ตอนที่แล้วตอนที่ 18 ฝันร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 หนอนกู่น้อยคลั่งไคล้คนงาม

ตอนที่ 19 ล่อหนอนกู่


ตอนที่ 19 ล่อหนอนกู่

สายตาเขาเลื่อนไปมองกระจกสูงเกือบครึ่งตัวที่อยู่ด้านข้างโดยไม่ทันรู้ตัว

บุรุษร่างสูงยืนหลังตรงผู้หนึ่งสะท้อนกลับมา ผมที่ยาวถึงเอวดูโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยเรือนผมมีสีเงินเหลือบขาวดั่งหิมะ

หลายครั้งหลายคราที่เขาไม่อาจแยกแยะได้ว่าเขาอยู่ในโลกแห่งความฝันหรือโลกแห่งความเป็นจริง

ส่วนบุรุษตรงหน้าเขาผู้นี้ ถึงจะเป็นเวลานานแล้ว ทว่าเขาก็ยังรู้สึกไม่ชินสักที

หลังจากเสี่ยวอวี่ตายไป เขาก็ทำตามคำขอสุดท้ายของนาง นั่นคือแอบนำร่างของนางออกไป ทว่าโชคร้ายที่ชายคลั่งผู้นั้นไม่ยอมปล่อยแม้กระทั่งร่างของนางให้หลุดมือ

ตอนที่เขากำลังจะหลบหนีออกจากรังปีศาจนั่นพร้อมกับร่างของเสี่ยวอวี่ เขาก็ถูกเจอตัวเสียก่อน

บุรุษผู้นั้นสั่งให้นักฆ่าทำร้ายเขาเสียปางตาย แถมยังฉีกชุดแต่งงานบนร่างของเสี่ยวอวี่ต่อหน้าต่อตาเขา นัยน์ตาของนางปิดสนิท สีหน้านางเป็นสุขยิ่ง ทั้งอ่อนโยนและงดงามราวกับว่านางกำลังนอนหลับอยู่เท่านั้น

ทว่านางไม่อาจลืมตาขึ้นมาอีกต่อไป ไม่อาจขยับเขยื้อนกายได้อีกต่อไป ไม่อาจโต้ตอบได้อีกต่อไป

สตรีที่เขายกย่องสูงส่งราวกับเทพเซียน กระทั่งหลังจากสิ้นใจไปแล้ว กลับถูกหมิ่นเกียรติถึงเพียงนี้

ในตอนนั้นเขาถูกคนหลายคนจับตัวไว้ ทว่าวินาทีที่เห็นภาพนั้น ในหัวเขาพลันมีความคิดบ้าคลั่งหนึ่งผุดขึ้น เขาอยากฆ่าคนผู้นั้น อยากจะสังหารปีศาจที่ทำให้เสี่ยวอวี่ต้องแปดเปื้อน!

พริบตาต่อมาร่างกายเขาก็พลันเปลี่ยนแปลงไป พลังภายในร่างพลุ่งพล่าน ผมสีดำที่ยาวถึงหูของเขายาวขึ้นอย่างรวดเร็วและแปรเปลี่ยนเป็นสีเงินเหลือบขาวราวกับหิมะ ทำให้นักฆ่าเผลอปล่อยมือออกจากร่างเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

เขามองเห็นความหวาดกลัวในนัยน์ตาของบุรุษผู้นั้น ทว่าก็สายไปเสียแล้ว ในหัวเขาตอนนี้มีเพียงความคิดที่จะฉีกร่างคนผู้นั้นเป็นชิ้น ๆ!

เขาอยากให้ใต้หล้าเจิ่งนองไปด้วยเลือด ให้โลกที่ทำให้นางต้องจากไปไม่มีโอกาสได้เห็นแสงตะวันอีกเป็นครั้งที่สอง!!

หลังจากนั้นเขาก็ออกฆ่าสังหารอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็พบว่าตนเองมาอยู่ในโลกแปลกประหลาดใบนี้แล้ว

เขารู้เพียงว่าโลกแห่งนี้กับโลกที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่นั้นเป็นคนละโลกกัน ทว่าก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ผู้คนที่นี่บำเพ็ญเพียรเช่นเดียวกัน พลังวิญญาณที่นี่หนาแน่นกว่า ดังนั้นจึงสามารถบำเพ็ญเพียรได้รวดเร็วยิ่งกว่าในโลกที่เขาเคยอยู่

ที่เขาหลับลึกไปนานในครั้งนี้เป็นเพราะเขาบำเพ็ญเพียรจนถึงขีดสุด ต้องทะลวงไปยังขั้นพลังด่านต่อไป พลังจึงไม่มั่นคง ดังนั้นการหลับลึกเช่นนี้สามารถช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ ดูดซับพลังเหล่านั้นได้

ตอนนี้ทั่วทั้งร่างเขารู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองมีขั้นพลังด่านไหน เป็นเพราะวิธีที่เขาใช้บำเพ็ญเพียรนั้นแตกต่างกับคนที่นี่อย่างสิ้นเชิง

หากเสี่ยวอวี่ยังอยู่ นางต้องรู้เป็นแน่!

“เสี่ยวอวี่…..” ชิงเยี่ยหลีอดพึมพำเสียงเบาออกมาไม่ได้ นัยน์ตาเขาพลันหรี่ลงเมื่อความคิดบ้าบิ่นความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว

เป็นไปได้ไหมว่าเสี่ยวอวี่ยังมีชีวิตอยู่?

ในเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ นางที่มีขั้นพลังด่านครึ่งสวรรค์ก็คงไม่แตกดับลงได้ง่ายถึงเพียงนั้น!

ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนี้แน่ สตรีที่มีจิตใจงดงามเช่นนางไม่อาจสลายหายไปเช่นนั้นแน่ ไม่แน่ว่านางเองก็อาจจะเดินทางมายังแดนประหลาดแห่งนี้เช่นเดียวกัน!

ชิงเยี่ยหลีสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะยื่นมือออกไป ทันใดนั้นไข่มุกสีขาวก็ปรากฏขึ้นในมือ

“ไม่หรอก นี่ให้เจ้า”

“คืออะไร?”

“ด้านในมีจิตของข้าอยู่เสี้ยวหนึ่ง หากวันไหนเจ้าตามหาข้าไม่เจอหรือพบเจออันตรายใด บีบมันให้แตก ข้าจะสามารถสัมผัสถึงมันได้”

จิตเสี้ยวหนึ่งของนางชิ้นนี้ เขาได้รับมันมาแล้วหลายปี ทว่าเขากลับไม่กล้าใช้มัน หากแต่ในตอนนี้คงได้แต่พึ่งมันในการตามหาตัวเสี่ยวอวี่แล้ว

“ข้าสบายดี หวังว่าเจ้าเองก็จะสบายดีเช่นกัน” ชิงเยี่ยหลีหลับตาลง ก่อนจะกำมือแน่น บีบไข่มุกในมือจนแหลกละเอียดอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป

หวังว่าจะไม่สายเกินไป

-------------------

“อึ่ก…..”

เด็กสาวที่กำลังจดจ่ออยู่กับการปรุงยาพลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หว่างคิ้ว

เมื่อเห็นว่ายาที่เกือบจะปรุงสำเร็จกำลังจะถูกทำลายลง นางจึงรีบกัดปลายลิ้นตนและใส่กำลังภายในเข้าไปอย่างเร่งรีบ ทันรักษายาไว้ได้พอดิบพอดี

จากนั้นนางจึงค่อย ๆ เทยานั่นเก็บลงในขวดกระเบื้องที่ถูกทำขึ้นมาโดยเฉพาะก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“เมื่อครู่คืออะไรกัน?” ชิงอวี่พึมพำกับตนเอง มือก็นวดขมับไปด้วย ความเจ็บปวดเมื่อครู่เจ็บลึกไปถึงวิญญาณในร่าง เป็นความรู้สึกที่ใกล้ชิดและคุ้นเคยนัก

หรือว่า…..

“เป็นไปไม่ได้ เรื่องเช่นนั้นไม่มีทาง ข้าคงคิดมากไป”

ชิงอวี่หัวเราะก่อนจะส่ายหน้ากับตนเองเบา ๆ วันนี้นางยังต้องมานั่งแก้ปัญหาเพื่อตามชดใช้หนี้ที่ติดค้างไว้ ดังนั้นจึงไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอื่นมากนัก

— หอเมฆาเคลื่อน —

“คุณชาย….. คุณชายชิง! เจ้าทำอะไรน่ะ!?”

ไป๋จือเยี่ยนร้องถามขึ้นด้วยความตกใจ ยืนมองภาพเจ้าเด็กหน้ามนที่กำลังถอดเสื้อผ้าบุรุษที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างชำนิชำนาญด้วยอาการอ้าปากค้าง ในตอนนั้นเองที่เจ้าหนูกำลังเงื้อกรงเล็กปีศาจหมายจะถอดกางเกงคนบนเตียงออก

เขารีบเข้าไปห้ามเด็กหนุ่มทันที “เหตุใดถึงต้อง….. ถอดเสื้อผ้าด้วย?”

เหตุใดเขาที่เป็นฝ่ายถามถึงต้องรู้สึกอึดอัดเช่นนี้แทนเล่า?

ใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นสงบนิ่งมาก

ใบหน้างดงามของเด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นก่อนถาม “หากไม่ถอดเสื้อผ้าออกแล้วข้าจะหาตำแหน่งของหนอนกู่ได้อย่างไร?”

“แล้ว….. แล้วจำเป็นต้องถอดออกทั้งหมดเลยหรือ?” ไป๋จือเยี่ยนพลันหน้าแดง ชั่วครู่หนึ่งถึงจะหาเสียงตนเองเจอและพูดจนจบประโยคได้

“ไม่จำเป็น” ชิงอวี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ นางถอดกางเกงชั้นนอกออก เหลือกางเกงชั้นในสั้น ๆ ตัวหนึ่งไว้บนร่างของบุรุษที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง

ไป๋จือเยี่ยนเห็นดังนั้นก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร หากจอมมารผู้นี้ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเขายอมปล่อยให้คนอื่นจับเขาเปลื้องผ้าละก็ นายท่านต้องไม่ไว้ชีวิตเขาแน่

สายตาชิงอวี่ไม่ละออกจากร่างกายดูดีดั่งรูปปั้นของบุรุษตรงหน้าแม้แต่น้อย นางกวาดสายตาไปหยุดอยู่ตรงด้านล่างสะดือ ตรงจุดนั้นมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวหนึ่งขนาดเท่าหนึ่งกำปั้นกำลังขดตัวนอนหลับสบายอยู่ แถมยันกรนอีกด้วย ร่างของมันกระตุกไปมาเล็กน้อยบ้างในบางครั้ง

นางดึงขวดยารูปร่างงดงามออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะเปิดจุกออก กลิ่นหอมสดชื่นพลันโชยออกมาจากปากขวด เป็นกลิ่นที่ทำให้คนต้องชะงัก

ไป๋จือเยี่ยนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง จากนั้นเพ่งมองขวดยากระเบื้องเคลือบนั่น ใบหน้าเขาดูเจ็บปวดเล็กน้อย ยาชั้นเลิศเช่นนี้ จะนำไปให้เจ้าหนอนนั่นกินจริงหรือ?

น่าแค้นใจนัก

กลิ่นยาหอมหวนโชยมาไม่อาจเมินเฉยได้ กลิ่นเช่นนี้เย้ายวนใจยิ่งนัก กระทั่งหนอนกู่หยินหยางเพลิงเยือกแข็งที่กำลังนอนหลับอย่างสงบสุขก็ยังดิ้นไปมาอย่างไม่ทันรู้ตัว ตาภายใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่ของมันเริ่มหมุนวนไปมาราวกับต้องการหาต้นตอของกลิ่นหอมนี่ว่าอยู่ที่ใด

เมื่อรู้สึกตื่นเต้นและถูกรบกวนอย่างฉับพลันเช่นนี้ มันจึงส่งความทรมานไปให้เจ้าของร่างด้วย โหลวจวินเหยาขมวดคิ้วแน่นแม้จะยังไม่ได้สติ ใบหน้าเขาเริ่มเปลี่ยนสีไปดูน่ากลัว

วินาทีต่อมา ไป๋จือเยี่ยนก็ถึงกับหน้าซีดปากสั่นเมื่อเขาเห็นว่าที่ช่วงล่างของนายท่านนั้นเริ่มมีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวนูนออกมา แถมหูยังได้ยินเสียงที่ราวกับเสียงท้องร้องดังขึ้น “จ๊อก ๆ” อีกด้วย เป็นเสียงที่น่ากลัวนัก

ชิงอวี่หรี่ตา มุมปากยกยิ้ม นางหยิบยาแก่นพลังขึ้นมาอยู่เหนือจุดที่เจ้าหนอนกำลังดิ้นไปมาอยู่ในร่าง เมื่อกลิ่นหอมโชยมาใกล้เช่นนี้ เจ้าหนอนก็เริ่มทนไม่ไหว รอยนูนเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวไปมากลับบวมขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นก้อนนูนขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง

ตอนนี้ล่ะ!

ชิงอวี่ยื่นมือเข้าไปเล็กน้อย จากนั้นใช้นิ้วจิ้มเข้าใส่ก้อนนูนนั่นอย่างแรง หนอนกู่ตัวเล็กพลันหลุดออกมาจากร่าง มันจึงพุ่งเข้าใส่ชิงอวี่ด้วยความโกรธเกรี้ยว

วินาทีที่มันกำลังพุ่งเข้าใส่ชิงอวี่ ร่างของมันพลันถูกพลังมหาศาลตรึงไว้ รู้สึกราวกับถูกภูผาทับร่าง ร่างของมันร่วงหล่นลงไปกับพื้นอย่างแรง ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป

ชิงอวี่ไม่สนใจมันอีก ทว่าหันไปยัดยานั่นใส่ปากโหลวจวินเหยา เม็ดยาละลายทันทีก่อนจะไหลลงคอเขาไปอย่างง่ายดาย

“เจ้ามนุษย์บัดซบ! นั่นมันของข้า!”