ตอนที่แล้วPTH33 ปรมาจารย์ยันต์เว่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปPTH35 อย่ากลัวไป

PTH34 โอสถผสานว่างเปล่า


ห้องรับรองพิเศษมีอยู่ราว 20 ห้อง มีแขกพิเศษที่ถูกเชิญเข้าร่วมงานราว 50 คน แต่ละคนล้วนนั่งเงียบไม่ได้ทำตัวโดดเด่น จะมีก็เพียงหลี่หงหลินที่นั่งยิ้ม จงใจทำตัวเด่นให้สะดุดตเว่ยสั่วและหนานกงยู่ฉิง

เมื่อผู้เข้าร่วมงานมากันจนครบจำนวนที่งานประมูลจะจุได้ บุรษในอาภรณ์ม่วง ผู้ดูแลพลับพลาหยกทองก็ปรากฏตัว กล่าวทักทายผู้เข้าร่วมประมูลก่อนจะเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการ

“สิ่งนี้คือแก่นดาราเงิน วัตถุดิบสร้างอาวุธระดับสูง ราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ 500 ศิลาวิญญาณระดับล่าง!”

ผู้เยาว์คนหนึ่งที่ยืนข้างกายผู้ดูแลพลับพลาหยกทอง ถือถาดที่วางไว้ด้วยโลหะชิ้นหนึ่งขนาดเท่ากำปั้น

“แก่นดาราเงิน!” เว่ยสั่วตกตะลึง

แก่นดาราเงินเป็นโลหะที่แข็งมาก หากได้ผสานเข้ากับวัตถุดิบสร้างอาวุธอื่นๆ จะเสริมความทนทานให้อาวุธได้มาก โลหะชนิดนี้เป็นที่ต้องการสำหรับมือกระบี่บิน หากกระบี่บินแข็งแกร่งขึ้นก็ส่งผลให้ฝีมือของคนเหล่านั้นดีขึ้นเช่นเดียวกัน

ในแคว้นสวรรค์ลึกล้ำ กระบี่บินจัดเป็นอาวุธรรมดาสามัญ แต่กลับทรงพลังจนน่าตระหนก ผู้ที่จะใช้กระบี่บินได้นั้นขั้นต่ำต้องบรรลุเขตขั้นวัฏจักรสวรรค์ที่ 2 เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะต้องใช้ปราณที่ค่อนข้างทรงพลังควบคุม แต่ด้วยเป็นระดับเริ่มต้นที่จะควบคุมกระบี่บินได้ ระยะการจู่โจมของกระบี่บินจึงไม่ไกลนัก หากเป็นระดับพลังของเว่ยสั่วยามนี้ ยังไม่อาจควบคุมกระบี่บินได้ แต่เมื่อคิดถึงอานุภาพของกระบี่บินที่เพิ่มขึ้นจากแก่นดาราเงิน เว่ยสั่วก็อยากได้มาครอบครอง

ในงานประมูลแห่งนี้มีผู้ฝึกตนเขตขั้นวัฏจักรสวรรค์อยู่หลายคน คนเหล่านั้นย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะได้ครอบครองแก่นดาราเงินหลุดลอย

“500 ศิลาวิญญาณระดับล่าง ข้าประมูล!” ทันทีที่ผู้ดูแลพลับพลาหยกทองกล่าวราคาตั้งต้นจบ ผู้ฝึกตนในอาภรณ์แดงผู้หนึ่งก็กล่าวขึ้นพลางยกมือ

สายตาทุกคู่จับจ้องที่คนผู้นั้น

“600 ศิลาวิญญาณระดับล่าง!”

เจ้าของเสียงอยู่ไม่ไกลจากห้องรับรองของเว่ยสั่ว

“650 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

เสียงของชายชราผู้หนึ่งดังขึ้น มันผู้นั้นหันมองเจ้ของเสียงเมื่อครู่ราวกับอยากประชัน แต่จู่ๆก็มีเสียงของคนผู้หนึ่งดังตามมา

“700 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

“800 ศิลาวิญญาณระดับล่าง” คนผู้หนึ่งกล่าวด้วยแววตาที่เปี่ยมการข่มขู่คุกคาม

“1000 ศิลาวิญญาณระดับล่าง” คนผู้หนึ่งกล่าวประชันราคา

ผู้คนส่งเสียงฮือ แม้ว่าแก่นดาราเงินจะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้เป็นที่ต้องการมากขนาดที่ราคาจะต้องพุ่งสูงถึง 1000 ศิลาวิญญาณระดับล่าง

ชายชราที่ประชันราคาเมื่อครู่ขมวดคิ้ว แต่ด้วยที่อีกฝ่ายสามารถเพิ่มราคาขึ้นได้ 200 ศิลาวิญญาณระดับล่าง แสดงว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ไม่ใช่ผู้ที่มันจะล่วงเกินได้

ผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อไม่มีผู้ใดประชันราคา ผู้ดูแลพลับพลาหยกทองจึงสั่งให้ผู้เยาว์ข้างกาย นำแก่นดาราเงินไปส่งยังห้องรับรองพิเศษห้องหนึ่ง

ด้วยความที่เป็นงานประมูล การประชันราคาจึงไม่ต่างจากการต่อสู้ที่ดุเดือด จึงทำให้บรรยากาศในงานระอุขึ้น

“ของประมูลชิ้นต่อไปคือ แก่นอสูรระดับ 4 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 300 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

“ของล้ำค่า!”

แก่นอสูรที่นำมาประมูลมีลักษณ์เป็นสีน้ำตาล กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเป็นกลิ่นอายของอสูรธาตุดิน หากเป็นทั่วไปจะขายได้ที่ราคา 200 ศิลาวิญญาณระดับล่าง แต่ด้วยแก่นอสูรที่นำมาประมูลนั้นไม่ใช่แก่นอสูรธรรมดา เป็นแก่นอสูรธาตุดินพิเศษเฉพาะ เป็นประโยชน์กับผู้ที่ฝึกฝนธาตุดินเป็นหลัก... กว่าจะได้แก่นอสูรมาไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงตั้งราคาเริ่มต้นขายอยู่ที่ 300 ศิลาวิญญาณระดับล่าง

ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนประชันราคาประมูลจนสูงถึง 500 ศิลาวิญญาณระดับล่าง คนผู้นั้นเป็นผู้ฝึกตนธาตุดินและได้ครอบครอแก่นอสูรไป

“ของประมูลชิ้นต่อไปคือเกราะน้ำแข็ง!”

เกราะน้ำแข็งที่นำเข้าประมูล สร้างจากเกราะบนร่างของอสูรน้ำแข็งระดับ 4 มีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยม นับเป็นของล้ำค่าสำหรับผู้ฝึกตนไร้สังกัด เกราะชุดนี้ทำให้เว่ยสั่วนึกถึงเย่เสี่ยวเจิ้ง น่าจะเข้ากับเย่เสี่ยวเจิ้งมาก

การประมูลยังคงดำเนินต่อไป เว่ยสั่วนั่งมองสิ่งต่างๆที่เข้าร่วมประมูล แม้ของเหล่านี้จะเป็นของล้ำค่า แต่ด้วยระดับพลังของเว่ยสั่วยังใช้พวกมันไม่ได้

“ของชิ้นต่อไปคือ โอสถผสานว่างเปล่า เป็นโอสถที่นักปรุงโอสถมีชื่อเสียงอย่างจี้หยาได้ปรุงขึ้นด้วยตนเอง เป็นโอสถที่สามารถยกระดับพลังขึ้นหนึ่งระดับในเวลาสั้นๆ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1500 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

ราคาเริ่มต้นทำให้ผู้คนตกตะลึง โอสถถูกนำออกมาพร้อมกับกล่องใบหนึ่งที่ภายในบรรจุโอสถสีแดงเอาไว้

โอสถผสานว่างเปล่าาเป็นโอสถระดับสูง ปรุงได้ยาก แต่ช่วยเหลือในยามคับขันได้ดี ยกตัวอย่างเช่นหากกำลังต่อสู้กับอสูรที่มีระดับฝีมือใกล้เคียงกัน ต่างฝ่ายต่างอยากสังหารอีกฝ่าย หากมนุษย์ได้กินโอสถผสานว่างเปล่าเข้าไป ระดับพลังจะถูกยกขึ้น 1 ระดับทันที สร้างความได้เปรียบมหาศาล

เมื่อมีโอสถล้ำค่ามาปรากฏตรงหน้า เหตุใดผู้ที่เข้าประมูลจะปล่อยให้ลอยผ่านไป

โอสถเม็ดนี้ผู้ที่ปรุงขึ้นมีนามว่าจี้หยา เป็นสาวงามประจำเมืองจิตวิญญาณสูงสุด เว่ยสั่วยังไม่เคยเห็นนางมาก่อน รู้แค่เพียงว่านางคือสาวงามเย็นชาราวหิมะ เป็นผู้ที่งดงามที่สุดในเมืองจิตวิญญาณสูงสุด

“1500 ศิลาวิญญาณระดับล่าง!”

แม้โอสถจะมีราคาสูงเสียดฟ้า แต่ยังมีผู้ที่กล้าประมูล เป็นห้องรับรองพิเศษที่อยู่ถัดจากห้องของเว่ยสั่วไปไม่ไกล

“4000 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

หลังจากประชันราคากันขนานหนัก สุดท้ายราคาก็สิ้นสุดอยู่ที่ 4000 ศิลาวิญญาณระดับล่าง

หลังจากได้ศิลาวิญญาณมาจากหยกเย็น เว่ยสั่วคิดว่าตนเองก็เป็นผู้มั่งคั่งผู้หนึ่ง แต่เมื่อได้เห็นผู้ที่ประชันราคาในงาน กลับรู้สึกราวกับตนเองไม่ต่างไปจากยาจก

“ดูท่าข้าคงต้องหาวิธีกอบโกยศิลาวิญญาณมาให้ได้!”

“ของประมูลชิ้นต่อไปคือ พู่กันวาดยันต์ทองคำ สร้างมาจากหางของอสูรระดับ 4 โดยร้านชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองจันทราร่วงโรย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 300 ศิลาวิญญาณระดับล่าง”

เมื่อพู่กันวาดยันต์ปรากฏ สีหน้าเว่ยสั่วแปรเปลี่ยน ดวงตาเบิกกว้าง สายตาจับจ้องพู่กันด้ามนั้นที่วางอยู่บนถาดไม่วางตา หางอสูรที่นำมาทำพู่กันเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ

หลังจากได้วาดยันต์กับมืออยู่นาน เว่ยสั่วจึงรู้ดีว่า พู่กันวาดยันต์ชั้นดีย่อมทำให้วาดยันต์ได้ราบรื่นขึ้น อัตราความสำเร็จก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

“เป็นอะไรไปท่านปรมาจารย์ยันต์เว่ย สนใจพู่กันนั่นเหรอ?” หนานกงยู่ฉิงสังเกตุสีหน้าของเว่ยสั่วพลางหัวเราะขบขัน

“ถึงข้าอยากจะได้แต่ก็คงไม่มีปัญญา” เว่ยสั่วถอนหายใจ

“ถ้าเจ้าอยากได้จริงๆ ข้าจะให้ยืมศิลาวิญญาณ” นางยิ้มพลางกล่าว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด