ตอนที่แล้วบทที่ 63 จากลา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 65 แค่ไหนเรียกโหดเหี้ยม

บทที่ 64 ความโกรธของเย่โม่


เย่โม่ที่ตอนนี้เดินทางคนเดียวนั้น  ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นมาก  ต่อให้รวมเวลาที่เขาใช้เก็บสมุนไพรตามทางแล้วก็ใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้นในการกลับมาที่พักของเขาที่หลิวเฉอ

ทว่าภาพที่ปรากฏสู่สายตากลับทำให้เย่โม่โกรธจนถึงขีดสุด!  เพิ่งผ่านไปแค่ 20 วันเท่านั้น  ที่พักอาศัยของเขาก็เละเทะเสียแล้ว  ทุกแห่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง  ถนังถูกทุบทำลาย  แต่นี่ยังไม่เท่าไหร่  ที่สำคัญที่สุดก็คือ...ตรงจุดที่เขาปลูก ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ นั้นถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี

ปัง!  ด้วยความโกรธ  เย่โม่เตะหินก้อนใหญ่จนป่นเป็นผงด้วยพลังปราณ

ตอนนี้สมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’  รวมถึงที่แห่งนี้เขาก็ปลูกมันไว้ถึง 19 เมล็ด  ทว่าพวกมันกลับถูกทำลายทิ้งจนหมด  ฟางหนานมัวทำอะไรอยู่?

ขณะที่เย่โม่เตรียมจะไปหาฟางหนานที่หลิวเฉออยู่นั้นเอง  ก็มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหา  เมื่อเห็นเย่โม่ซึ่งยืนอยู่หน้าซากปรักหักพังก็รีบเข้ามาหาแล้วพูดด้วยความนอบน้อม  “พี่เย่!  พี่ฟางให้ผมมารอพี่  ในที่สุดพี่ก็กลับมา”

ชายหนุ่มคนพูดมีอายุ 20 กว่าๆ  เย่โม่จำเขาได้  เขาคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของฟางหนานตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก  ชายหนุ่มคนนี้ถูกเรียกว่า ‘หิน’

เย่โม่ข่มแรงโกรธในใจเอาไว้  ฐานะของ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ในใจเขานั้นสำคัญหาใดเปรียบ  ในเมื่อมันถูกทำลายไปกว่าครึ่งแบบนี้แล้วเย่โม่ไหนเลยจะทนไหว  แต่ถึงจะโกรธแค่ไหนเขาก็ยังทนได้  เย่โม่ไม่ใช่คนที่จะระเบิดความโกรธออกมาก่อนที่จะสืบสาวเรื่องราวให้แน่ชัดเสียก่อน  เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผยออกมาแล้วล่ะก็...ชีวิตของพวกมันต้องสังเวยให้กับ ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ของเขา!

หินเมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของเย่โม่ก็รีบพูดขึ้นทันที  “พี่เย่  หลังจากที่พี่ไป…เพราะแก๊ง ‘13 ผู้พิทักษ์’ หายไป  พี่ฟางหนานและแก๊งใหญ่ในหลิวเฉออีกแก๊งหนึ่ง ‘แก๊งเยวี่ยหนาน(เวียดนาม)’ ก็ต่อสู้แย่งชิงส่วนแบ่งผลประโยชน์กัน  เดิมทีพี่หนานไม่กลัวแก๊งเยวี่ยหนานอยู่แล้ว  แต่พวกมันกลับละเมิดกฏไปรวมหัวกับ ‘แก๊งเฟย’ ซุ่มโจมตีแก๊งโพตาวของพวกเรา”

“ตอนนี้พี่ฟางหนานบาดเจ็บสาหัส  พี่น้องคนอื่นๆ พาตัวมารักษาตัวที่นี่  แต่ก็ยังถูกพวกมันล้อมฆ่าอยู่ดี  สุดท้ายจึงเหลือพี่น้องแค่ไม่กี่คนพาพี่ฟางหนานฝ่าวงล้อมออกมาได้  พี่ฟางหนานสั่งให้ผมมารอพี่เย่ที่นี่  เขาบอกว่าต้องขอโทษพี่เย่ด้วยจริงๆ”

ใบหน้าของเย่โม่ซีดขาวเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด  เขานิ่งเงียบไปนานโดยไม่ได้พูดอะไร

เย่โม่เข้าใจดีว่าหากฟางหนานไม่มาที่วัดแห่งนี้  บางที ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ของเขาคงจะไม่ต้องมาถูกทำลายแบบนี้  และฟางหนานเองก็คงไม่ได้จงใจใช้วิธีนี้เพื่อได้มาซึ่งความช่วงเหลือจากเย่โม่  หรือต่อให้ฟางหนานจงใจให้เย่โม่โกรธและตรงเข้าไปทำลาย ‘แก๊งเยวี่ยหนาน’ จริง...เย่โม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหากจะต้องทำลายไอ้แก๊งโพตาวของฟางหนานลงด้วย!

เย่โม่เดินเข้าไปในสวนซึ่งถูกเหยียบย่ำจนเละเทะ  แต่เขาก็พอจะมองหาเมล็ดพันธ์ที่ปลูกไว้ได้อยู่บ้าง นั่นทำให้พอจะสงบใจลงได้

ตอนนี้เย่โม่ค้นพบแล้วว่าต่อให้ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ของเขาก็ไม่มีทางโตในที่แบบนี้ได้   นั่นเพราะเขาเห็นเมล็ดของมันซึ่งตอนนี้เน่าไปทั้งเมล็ดแล้ว  ไม่มีท่าทีว่าจะงอกออกมาเลย  ดูท่าแล้ว ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ต้องปลูกในสถานที่พิเศษจริงๆ ถึงจะโต  ไม่รู้ว่าทำไมสวนที่เขาอยู่ตอนแรกถึงได้ปลูก ‘หญ้าหัวใจสีเงิน’ ขึ้นได้แบบนั้น

“พาผมไปหาฟางหนาน”  เย่โม่พูดขึ้น  สีหน้ากลับคืนสู่ความปกติอีกครั้ง

..........

ฟางหนานตอนนี้เรียกได้ว่าอยู่ในสภาพนาเวทนาอย่างถึงที่สุด  เขากำลังซ่อนตัวอยู่ในถ้ำอันห่างไกลแห่งหนึ่ง  ลูกน้องข้างกายเขาตอนนี้เมื่อรวมกับหินแล้วเหลืออยู่เพียง 6 คนเท่านั้น

เมื่อเห็นเย่โม่เดินเข้ามา  ฟางหนานก็รีบตะเกียกตะกายยันตัวลุกยืน  ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ  ดูจากคำที่เย่โม่พูดย้ำเตือนกับเขาไว้ก็เข้าใจได้...เย่โม่ให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนั้นมาก  แต่เขากลับปกป้องมันไว้ไม่ได้  รวมถึงเขายังเป็นต้นเหตุให้สถานที่แห่งนั้นถูกทำลายอีก  หากเข้าย้อนเวลากลับไปได้อีกครั้ง  เขาจะต้องห้ามไม่ให้ลูกน้องพาเขาไปซ่อนตัวที่นั่นแน่นอน!

เย่โม่ที่เห็นฟางหนานพยายามลุกขึ้นและท่าทีละอายใจของเขาแล้ว  เย่โม่ก็โบกมือ  “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย  ให้ผมดูแผลของนายก่อน”

ฟางหนานถูกยิง…ต่อให้เขาถูกยิงมา 2 นัดก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเย่โม่  ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็จัดการแผลของฟางหนานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ผมจะไปดูที่หลิวเฉอสักหน่อยว่าใครมันกล้าทำลายของๆ ผม  ส่วนนายก็พักอยู่ที่นี่เถอะ  ตกดึกค่อยกลับไป”  เย่โม่ที่เห็นว่าฟางหนานไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ลุกเตรียมจะจากไป  ทว่าคำพูดที่เอ่ยออกมากลับเย็นยะเยียบ

ฟางหนานรีบร้อนพูดขึ้น  “พี่เย่!  เรื่องนี้ผมฟางหนานเป็นคนก่อเอง  ต่อให้ต้องตายผมก็ไม่มีทางปล่อยให้พี่เย่ไปหลิวเฉอแล้วตัวเองนอนอยู่ตรงนี้หรอก!”

เย่โม่ยิ้มบางๆ  “ในเมื่อเป็นแบบนี้...พวกเราก็ไปกันเถอะ”

ในความคิดของเย่โม่นั้น  ไอ้แก๊งคนสิ้นคิดพวกนี้ไม่อยู่ในสายตาเขาแม่แต่น้อย  ต่อให้ฟางหนานมากับเขาด้วยก็ไม่เป็นปัญหา

..........

หลิวเฉอ

ที่พักอาศัยรูปทรงครึ่งวงกลมที่สร้างจากหิน...เดิมทีแล้วที่นี่เป็นที่ของฟางหนาน  เวลานี้คนที่นั่งอยู่ข้างในกลับไม่ใช่ฟางหนานอีกแล้ว  แต่เป็นหัวหน้าแก๊งใหญ่อย่าง ‘แก๊งเยวี่ยหนาน’  และนอกจากนั้นแล้วยังมีพวกฟิลิปปินที่คอยก่ออาชญากรรมตามชายแดนของจีนอย่าง ‘แก๊งเฟย’ รวมอยู่ด้วย

“ไอ้หัวหน้าแก๊งโพตาวอย่างฟางหนานนั้นผมดูถูกมันมาตั้งนานแล้ว  ต่อให้ฆ่ามันไม่ได้แต่ก็ขับไล่มันออกจากหลิวเฉอได้แบบนี้ผมก็วางใจ  ครั้งนี้โชคดีจริงๆ ที่มีบอสผู่อยู่ด้วย  มา! ให้ผมเป็นตัวแทนแก๊งเยวี่ยหนานคาราวะ 1 จอก!”  หัวหน้าแก๊งเยวี่ยหนานพูดออกมาเป็นภาษาจีน

“ดี!  หลังจากนี้พวกเราจะอยู่ที่เมืองหลิวเฉอแห่งนี้  ต้องขอให้ประธานหวังช่วยดูแลพวกเราแล้ว”   หัวหน้าแก๊งเฟยที่นั่งอยู่ตรงข้ามพูดขึ้น  เขาเป็นชายผิวดำ  ถึงแม้จะพูดออกมาเป็นภาษาจีนแต่ก็ตะกุกตะกักอยู่บ้าง   แต่เขารู้ดีว่าการมาอยู่ที่หลิวเฉอแห่งนี้ หากไม่พูดภาษาจีนล่ะก็อยู่ไม่รอดแน่

ชายที่ถูกเรียกว่าประธานหวังหัวเราะฮ่าฮ่า  “พูดได้ดี! พูดได้ดี!  พื้นที่และธุรกิจที่ฟางหนานมันเหลือไว้  พวกเรามาแบ่งกันครึ่งๆ ตามที่ตกลงกัน”

ประธานหวังคนนี้คือหัวหน้าแก๊งเยวี่ยหนาน  หวางเซี่ยน  เขาไม่ชอบให้คนอื่นเรียกตัวเองว่าหัวหน้าแก๊ง  เขาชอบให้คนอื่นเรียกว่าประธานหวังเสียมากกว่า

ภายใต้การสนทนาต่อรอง  สถานที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยบรรยากาศครื้นเครง  จนกระทั่ง...

ตุบ! ตุบ!  เสียงเหล่านี้ขัดจังหวะภาพบรรยากาศรื่นเริงได้ชะงัด  มี 2 ศพหล่นอยู่บนโต๊ะที่หัวหน้าแก๊งเยวี่ยหนานและแก๊งเฟยกำลังดื่มเหล้ากันอยู่  มันเป็นศพของบอร์ดี้การ์ดชาวเวียดนามที่ทำหน้าที่อารักขาอยู่ด้านนอกนั่นเอง

ขณะนั้นเองที่บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด  ทว่าไม่นานทั้ง 30 กว่าคนภายในห้องก็ได้สติขึ้นมา  พวกเขาชักอาวุธเตรียมพร้อมรับศึกทันที

“นายเป็นใคร!?  ทำไมอยู่ๆ ก็มาฆ่าคนของผมแบบนี้!?”  มือประธานหวังวางอยู่บนด้ามปืนแล้ว  ไม่ว่ายังไงชายคนนี้ก็ฆ่าลูกน้องเขา  ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต!

เย่โม่หัวเราะเสียงเย็น  เขากวาดสายตามองคนภายในห้องแวบหนึ่ง  มีทั้งหมด 40-50 คน  มีคนดำอยู่ 10 กว่าคนและคนขาวอีก 2 คน  เมื่อสำรวจเสร็จเขาก็พูดขึ้น  “วัดที่ผมอยู่...พวกนายเป็นคนทำลายใช่ไหม?”

ฆ่าคนแค่เพราะวัดถูกทำลาย?  สีหน้าประธานหวังเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ  เขาชักปืนออกมา  “พี่น้อง!  ฆ่ามัน!  จัดการไอ้เปรตนี่!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด