ตอนที่แล้วบทที่ 69 : การดวลระหว่างลูกผู้ชายที่แท้จริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 71: การประจบประแจงที่ล้นเหลือ

บทที่ 70 : นักแสดง


มีชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังขี่ม้าอย่างห้าวหาญ เขาหล่อเหลาราวกับเทวดาที่ตกลงมาจากสรวงสวรรค์ หากหน้าตาทำให้คนตาบอดได้ ก็คงมีคนหลายคนตาบอดเพราะคนผู้นี้มามากมายแล้ว

แต่เขากลับกำลังหนักใจและถอนหายใจออกมา

ตอนนี้ไม่มีอะไรอีกแล้ว ทุกๆอย่างล้วนเป็นไปได้ด้วยดี

หลังจากที่เผ่าโถวเหยินให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีเพราะความหล่อเหลาของเขา ความนิยมของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ…

ในตอนนี้เขาได้เปิดใจรับความสามารถติดตัวที่แข็งแกร่งอย่าง “ดูดี” แล้ว ช่างเป็นความสามารถติดตัวที่เหมาะสมกับลอร์ดอย่างเขาเสียจริง

ฟิว โรสเซอร์นำเหล่าโถวเหยินกว่า 3,000 ตนอพยพไปยังทะเลสาบสายรุ้งซึ่งเป็นสถานที่ที่โทรลเคยอาศัยอยู่

พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน ใกล้ๆกับทะเลสายรุ้งมีทุ่งหญ้าค่อนข้างกว้างใหญ่อยู่ นอกจากนั้น หญ้าในป่าก็เพียงพอสำหรับให้พวกเขากินแล้ว

นอกจากนี้ ชาวโถวเหยินไม่ใช่สัตว์กินพืชซะทีเดียว แต่ยังสามารถกินสัตว์ตัวเล็กๆได้ ถึงแม้ว่าปากพวกเขาจะบอกว่าไม่ต้องการ แต่พวกเขาก็จะร้องเพลงสรรเสริญถึงความหอมหวนในใจของพวกเขา!

ที่สำคัญกว่านั้น

เหล่าโถวเหยินดูตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ดั่งยางอะไหล่สำรอง… พวกเขาถูกหลอก แต่ชาวโถวเหยินก็ไม่ได้ย้ายเข้าไปใกล้กับเมืองแห่งรุ่งอรุณ ไม่ช้าก็เร็วคงมีคนวางแผนหนีไป

ในช่วงครึ่งปีมานี้ เมืองแห่งรุ่งอรุณได้เข้าต่อสู้และกำราบเผ่าต่างๆไปมากมาย

แต่ในฐานะที่จะกลายเป็นอาณาจักรที่สำคัญและมีลอร์ดที่ยิ่งใกญ่ ความสำเร็จเล็กน้อยแค่นี้ไม่คุ้มค่าที่จะโอ้อวดเท่าไหร่นัก แต่กลับกลายเป็นเรื่องน่าอายที่จะพูดถึงแทน

แต่ที่นี่ยังเป็นที่ที่เล็กและห่างไกลทางตะวันตกเฉียงใต้ในทวีปรีเจนดารีอยู่

พื้นที่ยากจนข้นแค้นเหล่านี้ผลิตคนที่แสนดื้อรั้น และในหมู่พวกเขานั้น วิลเลียมเป็นคนหนึ่งที่แสดงออกทางนิสัยดื้อรั้นมากที่สุด

บางอาณาจักรมนุษย์ไม่ได้สนใจว่ากองทัพจากเมืองแห่งรุ่งอรุณจะมีอานุภาพมากเท่าใด พวกเขายังไม่ได้เคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม เผ่าบางเผ่าที่มีสติปัญญาที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงล้วนรู้ดี ทั้งเผ่าที่คอยก่อกวนและเผ่าที่เป็นศัตรูด้วยพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เผ่าพันธุ์มีปีกที่ได้ยินข่าวมาจากหลายๆเมือง พวกเขาเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในภูเขาทางฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองรุ่งอรุณ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างความสัมพันธ์และสร้างพันธมิตรกับเมืองแห่งรุ่งอรุณ

นี่แสดงให้เห็นว่าวิลเลียมไม่ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะอย่างในชีวิตที่แล้ว อย่างน้อย ฟิว โรสเซอร์ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อต้านเขา

ในตอนแรก ฟิว โรสเซอร์ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของวิลเลียมในการเข้าร่วมพันธมิตรของเขา แต่จากนั้นพวกเขาก็มาถึงจุดต่อที่สำคัญ เขาไม่มีทางเหลือเหลืออยู่ ได้แต่ยอมจำนน

การย้านถิ่นฐานไม่ใช่เรื่องง่าย

เหล่าสัตว์วิเศษและอสูรล้วนอาศัยอยู่ทุ่งหญ้า นอกจากนี้ยังมีมนุษย์หมาป่าและมนุษย์เงือกทั้งหลาย พื้นที่ส่วนใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ถูกครอบครองโดยกลุ่มอำนาจต่างๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาไม่สามารถย้ายเผ่าของเขาไปยังผืนดินอื่นและหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากเมืองแห่งรุ่งอรุณได้

เนื่องจากการหลบหนีไม่ใช่ทางที่ถูกที่ควร เหล่าโถวเหยินจึงถูกบังคับให้ภักดี

แม้ว่าจะต้องมีบางส่วนจากเผ่าของพวกเขาต้องไปขุดเหมืองก็ตาม!

โอ้! พวกเขากลายเป็นคนงานเหมืองหรือผู้ควบคุมแรงงานออร์คระหว่างขุดเหมือง แต่สำหรับฟิว โรสเซอร์แล้วก็ไม่ถือว่าหนักหนาอะไร

หลังจากที่เผ่าออร์คทุกเผ่าภายในรัศมี 50 กิโลเมตรได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

เหมืองทั้งสี่ก็มีออร์คอย่างน้อย 3,000 ตนที่กำลังทำงานอย่างไม่หยุดพัก!

มีทหารประจำการกว่า 600 นายคอยเฝ้าระวัง

แผนของวิลเลียมคือการควบคุมเผ่าโถวเหยินให้มาแทนที่ทหารเหล่านี้อีกด้วย ความหมายอีกอย่างหนึ่งก็คือทหารเหล่านี้ก็จะมีเวลาฝึกฝนที่มากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวิลเลียมกล่าวว่าจะช่วยเผ่าของพวกเขาฝึกฝนและพวกเขาจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมกองกำลังทหาร นั่นทำให้ฟิว โรสเซอร์แอบสุขใจเลยทีเดียว

แม้ว่าโรสเซอร์จะรู้ว่ากองกำลังโถวเหยินต้องรับใช้ลอร์ดของเมืองรุ่งอรุณ และเขาก็ยังคงได้กลายเป็นแม่ทัพ เขาไม่อาจยิ่งใหญ่ไปได้มากกว่านี้ แต่มันก็ดีแล้ว

วิลเลียมเห็นฟิว โรสเซอร์กำลังเดินมาก่อนจะเอื้อมมือตบไหล่เขาเบาๆขณะนั่งอยู่บนม้า “เจ้าทำได้น่า อนาคตสดใส”

“มาสเตอร์ ท่านแข็งแกร่งมาก ท่านได้เอาชนะข้าไปแล้วจริงๆ” ฟิว โรสเซอร์พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้

“อืม” วิลเลียมพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร

………………...

“ตู้ม!” เงาดำขนาดใหญ่ทุบลงมา คนที่อยู่ข้างหน้าไม่สามารถหลีกหนีได้ทันท่วงที ร่างกายของเขาจึงถูกทุบเป็นชิ้นๆ จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวและหายไป

“เราล้างเสร็จแล้ว ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ชาย! หนีเร็วเข้า เฮ้ๆ เก็บชุดสีฟ้านั่นมาด้วย แฟตตี้เป็นคนดรอปมันใช่มั้ย?” ผู้เล่นที่เหลือต่างโกยอ้าวกันไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่กล้าอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้

พวกเขามารวมตัวกันในระยะที่ปลอดภัย…

ผู้เล่นคนหนึ่งถอนหายใจอย่างเงียบๆ “เจ้าตัวน่ารักนั่นกลายไปเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ ใครที่บ้าเลือดไปทำภารกิจนี้ในอนาคตคงถูกขัดขวางแน่ๆ”

“แต่หมีสามตัวของท่านลอร์ดช่างน่าประทับใจ มันตบฉันเหมือนกับตบลูกชายของตัวเองซะอย่างงั้น...”

“แต่พวกมันเป็นหมียักษ์ที่โหดร้ายมาก อย่างกับชนชั้นสูงกับเฮดบอส” แองกี้ แฟตตี้ไม่มีอะไรจะพูดตอบ พวกเขาเกือบสัมผัสกับความตายเพราะพยายามจะอาบน้ำหมีพวกนี้สองครั้ง

โชคดีที่พวกเขาทั้งหมดไปถึงเลเวล 10 และเปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าประสบการณ์ของเขาจะลดลง แต่มันก็ไม่ค่อยมากนัก แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นผู้เล่นระดับบรอนซ์ แต่พวกเขาก็เป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ที่อยู่ในการจัดอันดับ!

การทำภารกิจในครั้งนี้สำเร็จทำให้พวกเขาเลเวลเพิ่มไปอีกหนึ่งระดับ ซึ่งมาถึงจุดสูงสุดของเลเวล 11 แล้ว ไม่ถือว่าเป็นการสูญเสียเลยแม้แต่น้อย

แค่ความทนทานของอุปกรณ์ลดลงฮวบฮาบ แต่พวกเขาสามารถถอดอุปกรณ์ออกก่อนได้ แต่ผู้โชคร้ายที่ดรอปอุปกรณ์ทิ้งไว้ คนอื่นๆก็ช่วยเก็บไว้ให้แทน

สำหรับผู้เล่น

เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับ NPC สายเลือดระดับเริ่มต้นจะเหมือนกับมอนสเตอร์ธรรมดา สายเลือดระดับกลางจะเหมือนกับมอนสเตอร์ชั้นสูง และสายเลือดระดับสูงจะเหมือนกับเฮดบอส

แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับอสูรเวทย์ ตราบใดที่มีสายเลือดอย่างน้อยระดับกลาง พวกเขาก็สามารถเรียกว่ามินิบอสได้แล้ว

คุณสมบัติตามธรรมชาติของมอนสเตอร์พร้อมด้วยคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ได้รับจากการก้าวหน้า นั้นสูงกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอื่นๆ

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องยากที่มอนสเตอร์จะได้รับอุปกรณ์ ดังนั้นลักษณะทางธรรมชาติของพวกเขาจึงดียิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

ฉางหลี จิ่วเกอพยักหน้าตามขณะที่ฟังคนอื่นพูด อย่างไรก็ตาม เขาก็กล่าวออกมา “เราไม่ควรดูเฉพาะรูปร่างหน้าตาและเพียงผิวเผินนะ”

“ในฐานะผู้เล่นมากประสบการณ์ หากเรามองลึกลงไป เราจะตระหนักได้ว่าท่านลอร์ดของเมืองนี้แข็งแกร่งเกินผิดปกติ ไม่ยากที่จะวิเคราะห์เรื่องนี้”

“คิดดูสิ หากสัตว์เล็กๆเหล่านี้ดุร้ายอยู่แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกมันโตขึ้นกัน? ถ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกมันเราต้องเสียคนไปกี่คนกัน?”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วพลังที่เขาซ่อนเร้นเอาไว้อีกล่ะ? มันคุ้มค่าที่เราจะรู้หรอ?”

“นายหมายความว่ายังไง?” แองกี้ แฟตตี้รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง

“เราจะตามหาอาชีพลับในเมืองแห่งรุ่งอรุณ แล้วค่อยออกไป!” ในฐานะผู้เล่นมืออาชีพ ฉางหลี จิ่วเกอต้องการต่อสู้แบบมืออาชีพ ผู้เล่นมืออาชีพมักจะมีอาชีพลับ!

เวลาส่วนใหญ่ กิลด์ในเครือของสโมสรจะตามหาภารกิจลับและส่งพวกเขาไปยังสโมสรเพื่อให้ผู้เล่นมืออาชีพทำภารกิจให้เสร็จสิ้น

จากนั้นสมาคมในเครือก็จะให้รางวัลแก่ผู้เล่นที่ค้นพบภารกิจ ที่นอกเหนือจากการให้เกียรติและการให้กำลังใจ

แม้แต่ผู้เล่นที่ไม่สนใจรางวัลก็จะมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรม PY กับผู้เล่นมืออาชีพ มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

แต่ก่อนที่ฉางหลี จิ่วเกอจะกลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพ เขาก็ถือเป็นผู้เล่นสายสำรวจธรรมดาๆ เขาสนใจในการวิจัยพื้นหลังของเกมเป็นพิเศษ

เขามักจะหาอาชีพลับผ่านทักษะของเขา

แต่ประเด็นสำคัญก็คือ

พื้นที่ในการพัฒนาที่ดีนั้นสำคัญต่อกิลด์ย่อยและสโมสรเป็นอย่างมาก

หากเมืองรุ่งอรุณนั้นแข็งแกร่งจริง และมีแม้แต่อาชีพลับที่น่าสนใจ สโมสรกลอรีคงสมัครใจที่จะเข้าร่วมอย่างเป็นธรรมชาติ

ผู้เล่นคนอื่นมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน มันไม่สำคัญว่าบัญชีทดสอบของพวกเขาจะก้าวหน้าหรือไม่ การวางแผนและการพัฒนาในอนาคตเป็นกุญแจสำคัญยิ่งกว่า

ดังนั้นทุกคนจึงพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะออกไปในทุกทิศทาง พวกเขาจะมองหาผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในเมืองนี้!

ส่วนเมืองแห่งรุ่งอรุณจะมีความสามารถในการทำให้ผู้คนเคารพรึเปล่านั้น พวกเขาก็คงต้องรอคอยที่จะรู้คำตอบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด