่นคนนั่นเขาได้ทำการยกเลิกสัญญาผูกมัดเพื่อไปผูกมัดกับ NPC สาวสวยคนใหม่มาแทนที่ นั้นจึงทำให้ NPC รับใช้เป็นอิสระ และด้วยความสามารถที่โดดเด่นหลากหลายด้านทำให้ NPC รับใช้ผู้นั่นเป็นที่ต้องการของคนอื่นๆอีกมากมายรวมถึงผู้เล่นที่เป็นเจ้านายเก่าเองก็ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่า NPCรับใช้เลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้เล่นอีกและขอมีชีวิตเป็นของตัวเองในท้ายที่สุด

“ของที่ท่านขุนนางนำออกมา สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด แต่ของบางอย่างข้าในตอนนี้เองก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะใช้มัน” คราซ่าก้มหน้าเล็กน้อยใบหน้าแสดงออกถึงความละอาย

“อืมข้าทราบแล้ว...ส่วนของพวกนี้ท่านลองเอาไปฝึกดูก่อนก็แล้วกันอันไหนที่เจ้ายังไม่มั่นใจก็ลองนำไปทดลองเผื่อจะได้เปิดหูเปิดตาท่านกับเพื่อนๆได้มากขึ้น”

“แต่ท่านขุนนางของมีค่าเหล่านี้ข้ารับไว้ไม่ได้”

คราซ่าพยายามร้องห้ามปฏิเสธอยู่หลายครั้งหลังจากได้ยิน

“นำไปเถอะ ข้ายังมีของอีกมากหากท่านปฏิเสธพวกมันก็เหมือนปฏิเสธน้ำใจของข้า”

“ข้าไม่บังอาจปฏิเสธน้ำใจของท่านขุนนางได้เลย แต่ของพวกนี้มีค่ามากๆ ข้ากลัวว่าจะทำมันได้ไม่ดีพอ”

“มันจะมีค่าหรือไม่ อยู่ที่นายเป็นคนกำหนด หากท่านรู้สึกไม่ดีวันหน้าท่านค่อยตอบแทนข้าก็ยังไม่สาย”

ในที่สุดแล้วคราซ่าก็รับของทั้งหมดไป แม้ของในช่องเก็บของเขาจะว่างลงแต่ก็เป็นเรื่องที่เขายินดี วัตถุดิบบางอย่างเขาเองก็พอรู้ว่ามันมีค่ามาก แต่เขาไม่สามารถใช้มันได้ในข้อจำกัดในด้านคลาสอาชีพ ถึงแม้จะนำไปให้คนอื่นก็ไม่แน่ว่าจะได้รับกำไรตอบแทนกลับมา

เมื่อทุกคนพักกันจนหายเหนื่อยแล้ว เจสเปอร์ก็เดินนำทางเข้าสู่ภูเขาแรร์เอิร์ธต่อทันที คราซ่ามีอากาศผวาเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่เขตภูเขา แต่กำลังใจที่มากล้นก็ทำให้ความตื่นกลัวที่มีจางหายไปได้

ทันทีที่พวกเขาก้าวเท้าเข้าไปในภูเขา เสียงเย็นยะเยือกก็ดังกึกก้องไปทั่วทั่งขุนเขา

“ข้าได้กลิ่นของแก....เจ้ามนุษย์โสโครก...แกกล้ามากที่ยังกลับมาที่นี้อีก...มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่”

เสียงพูดที่เหมือนเสียงงูขู่ ทำให้ขนแขนของหลายคนตั้งชูขึ้น บรรยากาศภายในขุนเขาเองก็ดูเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนที่เขาเข้ามาช่วยคราซ่าและช่างตีเหล็ก บรรยากาศที่เงียบเชียบวังเวง ไม่มีสัญญาณชีพของสิ่งมีชีวิตปรากฏให้เห็นเลยตลอดทางที่พวกเขาผ่านมา

“ความรู้สึกแปลกๆนี้ฉันไม่ชอบเลย ไม่มีมอนสเตอร์โผล่มาให้เราเห็นเลยสักตัว” ลูอิสที่เป็นนักล่ามีสายตาเฉียบแหลมถึงกับเอ่ยปากขึ้นมาว่าไม่พบมอนสเตอร์ใดๆเลย

“เกาะกลุ่มกันไว้ เปิดตามองให้กว้างๆ”

แม้คำขู่ของราชินีเมดูซ่าในตอนต้นจะน่ากลัวเพียงใดแต่ก็หาได้กระทบกับจิตใจของเจสเปอร์แม้แต่น้อย เจสเปอร์ยังก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคง ทั้งกลุ่มพยายามเกาะกลุ่มกันไว้อย่างที่เจสเปอร์แนะนำ

‘ฉึบ ฉึบ’

มีเสียงของบางอย่างกำลังตรงเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว แม้ภายในถ้ำจะมืดแต่ก็พอจะมองเห็นอยู่บาง แต่สิ่งที่ทั้งปาร์ตี้นั่งก็คือ งูสีดำจำนวนมากเลื้อยตรงมาทางพวกเขา

“ริคเตอร์นำทีม ลูอิสยิงได้เลยเมื่อพวกมันเข้ามาในระยะ อามมี่คอยคุ้มกันคราซ่าด้วย!!” เจสเปอร์สั่งการออกไปทันที พร้อมกันกับสร้างอาคมไฟ ขึ้นมาใต้เท้า ปาร์ตี้ของเขา

‘ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว บรึ้ม’

ลูกธนูและเวทย์มนต์ ของลูอิส หิมะน้อยพุ่งเข้าโจมตี เหล่ากองทัพงูที่เลื้อยเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

ริคเตอร์ยกโล่ขึ้นป้องกันพยายามสกัดกัน ไม่ให้ศัตรูเล็ดลอดผ่านตนไปได้ โล่และดาบสอดประสานกันอย่างลงตัว มือหนึ่งป้องกัน อีกมือสังหาร

สกิลยั่วยุของคลาสนักรบถูกใช้ออกมาโดยริคเตอร์เมื่องูจำนวนมากกำลังจะผ่านพื้นที่ของเขาไป เมื่อสกิลถูกใช้งานส่งผลให้งูทั้งหมดในบริเวณนั้นติดสถานะยั่งยุพวกมันสูญเสียจิตสำนึกและเข้าโจมตีริคเตอร์เพียงคนเดียว จังหวะคอมโบสกิลของริคเตอร์ก็แสดงออกมา

ริคเตอร์หมุนดาบของตัวเองเป็นวงกว้างกวาดสังหารงูไปไม่มากก้น้อย เพราะด้วยคัมภีร์เพิ่มพลังโมตีและเพิ่มค่าสถานะของเจสเปอร์ที่มอบให้ทุกคนในช่วงเวลาที่พักก่อนหน้านี้ทำให้ ริคเตอร์มีค่าพลังโจมตีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายช่วงตัว

“เด็กคนนี้มีของเหมือนกันนิ” อามมี่ยกนิ้วโป้งแสดงความชื่นชมกับการต่อสู้ของริคเตอร์ที่แสดงออกมา

“อย่าเหมอ โฟกัสกับการต่อสู้ก่อน”

สกิลกำแพงป้องกันของเจสเปอร์ถูกเรียกขึ้นมาใต้เท้าของริคเตอร์ เมื่อเจ้าตัวมั่วแต่พอใจกับคำชม เจสเปอร์ทำเสียงดุๆเพื่อเตือนสติ

“เจส ข้างหน้านั่น!!” ลูอิสร้องเตือนพลางชี้ไปทางด้านในภูเขาเมดูซ่าจำนวนกว่า 10 ตัวคอยเลื้อยออกมาจากเงามืดด้านในของถ้ำ

“ระวังพวกมันด้วย ลูอิสจัดการเมดูซ่าตัวที่ใช้ธนูให้ไวที่สุด” เจสเปอร์ต้องการที่จะปรับเปลี่ยนแผนของเขา “คราซ่าหลบไปด้านหลังของลูอิสซะ อามมี่ถึงเวลานายออกโรงแล้ว”

“จัดให้ตามนั้น”

แต่สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิมเมื่อราชินีเมดูซ่าได้มาถึง ด้วยขนาดร่ายกายที่ใหญ่กว่ามนุษย์ถึง 2 เท่าทำให้พวกเขาสังเกตเห็นมันได้แต่ไกลทุกอย่างของราชินีเมดูซ่าเหมือนกับเมดูซ่าทั่วๆไปถ้าไม่นับร่างกายที่ใหญ่โตกว่าตัวอื่นๆ แต่สิ่งที่พิเศษที่ทำให้มันแตกต่างจากเมดูซ่าพวกนี้นั้นก็คือบนหัวของมันมีงูตัวเล็กหลายพันหลายหมื่นตัวเป็นเส้นผม ดวงตากว่า หลายหมื่นคู่จับจ้องเหยื่อเอาไว้เป็นตาเดียว

“เอายังไงดีเจส ถอยไปตั้งหลักก่อนดีกว่าไหม”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ ความเร็วในการเคลื่อนที่ของงูรวดเร็วกกว่าพวกเรามากนัก พวกนายทั้งหมดช่วยกันรับมือเมดุซ่าพวกนี้ไว้ ส่วนฉันจะถ่วงเวลาราชินีเอาไว้เอง”

ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เสียเปล่า เจสเปอร์วิ่งออกไปพร้อมกับดาบอีเทอนัลวอร์เบลดในมือ ราชินีเมดูซ่าที่กระหายจะฉีกเนื้อเจสเปอร์ก็ไล่ตามออกไปอย่างรวดเร็ว

เกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วงทั้ง 2 แห่ง อามมี่ที่ไม่มีชนักติดหลังที่ชื่อว่าคราซ่าอีก ก็ปลดปล่อยศักยภาพความแข็งแกร่งออกมาอย่างเต็มที่ โบม่อนเองก็คอยบัพเพื่อนร่วมทีมอย่างเต็มที่ ก้าวพริบตาของอามมี่พาร่างกายของเขาไปอยู่ด้านหลังเมดูซ่าที่ไม่ทันได้ระวังอย่างง่ายดาย

อามมี่เปิดหมัด Hammer Punch เพื่อเจาะเกราะเมดูซ่าเป็นอย่างแรกตามต่อด้วย

คอมโบหมัดที่สวยงามครบจบทุกกระบวนท่า ก็ส่งเมดูซ่าลงไปนอนกองที่พื้น

“หนักหน่วงดีนี้อามมี่ แต่ธนูของฉันก็ไม่แพ้นายหรอกนะ” ลูอิสส่งลูกธนูออกไปใส่เป้าหมายจากบนก้อนหินใหญ่ ลูกธนูแหวกอากาศปักลงเข้าที่ตาของเมดูซ่าที่ถือธนูอย่างแม่นยำ เมดูซ่าแผดเสียงกริ้ดร้องพร้อมๆกับมือที่ปล่อยคันศรลงเพื่อกุมดวงตาที่มืดบอด

เมดูซ่าที่สูญเสียดวงตา ตลอดทั่วร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลจากลูกธนูที่ปักคาไว้ มันเคลื่อนที่ได้ช้าลง มันพยายามจะฝืนร่างกายที่บาดเจ็บ มันอยากจะทิ่มแทงฉีกกระชาก ศัตรูตรงหน้า แต่ภาพที่มันได้เห็นเป็นภาพสุดท้ายก็คือลูกธนู 2 ดอกที่พุ้งกระทบกับศรีษะของมัน

โลกกำลังพลิกกลับยังงั้นหรือ?

ป่าวเลยโลกยังคงอยู่ที่เดิม ทุกสิ่งและทุกๆอย่างยังคงอยู่กับที่ มีเพียงตัวมันเท่านั้นที่กำลังหงายหลังลงไป

“Head Shot!!” ลูอิสชูคันธนูขึ้นเหนือศรีษะพร้อมร้องตะโกน

หิมะน้อยที่อยู่ใกล้เคียงมองเห็นท่าทางของลูอิส ก็อมยิ้มพลางถอนหายใจกับการกระทำเช่นนี้ของปาร์ตี้ของเธอ

‘นี้แหละน่าผู้ชายปาร์ตี้นี้ แต่ละคนชอบแอ๊คอาร์ตกันเสียจริงๆ’

แม้ว่าเธอจะหันไปมองท่าทางแอ๊คของลูอิสเมื่อสักครู่แต่คำร่ายเวทย์มนต์ของเธอก็ไม่ได้หยุดลงเลย กำแพงไฟขวางกันปิดทางไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้ระยะของเธอกับลูอิส เมดูซ่าที่ใจกล้ามากพอตัดสินใจเดินฝ่ากำแพงไฟเหล่านี้ แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง ธาตุที่เป็นปรปักษ์ต่อกันแม้มีใจที่อาจหาญก็ไม่อาจฝืนชะตา

ลูกบอลไฟขนาดใหญ่ที่เธอร่ายออกไป เมื่อตกกระทบกับเมดูซ่า ลูกบอลก็กระจายออกเป็นลูกเล็กหลายสิบลูก แผดเผาเมดูซ่าที่อยู่รอบๆจนมีแผลไม้อยู่ทั่วไปหมด แม้งูจะมีเกล็ดที่หนากว่าผิวหนังมนุษย์แต่ก็มิอาจต้านทานความร้อนจากไฟได้

‘ระห่ำกันเกินไปแล้วปาร์ตี้อะไรกันเนี่ย’

ริคเตอร์ที่ถึงแม้อายุจะยังน้อย แต่ความเเชื่อมั่นในฝีมือตนเองนั้นสูงกว่าใครเพราะใครก็ต่างเรียกเขาว่า อัจฉริยะน้อย แต่ด้วยอัตตาของคนที่โตกว่าเมื่อพ่ายแพ้ให้แก่เด็กที่อายุน้อยกว่า รู้สึกเสียหน้าไม่ยอมรับผลการต่อสู้ไม่รับเขาเข้าปาร์ตี้กิลด์หรือกระทั่งไม่สนทนาด้วยเลยก็มีเมื่อทราบถึงอายุที่แท้จริงของริคเตอร์

ทำให้เด็กน้อยอัจฉริยะต้องเล่นเกมมาโดยลำพัง ถูกข่มเหงจากผู้เล่นที่มีกิลด์สารพัดรูปแบบ แต่ริคเตอร์ก็ทำได้แค่ทนแม้เสียงตะโกนจากภายในจะดังกังวานมากแค่ไหนก็ตาม

‘ฉันเองก็อยากมีพวกพ้อง มีกิลด์เหมือนคนอื่นๆ’

และเมื่อริคเตอร์ได้มาเห็นหัวข้อสนทนาที่กลุ่มปาร์ตี้ Rising Sun ที่เป็นผู้เล่นอิสระร่วมกลุ่มกันพิชิตดันเจี้ยนต่างๆได้ ก็ยิ่งทำให้ตัวเขาเกิดแรงบันดาลใจจนอยากที่จะปกป้องกลุ่มคนพวกนี้เอาไว้แต่ความคิดของริคเตอร์เปลี่ยนไปแล้ว

‘แม้ว่าปาร์ตี้ Rising Sun จะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ปาร์ตี้ที่ฉันอยู่ตอนนี้ก็ไม่เลว’

ความสามารถไม่ได้เป็นรองเลยด้วยซ้ำ เผลอๆอาจจะมากกว่า Rising Sun ซะอีก ปาร์ตี้ที่โด่งดังจะเป็นยังไงเขาไม่รู้ แต่ปาร์ตี้นี้พอดีสำหรับเขาแล้วทุกคนเป็นมิตร ทุกคนให้ความสำคัญกับเขา ทุกคนไม่รังเกียจอายุที่น้อยของเขา แม้จะเข้ามาได้เพียงไม่นานแต่ทุกคนคือ ‘พวกพ้องของเขา’

‘ย่าห์หห’ ริคเตอร์หยิบโล่และดาบพร้อมกับวิ่งเข้าใส่ศัตรูที่เหลืออย่างสุดกำลัง โดยมีคนอื่นๆเข้าช่วยเหลือ

“พุ่งเข้าใส่เลยไอ้หนู ฉันจะคอยซ่อนด้านหลังให้” อามมี่ที่พุ่งตามมาพูดขึ้นจากทางด้านหลังริคเตอร์

สกิลขั้นพื้นฐานของคลาสนักรบ ที่หนักหน่วงรุนแรง ฟาดเข้าใส่ศัตรู พร้อมๆกับหลบฉากออกทางด้านซ้าย

หมัดตรง 2 ครั้งส่งเป้าหมายให้กระเด็นถอยหลังไปไกล เมดูซ่าพยายามลุกขึ้นแต่ก็ต้องถูกตึงด้วยฝนธนูจากด้านบนกดลงไปเช่นเดิม

“ไม่ต้องเข้าไปต่อแล้ว สาวน้อยในปาร์ตี้ของเราจะปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้เอง” อามมี่ดึงแขนเด็กหนุ่มเอาไว้

มีสีหน้างุนงงปรากฏขึ้นเล็กน้อยแต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว

สิ้นเสียงของอามมี่

‘ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม’

ศรไฟ 5 จากหิมะน้อยที่ใช่เวลาเตรียมร่ายค่อนข้างนานพอสมควร พุ่งเข้ากระแทกพร้อมๆกับแรงระเบิดที่มี เศษเนื้อ ต่างปลิวกระจายตามแรงระเบิด ส่งภาพที่ชวนสยดสยองให้กับเมดูซ่าที่หลงเหลือเป็นอย่างมาก

ไม่นานเมดูซ่าจำนวน 10 กว่าตัวก็ถูกสังหารตายลงจนหมด มิ แน่นอนสาเหตุที่พวกเขาต้องเร่งมือตัวเองกันขนาดนี้ก็เพื่อตามไปสมทบกับเจสเปอร์ที่รับมือกับราชินีเมดูซ่าอยู่เพียงลำพังให้ทัน...

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด