ตอนที่แล้วตอนที่ 1. เพื่อนบ้าน (?)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3. แน่จริงลุกขึ้นมาต่อยกันไหม!

ตอนที่ 2. ผู้ชายบ้านโน้น


ตอนที่ 2. ผู้ชายบ้านโน้น

เสาร์-อาทิตย์นี้ ณิชาไม่ได้ไปขายของที่ถนนคนเดินเพราะใกล้สอบแล้ว แถมยังมีรายงานที่ต้องเร่งทำส่งอาจารย์ให้ทันตามกำหนด  ถึงจะเสียดายเงินที่หดหายไป แต่การอดทนเพื่อเรียนให้จบนั้นก็สำคัญกว่า  หญิงสาวช่วยงานในบ้านของแม่เสร็จก็หิ้วโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานที่ใต้ถุนบ้าน  พร้อมกับกาแฟร้อนกับขนมไทยที่แม่ทำไว้ให้   ครู่หนึ่งก็มีมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่มาจอดหน้าบ้าน  แม่ก็แต่งตัวด้วยชุดสีดำออกมาจากในบ้านพอดี

“แม่ไปช่วยงานศพบ้านผู้ใหญ่ต๋องก่อนนะลูก”

“จ๊ะแม่”

ณิชาร้องยิ้มให้เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเธอที่สวมเสื้อสีดำ    แม่เดินไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนรู้จักแล้วรถก็เคลื่อนออกไป หญิงสาวรวบผมขึ้นเป็นหางม้า  เธอไม่ค่อยชอบผมยาวของตัวเองนักหรอก แต่ทำยังไงได้ ก็แม่ขอไว้

“ไหนๆ ก็เกิดมาเป็นลูกสาวแม่ทั้งที ช่วยทำตัวเป็นผู้หญิงให้แม่หน่อยได้ไหมเนี้ย”

แม่มักจะบ่นที่เธอซนทะโมนเป็นลิงอยู่เสมอ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็เป็นอย่างนี้มาตลอด  พ่อมักจะตามใจเธอไม่ค่อยดุว่าอะไร มีแต่แม่ที่เอาแต่ดุเธออยู่เรื่อย ถ้าหนักหน่อยก็โดนก้านมะยมฟาดสักทีสองที แค่บีบน้ำตาพ่อก็รีบเข้ามาห้ามแม่แล้ว

เธอนั่งทำงานได้ครู่ใหญ่ก็รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว  ลุกขึ้นเดินเล่นบริเวณบ้านแก้เมื่อยขบ  แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าหมาในบ้านตัวเองไม่ครบ

“ไข่ดาวหายไปนะเนี้ย”  หญิงสาวบ่นแล้วตะโกนเรียกหมาพันธุ์ทางที่พ่อของเธอเก็บมาเลี้ยง

“ไข่ดาว อยู่ไหนออกมากินขนมเร็ว”

ณิชาหลอกล่อแต่ก็เห็นเพียงหมา 3 ตัวที่กระดิกหางทันทีที่ได้ยินคำว่า ขนม หญิงสาวเอะใจเดินมาที่ดูริมรั้ว เธออ้าปากค้าง เห็นพื้นดินมีรอยขุด  เธอชะเง้อมองข้ามรั้วเตี้ยๆ

“ไข่ดาว! มานี้อย่าไปนะ!”

หญิงสาวตะโกนเรียก แต่เจ้าไข่ดาวเป็นหมาผจญภัย หันมามองเจ้านายแวบเดียวแล้วก็วิ่งจูดไปทันที   ณิชานึกถึงที่แม่ย้ำนักย้ำหนา  ไม่ให้หมาที่บ้านไปรบกวนคนอื่น  เธอรีบจับหมาที่เหลือใส่กรงขังแล้ววิ่งไปคว้าจักรยานปั่นไปด้านข้าง

บ้านรั้วติดกันก็จริง แต่ระยะห่างจากรั้วไปถึงตัวบ้านหลายเมตร  หญิงสาวไม่กล้าเข้าทางหน้าบ้าน กลัวเจ้าของบ้านจะตำหนิเอา  อาศัยที่ตัวเองเป็นเจ้าถิ่นแถวนี้รู้ดีทุกซอกทุกมุม  แอบจอดจักรยานไว้แล้วมุดเข้าไปที่แนวรั้วเตี้ยๆ   กิ่งไม้เกี่ยวผมจนยุ่งเหยิง แต่เจ้าของร่างเล็กไม่ได้สนใจ  เป็นห่วงเจ้าหมาแสบจะทำลายข้าวของหรือขุดต้นไม้ออกจากกระถาง

เจ้าไข่ดาวชอบแอบมาที่บ้านหลังนี้บ่อยๆ แต่เพราะเมื่อก่อนลุงกับป้าใจดีไม่เคยดุด่าอะไร  แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าเจ้าของบ้านตัวจริงเป็นใคร  ก็เกรงว่าลุงกับป้าจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย

“ไข่ดาว อยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

ณิชากระซิบเรียกหมาตัวแสบ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ออกจะแปลกตาไปสักหน่อย บริเวณหลังบ้านถูกปรับพื้นให้เรียบ มีทางลาดเหมือนทางสำหรับรถเข็น   เธอไม่ได้เข้ามาบ้านเพื่อนบ้านบ่อยนัก แต่ครั้งล่าสุดที่เข้ามามันยังเป็นพื้นดินธรรมดาอยู่เลย

“หรือจะมีคนแก่มาอยู่ ถึงได้ทำทางลาดและราวจับไว้ด้วย”

ณิชาอดสงสัยไม่ได้ เลยเดินย่องๆ ไปที่หวังแอบส่องที่หน้าต่างใกล้บานประตู  เธอหรี่ตามองด้านในก็ไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ

รถเข็นของชานนท์เป็นรุ่นล่าสุดระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนสั่งการด้วยปลายนิ้ว   เขามองเห็นหมาพันธุ์ทางตัวไม่ใหญ่นักกำลังขุดดินบริเวณกระถางดอกกุหลาบ  คราวแรกเขาตกใจกลัวว่ามันจะเป็นหมาจรเข้ามาทำร้ายเขา แต่พอเจ้าหมาเงยหน้าที่ทำตาเหล่ๆ มองที่ปลายจมูกตัวมันเองมีหนอนกระดึบๆอยู่  เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ มันส่ายหน้าไปมาแรงๆ เจ้าหนอนตัวเขียวก็ไม่ยอมหลุด

“เดี๋ยวๆ อยู่เฉยๆก่อนนะ จะเขี่ยออกให้”

เขาพูดปนหัวเราะแล้วใช้กิ่งไม้ยื่นมือไปเขี่ยที่ปลายจมูกให้หนอนเจ้ากรรมหลุดออกไป  มันช้อนตามองเหมือนจะบอกว่าขอบคุณ แต่ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วสังเกตเห็นว่ามันมีปลอกคอและท่าทางเชื่องๆนั้นก็ดูไม่เป็นพิษเป็นภัย  เขากวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็เห็นเงาร่างก้มๆ เงยๆ ทางหน้าต่างหลังบ้านของเขาเอง

“จะมาขโมยอะไรเหรอ”

“ว้าย!”  หญิงสาวร้องเสียงหลง ผงะถอยหลังอย่างตกใจ แต่เพราะยืนใกล้ทางลาดจึงเสียหลักหงายหลังก้นกระแทกพื้น

“อ้าว”

“อ้าวอะไรเล่า”  หญิงสาวร้องโวยวายจะลุกก็เจ็บจนลุกไม่ขึ้นเลยได้แต่คลานเข่า  เจ้าหมาเห็นเจ้านายเลยรีบวิ่งมาหาเลียหน้าเลียตาอย่างปลอบใจ

“เจ้าไข่ดาว เพราะแกแท้ๆเลย”

“อะไรกัน ล้มเองดันโทษหมา”

ณิชาหันขวับไปตามเสียงที่ได้ยิน เธอถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ

“คุณก็เหมือนกันนั้นแหละ มาไม่ให้สุ่มให้เสียง คนเค้าก็ตกใจเป็นเหมือนกันนะ”

“ผมเป็นเจ้าของบ้านจะต้องส่งเสียงบอกขโมยหรือไงกันนะ”  ชานนท์ขมวดคิ้ว  เด็กสาวคนนี้พิลึกจริง

“ก็นั้นแหละ ถ้าเรียกกันดีก็ไม่เจ็บตัวอย่างนี้หรอก”   ตอนนี้ณิชารู้สึกอายมากกว่าเจ็บ

“แล้วฉันต้องขอโทษเธอหรือไง”

“ก็ฉันคนเจ็บตัวนี้”  เธอลูบก้นตัวเอง

ชานนท์ขมวดคิ้ว พิจารณาหญิงสาวตรงหน้า ผมเผ้ายุ่งเหยิงมีกิ่งไม้ติดอยู่ แถมยังเจ็บตัวอีก แล้วเขาก็แหงนหน้าส่งเสียงหัวเราะ  เสียงหัวเราะของเขาทำให้หญิงสาวทำหน้าบึ้ง แต่ทำให้คนในบ้านรีบเดินออกมาดู

“อ้าว หนูเตยมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ”  ป้าสมใจถามด้วยรอยยิ้ม

“มาตามเจ้าไข่ดาวค่ะป้า”   ณิชายิ้มอายๆ  “ป้าทำบ้านใหม่หรือคะ”

“ป้าไม่ได้ทำหรอกจ๊ะ เจ้าของบ้านเค้าทำ”  ป้าหันไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเข็น

‘เจ้าของบ้าน’

คำพูดชัดถ้อยชัดคำทำให้หญิงสาวยิ้มแหย   เจอกันครั้งแรกก็ฝากความประทับใจให้แล้ว

“นี่คุณชานนท์เจ้าของบ้าน”  ลุงอาทรแนะนำ  “คุณชานนท์ครับ นี่หนูณิชาเพื่อนบ้านเราเองครับ”

“สวัสดีค่ะ”  เธอจำใจยกมือไหว้

ชายหนุ่มถึงกับต้องรีบยกมือรับไหว้  เขาไม่แก่ขนาดให้เธอต้องมายกมือไหว้ก็ได้มั้ง?  ท่าทางเหมือนเด็กซนๆ ผิวขาว ปากนิดจมูดหน่อย หน้าตาก็นับว่าน่ารักดีตามแบบฉบับสาวต่างจังหวัด

“ไอ้ตัวที่ขุดต้นกุหลาบนี่ชื่อไข่ดาวเหรอ”

“ค่ะ เตยขอโทษด้วย เดี๋ยวเตยจะมากลบหลุมให้นะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวลุงทำเอง”

“ไม่ได้หรอกครับ ใครเป็นเจ้าของหมาก็ต้องรับผิดชอบซิ”  ชานนท์ยักคิ้วให้

ณิชาอ้าปากค้าง แล้วก็ฉีกยิ้มกว้าง “ได้ค่ะ เตยเป็นเจ้าของหมา เตยต้องรับผิดชอบ”

ป้าสมใจกับลุงอาทรหันมามองหน้ากันอย่างแปลกใจ  ที่แปลกใจก็คือตั้งแต่คุณชานนท์มาพักที่บ้านหลังนี้ เห็นแต่ท่าทางหงุดหงิดโมโหง่าย  ใครทำอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด แต่ทั้งสองเพิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเป็นครั้งแรก และเขากำลังแกล้งเด็กสาวทั้งที่เจ้าหมาตัวนั้นมันก็ไม่ได้ทำความเสียหายอะไรมากมายนัก

ณิชามาบ้านหลังนี้บ่อย  จำได้ได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เธอเดินไปหยิบซ้อมพรวนดินมากลบหลุมที่เจ้าไข่ดาวขุด โดยมีเจ้าหมาตัวต้นเหตุนั่งกระดิกหางเป็นกำลังใจให้เจ้านาย

“มันเอียงนะ ขยับให้มันตรงเหมือนเดิมด้วยซิ”

“ค่ะๆ รับทราบแล้วเจ้าคะ”

ณิชาจำใจทำตามที่เขาสั่ง จะให้ทำอย่างไรได้เล่า เธอผิดเองที่เผลอปล่อยเจ้าไข่ดาวมาทำลายสวนกุหลาบอันแสนสวยงาม แต่...ขอย้ำว่าแต่.. มันแทบจะไม่มีรอยโดนขุดเลยสักนิดเดียว บ้านเธอโดนเจ้าไข่ดาวขุดรากถอนโคนมาหลายต้นแล้ว

ชานนท์มองหญิงสาวหน้างอนั่งกลบหลุมตื้นๆที่เจ้าหมาน้อยทำไว้  เขาได้แต่ยิ้มและขำอย่างไม่รู้ตัว ก็ไม่รู้ทำไมเห็นแล้วก็อยากหัวเราะทั้งที่... เขาห่างการหัวเราะมานานแค่ไหน

“เสร็จแล้วค่ะ ตรวจงานก่อนไหมคะ”

“ก็...ใช้ได้นี่”

“งั้นเตยไปละ ต้องรีบกลับไปทำรายงาน”

“เรียนอยู่ม.ไหนละเรา”

“ราชภัฏค่ะ”

“หือ? เรียนมหา’ลัยแล้วเหรอ”  เขาทำหน้าไม่เชื่อ หน้าตาเหมือนเด็กมัธยม

“จะชมว่าเตยหน้าเด็กใช่ไหมล่ะ”  หญิงสาวเชิดหน้าใส่  แต่ชายหนุ่มกลับปล่อยเสียงหัวเราะไม่เกรงใจคนตรงหน้า ทำให้อีกฝ่ายหน้างอเข้าไปอีก

“นี่คุณ!”

“ผมชื่อชานนท์”  เขาพูดยิ้มๆ

“ไปล่ะ ไม่อยากคุยด้วยแล้ว”

เธอหันไปดุเจ้าหมาต้นเรื่อง

“ไปเร็วไข่ดาว วันนี้ปล่อยให้อดข้าวแน่”

ชานนท์อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เงียบแทน  เห็นหญิงสาวทำท่าจะมุดรั้วออกไปพร้อมเจ้าหมาสี่ขา เขาก็หัวเราะออกมาอีก

“คราวหน้าคราวหลัง เข้าประตูหน้าก็ได้นะ”

ณิชาหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่แล้วผลุบหายไปในช่องว่างของแนวรั้วเตี้ยๆนั้น

“เด็กที่ไหนนะ”  ชานนท์หันมาถามคนดูแลบ้าน

“หนูเตยค่ะ อยู่บ้านใกล้ๆ นี่”  สมใจบอกอีกครั้ง “เป็นเด็กดีค่ะ บางทีก็มาช่วยเราสองคนดูแลสวนค่ะ”

“เด็กประหลาด”  เขายิ้ม “ถ้าคราวหน้ามา...ก็เรียกผมด้วยแล้วกัน”

“คุณชานนท์มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีอะไรนี่ ก็...ตลกดี”

“ค่ะๆ” ลุงอาทรกับป้าสมใจมองหน้ากันแปลกใจปนดีใจที่เห็นเจ้าของบ้านหัวเราะได้

“คุณนนท์ครับ ได้เวลาทำกายภาพบำบัดแล้ว”   บุรุษพยาบาลเดินเข้ามาหา  เพราะมาทีหลังเลยไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่เห็นคนป่วยยิ้มก็ประหลาดใจ หันไปทางลุงกับป้าก็เพียงแค่ยิ้มตาม

“เอาซิ”

ชานนท์บังคับรถเข็นให้เคลื่อนตามร่างของปกรณ์ บุรุษพยาบาลที่เดินนำไปก่อน  แต่ขณะที่รถผ่านแนวรั้วที่มีรอยมุดเข้าออกได้นั้น ใบหน้าคมเข้มก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา

ณิชาทำหน้าบึ้งตึงอารมณ์ไม่ดี ดุเจ้าหมาไข่ดาวกลับมาบ้าน ขณะเดินผ่านกระจกเงาเห็นสภาพตัวเองแล้วอยากร้องกรี๊ดๆ ไม่แปลกใจเลยที่อีตานั้นถึงได้เอาแต่หัวเราะเอาๆ แบบนั้น  ผมเผ้าก็หยุงเหยิงมีเศษหญ้าติดตามตัวเต็มไปหมด  หญิงสาวกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจแล้วหันไปตวาดเจ้าหมาหน้าซื่อ

“เพราะแกนั้นแหละ ทำฉันอับอายขายขี้หน้า!”

บรรดาหมาๆ กลับมองเจ้านายอย่างงุนงงไม่เข้าใจความผิดของตัวเอง  ณิชาเห็นสภาพตัวเองแล้วก็อดไม่ได้ ต้องรีบไปอาบน้ำล้างเนื้อตัวและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่

แต่ก็อดคิดถึงผู้ชายบ้านโน้นไม่ได้ ลืมไปเลยว่าเขานั่งรถเข็น หน้าตาก็ดูยังหนุ่มๆอยู่ ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้อยู่ในสภาพนั้น  เขามาพักฟื้นร่างกาย  เธอมัวแต่แยกเขี้ยวยิงฟันใส่เลยไม่ได้ดูว่าเขาเจ็บป่วยเป็นอะไร

“เจอกันคราวหน้าจะพูดจาดีๆก็แล้วกัน”

หญิงสาวยักไหล่

 “ถ้านายไม่กวนโมโหฉันก่อนนะ”.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด