ตอนที่ 9 ทำลายปีกของศัตรู
"อะไรนะ เกาชุน !!!"
ดวงตาของทุกคนได้จ้องมองไปยังแม่ทัพเกาชุน ที่คุกเข่าอยู่กลางห้องโถง!
มองไปที่เกาชุน ลู่เฟิง กำมือแน่นจนแทบไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้
เกาชุน มาถึงแล้ว!
ไม่เพียงเท่านั้น สถานะของอีกฝ่ายยังเป็นถึงรองผู้บัญชาการทหารองค์รักษ์พิทักษ์วังหลวง!
อีกอย่างจะต้องรู้ว่า องค์รักษ์พิทักษ์วังหลวงทั้งหมด 200,000 นายนั้น ผู้บัญชาการทหารก็คือ เฉินหานฉวน
แต่ตอนนี้ เฉินหานฉววน ถูกฆ่าตายไปโดย ลู่เฟิง ทำให้ ทหารองค์รักษ์พิทักษ์วังหลวง ขาดผู้นำ แต่แล้ว เกาชุนกลับเป็นถึงรองผู้บัญชาการทหารองค์รักษ์พิทักษ์วังหลวงทั้ง 200,000 นายนั่น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เกาชุน ไม่เพียงแต่มาถึงเท่านั้น เขายังพากองทัพที่ ลู่เฟิง ต้องการมาอีกด้วย
ทหารองค์รักษ์ทั้งหมดกว่า 200,000 นาย ทั้งยังเป็นกองกำลังที่น่ากลัวที่สุด 200,000 นายในอาณาจักรหนานหยาน!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ลู่เฟิง ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในใจได้ เขาได้เดินลงบันไดอย่างรวดเร็วและไปยืนต่อเบื้องหน้า เกาชุน"แม่ทัพเกา ยืนขึ้น!"
เมื่อเกาชุนเห็น ลู่เฟิง ก้มลงมาช่วยเขา เขาก็รู้สึกตื้นตันอย่างมาก"ขอบพระทัยฝ่าบาท ข้าแม่ทัพเกาชุน จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อพระองค์!"
"ฮ่าฮ่า ๆ !"
ลู่เฟิง ได้หัวเราะออกมา"พูดได้ดี!"
"แม่ทัพเกา นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารองค์รักษ์พิทักษ์วังหลวงทั้งหมด 200,000 นาย และข้าอนุญาติให้เจ้าพกดาบเข้ามาในราชสำนักได้!"
เมื่อเกาชุนได้ยินดังนั้นเขาก็รู้สึกดีใจอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหาร การที่เขาได้รับอนุญาติให้พกดาบเข้ามาในราชสำนักถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
เขาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งและกล่าวพูดเสียงดัง"ข้าแม่ทัพเกาชุน ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!"
"ลุกขึ้นเถิด!"
คราวนี้ ลู่เฟิง ไม่ได้ช่วยเกาชุนอีก
ก่อนหน้านี้เขาได้แสดงท่าทีแบบนั้นต่อเกาชุน ก็เพราะต้องการแสดงให้ข้าราชบริหารเหล่านี้เห็นว่าเขาปฏิบัติต่อข้าราชบริพารที่ภักดีต่อเขาอย่างไร
ในเวลานี้ เกาชุน รู้สึกขอบคุณ ลู่เฟิง จากใจจริง
"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"
เกาชุนได้ลุกขึ้นยืนข้าง ๆ ลู่เฟิง
เห็นฉากนี้ โม่เต๋า ได้แสดงสีหน้าที่เศร้าหมองออกมา
เหตุผลที่เขาไม่สนใจเกี่ยวกับความตายของ เฉินหานฉวน ก็เพราะเขาสามารถจัดการให้ใครบางคนควบคุมทหารองรักษ์กว่า 200,000 นายได้ทุกเมื่อ นี่เป็นหนึ่งในไม้เด็ดของเขาที่กล้าท้าทาย ราชาเมกาทรอน ลู่เว่ย!
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่ารองผู้บัญชาการเกาชุนซึ่งไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาจะพุ่งเข้าสู่อ้อมเเขนของลู่เฟิงในเวลานี้
ทั้งยังเอาทหารองค์รักษ์กว่า 200,000 นายไปฝากไว้ในอ้อมแขนของลู่เฟิง
สิ่งนี้ทำให้ ลู่เฟิง ได้ครอบครองทหาร 200,000 นาย กลับกันเขาต้องสูญเสียทหารองค์รักษ์ไปกว่า 200,000 นาย
การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของ โม่เต๋า ทำให้ ลู่เฟิง รู้สึกพึงพอใจ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเเค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
เขาได้เดินขึ้นบันไดไปนั่งบนบัลลังก์มังกรทองและจ้องมองไปที่กลุ่มคนเหล่านี้
ด้วยอำนาจของจักรพรรดิเขาสามารถจัดการกับข้าราชบริพารที่คิดไม่ซื่อได้
ตอนนี้ลู่เฟิงเต็มไปด้วยความสง่างามทุกคนต่างก็ไม่กล้าเพิกเฉยต่อท่าทีของเขา!
"ขอฝ่าบาททรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน"
ข้าราชบริพารด้านล่างต่างคุกเข่าโดยไม่สมัครใจเเละตะโกนพร้อมเพรียงกัน
แม้เต่โม่เต๋าก็ยังต้องคุกเข่าอยู่บนพื้น
"ได้เวลาที่ข้าจะแสดงอำนาจในฐานะจักรพรรดิแล้ว"
ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ข้าราชบริพารทุกคน
เขาพยายามระงับความตื่นเต้นในใจและกล่าวพูดอย่างไม่แยแส"วันนี้แม้จะเป็นวันที่น่ายินดี แต่ก็ยังมีเรื่องที่ข้าต้องจัดการ!"
ใบหน้าของข้าราชบริพารหลายคนได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย นี่เขาคิดจะทำอะไร ? เขาต้องการที่จะจัดการเสนาบดีโม่เต๋าหรือไม่ ?
"ก่อนหน้านี้ เมื่อข้านั่งอยู่บนบัลลังก์มีหลายคนที่ชมเชยข้า บอกว่าข้าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบศตวรรษ อย่างไรก็ตาม ข้ารู้ตัวเองดีว่าข้ายังห่างไกลจากจักรพรรดิผู้ชาญฉลาดอย่างแท้จริง"
"แต่ทว่า มีข้าราชบริพารบางคนต้องการใช้วิธีการบางอย่างเพื่อล่อลวงข้าให้ถึงแก่กรรม! กลุ่มคนเหล่านี้สมควรได้รับโทษประหารชีวิต!"
"แม่ทัพเกา นำกลุ่มคนเหล่านี้ออกไปตัดศีรษะซะ!"
"ขอรับ!"
เกาชุนได้ตอบเสียงดัง เขาได้พาองรักษ์สองสามคนแล้วลากกลุ่มข้าราชบริพารจำนวนนึงออกไปข้างนอก
"ฝ่าบาท ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ด้วย!"
"ฝ่าบาท ได้โปรดอภัยโทษให้พวกเรา!"
ได้ยินเสียงร้องขอจำนวนมาก ลู่เฟิง ไม่ได้กระพริบตา
การกระทำของ ลู่เฟิง ทำให้ข้าราชบริพารจำนวนมากตัวสั่นด้วยความตกใจ
เขาไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิง หลังจากขึ้นครองราชย์จะใช้วิธีการที่เด็ดขาดแบบนี้ โดยปกติแล้ว ความผิดของพวกเขาจะต้องเริ่มจากการสอบสวนก่อน หากไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรงย่อมเสียค่าปรับเป็นเงินเล็กน้อย
แต่จักรพรรดิองค์ใหม่กลับเลือกที่จะสังหารคนเหล่านี้โดยตรง
ยิ่งไปกว่านี้คนเหล่านี้ยังเป็นคนสนิทของโม่เต๋า โม่เต๋า ไม่ได้กล่าวพูดอะไรออกมา เขาได้จ้องมองไปที่ข้าราชบริพารเหล่านั้น ด้วยแววตาที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้
"อ๊ากกก!"
"อ๊ากกก!"
ได้นอกประตูเสียงร้องโหยหวนได้ดังขึ้นในไม่ช้า
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แม่ทัพเกาชุนก็กลับมาพร้อมกับศีรษะที่ไร้ร่างของกลุ่มคนไม่กี่คนเขาได้ชันเขาข้างนึงเเล้วพูดเสียงดัง"ข้าได้จัดการคนเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว!"
หลังจากพูดจบเขาก็โยนศีรษะเหล่านั้นไปที่ทางข้าราชบริพารจำนวนมาก
เหล่าข้าราชบริพารต่างก้ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
ลู่เฟิง ได้มองดูการเคลื่อนไหวของ เกาชุน เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก สิ่งนี้จะทำให้ เหล่าข้าราชบริพารจำนวนมากต่างเกรงกลัวเขา
"ยังไม่หมด!"ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่กลุ่มศีรษะเหล่านั้น
ข้าราชบริพารจำนวนมากต่างตัวสั่นด้วยความตกใจ นี่เขายังไม่พอใจที่สังหารข้าราชบริพารไปหลายคนอีกหรอ คราวนี้เขาต้องการ ฆ่าใคร ?
ผิวของโม่เต๋าเองก็เปลี่ยนไปมาก เขาไม่กล้าปล่อยให้ ลู่เฟิง ฆ่าคนสนิทของเขาอีก
เขาได้ลุกขึ้นยืนมองไปที่ลู่เฟิงเเละกล่าวพูด"ฝ่าบาท วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีของพระองค์ ท่านไม่ควรที่จะทำให้วันมงคลเช่นนี้เสื่อมเสีย"
"ใครสั่งให้เจ้ายืนขึ้น?"
ขณะที่โม่เต๋ากำลังกล่าวพูดเสียงของ ฮวามู่หลาน ก็ได้ดังขึ้น ทำให้ โม่เต๋าได้กัดฟันแน่นและไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก
"ก่อนหน้านี้มีใครบางคนบอกว่าอาณาจักรหนานหยานเจริญรุ่งเรืองขึ้นภายใต้การชี้นำของเสนาบดีโม่เต๋า แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่า สามมณฑล , มณฑลหลินซาน,มณฑลซานหลิง เเละ มณฑลหยุนซาน ถูกน้ำท่วมคนนับล้วนต่างก็ได้รับความทุกข์ยาก ?"
"ผู้ที่ให้คำเท็จ นำมันไปตัดศีรษะ!"
เกาชุนเข้าใจทันที เขาได้สั่งให้ ทหารองค์รักษ์สองสามคนขึ้นไปจับข้าราชบริพารคนนั้นแล้วลากออกไป
"ฝ่าบาท ข้าผิดไปแล้ว พวกเราหารู้ไม่ว่า...อ๊ากกก!"
ด้านนอกประตูได้ปรากฏเสียงกรีดร้องขึ้นอีกครั้ง
"เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คลังหลวงได้ปล่อยเมล็ดพืชพันธุ์และเงินสำหรับบรรเทาภัยพิบัติ ไปจำนวนมาก แต่ทำไมข้าได้ยินว่า เมล็ดพืชพันธุ์และเงินเหล่านั้นกลับไปถึงกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของสิ่งที่ควรจะเป็น องค์หญิงซาน ที่ดูแลมณฑลทั้งสาม เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่?"ลู่เฟิง ได้กล่าวพูด
ทันใดนั้นองค์หญิงซาน ก็เหงื่อแตกพลั่กเธอได้คุกเข่าลง"ฝ่าบาทหม่อมฉันไม่รู้..."
"องค์หญิงซาน ที่ดูแล มณฑลหลินซาน,มณฑลซานหลิง เเละ มณฑลหยุนซาน ทำการทุจริตและให้ข้อมูลเท็จ นำมันไปตัดศีรษะ!"
"ฝ่าบาท หม่อมฉัน ผิดไปแล้ว ได้โปรดอภัยโทษ!"
แต่ทว่าเกาชุนได้ฟังคำสั่งของลู่เฟิงได้เขาสั่งให้องค์รักษ์พาองค์หญิงซานออกไป