ตอนที่แล้วตอนที่ 37 เรียกร้องให้ทำการสอบสวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39 แก๊งต้มตุ๋น

ตอนที่ 38 ถูกแอบอ้าง


ตอนที่ 38 ถูกแอบอ้าง

เจสเปอร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันใหม่ทำกิจวัตรประจำวันดังเช่นทุกวัน ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะที่เดิมรับแสงแดดอ่อนๆในยามเช้า จนร่างกายตื่นตัวเต็มที่แล้วก็กลับเข้ามาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นคนที่มีเงินแล้วก็ต้องถึงเวลาที่จะต้องขยับขยายเสียที

เขาเดินออกจากห้องพักของตนพร้อมกับนั่งรถประจำทางไปที่ศูนย์รถยนต์ นี้คือปัจจัยสิ่งแรกที่จำเป็นต้องมีการเดินทางคือสิ่งสำคัญ เมื่อมาถึงหน้าศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งที่มีระดับพอสมควร เจสเปอร์เดินตรงเข้าไปภายในศูนย์พลางมองสำรวจ พนักงานรีบเข้ามาต้อนรับและถามถึงความต้องการ

“สวัสดีคะ ไม่ทราบลูกค้ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าค่ะ”พนักงานขายที่แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยเดินตรงเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“ผมต้องการรถ ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไม่ทราบว่าที่ศูนย์นี้มีขายหรือไม่”

เจสเปอร์บอกความต้องการของตัวเองไปที่เขาเลือกรถรุ่นนี้เป็นเพราะว่า หลังจากนี้ไม่กี่ปี ทางรัฐบาลจะออกกฎห้ามรถที่ใช้น้ำมันวิ่งบนท้องถนนอีกต่อไป สาเหตุเป็นเพราะว่าค่าเฉลี่ยมลพิษทางอากาศที่เพิ่มสูงมากขึ้นจนเป็นวิกฤตของทุกประเทศทำให้ทุกประเทศจำเป็นที่จะต้องจับมือกันช่วยกันเพื่อรักษาโลกใบนี้

“ทางศูนย์บริการของเรามีรถที่ลูกค้าต้องการเพียง 1 รุ่นเท่านั้นคะ หากลูกค้าสนใจขอเชิญทางด้านนี้”

เธอพายมือออกไปทางอีกฝั่งของตัวศูนย์ เขาเดินตามเธอออกไปข้างนอกซึ่งเป็นโกดังที่ใช้เก็บรถที่มีราคาค่อนข้างสูง ภายในโกดังประดับไปด้วยไฟที่ส่องสว่างมีรถหลายคันจอดเรียงรายกันมากมาย รถสปอร์ตและรถไฮคลาส มีให้เลือกสรร ระรานตา พนักงานขายคนเดิมพาเจสเปอร์อ้อมรถพวกนั้นไปทางด้านหลัง มีรถ 2 ประตู รูปทรงโฉบเฉี่ยว ทรงสปอร์ตจากยี่ห้อ Tesson จอดเอาไว้

เขาจำได้ในทันทีนี้คือรถต้นแบบของรถคันอื่นๆที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน พนักงานแนะนำเขาถึงสมรรถนะขอบรถคันนี้ให้เจสเปอร์ฟังอย่างละเอียด

“ราคาของมันประมาณเท่าไรครับ” แม้ว่าในอดีตของเขารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจะมีราคาไม่สูงมากแต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันรถที่ใช้ไฟฟ้ายังเป็นช่วงที่กำลังตั้งไข่

“ราคาคันนี้ตกอยู่ที่ 2ล้าน5แสนเครดิตหากลูกค้าต้องการอุปกรณ์ที่ครบครันและบริการที่ครบถ้วนราคาจะอยู่ที่ 3ล้านเครดิต”

ในช่วงบอกราคาพนักงานมีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยความกังวลของเธอคือการจะปิดการขายได้อย่างไรแม้เธอจะเคยเจอลูกค้ามาทุกระดับ แต่รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าคันนี้ ศูนย์บริการของเธอไม่เคยที่จะขายพวกมันออกเลย เพราะเธอเองที่เป็นพนักงานขายก็ต้องยอมรับว่ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าความเร็วอาจไม่สู้รถที่ใช้น้ำมันแถมผู้ใช้หลายๆคนก็กลัวว่าจะแบตเตอรี่จะหมดหาที่ชาร์จยาก ทำให้รถที่ใช้ไฟฟ้าไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักในเวลานี้

แม้เธอจะกังวลว่าจะขายรถรุ่นนี้ไม่ได้เมื่อขายไม่ได้ก็ไม่มีค่าคอมมิชชั่นแต่เธอรักการขายมาตั้งแต่เด็ก เธอช่วยพ่อแม่ขายผักที่ตลาดสิ่งเหล่านี้เลยทำให้เธอรักในการขาย เธออาสาที่จะเข้ามาต้อนรับลูกค้ารายนี้ ในขณะที่พนักงานขายคนอื่นๆปฏิเสธเพราะเห็นว่าลูกค้าที่เข้ามาซื้อเป็นเพียงเด็กหนุ่มมหาลัยน่าจะไม่มีกำลังจ่ายเงินซื้อรถรุ่นแพงๆได้ ค่าคอมมิชชั่นเองก็ได้น้อยไม่คุ้มกับการเสียเวลามาดูแล

“3 ล้านเครดิตนี้คือได้ครบทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ” เจสเปอร์ตอบกลับไปด้วยสีหน้าปกติ เงิน 3  ล้านอาจจะเป็นเงินที่มากเกินไปในตอนนี้ แต่เพื่ออนาคตแล้วเงินแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขามาก

พนักงานขายสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามเมื่อครู่แต่เธอก็ยังรักษาความสงบเอาไว้ได้

“ใช่คะ ครบทุกบริการที่ศูนย์เรารับประกันส่วนภายในจะมีฟังก์ชั่นมากมายที่เพิ่มเข้ามา รายละเอียดอยู่ในแผ่นพับที่ลูกค้าถืออยู่”

“งั้นตกลงเอาตามนี้เลยครับ”

“...”

พนักงานขายสาวอึ้งไปแล้วจริงๆเธอปิดการขายได้ภายในไม่ถึง 15 นาทีแถมขายรถที่ขายยากที่สุดในศูนย์บริการแห่งนี้ออกแล้ว เธอพยายามตั้งสติ เดินนำลูกค้าที่ดูยังไงก็เป็นเพียงแค่เด็กมหาลัยเท่านั้นกลับไปที่ ศูนย์บริการพร้อมกับนำน้ำมาเสริฟ์ให้ก่อนที่จะขอตัวไปเตรียมเอกสาร

พนักงานขายคนอื่นๆเมื่อเห็นการกระทำของเธอก็คิดว่าเธอบ้าไปแล้ว จะเสริฟน้ำให้ลูกค้าที่ไม่ซื้อรถทำไม แม้การดูถูกลูกค้าจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในงานบริการหรือการขาย แต่คนสมัยนี้แทบจะทุกชนชั้นต่างก็ดูถูกผู้อื่นอยู่เสมอ การเหยียดเพศสภาพ หน้าตา สีผิว เหยียดชาติพันธ์หรือเหยียดฐานะการเงินความรู้ ยังปรากฏให้เห็นอยู่แทบทุกวินาที ไม่ต่างอะไรกับพนักงายขายพวกนี้

“นี้ซันนี่ทำไมเธอถึงไปเสริฟน้ำให้เด็กมหาลัยนั้นด้วยจะเสียเวลาทำไม ดูสิลูกค้าฉันมาแล้ววันนี้ฉันจะปิดการขายให้ได้เลยดูฉันเป็นตัวอย่างให้ดีละ”

ซันนี่ที่พนักงานขายสาวอีกคนพูดถึงด้วยนั่นก็คือพนักงานขายที่ต้อนรับเจสเปอร์นั้นเอง ส่วนเพื่อนร่วมงานที่บอกให้เธอดูวิธีการขายจากเธอตอนนี่รีบเดินแทบจะวิ่งไปหาลูกค้าหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาอยู่แล้ว

ซันนี่ไม่ได้สนใจการก็ทำกับเพื่อนร่วมงานที่พูดเลยสักนิด เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเตรียมเอกสารและสัญญาที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมดอย่างละเอียด

ไม่นานนักพนักงานสาวที่พูดกับซันนี้ก็กลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ปรากฏรอยยิ้มอย่างเต็มภาคภูมิ

“ซันนี่ไหนๆเธอก็เตรียมเอกสารแล้วงั้นช่วยเตรียมเอกสารซื้อขายให้ฉัน 1 ชุดน่ะ แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับการขายให้เป็นการตอบแทนเธอก็แล้วกัน”

ซันนี่มองหน้าเธอเล็กน้อย แต่ก็ต้องทำตามคำขอนั่นอย่างจนใจ เพราะพนักงานขายคนดังกล่าวคือรุ่นพี่ที่ทำงานและอาวุโสกว่าในด้านอายุ เธอเลยจำเป็นต้องเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมดอีก 1 ชุดพร้อมกับส่งให้เธอไป

“ขอโทษที่ให้คอยนานนะคะ ดิฉันชื่อซันนี่ส่วนคือนี้เอกสารทั้งหมดลูกค้าลองนั่งอ่านดูหากมีคำถามก็สามารถถามได้เลยค่ะ”

“ผมเจสเปอร์ครับ”

เจสเปอร์ยื่นมือไปจับทักทายกับเธอเป็นมารยาท แล้วก็กลับมานั่งอ่านเอกสารตรงทั้งหมดโดยละเอียด เมื่ออ่านเอกสารจนครบถ้วนแล้วโดยเนื้อหาหลักๆยังคงคล้ายคลึงกับการซื้อชายในอดีตของเขาเกือบทั้งหมดมีบางคนที่แตกต่างอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล

“ผมอ่านครบหมดแล้วครับ ยังมีจุดในที่ทางคุณซันนี่อยากจะเน้นย้ำอีกหรือเปล่าครับ”

ซันนี่ทำหน้าที่ของเธอได้ดีมาก เธอไล่จุดสำคัญที่กังวลให้ทั้งหมด ไม่มีหมกเม็ดซ่อนกลในข้อสัญญาที่มีเลย ซึ่งทำให้เจสเปอร์ประทับใจในการขายของพนักงานขายคนนี้มาก เขาทำสัญญาลงไปในทันทีพร้อมกับชำระเงินทั้งหมดในคราวเดียวไม่มีการผ่อนจ่าย

กระบวนการซื้อขายทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่าไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ปิดการขายได้โดยสมบูรณ์กำหนดรับรถมีขึ้นในอีก 3 วันนับจากนี้ เมื่อการซื้อรถยนต์เสร็จสิ้นเจสเปอร์ก็จากไปพร้อมกับสร้างพายุที่ศูนย์บริการแห่งนี้โดยไม่รู้ตัว

“เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกันซันนี่ เธอบอกรู้ไหมว่าเป็นลูกหลานเศรษฐีคนไหนหรือเปล่า”หัวหน้าประจำศูนย์รีบวิ่งลงหลังจากได้รับเอกสารของซันนี่อย่างรวดเร็ว

“พวกเธอไม่ได้มีใครทำกิริยาไม่เหมาะสมกับลูกค้าคนนี้กันใช่ไหม”

ไม่ใช่เรื่องแปลกของหัวหน้าศูนย์ที่จะเจอกับลูกค้าระดับบิ๊กเนม ระดับไฮโซ เขาเจอมาหมดแล้วแต่สิ่งหนึ่งที่จ้องรับมือกับบุคคลพวกนี้คืออย่าสร้างปัญหาให้คนเหล่านี้ไม่พอใจ ไม่อย่างนั้นต้องมีใครที่ศูนย์แห่งนี้ปลิวแน่ ทั้งศูนย์ไม่มีใครกล้าตอบคำถามเมื่อครู่ แม้ไม่มีใครแสดงออกทางคำพูดแต่ลักษณะท่าทางที่ไม่กระตือรือร้น ตัวพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มปริศนาจะเห็นไหม ส่วนพนักงานขายอีกคนที่เพิ่งปิดการขายได้ก็ต้องอับอายลูกค้าที่เธอเอาใจมาตลอด 5 วัน ที่ซื้อรถรุ่น 8แสนเครดิตจะเอาอะไรไปเทียบกับ 3 ล้านกันแถมเวลาที่ใช้ก็เพียงแค่ 2 ชั่วโมง ใครกันแน่ที่จะต้องขอเทคนิคของอีกฝ่าย

หลังจากที่เจสเปอร์ซื้อรถเสร็จก็เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ต้องรีบจัดการอีกเรื่องนั่นก็คือ ที่อยู่อาศัยด้วยความที่เขายังไม่พร้อมในการซื้อบ้าน คอนโดคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เจสเปอร์ใช้เวลาเข้า ออก คอนโดแห่งนู้นแห่งนี้อยู่หลายชั่วโมง ก็มาเจอคอนโดที่ถูกใจอยู่ติดกับอาคารเก่าหลังหนึ่ง ที่อยู่ในย่านระหว่างกลางเมือง ที่คอนโดแห่งนี้มีบริการที่ครบครันราคาของมันอยู่ที่ห้องละ 3.5ล้านเครดิต พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครันพร้อมอยู่อาศัยเจสเปอร์เดินสำรวจภายในห้องจนพอใจ เขาก็ตัดสินใจเลือกที่นี้เป็นบ้านของเขา

การซื้อขายเป็นไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับการซื้อรถก่อนหน้านี้ กุญแจห้องคอนโดนี้ก็อยู่ในมือของเขาเป็นที่เรียบร้อย เจสเปอร์เดินสำรวจภายในห้องอีกครั้งและสั่งเฟอร์นิเจอร์ที่เขาต้องการอีกสักเล็กน้อยกับผู้ดูแล โดยห้องของเขาจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมอยู่ภายใน 1 อาทิตย์

เมื่อกลับถึงห้องเก่าของเขาหลังจากที่จัดการธุระทั้งหมดเรียบร้อย เขาก็ทำการล็อคอินเข้าเกมโดยทันที

เจสเปอร์มาอยู่ที่ห้องพักส่วนตัวที่เช่าไว้ในโรงแรม ภายในห้องไม่มีใครอยู่ทุกคนน่าจะออกไปเก็บเลเวลกันหมดแล้วเพราะธุระในวันนี้ของเขากว่าจะเรียบร้อยก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว

[ฉันมาแล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน]

เจสเปอร์ส่งข้อความลงไปในช่องสื่อสารของปาร์ตี้หลังจากที่ตรวจเช็คตลาดการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว

[กำลังเก็บเลเวลกันอยู่ที่ดันเจี้ยนป่าขุนเขากันอยู่ นายจะตามมาไหม ของที่นายให้พวกฉันซื้อไว้ พวกฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหา]

[พวกนายเก็บเลเวลกันต่อเถอะ วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยๆ คงออนไลค์แค่แปปเดียวแล้วก็ไปแล้ว]

เจสเปอร์รู้สึกเหนื่อยจริงๆ เขาเดินหาที่อยู่นานมากกว่าจะพบคอนโดที่ถูกใจและอีกอย่างพรุ่งนี้เขามีเรียนการไปหลับในห้องเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เขาเดินออกจากโรงแรมก็ได้ยินคนจับกลุ่มพูดคุยกันเสียงดัง โดยมีเนื้อหาใจความว่า

‘เพื่อนของตัวเองรู้จักกับสมาชิกปาร์ตี้ Rising Sun ที่โด่งดัง หากใครต้องการจะลงดันเจี้ยนกันคนเหล่านี้ก็จ่ายเงินมา’

หลังจากที่ยืนฟังอยู่ไม่นานก็มีชายแปลกหน้าเดินมาสะกิดที่หลัง

“น้องชายสนใจจะเข้าร่วมกับ Rising Sun สินะ เอางี้ฉันจะบอกความลับอะไรให้ แล้วอย่าไปบอกใครล่ะฉันคนนี้รู้จักกับหัวหน้ากลุ่ม Rising Sun ที่ลึกลับด้วยละ” ชายแปลกหน้าที่เจสเปอร์ไม่เคยเห็นหน้ากำลังแอบอ้างว่ากำลังรู้จักเขาอย่างนั้นหรอ ช่างตลกสิ้นดี

“…”

“ฉันคนนี้พานายเข้ากลุ่มปาร์ตี้ Rising Sun ได้น่ะถ้านายต้องการเพียงแค่จ่าย 5 เหรียญเงิน ฉันคนนี้จะพานายไปรู้จักกับหัวหน้าปาร์ตี้เอง”

‘5เหรียญเงิน’ เพื่อพามารู้จักเขาเนี่ยนะ บ้าบอกันไปใหญ่แล้วนี้คือการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์แต่เจสเปอร์อยากที่จะรู้แผนการของกลุ่มคนพวกนี้อีกสักหน่อยเลยเลือกที่จะเล่นละครตามน้ำไป

“ฉันจะรู้ได้ไงว่าที่นายพูดเป็นเรื่องจริง”

“เอายังงี้ ฉันจะพานายกับคนอื่นๆไปพบกับ 1 ในสมาชิกของปาร์ตี้ก็แล้วกัน” ชายแปลกหน้ายังคงมีน้ำเสียงที่ปกติ หากเจสเปอร์ไม่ใช่คนที่พวกคนเหล่านี้กล่าวถึงก็คงอาจจะหลงเชื่อไปแล้วก็ได้ แต่ในเมื่อเขาอยากที่จะรู้ต้นตอของชายกลุ่มนี้ก็คงมีอย่างเดียวที่จะทำได้คือการปล่อยให้พวกมันดำเนินแผนการกันต่อไป

มีผู้เล่นอีก 10 กว่าคนที่เดินตามชายแปลกหน้าคนนั้นไป เพราะต่างคาดหวังว่าจะได้พบกับหัวหน้าปาร์ตี้ที่โด่งดัง บางคนก็จ่ายเงินที่มีออกไปแล้วด้วยเพื่อได้รับคำสัญญาว่าจะพาลงดันเจี้ยนหากจ่ายเงินให้ก่อนและ 1 ในนั้นก็คือ ชายที่ชื่อ ริคเตอร์ ชายที่กระหน่ำคอมเมนต์ตอบโต้กับเหล่ากิลด์ที่ตั้งแง่กับข้อสงสัยในปาร์ตี้ของเขาอย่างสุดกำลัง เจสเปอร์สังเกตคลาสอาชีพของชายที่ชื่อ ริคเตอร์ ก็พบว่าชายคนนี้เลือกเล่นคลาสนักรบ

“สวัสดีนายคือริคเตอร์ที่คอมเมนต์ตอบโต้กับพวกกิลด์ชั้นนำในกระทู้ใช่ไหม”เจสเปอร์กล่าวทักทายแฟนคลับเดนตายคนนี้อย่างสุภาพ ซึ่งการทักทายนี้ก็ทำให้เจสเปอร์ตกใจอยู่เล็กน้อย

“สวัสดี นายได้เห็นคอมเมนต์ของฉันด้วยหรอ แปลกจังที่มีคนมาสนใจคำพูดของฉันด้วยนึกว่าจะมีแต่พวกกิลด์ใหญ่ๆซะอีก” เสียงที่ยังไม่แตกหนุ่มดีนี้เองที่ทำให้เขาตกใจ ทั้ง 2 พูดคุยกันไปตลอดทางโดยมีชายแปลกหน้านำทาง

ทางที่ชายแปลกหน้าเลือกนำไปยิ่งคดเคี้ยวและห่างไกลออกจากตัวเมืองมาไกลพอสมควร ไม่ใช่เจสเปอร์คนเดียวที่เอะใจ มีอีกหลายคนเริ่มกระสับกระสาย

“พี่ชายมันไม่ไกลเกินไปหน่อยหรอ แน่ใจน่ะว่านำทางพวกเรามาถูก” 1 ใน คนที่เดินตามเริ่มส่งเสียงทักทวง

“ก็ต้องไกลสิ พวกนายจะให้คนที่ลึกลับเปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณะชนกันหรือยังไง อย่าพูดมากน่ารีบตามมา”

ชายแปลกหน้าเปลี่ยนน้ำเสียงในการพูดจากตอนแรกไปโดยสิ้นเชิง และเมื่อสังเกตสายตาที่ลอกแลก เจสเปอร์ก็เข้าใจแผนการทั้งหมดของชายแปลกหน้าทันที ในเมื่อเขารู้เรื่องตั้งแต่ต้นแล้วมีหรือที่จะปล่อยแฟนคลับที่ออกโรงปกป้องพวกเขาให้มาตายง่ายๆ เจสเปอร์เดินเข้าไปประชิดริคเตอร์พร้อมกับพูดเบาๆให้ริคเตอร์ได้ยิน

“ฟังฉันให้ดีนะริคเตอร์ ชายคนนี้น่าจะเป็นแก๊งต้มตุนหลอกเอาเงิน ทางที่ดีตอนนี้เรายังมีโอกาสหนีได้อยู่รีบหนีเถอะ”

เจสเปอร์ไม่ได้กลัวที่จะรับมือกับผู้เล่นคนอื่นแต่เขาไม่อยากให้ ริคเตอร์ที่เคยปกป้องตนในยามสงครามอินเตอร์เน็ตเมื่อคืนต้องเดือดร้อน ส่วนคนอื่นๆที่ตามชายแปลกหน้ามาหลังจากที่เขาได้พูดคุยด้วยคนเหล่านี้ล้วนหวังผลประโยชน์กับตัวเขาแทบทั้งหมด แต่มีอีกคนหนึ่งยังคงทำตัวลึกลับไม่พูดคุยกับใครแม้แต่น้อยดูจากท่าทางไม่น่าใช่คนแก๊งเดียวกับคนแปลกหน้าด้วยเช่นกัน

งั้นทั้งหมดในกลุ่มคนที่ตามมามีเพียงริคเตอร์คนเดียวเท่านั้นที่สมควรแกการปกป้อง เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้แฟนคลับของเขามีอันตราย

“อ้อฉันรู้อยู่แล้วว่าพวกนี้หลอกลวง ฉันแค่ไม่อยากให้ใครเอาชื่อเสียงของกลุ่มปาร์ตี้ที่ฉันชื่นชอบมาทำให้มั่วหมองน่ะ”

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด