ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ไม่กล้ามองหาความตาย (ฟรี 27/8/2020)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย (ฟรี 31/8/2020)

ตอนที่ 18 เขตสัตว์อสูร (ฟรี 29/8/2020)


หลังจากนั้นไม่นานฮวามู่หลานก็เดินมาถึงหน้าห้องของลู่เฟิงใบหน้าของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

ลู่เฟิง บอกว่าจะรอเธออยู่ภายในห้อง และนี่ก็ดึกมากแล้วแม้ว่าเธอจะใสซื่อแต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับมัน

"ฝ่าบาทเพคะ!"

หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่สักพักฮวามู่หลานก็ค่อย ๆ ผนักประตูห้องนอนเดินเข้าไป"ฝ่าบาท มู่หลาน มาแล้วเพคะ!"

แต่หลังจากเธอเข้าไปในห้องเธอก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับของลู่เฟิง เธอเงยหน้ามองด้วยความสงสัยและพบว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้องนอน

เธอถึงกับผงะทันที ลู่เฟิง บอกให้เธอมาหาเขาที่ห้องแต่เจ้าตัวกลับไม่อยู่ที่นี่

ไม่นานเธอก็มองเห็นจดหมายบนโต๊ะ เมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนสีไปด้วยอาการตกใจ : มู่หลาน ข้าจะออกจากวังไปสักพัก แน่นอนว่าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะไม่กลับมา ข้าแค่ออกไปหาประสบการณ์หลังจากนี้หนึ่งเดือนเจ้าจะได้เห็นว่าข้าแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!

นอกจากนี้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย ถ้าเกาชุนถามก็ให้บอกเขาไปตามจริง แต่สำหรับบุคคลอื่นโดยเฉพาะราชเลขาทั้งสี่ ห้ามเด็ดขาด ในช่วงหนึ่งเดือนนี ข้าขอให้เจ้าเข้าออกห้องนอนของข้าให้มากที่สุด ถ้าจะให้ดีก็คือให้คนอื่น ๆ คิดว่า กำลังหมกมุ่นกับกามรมณ์อยู่ภายในห้อง ใครมาขอเข้าเฝ้าก็ห้ามเด็ดขาด หากมันดื้อรั้นก็ให้ฆ่าได้โดยไม่ต้องปรานี!

จาก ลู่เฟิง

ปฏิกิริยาแรกของฮวามู่หลาน ก็คือ เธอต้องการเอาจดหมายฉบับนี้ไปให้เกาชุนและขอให้เขาช่วยตามหา ลู่เฟิง แต่หลังจากคิดเรื่องนี้ เธอก็ล้มเลิกความคิด

เนื่องเพราะลู่เฟิงขอให้เธอปกปิดเรื่องนี้กับทุกคน

แม้ว่าตามเนื้อหาภายในจดหมายของลู่เฟิง จะทำให้ความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลาย แต่เพื่อลู่เฟิงแล้ว นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอเท่านั้น

ดังนั้นเมื่อคิดไตร่ตรองเรื่องนี้เสร็จเธอจึงไปหาใครบางคนและขอชุดนางสนมมาใส่ ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้คนรู้สึกว่า ลู่เฟิง กำลังหลงใหลในตัวเธอ และไม่มีเจตนาที่จะปกครองบ้านเมือง

ตอนนี้ ลู่เฟิง ได้ออกจากเมืองหลวงมาแล้วด้วย อาชาสีขาว

ในโลกใบนี้ไม่มีอาวุธร้อนทั้งยังไม่มีเทคโนโลยีชั้นสูงไม่มีโรงงานมลพิษ ทุกสิ่งอย่างล้วนมาจากธรรมชาติ

"ถ้าข้ามีเวลาว่าง ข้าอยากจะหาสถานที่พักผ่อนเพื่อสูดรับอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำไปกับธรรมชาติเหล่านี้"

ลู่เฟิง ได้ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เวลาของเขามีจำกัด เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อชีวิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องตายในการประลองอีกหนึ่งเดือนนับจากนี้

ผ่านไปหนึ่งวัน ลู่เฟิง ได้มาถึงเจตสัตว์อสูรของอาณาจักรหนานหยาน!

เขตสัตว์อสูร ก็ตามชื่อของมัน มันเป็นโลกของสัตว์อสูร

แน่นอนว่าเขตสัตว์อสูรนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่อาณาจักรหนานหยานเพราะมันพื้นที่กว้างไกลจนถูกเรียกว่าหมื่นขุนเขา

ภูเขานับหมื่นได้กระจายไปทั่วเขตปกครองของหลายอาณาจักร

ในอาณาจักรหนานหยาน เดิม เขตสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ได้มีใครเข้ามาปกครอง แต่ในขณะที่เหล่านักรบจำนวนมากมาที่นี่เพื่อออกล่าสัตว์อสูรเพื่อได้รับสิ่งต่าง ๆ อาณาจักรหนานหยาน จึงได้สร้างเมืองขึ้นในสถานที่เเห่งนี้ มันถูกเรียกว่า เมืองสัตว์อสูร เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบรรดาพ่อค้าและนักรบ ทางอาณาจักรจะได้รับภาษีนำเข้าจากร้านค้าเหล่านี้มากมาย

ลู่เฟิงมาที่นี่เพราะเขาต้องการล่าสัตว์อสูรในพื้นที่หมื่นขุนเขาเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเขา

เนื่องเพราะเขาต้องการคะแนนประสบการณ์จำนวนมากเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่ง นอกเหนือจากการสังหารนักรบศัตรูก็มีวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นที่เขาจะได้รับประสบการณ์มากมาย

หลังจากเข้ามาในเขตสัตว์อสูรเเล้ว ลู่เฟิง ก็เดินเข้าไปในเมืองสัตว์อสูร เขาพบกับนักรบที่ทรงพลังอยู่ทุกพื้นที่

มีนักรบขั้นสร้างรากฐานมากมาย กระทั่งนักรบขั้นรวมพลังหยวนก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะพบเห็น เขามองเห็นนักรบระดับ 2 ขั้นรวมพลังหยวน เเละ นักรบระดับ 3 ขั้นรวมพลังหยวน

ทุกที่ ที่คนพวกนี้เดินผ่านไปเหล่าผู้คนจำนวนมากต่างก็หลีกทางให้เขาโดยไม่มีใครกล้าที่จะเดินไปขวางทาง

สิ่งนี้ทำให้เขาตระหนักได้ถึงปัจจัยสำคัญในการมีชีวิตรอดอยู่บนโลกใบนี้ นั่นก็คือความแข็งแกร่งที่กลืนกินความอ่อนเเอ

ในเเผ่นดินใหญ่คิวชู ความแข็งแกร่งคือรากฐานของทุกสิ่ง หากมีความแข็งแกร่งจะได้รับการเชิดชูเป็นปรมาจารย์ หากไร้ซึ่งความแข็งแกร่งก็จะเป็นได้แค่ขยะคนนึง!

นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล!

ลู่เฟิง ไม่มีเวลามากนัก เขาไม่ลังเลที่จะหาสถานที่เพื่อซื้อแผนที่เขตสัตว์อสูรพร้อมกับสารานุกรมภาพประกอบสัตว์อสูร มันจะช่วยให้เขามีชีวิตรอดภายใน ดินแดนหมื่นหุบเขา ได้

ลู่เฟิง ได้เดินเข้าไปในดินแดนหมื่นหุบเขา เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่มืดมน ข้างในค่อนข้างมืด มีเพียงเเสงสลัวลอดผ่านมาเพียงเท่านั้น

หลังจากลู่เฟิง เดินเข้าไป สัตว์อสูรในดินเเดนหมื่นหุบเขาด้านนอกก็ถูกล่าไปจนเกือบหมด เขาจำเป็นจะต้องเข้าไปยังส่วนลึกมากขึ้น

หลังจากเดินทางไปไม่นานลู่เฟิงก็พบสัตว์อสูรตัวแรกในชีวิตของเขา มันเป็น พยัคฆ์ทมิฬ

"พยัคฆ์ทมิฬ สัตว์อสูรระดับ 9 ขั้นสร้างรากฐาน จุดเด่น ความแข็งแกร่ง จุดอ่อนเชื่องช้า"

ระดับของสัตว์อสูรคล้ายคลึงกับระดับนักรบของเผ่ามนุษย์พวกมันเเบ่งออกเป็นสิบอาณาจักรพลังใหญ่และเก้าขั้นพลังย่อย

ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ พยัคฆ์ทมิฬ ทันใดนั้นเขาก็พยายามคิดเกี่ยวกับข้อมูลของมัน

"ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถมอบค่าประสบการณ์มากมายให้แก่ข้าได้!"

ลู่เฟิง ได้ขยับมือ ดาบกานเจียงได้ปรากฏขึ้นในมือของเขา

ฟุ่บ!

เมื่อ ลู่เฟิง พุ่งออกไป พยัคห์ทมิฬ ก็คำรามออกมา

มันไม่รู้ว่าทำไมมนุษย์ที่อ่อนเเอคนนี้ถึงกล้าเผชิญหน้ากับตนเพียงลำพัง

"โฮกกก!"

พยัคห์ทมิฬพยายามพุ่งกัดลู่เฟิง

ฟุ่บ!

ลู่เฟิงได้ฟาดดาบไปด้านหน้าเพื่อต้านทานการโจมตีของพยัคฆ์ทมิฬ

เพร้ง!

ปลายดาบกานเจียงได้ปะทะเข้ากับกรงเล็บของพยัคห์ทมิฬ ร่างของ ลู่เฟิง ได้กระเด็นถอยไปไกล

"บ้าไปแล้ว พยัคห์ทมิฬตัวนี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ "

ก่อนหน้านี้ ลู่เฟิง ค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลในสารานุกรมภาพสัตว์อสูรแต่ตอนนี้เขาไม่สงสัยเลย

ลู่เฟิง ได้ถือดาบกานเจียงขึ้นมาอีกครั้งเขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและตะโกนเสียงดัง"เข้ามา!"

ลู่เฟิง ได้ตั้งรับเตรียมพร้อมอีกครั้ง เขาควรจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด

ดังนั้น ลู่เฟิง จึงไม่ต้องการที่จะเสียเวลาอีกต่อไป

การใช้ทักษะ โจมตีหนัก เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา เขาไม่ลังเลที่จะใช้มัน

พลังชี่ภายในร่างกายของลู่เฟิงได้ถูกดึงออกมาเคลือบปลายดาบของเขา

"โฮก!"

พยัคห์ทมิฬ ไม่ได้กลัว ลู่เฟิง แม้เเต่น้อย มันได้พุ่งกระโจนใส่เขา

ฉึบ!

ลู่เฟิง ได้อาศัยจังหวะที่มันพุ่งเข้ามาหลบการโจมตี ก่อนที่จะแทงสวนไปที่ลำตัวของมัน

ปลายดาบกานเจียงได้แทงทะลุร่างของพยัคห์ทมิฬโดยตรง

ด้วยความแหลมคมของดาบกานเจียงและทักษะโจมตีหนักพยัคฆ์ทมิฬตัวนี้ไม่สามารถดิ้นหลุดได้

"วู้ว...."

พยัคห์ทมิฬได้กรีดร้องออกมาอย่างอนาถจนท้ายที่สุดมันก็สิ้นลม

"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สังหาร พยัคห์ทมิฬ สัตว์อสูรระดับ 9 ขั้นสร้างรากฐาน ได้รับคะแนนประสบการณ์ 1,000 แต้ม!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด