ตอนที่ 7 การอัญเชิญครั้งที่สาม
ลู่เฟิง ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบเขาได้ผงะไปชั่วขณะเขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้รับสิ่งที่ดีขนาดนี้
คราวนี้เขาไม่ได้ฆ่านกเพียงเพราะได้ผลประโยชน์แค่สี่อย่างแต่ กลับกันเขาได้ฆ่านกตัวเดียวกลับได้ผลประโยชน์ตั้งห้าอย่าง
ฮ่า ๆ นี่มันเจ๋งมาก!
แค่เขาคิดเขาก็ยิ่งพึงพอใจกับทักษะโจมตีหนักนี้
นี่คือทักษะต่อสู้ที่ เฉินหานฉวน ได้รับมา ทำให้เขาได้รับความแข็งแกร่งมากพอจะไต่เต้ากลายเป็นแม่ทัพของอาณาจักรที่ควบคุมกำลังพลมากกว่า 200,000 คน
ลู่เฟิง ไม่ได้คาดหวังว่าโชคของเขาจะดีขนาดนี้ เขาได้รับทักษะของ เฉินหานฉวน มาเเบบฟรี ๆ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมอนไลน์ในชีวิตก่อนหน้านี้อยู่
"ติ๊ง โฮสต์ต้องการฝึกฝนหรือไม่?"
"แน่นอน!"
นี่เป็นทักษะต่อสู้แรกที่เขาได้รับมา ลู่เฟิง ไม่มีทางปล่อยมันไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ทักษะโจมตีหนักยังเป็นทักษะระดับปฐพีขั้นสูง เป็นหนึ่งในทักษะต่อสู้ชั้นยอดของอาณาจักรหนานหยานอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเขาเป็นคนโง่ เขาก็คงไม่โง่พอที่จะปฏิเสธทักษะนี้อย่างแน่นอน
"ติ๊ง ขอแสดงความยินกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะโจมตีหนัก ความเชี่ยวชาญในปัจจุบัน ระดับ 1"
เสียงเตือนของระบบได้ดังขึ้น ความทรงจำเกี่ยวกับการใช้ทักษะโจมตีหนักได้ปรากฏขึ้นในใจของเขา
ในเวลาเดียวกัน ลู่เฟิง ก็เปิดหน้าต่างสถานะของเขาขึ้นมา
โฮสต์ : ลู่เฟิง
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ระดับพลัง : ระดับ 6 ขั้นสร้างรากฐาน
พลังพิเศษ : ไม่มี
ทักษะต่อสู้ : โจมตีหนัก ( ทักษะระดับปฐพีขั้นสูง ความเชี่ยวชาญ 0/20 ยิ่งความเชี่ยวชาญสูงมากเท่าไหร่พลังชี่ ที่ใช้ก็ยิ่งน้อยลงแต่ทรงพลังมากขึ้น )
สัตว์อสูรพันธะสัญญา : ไม่มี
สาวงามในฮาเร็ม : ไม่มี
โอกาสอัญเชิญ : หนึ่งครั้ง
ขุนพลภายใต้อาณัติ : ฮวามู่หลาน
สมบัติที่เรียก : ดาบกานเจียง
ลู่เฟิง พอใจกับค่าสถานะในปัจจุบันของเขา เขาใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวันในการปลุกพลังในการเป็นนักรบจนถึงระดับ 6 สร้างรากฐาน
นี่คือสิ่งที่ชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ไม่สามารถแม้เเต่จะคิดถึงมัน
"องค์ชาย ในเมื่อ แม่ทัพเฉินหานฉวน ก่อความผิด เขาสมควรถูกลงโทษ พวกเรามาดำเนินการพิธีขึ้นครองราชย์ต่อเถอะ!"
ในตอนนี้ โม่เต๋า ได้จ้องมองไปที่ ลู่เฟิง อย่างไม่แยแสราวกับว่า เฉินหานฉวน ที่เพิ่งถูกฆ่าตายไป ไม่ใช่คนที่เขารู้จัก
"ก็ดี!"
ลู่เฟิง ที่เห็นการแสดงออกของอีกฝ่าย เขาทำได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการดังนั้นเขาจะต้องค่อย ๆ เป็น ค่อยไป
ตอนนี้ เขาได้เดินกลับไปยังบนบัลลังก์มังกรทอง
องค์ชายลู่เฟิง มีสิทธิ์ได้รับสืบทอดตำเเหน่งจักรพรรดิโดยชอบธรรม
ภายใต้คำสั่งของ โฒ่เต๋า ข้าราชบริพารจำนวนมากได้ยืนขึ้นและอ่านเอกสารเกี่ยวกับพิธีขึ้นครองราชย์ในฐานะองค์จักรพรรดิ
ลู่เฟิง ไม่ได้ฟังสิ่งเหล่านี้ เขาได้ดำดิ่งลงในจิตใจตรงหาระบบ
"ตอนนี้ความแข็งแกร่งของฉันก็มาถึงระดับ 6 ขั้นสร้างรากฐานแล้ว ฉันมีโอกาสในการอัญเชิญอีกหนึ่งครั้งมาเริ่มกันเลยเถอะ"
"ระบบฉันต้องการเริ่มต้นการอัญเชิญครั้งที่สาม!"
"ติ๊ง เริ่มต้นการอัญเชิญ"
"ติ๊ง กำลังดำเนินการ"
"ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการอัญเชิญ แม่ทัพเกาชุน ผู้มีชื่อเสียงในช่วงปลายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก"
เกาชุน : ในช่วงปลายของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หนึ่งในผู้ใต้อาณัติของ ขุนพลลิโป้ ปกครองกองทัพอย่างขยันขันแข็งและมอบความภักดีให้กับผู้เป็นนาย ภายหลังจากที่ ลิโป้ ถูกฆ่าที่ เมืองเซี่ยปี่ เขาก็ได้จบชีวิตพร้อมกันในวันนั้น
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ระดับพลัง : ระดับ 7 รากฐานพลังหยวน (หมายเหตุ : ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ เกาชุน นั้นคือ ขั้น ราชาศักดิ์สิทธิ์ แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งของโฮสต์ในปัจจุบัน ไม่แข็งแกร่งพอ ระบบจึงได้จำกัดระดับพลังไว้เพียงแค่ 7 รากฐานพลังหยวน ความแข็งแกร่งของเกาชุนจะได้รับการปลดล็อคตามความแข็งแกร่งของโฮสต์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต)
ทักษะต่อสู้ : ซ่อนเร้น
กองทัพ : วางกับดัก
ความภักดี : 100 ( หมายเหตุ : เนื่องเพราะเกาชุนมีนิสัยที่ซื่อสัตย์ไร้ใครเทียบ ความภักดีของ เกาชุน จึงเริ่มต้นขึ้นค่าคะแนน 100 เต็ม )
ฮ่าฮ่า ดีมาก
ลู่เฟิง เต็มไปด้วยความตืน่เต้น เขาไม่คิดเลยว่าโชคของเขาจะดีมากจนเรียก แม่ทัพเกาชุน ที่มีชื่อเสียงของปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มาได้
อีกอย่างจะต้องรู้ว่า แม่ทัพที่ ลู่เฟิงชอบและสงสารมากที่สุดในชีวิตก่อนหน้านี้ก็คือ เกาชุน
เหตุผลเดียวที่เขาชื่นชอบก็คือ ความภักดีที่หาตัวจับได้ยาก
ในตอนนั้นแม้ว่า ลิโป้ จะไม่ได้ไว้วางใจเกาชุน แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ทรยศต่อลิโป้ ทั้งยังยินดีติดตาม ลิโป้ จนตัวตาย
บางครั้งลู่เฟิงก็สงสัยว่าถ้าชีวิตก่อน เกาชุน ไม่ได้ติดตาม ลิโป้ ผลลัพธ์ในศึกโจโฉบางทีอาจจะแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ ?
แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดเกี่ยวกับมัน
ตอนนี้เขามี เกาชุน ภายใต้บังคับบัญชา ทั้งยังเริ่มต้นด้วยความภักดีถึง 100 เต็ม
"เกาชุน เนื่องจากตอนนี้นายจะกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน ฉันจะไม่ทำให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยอย่างแน่นอน!"
ลู่เฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวถาม"ระบบ เมื่อไหร่ เกาชุน จะมาหาฉัน"
"ติ๊ง,เกาชุน จะมาพบโฮสต์เมื่อเวลาที่จำเป็นมาถึง!"
"..."
นี่เป็นคำตอบแน่งั้นเหรอ
ใบหน้าของลู่เฟิง ไร้ซึ่งคำพูด
"ฝ่าบาท..."
"ฝ่าบาท..."
ขณะที่ ลู่เฟิง กำลังจมดิ่งกับระบบเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกเขา เขาได้ตื่นขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่ชายชราผมขาวที่เรียกตัวเอง"มีอะไร?"
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อได้ยินคำถามของ ลู่เฟิง บรรดาข้าราชบริพารต่างก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา เขากล้าถามว่ามีอะไร นี่เขายังดูเหมืนองค์ชายคนก่อนอยู่อีกหรือไม่ ?
ได้ยินดังนี้ โม่เต๋า ได้ยิ้มเยาะในใจ ตอนแรกเขากลัวว่า ลู่เฟิง จะอยู่เหนือการควบคุมของเขาแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่จำเป็นเลย
อีกฝ่ายคงไม่คิดว่าเขาจะปล่อยให้พิธีครองราชย์ดำเนินไปจนเสร็จหรอกใช่มั้ย ?
ชายชราผมขาวที่ทำหน้าที่อ่านพิธีขึ้นครองราชย์ก็รู้สึกดูถูก ลู่เฟิงในใจ เด็กคนนี้ คิดจะขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ ? หึ่ม มีเพียง เสนาบดีโม่เต๋า เท่านั้นที่คู่ควรกับการเป็นองค์จักรพรรดิ
เขาได้จ้องมองลู่เฟิงด้วยท่าทีดูถูก"ท่านเสนาบดีโม่เต๋า ได้เสนอว่า ฝ่าบาทยังเด็กเกินไป พระองค์ยังไม่พร้อมที่จะขึ้นครองราชย์ในฐานะองค์จักรพรรดิตอนนี้ แต่ว่าถ้าพระองค์แสดงความสามารถที่เหมือนกับ เมื่อ 300 ปี ก่อนเหมือนกับจักรพรรดิเหวินเฉิงได้ พวกเราย่อมไม่ติดใจอันใดแน่!"
ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วเเน่น
สามร้อยปีที่แล้วจักรพรรดิองค์ที่ห้าของอาณาจักรหนานหยานได้ตกอยู่ในสภาพเเวดล้อมเดียวกับลู่เฟิงในตอนนี้
เพื่อที่จะทดสอบคุณสมบัติในการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ เสนาบดีที่มีอำนาจในตอนนั้นได้เสนอให้ จักรพรรดิเหวินเฉิง ต่อสู้กับ นายกองร้อย สามคน เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งก่อนที่เขาจะขึ้นบัลลังก์
ผลที่ตามมาจักรพรรดิเหวินเฉิง ได้แสดงความแข็งแกร่งในฐานะองค์จักรพรรดิเขาได้ขึ้นครองบัลลังก์พร้อมกับนำพาอาณาจักรหนานหยานไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่พิเศษของจักรพรรดิเหวินเฉิงในตอนนั้น ทำให้ จักรพรรดิองค์ต่อไปได้ยกเลิกวิธีนี้ไปนานแล้ว
เห็นได้ชัดว่า โม่เต๋า ไม่พอใจที่จะให้ ลู่เฟิง ขึ้นครองบัลลังก์ เขาจึงได้จัดเต็ม นายกองร้อยไว้สองสามนายเพื่อที่จะจัดการเขา
"ฮึ่ม เจ้าเล่ห์นักนะ!"
ลู่เฟิง รับรู้ได้ถึงเจตนาร้ายของ โม่เต๋า เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายตอนนี้ควบคุมอำนาจทางการเมืองไปกว่าครึ่งมันไม่มีทางที่เขาจะเลี่ยงเรื่องนี้ได้เลย
"ฝ่าบาทท่านคิดว่าอย่างไร?"
"นี่เจ้าคิดว่าข้ากลัวความท้าทายเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่หรือไม่?"
"พระองค์ตรัสได้ถูกแล้ว หากพระองค์เป็นอัจฉริยะ และสามารถผ่านบททดสอบเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ได้ พระองค์ย่อมสามารถขึ้นเป็นจักรพรรดิได้อย่างไร้ข้อกังขา"
"และภายใต้การชี้นำของพระองค์อาณาจักรหนานหยานของเราย่อมสามารถกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนเมื่อสามร้อยปีก่อนได้อย่างแน่นอน"