ตอนที่ 12 การทดสอบ(2)

ตอนที่ 12 การทดสอบ(2)

“ไม่ดีแล้ว ไอ้พวกนี้รับมือยากจริงๆ”

[ค้างคาวไฟ : LV 5 ]

[HP : 310]

[พลังโจมตี : 11 - 20]

[ธาตุ :ไฟ]

[สกิล : ทุกการเคลื่อนที่จะมีสะเก็ดไฟประทุขึ้น ทำความเสียหาย 1 หน่วยทุกวินาที]

[ซอมบี้: LV 5 ]

[HP : 400]

[พลังโจมตี : 8 - 12]

[ธาตุ : วิญญาณ]

[สกิล : ไม่มี]

[ภูติแฟรี่ : LV 5 ]

[HP : 100]

[พลังโจมตี : 10 - 20]

[ธาตุ : แสง]

[สกิล :สามารถทำให้ศัตรูได้รับตาบอดเมื่อจ้องมองแสงที่ปล่อยออกมา]

มอนสเตอร์ 9 ตัว ที่ปรากฏขึ้น ถึงแม้เขาจะใช้แผนหลอกล่อพวกมันให้แยกออกจากกัน ค้างคาวไฟและภูติแฟรี่ ต่างก็เป็นมอนสเตอร์ชนิดบินและมีความเร็วใกล้เคียงกันทำให้ เจสเปอร์ต้องรับมือกับมอนสเตอร์ทั้ง 6 ตัวพร้อมๆกัน

เจสเปอร์ทิ่มแทงพวกมันราวกับพวกมันเป็นลูกโป่งแต่ด้วยอาวุธที่ค่อนข้างแย่ ทำให้เขาต้องใช้สมาธิกับมอนสเตอร์ตรงหน้าให้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วผู้เล่นเลเวลสูงแทบจะไม่ต้องใช้สมาธิในการสู้กับมอนสเตอร์ระดับต่ำเลย เพียงฟันพวกมันไม่กี่ทีพวกมันก็กลายเป็นศพไปแล้ว

แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับกัน ถึงแม้เจสเปอร์จะมีเทคนิคขั้นสูงและได้เปรียบในการย้อนเวลากลับมา แต่ข้อได้เปรียบเหล่านั้นจะมีค่าก็ต่อเมื่อเขามีเงินทุนและเลเวลที่เหมาะสมด้วย

ซอมบี้ใกล้จะมาถึงแล้วดูท่าแล้วเขาคงไม่จำเป็นที่จะต้องออมแรงใดๆไว้อีก

[Sweep Slash !!]

1 ใน 5 สกิลสำหรับต่อสู้ของอาชีพผู้ควบคุมธาตุ ผู้ควบคุมธาตุจัดเป็น การผสมผสานระหว่างนักเวทย์กับนักรบ ทำให้ค่าสถานะจะคาบเกี่ยวกันไป แถมสกิลสำหรับต่อสู้ก็มีน้อยมากๆ ส่วนพลังเวทย์ที่เน้นไปที่การโจมตีก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ เพราะเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับเสริมพลังโดยแท้จริง

[Sweep Slash Lv:1]

[Sp : 11]

[รายละเอียด : ทำการกระหน่ำการโจมตีเข้าใส่ศัตรู ทำดาเมจโดยการกรีดและเฉือด ศัตรูทั้งหมดในพื้นที่รอบตัวผู้เล่น พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีโดนเป้าหมายและทุกการโจมตีจะชิ่งต่อไปเรื่อยๆใส่ศัตรูในรูปแบบสุ่ม]

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสกิลที่ค่อนข้างโกงแต่ความจริงแล้วไม่เลย มันทำได้กับแค่มอนสเตอร์เท่านั้น ส่วนกับผู้เล่นเมื่อผู้เล่นรู้รายละเอียดของสกิลเป็นอย่างดีการหลบก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย

-7,-8,-11,-13,-15,-17,18,21,22,22

จำนวนความเสียหายของค้าวคาวไฟและภูติแฟรี่ค่อยไต่ระดับขึ้นมาอย่างอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าเขาจะทำดาเมจได้สูงสุดเพียงแค่ 22 ดาเมจเท่านั้น ภูติแฟรี่ทั้งหมดก็ได้ล้มตายลง ค้างคาวไฟเองก็เช่นกัน พวกมันเหลือพลังชีวิตอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันพยายามหนีไปทางซอมบี้ที่กำลังเข้ามาใกล้

‘ค้าวคาวพวกนี้ฉลาดไม่เบา’ เขาทำได้แค่บ่นในใจเพราะการจะฆ่าซอมบี้พวกนี้ต้องใช้เวลาแต่ถึงยังงั้นพวกมันก็เป็นค่าประสบการณ์ชั้นดีในการอัพเลเวล หากดูจากค่าประสบการณ์ตอนนี้ของเขา เมื่อฆ่าพวกมันทั้งหมด ตัวเจสเปอร์คงเลื่อนขึ้นเป็นเลเวล 3 แน่ๆ ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นเก็บเลเวลอยู่ด้านนอกที่เมืองอัลคาเดีย มอนสเตอร์แทบไม่มีเวลาหายใจ สไลม์เลเวล 1 เกิดมาไม่ถึง 10 วินาทีก็ตายอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็พึ่งอัพเป็นเลเวล 2 กันเท่านั้นเอง การเก็บเลเวลในการทดสอบก็เป็นอะไรที่ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน ไม่ต้องแย่งกับใครแถมเมื่อผ่านการทดสอบก็จะทิ้งห่างผู้เล่นคนอื่นไป 1 ช่วงตัว

ก็เป็นดั่งที่คาดเมื่อซอมบี้ตัวสุดท้ายล้มลง เลเวลก็อัพขึ้นเป็นเลเวล 3 ทันที

[ชื่อ : เจสเปอร์ Lv:3]

[เพศ : ชาย]

[อาชีพ : ผู้ควบคุมธาตุฝึกหัด]

[Hp : 91/95 Sp: 81/135]

[พละกำลัง : 8+2 => 10]

[ป้องกัน : 5]

[ความว่องไว : 6+4 => 10]

[สติปัญญา : 11+4=>15]

[ความอดทน : 4 ]

[ค่าความโชคดี : 0]

แต้มสถานะ 10 แต้มที่ได้รับมาถูกแจกจ่าย ให้พละกำลัง ความว่องไว และ สติปัญญา ส่วนสกิลนั้นเจสเปอร์ได้เพิ่มให้กับ Enchant และ Sweep Slash ขึ้นไป อย่างละ 1 เลเวล

เจสเปอร์นั่งพักอยู่ในประตูมิติสักครู่เพื่อฟื้น ค่าเวทมนต์ของตัวเองซะก่อน พลางตรวจสอบไอเทมและของที่ได้รับมาบางส่วน พวกนี้เมื่อเอาไปขายให้กับ NPC น่าจะได้ราวๆ 10เหรียญเงิน บวกกับเหรียญทองแดงที่ดรอปออกมาทำให้เงินในตอนนี้มี 13 เหรียญเงิน 84 เหรียญทองแดง

‘100เหรียญทองแดง เท่ากับ 1 เหรียญเงิน’

‘100เหรียญเงิน เท่ากับ 1เหรียญทอง’

“13 เหรียญเงินก็ยังดีอย่างน้อยก็มีเงินตั้งตัวแต่ดูเหมือนยังขาดอยู่นิดหน่อย เอาไว้ค่อยคิดถึงอีกที”

‘ส่วนการแลกเหรียญทองเป็นเครดิต ตอนนี้ยังมีค่าไม่ค่อยสูงมากเท่าไร หากจะขายทำเงินเป็นเครดิตต้องรอให้เกมเปิดไปได้สักพักถึงจะสามารถทำเงินได้เท่าที่เขาหวังไว้’

เจสเปอร์มีแผนจะยกระดับฐานะในเกมและโลกจริง ให้สูงขึ้นยิ่งมากเท่ายิ่งดี ยิ่งถ้าเขาร่ำรวยในเกมมากเท่าไหร่ โอกาสก็จะยิ่งทำได้เร็วยิ่งขึ้นเพราะการเป็นผู้เล่นเดี่ยว จะพัฒนาได้ยากมากหากไม่มีเงินทุนไว้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากกิลด์ชั้นนำที่มีบริษัทจากภายนอกคอยสนับสนุนด้านการเงินและอุปกรณ์ในทุกๆด้าน

เมื่อพลังชีวิตและพลังเวทมนต์กลับมาพร้อมสรรพเต็มที่ เจสเปอร์ก็เข้าสู่การทดสอบบทต่อไป

[การทดสอบบทที่ 1 เสร็จสิ้น ยินดีกับผู้เล่น เจสเปอร์ได้ทำการเลื่อนขั้นผู้ควบคุมธาตุอย่างสมบูรณ์ ท่านยังอยากที่จะเดินหน้าต่อหรือย้อนกลับ]

‘เดินหน้าต่อ’

ชายหนุ่มไม่ลังเลอะไรต่อไปทั้งสิ้น ยิ่งเขาผ่านไปมากเท่าไร ระบบก็จะให้ของตอบแทนที่มีค่าสูงขึ้นตามลำดับ

‘การทดสอบบทที่ 2 กำลังจะเริ่มต้น ผู้ฝึกหัดโปรดเตรียมตัว’

เสียงแจ้งเตือนจากระบบแจ้งเตือนทันทีเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาภายในห้องทดสอบ ซึ่งเป็นลานกว้าง โล่ง ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆมาบดบังสายตา

[โกเลมมนตรา LV:15]

[HP : 2400]

[พลังโจมตี : 84 - 110]

[ธาตุ : ไม่ทราบ]

[สกิล : ไม่ทราบ]

โกเลมขนาดยักษ์ค่อยๆหลอมตัวจากเศษหิน และดินบริเวณรอบๆลานกว้าง จนร่างกายของมันสูงถึง 2 เมตร การโจมตีของมันแค่ที่ 1-2 ที ก็ทำให้เขาตายได้ในทันที

เจสเปอร์เปิดใช้งานสกิล Enchant เคลือบธาตุไฟลงบนอาวุธของเขาด้วยที่มันเลเวล 3 การจมตีธาตุไฟจะสูงขึ้นถึง 30% โกเลมทุกตัวจะมีธาตุเริ่มต้นที่ดิน ที่ต้องระวังคือการโจมตีของพวกมันที่รุนแรงมาก และต้องคอยระวังให้ดีถึงตอนที่มันเปลี่ยนธาตุ แต่ถึงยังไงมันก็มีจุดอ่อนที่ใหญ่เอาการ ซึ่งเจสเปอร์รู้ดีอยู่แล้ว

เจสเปอร์พุ่งเข้าไปปะทะกับโกเลมทันที โกเลมทุบลงมาทีจุดทีเขายืนอยู่ เจสเปอร์ต้องกระโดดหลบออกมาได้อย่างชำนาญ ก่อนจะฟันสวนกลับไปที่หน้าอกของโกเลม

-34

ค่าความเสียหายปรากฏขึ้น โกเลมคงรู้สึกเหมือนมดตัวน้อยมาสะกิดตัวมัน มันเหวี่ยงแขน หมายจะปัดเจสเปอร์ให้พ้นทาง แต่เขาก็หลบออกมาได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกการหลบของเจสเปอร์จะฝากดาเมจจำนวนหนึ่งใส่โกเลมทุกครั้ง

พลังชีวิตมันค่อยลดลงช้าๆจนเมื่อเลือดของมันลดลงเหลือ 80% มันก็ทำการคำรามออกมา เจสเปอร์กระโดดถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่าง โกเลมจะเข้าสู่การเปลี่ยนธาตุ ตัวเขาเองก็ต้องเปลี่ยนธาตุเพื่อรับมือกับมัน

มีไอความร้อนประทุออกมาตามร่างกายของโกเลม ไอร้อนเริ่มมากขึ้น อากาศบริเวณโดยรอบสูงขึ้นอย่างฉับพลัน จนในที่สุดไฟก็ลุกท่วมตัว มันทุบพื้นอย่างเกรี้ยวกราด ทุกๆครั้งที่มันทุบลงพื้น พื้นก็ลุกเป็นไฟ

เจสเปอร์เตรียมรับมือกับมันในร่างนี้เป็นอย่างดี เพราะหากยื้อต่อไป โกเลมจะเริ่มเปลี่ยนธาตุไปเรื่อยๆและพลังชีวิตของมันก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เขาเปิดใช้งาน Sweep Slash ทันทีเมื่อ พุ่งเข้าถึงตัวโกเลม

-45,-41,-45,-48,51

เจสเปอร์ฟาดฟันโกเลมมนตราอย่างบ้าคลั่ง โกเลมพยายามที่จะปัดป้องและโต้กลับมา แต่ช่องว่างที่พวกมันใฝ่หากลับไม่ปรากฏขึ้นมาเลย ทุกการโจมตีเข้าที่จุดตายของโกเลมทั้งหมด ยิ่งการทิ่มแทงลงไปที่จุดตายที่อยู่ตรงสี่ข้าง บางครั้งที่ติด Critical ออกมา โกเลมถึงกับทรุดลงไปทันที เจสเปอร์รีบถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

เมื่อโกเลมที่อยู่ในร่างธาตุไฟ มีพลังชีวิตต่ำจนน้อยกว่า 10% มันจะทำการระเบิดตัวเองนี้คือข้อได้เปรียบของการย้อนอดีตมาแบบเขา ร่างกายของโกเลมค่อยๆขยายขึ้นมันมองกลับมาด้วยความเคียดแค้น แต่เจสเปอร์ได้ถอยห่างออกไปไกลแล้ว พลางยืนยิ้มพร้อมกับจองมองกลับมาที่มัน

‘บรึ้ม’

เจสเปอร์หันหลังให้กับโกเลมตัวนั้น เหมือนกับพระเอกในภาพยนตร์ แต่ที่แตกต่างจากพระเอกในภาพยนตร์คือเมื่อเขาหันหลังให้เสร็จ เจสเปอร์กลับวิ่งไปที่จุดโกเลมระเบิดเพื่อไปเก็บของ

ใบหน้าของเจสเปอร์ปรากฏรอยยิ้มออกมาให้เห็นเมื่อเขาเข้าไปเก็บของจากโกเลมที่ดรอปไอเท็มไว้

[โล่สลักอาคม: ขาว(เซ็ต) 1/5]

[พลังป้องกัน: 8]

[สถานะ: สติปัญญา + 7 ป้องกัน + 5]

[รายละเอียด: โล่ที่มีลวดลายอาคม จากผู้ควบคุมธาตุขั้นสูง ดูผิวเผินอาจจะเหมือนโล่ธรรมดาแต่ผู้ควบคุมธาตุขั้นสูงได้สลักพลังธาตุเอาไว้ข้างใน

[หากสวมใส่ครบทั้ง 3 ชิ้น สติปัญญา + 5]

[หากสวมใส่ครบทั้ง 5 ชิ้น สติปัญญา + 10]

[ความต้องการ: ผู้ควบคุมธาตุ เลเวล 3 ขึ้นไป]

[ดาบสลักอาคม : ขาว(เซ็ต) 2/5]

[พลังโจมตี : 25-34]

[สถานะ : พละกำลัง+ 8 ความว่องไว+ 2 สติปัญญา+3]

[รายละเอียด : ดาบที่มีลวดลายอาคม จากผู้ควบคุมธาตุขั้นสูง ดูผิวเผินอาจจะเหมือนดาบธรรมดาแต่ผู้ควบคุมธาตุขั้นสูงได้สลักพลังธาตุเอาไว้ข้างใน]

[หากสวมใส่ครบทั้ง 3 ชิ้น สติปัญญา + 5]

[หากสวมใส่ครบทั้ง 5 ชิ้น สติปัญญา + 10]

[ความต้องการ : ผู้ควบคุมธาตุ เลเวล 3 ขึ้นไป]

“นี้คือเซ็ตอาคม โชคดีจริงที่บทที่ 2 ก็ดรอปของพวกนี้มาได้ถึง 2 ชิ้น”

เจสเปอร์รีบสวมใส่โล่และดาบที่ได้รับมาใหม่ทันที นี้คือเซ็ตเริ่มต้นอย่างแท้จริงแต่การจะตามหามันให้ครบนั้นค่อนข้างยาก หากเขาสวมใส่พวกมันครบทั้ง 5 ชิ้น ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์ไปจนถึงเลเวล 10 เผลอๆอาจจะ 20 เลยด้วยซ้ำ

‘การทดสอบบทที่ 2 เสร็จสิ้น ผู้ควบคุมธาตุฝึกหัด ยังอยากที่เดินหน้าต่อหรือย้อนกลับ’

เจสเปอร์ เดินตรงไปที่ประตูมิติ อย่างใจเย็น สถานที่ถัดไปคือฝันร้ายสำหรับเขามาก่อนแต่สายตาของเจสเปอร์ก็ยังมั่นคงหนักแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

“เอาล่ะ มาถึงบทที่ 3 สักที ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดอีกแน่!!”

เจสเปอร์เดินผ่านประตูมิติเข้ามา นี้คือการทดสอบที่เขาเคยผ่านมาก่อน แต่กว่าจะผ่านบททดสอบนี้มาได้ก็เป็นอะไรที่ยากลำบากมากพอสมควร การทดสอบบทที่ 3 ไม่ใช่ให้ต่อสู้เหมือนดังการทดสอบ 2 บทแรก เพระการทดสอบบทที่ 3 คือการเอาตัวรอดจากกับดักและอันตรายที่พบเจอ ในอดีตเขาต้องประสบปัญหาบทที่3นี้ เพราะการจะผ่านบทนี้ไปผู้เล่นต้องเข้าใจหลักการเคลื่อนที่ของเกม The Era Online เสียก่อนถึงจะผ่านพวกมันไปได้

เจสเปอร์พุ่งเข้าสู่โถงทางเดินที่คับแคบ เส้นทางของมันคดเคี้ยวราวกับเข้าวงกต มีหนามแหลมคอยขัดขวางตลอดเส้นทางการเดิน เขาเบี่ยงตัวหลบพวกมันอย่างช่ำชอง รู้ทุกตำแหน่งที่อันตราย ศาสตราจารย์ อลาสเตอร์ ที่คอยเฝ้ามองจากลูกแก้ววิเศษ มีรอยยิ้มบนใบหน้าที่เหี่ยวย่น พลางกำลังเฝ้ามองเจสเปอร์อย่างมีความหวัง

“ดูเหมือนว่าภายในอาณาจักรในการดูแลของท่านอลาสเตอร์จะมีผู้ควบคุมธาตุที่มีพอสวรรค์อยู่บ้างนะ?” ชายชราอีกคนปรากฏขึ้นจากไอน้ำ

“ว่าแต่ผู้ควบคุมธาตุฝึกหัดในอาณาจักรกรีนเวต้า จะมีความสามารถเทียบเท่า ผู้ควบคุมธาตุจากอาณาจักร บลูโอเชี่ยน ของฉันได้หรือป่าวละ?!”

“ฉันเองก็ไม่สามารถบอกความสามารถของคนๆนี้ได้ ทำไมไม่ลองมองด้วยตาท่านเองล่ะ…ท่านยารุกซ์”

ชายชราที่ปรากฏขึ้นมาจากไอ แท้ที่จริงแล้ว คือ ศาสตราจารย์ ยารุกซ์ มีตำแหน่งเทียบเท่า ศาสตราจารย์อลาสเตอร์ เพียงแต่ทั้ง 2 คนดูแล กันคนละ อาณาจักร

“ท่านลองดูชายหนุ่มที่ชื่อ สึนามิสตรอม ของอาณาจักรบลูโอเชี่ยนก่อนไหม จะได้ประเมินคนจากฝั่งท่านถูก ดูสิ ชายคนนี้กำลังจะผ่านการทดสอบบทที่ 1 แล้ว ฉันเองก็ไม่อยากจะทำให้ท่าน อลาสเตอร์เสียหน้านะ แต่ชายคนนี้มาท้าทายบททดสอบตั้งแต่เลเวล 1 เชียวละ” ศาสตราจารย์ยารุกซ์ยังคงพึงพอใจกับผลงานของสึนามิสตรอมที่ตนเองเป็นคนดูแล

ช่างโชคดีจริงๆที่ผู้กล้าคนนี้มาจากอาณาจักรบลูโอเชี่ยน ถ้าเรื่องนี้ถึงหูเหล่าผู้อาวุโสในสภาผู้ควบคุมธาตุรับรอง เขาจะได้หน้ามากขนาดไหน?!

ศาสตราจารย์อลาสเตอร์เดาท่าทีของศาสตราจารย์ยารุกซ์ออก จึงทำเพียงแค่หัวเราะออกมาเล็กน้อยพอเป็นมารยาท แต่จากที่ตนเองได้เห็นผู้กล้าชายที่ชื่อ สึนามิสตรอม ทดสอบบทที่ 1 อยู่ เขาก็ต้องตัดสินใจพูดให้กับ ท่ายารุกซ์ได้ตื่นรู้เสียหน่อย

“เด็กหนุ่มที่ชื่อสึนามิสตรอมมีพรสวรรค์มาก เขาพยายามรับมือกับค้างคาวไฟได้อย่างเหมาะสม แต่ก็ไม่เข้าขั้นที่จะผ่านพวกมันได้เหตุผลเป็นเพราะภูติแฟรี่ยังไม่ตายเลยสักตัว เมื่อพวกมันใช้สกิลที่ทำให้ตาบอด เมื่อนั่นค้างคาวไฟและซอมบี้ที่เหลือจะรุมล้อมเขาอย่างแน่นอน ถึงจะมีพรสวรรค์แต่ก็ไม่อาจสำเร็จได้ในครั้งแรก”

อลาสเตอร์พิเคราะห์เหตุผลออกมาให้ ศาสตราจารย์ ยารุกซ์ ได้รับฟัง ซึ่ง ศาตราจารย์ยารุกซ์เองก็เห็นด้วย เด็กหนุ่มที่ชื่อสึนามิสตรอมสามารถผ่านการทดสอบบทที่ 1 และได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมธาตุอย่างสมบูรณ์ แต่มันไม่อาจเกิดขึ้นในการทดสอบครั้งนี้

“แล้วทางอาณาจักร กรีนเวต้าของท่านอลาสเตอร์ล่ะ...จะทำได้สักแค่ไหน?!” ศาสตรายารุกซ์ที่เสียหน้าไปเล็กน้อย ยังคงไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อว่า ผู้ทดสอบของทาง อลาสเตอร์ก็น่าจะประสบปัญหาเดียวกับตนเองอย่างแน่นอน

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

เข้าไปร่วมพูดคุยกับไรท์หรือสมาชิกนักอ่านคนอื่นๆได้ที่แฟนเพจตามลิงค์ด้านล่างเลยนะครับ

www.facebook.com/writelazy