ตอนที่แล้วตอนที่ 89 มุมมืดของการค้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 91 ประชุมลับ

ตอนที่ 90 จัดสรรหน้าที่


หลังจากเหนือภพกลับมาถึงที่พัก เขาก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเหล่าทาสที่มีความรู้ทางการแพทย์ เขาใช้เวลาพูดคุยกับเหล่าคนพวกนี้อีกไม่น้อย จากที่เขาได้ฟังเรื่องราวประวัติความเป็นมาของแต่ละคน ก็ทำให้ได้รู้ว่าหนึ่งในทาสเหล่านี้มีหลายคนที่มาจากตระกูลผู้ดี มีความรู้มีวิชาติดตัว บางคนก็จัดอยู่ในระดับที่ฉลาดกว่าเขา แต่เพราะเป็นคนไร้พรสวรรค์พวกเขาจึงไม่ได้รับโอกาสแสดงความสามารถ ไม่ได้รับความไว้วางใจ ไม่มีที่ยืนในสังคมมากนัก

เหนือภพรู้สึกเสียดายแทนพวกเขาอย่างมาก เขาไม่เคยมองว่าพวกเขาเป็นทาส พวกเขาเป็นคนเหมือนกัน ต่างมีชีวิต มีจิตใจ เหนือภพจึงเรียกพวกเขาว่า ลูกจ้าง แทนคำว่าทาส ทาสดูเหมือนจะทำประโยชน์ได้แต่กลับไม่มีประสิทธิภาพมากพอ แต่หากเป็นลูกจ้างมีฐานะเท่าเทียมกัน พวกเขาจะทำเงินให้กับเหนือภพอย่างมหาศาล

นี่เป็นความคิดของเหนือภพที่มีต่อลูกจ้างเหล่านี้ เขาทำงานมาหลายที่ เป็นลูกจ้างคนอื่นมาไม่น้อย ประสบการณ์หลายปีทำให้เขาเข้าใจคำว่า ‘หากลูกจ้างมีความสุข งานที่ออกมาก็จะมีประสิทธิภาพ’

เหนือภพไม่แม้จะเสียเวลา เขาเริ่มทำตามที่เขาคิด โดยการแบ่งกลุ่มลูกจ้างจำนวนหลายร้อยตามความสามารถของพวกเขา ซึ่งพอนับดูจนครบถ้วนแล้ว เขามีลูกจ้างทั้งสิ้น 544 คน

กลุ่มที่มีความสามารถในการทำงานบริการมีทั้งหมด 210 คน เหนือภพส่งให้พวกเขาไปหางานทำตามร้านอาหาร ร้านเหล้า และร้านขายของต่าง ๆ เพื่อหาเงิน

คนที่มีความสามารถในงานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องมือ เครื่องใช้ และอาวุธ พวกเขามีแค่ 52 คน เหนือภพส่งพวกเขาไปหางานทำเกี่ยวกับงานพวกนี้ แต่เหนือภพแบ่งช่างตีเหล็กบางส่วนให้ไปอยู่กับช่างดาบเพื่อเป็นลูกมือและเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ

ส่วนคนที่มีความสามารถในการทำความสะอาดและดูแลบ้านเรือน มีอยู่ 162 คน เหนือภพส่งกลับไปช่วยดูแลแม่ที่หมู่บ้านแร่ห้าสีจำนวน 30 คน แล้วที่เหลือก็ส่งไปสมัครงานทำความสะอาดทั้งหมด

แน่นอนว่าคนที่มีความรู้ทางการแพทย์ เหนือภพก็ต้องจัดการให้รอบคอบเป็นพิเศษ หากใครมีความรู้มากหน่อย เหนือภพก็จะกัดฟันออกเงินลงทุนให้เปิดโรงหมอ ซึ่งมีแค่ 2 คนเท่านั้นที่มีความสามารถระดับนี้ ส่วนอีก 18 คนพอมีความรู้และเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์มาบ้าง เหนือภพก็แบ่งกันออกไปช่วยทำงานที่โรงหมอเปิดใหม่ทั้งสองแห่ง และกระจายคนออกไปสมัครตามโรงหมอต่าง ๆ ไม่เพียงหาเงินได้ดี แต่พวกเขายังสามารถทำงานหาประสบการณ์และได้เรียนรู้วิชาการแพทย์อีกหลายแขนง

นอกจากนี้ยังมีคนที่มีความสามารถในการเกษตร ประมง และล่าสัตว์อยู่อีก 80 คน เหนือภพมีแผนงานใหญ่กว่าที่จะส่งคนพวกนี้ไปทำงานที่อื่น แต่น่าเสียดายเขายังไม่มีที่ดินสำหรับการเพาะปลูกขนาดใหญ่ เขาจะต้องหาที่ดินให้ได้ก่อน ส่วนการล่าสัตว์สำหรับคนไร้พรสวรรค์นั้น พวกเขาก็แทบจะไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสูง หากจะทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพก็ต้องผ่านการฝึกฝน ต้องกินเนื้อสัตว์อสูร ซึ่งนั่นเป็นการลงทุนระยะยาวที่เหนือภพรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก เหนือภพจึงเว้นคนกลุ่มนี้ไว้ก่อน แล้วค่อยลองดูว่าพวกเขาทำอะไรอย่างอื่นได้บ้าง

ส่วนพวกที่มีความรู้ทางการประมงเขาก็ส่งกลับไปยังหมู่บ้านธารบรรจบพร้อมกับเงินก้อนหนึ่งเพื่อให้พวกเขาตั้งตัว หาที่อยู่ที่กิน สร้างเรือสักลำเพื่อหาปลาในน้ำ เมื่อธุรกิจอยู่ตัวก็น่าจะสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลในอนาคต

และ 20 คนสุดท้าย ล้วนเป็น เด็กชาย เด็กสาว และหญิงสาวที่ไม่มีความรู้มากนัก เด็กสาว และหญิงสาวส่วนใหญ่ล้วนเป็นสินค้าประเภทบำเรอปรนเปรอเหล่าผู้มากราคะ แน่นอนว่าเหนือภพไม่ได้เลวร้ายขนาดจะส่งพวกเธอไปหาเงินให้เขาที่หอนางโลม เหนือภพเลือกเก็บพวกเขาไว้ใกล้ตัว แล้วค่อย ๆ สังเกตดูความสามารถ ความชอบ และพรสวรรค์ที่แท้จริงเพื่อที่จะหาประโยชน์ต่อไปในอนาคต

แน่นอนว่าการกระทำของเหนือภพล้วนมีผลประโยชน์แอบแฝง แน่นอนเขาย่อมไม่เอาเปรียบใคร เขามีความยุติธรรมมากพอ เขาขอรายได้เพียงแค่ 3 ใน 10 ส่วนที่พวกเขาได้รับทุก ๆ เดือน และหลังจากที่พวกเขาแยกย้ายกันออกไปทำงานแล้วหากมีใครติดต่อเหนือภพไม่ได้ ก็ให้ส่งเงินไปที่บ้านแม่ของเขาแทน พวกลูกจ้างยินดีที่จะมอบเงินทั้งหมดที่หาได้ให้เหนือภพด้วยซ้ำ แต่เหนือภพกลับปฏิเสธ ถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องใช้จ่ายไปกับการอยู่การกินและการพัฒนาตนเอง

เหนือภพชอบหวังผลในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น หากเขาเอาเงินทั้งหมดจากคนเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากที่คนอื่นทำกับทาส ที่ให้ทำงานอย่างเดียวโดยที่ไม่สนใจความเป็นอยู่ ไม่สนใจความรู้สึก เหนือภพเชื่อว่าต่อให้พวกเขาเต็มใจมอบเงินทั้งหมดแก่เขา เขาเชื่อว่าสักวันพวกเขาก็ต้องเกิดความรู้สึกอึดอัด จำใจฝืนทนจนสุดท้ายจะกลายเป็นต่อต้าน แล้วเขาก็จะไม่ได้อะไรเลย ต่อให้เขามีสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรในฐานะที่เขาเป็นเจ้านายถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม

ดังนั้นสิ่งที่เหนือภพคิดจะทำคือการซื้อใจคนเหล่านั้น ตามแบบฉบับคนที่เคยเป็นลูกจ้างคนอื่นมาก่อน สักวันคนเหล่านี้จะต้องมีครอบครัว มีลูก ดังนั้นเงินจำนวน 3 ส่วนของทั้งหมด แม้จะดูเล็กน้อย แต่เพียงพอแล้วสำหรับเหนือภพ

มันออกจะคุ้มค่าเสียด้วยซ้ำ โดยที่ตัวเองไม่จำเป็นเสียเงินเลี้ยงดู ให้พวกเขามีชีวิตหากินด้วยตัวเอง แล้วก็จ่ายให้เขา คิดซะว่าเป็นภาษี

กระทำของเหนือภพสร้างความตกตะลึงแก่เหล่าอดีตคนที่เคยเป็นทาส เกินครึ่งของพวกเขาเคยมีประสบการณ์ที่ต้องรับใช้ผู้เป็นนายหามรุ่งหามค่ำ ทำงานจนล้มป่วยเพื่อผลประโยชน์ หากใช้งานไม่ได้เท่าที่ควร พวกเขาก็จะถูกขายทอดตลาด วนเวียนอยู่แบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกว่าก็มีค่าเหมือนกัน มีความหวัง มีความฝัน และมีสิทธิ์จินตนาการถึงอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้น พวกเขาไม่รู้สึกว่าเงินสามส่วนของรายได้ต่อเดือนที่มอบให้กับเหนือภพนั้นเป็นปัญหา

เหนือภพใช้เวลาทั้งสิ้นห้าวันกว่าจะบริหารจัดการลูกจ้างเสร็จเรียบร้อย ต่อให้เขาไม่จำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อน แต่การใช้สมองคิดเป็นเวลานาน ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกอ่อนแรงจนต้องทิ้งตัวลงบนที่นอน ก่อนหยิบเอากระดาษอาคมขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา

นี่เป็นจดหมายขององค์หญิงบุษย์น้ำเพชร เธอส่งมาให้เขาตั้งแต่วันแรกที่เขาออกมาจากที่คุมขัง แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงจดหมายของบุษย์น้ำเพชรเท่านั้น แต่ยังมีจดหมายจากองค์รัชทายาทแห่งอมตะนคร ตระกูลนาคราช และตระกูลเล็ก ๆ อีกมากมาย ที่ส่งมาในแนวเดียวกัน คือต้องการแสดงความยินดีที่เขาพ้นโทษ และก็พยายามแสดงตัวตนว่าตัวเองได้ช่วยเขาไว้ เจตนาที่แฝงมาในจดหมายคือพยายามให้เขารำลึกถึงบุญคุณ

เหนือภพเลือกตอบกลับจดหมายตามมารยาท อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณพวกเขา มีมิตรมากดีกว่ามีศัตรูมาก นี่เป็นคำพูดของศิษย์พี่วัฏจักรที่บอกแก่เขา ถึงแม้คำพูดดี ๆ แบบนี้ที่ออกจากปากนักฆ่ามือหนึ่งที่มีศัตรูทั่วแคว้นอย่างศิษย์พี่รองจะดูขัดแย้งกัน แต่มันก็มีเหตุผล

ตอนนี้ถึงเรื่องของนักฆ่าจะเงียบหายไป แต่มันก็คงทิ้งปริศนา ทิ้งความหวาดระแวงไว้กับเหนือภพ จนเขาไม่กล้าออกไปไหนมาไหนคนเดียว ยังดีที่กลุ่มอิทธิพลพวกนี้แค่ส่งจดหมายมาถามไถ่กระชับสัมพันธ์ หากพวกนั้นอยากนัดเจอเขาข้างนอก แค่คิดเหนือภพก็รู้สึกปวดหัว เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงเลยด้วยซ้ำ

เหนือภพอ่านจดหมายที่ศิษย์พี่รองส่งมาเรื่อย ๆ ทุกฉบับที่พี่รองส่งมาล้วนบอกเล่าข่าวสารที่หอโลหิตสืบมาได้ พลางครุ่นคิดว่าใครกันแน่ที่พยายามฆ่าเขา ใครกันแน่ที่มีอำนาจมีทรัพย์สินมากพอที่จะจ้างนักฆ่านอกแคว้นเพื่อมาเล่นงานเขาโดยเฉพาะ แม้แต่หอโลหิต กลุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางนักฆ่าที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นอมตะ ก็ยังไม่สามารถสืบหาต้นตอที่มาของนักฆ่าเหล่านั้น ส่วนกลุ่มภารดาที่มีสายข่าวแทรกซึมทั่วหล้าที่เร็วและชัดเจนที่สุดอย่างตึกบุปผาก็ยังสืบได้แค่ว่า พวกเขาล้วนเป็นฮันเตอร์ชั้นปลายแถวจากแคว้นสุริยัน ไม่มีประวัติ ไม่มีข้อมูล ต่อให้สืบสาวไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร

เหนือภพเองก็จนปัญญาเช่นกัน เขาทำอะไรไม่ได้ พวกศิษย์พี่เองก็ใช่ว่าจะมีเวลามาปกป้องเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เหนือภพจึงมักใช้เวลา 3 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อฝึกซ้อมร่างกายตัวเอง ทบทวนวิชาต่อสู้ นั่งสมาธิเพ่งกสิณเพื่อเสริมประสิทธิภาพของเหล็กไหลราชันย์พิภพภายในตัว หากจิตเขานิ่งและเข้มแข็งมากพอ เขาก็อาจจะใช้งานพลังงานอาคมได้มากกว่า 10% ทว่าการทำสมาธิไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย มันเป็นนรกสำหรับเขาเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงพัฒนาได้ช้าเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ก้าวหน้าเลย

หลังจากเหนือภพฝึกประจำวันเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินมาหยิบกระดาษข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลที่ถูกเสียบค้างเอาไว้หน้าประตูที่พัก นี่เป็นใบข้อมูลการประมูลที่ทางผู้จัดงานจะส่งให้กับแขกระดับสูงทุกท่าน วันนี้เป็นวันที่ 14 ของการประมูล ซึ่งจะมีการประมูลผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีชื่อเสียง พวกเขาล้วนเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดยแท้ โดยเฉพาะช่างทำอาวุธชุดเกราะที่ตามปกติพวกเขาจะรับทำปีละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น บางท่านสี่ปีจะรับทำเพียงชิ้นเดียว และสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้สร้างขึ้นก็ล้วนอยู่ในระดับชั้นเลิศและเป็นที่ยอมรับเทียบเท่าสมบัติระดับแคว้น

เหนือภพเกือบจะทิ้งใบแจ้งข่าวการประมูลประจำวันนั้น แต่มีนกอาคมตัวหนึ่งก็บินเข้ามาในห้องของเขาเสียก่อน มันเป็นจดหมายจากช่างดาบ

----------------------------------------------

ผู้ส่ง - พี่ดาบ

ที่อยู่ผู้จัดส่ง - ห้องเช่าฝั่งตะวันตก

ผู้รับ - เหนือภพ

ที่อยู่ผู้รับ - เรือนธารใส

เฮ้ ไอ้น้องชาย พี่ชายข้าอยากพบเจ้า และอยากเจรจากับเจ้าเกี่ยวกับชุดเกราะหากเจ้าตกลงมาพบกันที่โรงประมูลชั้นสอง หลังจบงานประมูลนะ

ลงชื่อ พี่ดาบ

----------------------------------------------

เหนือภพไม่เคยได้ยินช่างดาบพูดถึงพี่ชายเลยสักครั้งเขารู้สึกว่าเรื่องนี้แปลก ๆ มันเป็นแผนร้ายของใครบางคนหรือเปล่านะ ? แต่พอคิดดูดี ๆ ช่างดาบก็คงมีความลับที่บอกใครไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นหากเขาจะมีพี่ชายสักคนโผล่มาก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด