ตอนที่แล้วบทที่ 24
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26

บทที่ 25


บทที่ 25

 

การ์เร็ตอยู่ในชุดสูทสีเข้มราวกับมันเป็นเครื่องแบบชุดทำงานของเขาไปแล้ว ดวงตาสีเขียวมีประกายแววเหมือนราชสีห์ โครงหน้าคมเข้ม ผิดกับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องรับแขก  ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มสดใสและเมื่อเห็นชายวัยห้าสิบเศษบนรถเข็นเคลื่อนตัวมาใกล้  ลักษณ์ณาราก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหา

“ขอบคุณที่ให้ผมพบคุณนะครับคุณลักษณ์ณารา แล้วก็ขอบคุณมากที่เป็นฝ่ายมาหาผมถึงบ้านแบบนี้”

“คุณวอลเรซไม่ค่อยสบาย ฉันมาหาเองสะดวกกว่าค่ะ”  เธอยิ้มแต่คนที่พามาตัวจริงหน้าเรียบตึง

เพราะเธอดึงดันจะเป็นฝ่ายมาหาคุณวอลเรซเองทำให้การ์เร็ตที่ค้านอย่างไรก็ไม่เป็นผล เขาจึงจำใจต้องพาเธอมาที่นี่ ยังไม่ทันแต่งงานกัน เขาก็เริ่มจะมีอาการ ‘กลัวเมีย’ เข้าให้แล้ว

“ฉันเสียใจด้วยเรื่องภรรยาของคุณค่ะ” ลักษณ์ณารากล่าวอย่างจริงใจ เธอไม่คิดแค้นหรือติดใจเอาเรื่องกับใคร เธอไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ชีวิตคนเรามันไม่ยาวนักนัก เรื่องบางเรื่องควรปล่อยวางให้มันเป็นไป

“ผมมีเรื่องอยากขอร้อง ผมรู้ว่ามันเป็นคำขอที่เห็นแก่ตัวแต่ผมต้องทำเผื่อเอริก้า ยังไงเธอก็เป็นภรรยาของผม เป็นคนที่ผมรัก”

วอลเรซยิ้มบางๆ หันไปสบตากับผู้ชายมาดเข้มที่ยืนประกบลักษณ์ณาราอยู่ เขาไม่อาจโกรธเคืองภรรยาสาวของตัวเองได้ เขารู้...รู้ว่าเอริก้าแต่งงานกับเขาเพราะอะไร แต่เขาสำหรับเขามันคือความรักของผู้ชายวัยห้าสิบห้า มันคือความเห็นแก่ตัวที่ไม่ต้องการที่จะตายเพียงลำพัง  เงินทองทรัพย์สินไม่ได้มีความหมายสำหรับเขา มะเร็งมันเคยปราณีใคร เขาหลงรักเธอมานาน เคยพบกันตามงานเลี้ยงบ้าง  เขาลองขอแต่งงานกับเธออย่างไม่คาดหวังแต่เมื่อเธอตอบรับ หัวใจของเขามันก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เขาเป็นคนโง่งมในสายตาคนอื่น รู้ทั้งรู้ว่าภรรยาของตัวเองไปสำเริงสำราญกับชายอื่น เขากลับไม่อาจทำอะไรได้  เพราะสิ่งที่เธอต้องนั้นเขาไม่สามารถให้เธอได้

“ผมรู้ว่าสิ่งที่เอริก้าทำมันร้ายแรงจนไม่น่าให้อภัย แต่ผมก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นคดีความกัน ผมจะส่งตัวภรรยาไปบำบัด  เธอมีอาการป่วยทางจิตต้องรักษา...”

“ฉันเข้าใจค่ะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุแค่นั้นเองใช่ไหมคะการ์เร็ต” ลักษณ์ณารายื่นมือไปแตะหลังมือของวอลเรซ  แล้วหันมายิ้มหวานให้ชายหนุ่มหน้าตึง

การ์เร็ตสูดลมหายใจลึก เขาอยากโวยวายต่อว่า มันเจตนาทำร้ายร่างกายชัดๆ แต่พอเห็นสีหน้าเอาเรื่องที่ซ่อนในรอยยิ้มหวานก็ได้ก็ได้แต่กลืนทุกถ้อยคำลงคอไปหมด เจ้าของร่างสูงจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับ วอลเรซถึงยิ้มออกมาได้

“ผมไม่แปลกใจเลยที่การ์เร็ตรักคุณมากขนาดนี้”

“ครับ”

การ์เร็ตพูดได้เพียงแค่นั้น ลึกๆแล้วเขาเห็นใจวอลเรซ  ในเวลานี้เขาเข้าใจความรู้สึกของคนมีความรัก หากได้รักใครสักคนก็ต้องการดูแลปกป้องให้ถึงที่สุด เขาเองก็เช่นกัน ถ้าลักษณ์ณาราเป็นอะไรไปเขาคงไม่ให้อภัยตัวเอง ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแค่ถอนหายใจแล้วโอบไหล่ลักษณ์ณาราไว้หลวมๆ

“ผมคงต้องขอตัวก่อน หวังว่าเอริก้าจะหายดีในเร็ววัน”

“ขอบคุณมากครับ” วอลเรซยิ้มแม้จะเหนื่อยเต็มที

“เอริก้าโชคดีที่มีคุณ เธอจะต้องหายดีแน่นอนค่ะ” หญิงสาวให้กำลังใจแล้วขอตัวกลับ เธอรู้สึกได้ถึงแรงบีบจากมือใหญ่ที่หัวไหล่ทำให้เธอต้องหันไปสบตากับเขา

“การ์เร็ต?”

“บางที...ผมก็คิดว่าผมมีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน” เขาพึมพำขณะพาเธอเดินออกจากคฤหาสน์ของวอลเรซมาที่รถของตัวเอง

“แน่นอน คุณผิดเต็มประตูเลยล่ะเพราะไปยุ่งกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว” ลักษณ์ณาราหันไปทำตาดุใส่ “ต่อไปนี้จะทำอีกไหม?”

“ผมมีคุณอยู่แล้ว คุณคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับผม”

การ์เร็ตหน้าหน้าลงจูบริมฝีปากช่างต่อว่าของลักษณ์ณารา  เธอจูบรับความรู้สึกของเขาที่แทรกผ่านเรียวลิ้นอุ่นที่เพิ่มความเร่าร้อนให้เลือดในกายฉีดพล่าน เขาถอนจูบอย่างเสียดายแล้วกดหน้าผากชิดหน้าผากของเธอ

“กลับบ้านเรานะ ผมต้องการคุณเหลือเกิน”

ลักษณ์ณาราหน้าแดง แสร้งทุบแผงอกกว้างแก้เขิน คนอะไร พอรู้ว่าเธอหายดีแข็งแรงขึ้นแล้วก็แทบไม่ยอมให้เธอได้พักหายใจบ้างเลย แต่ก็นั้นแหละ เธอเองก็ชอบในสิ่งที่เขาทำด้วย จะว่าเขาได้อย่างไรกันล่ะที่นี่  การ์เร็ตหัวเราะเบาๆ เปิดประตูรถให้ว่าที่เจ้าสาวเข้าไปนั่งแล้วเขาก็เดินมาที่ฝั่งคนขับ ชายหนุ่มเอียงตัวไปจูบแก้มเนียนอีกครั้งก่อนจะพารถเคลื่อนกลับมาที่พักของเขา

“ฉันยังไม่ได้บอกใครเรื่องของเราเลย ไม่รู้คุณป้าจะตกใจไหม? มาลอนดอนไม่กี่วันกลับไปได้แฟนเลย” เธอพูดเขินๆ แต่พอคิดถึงหน้าดุๆของครูฝ่ายปกครองแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ไม่แน่หรอก ป้ารดาอาจจะดีใจก็ได้ที่หลานสาวขายออกเสียที

“ผมว่าคุณป้าคุณถูกใจผมอยู่นะ” เขายิ้มได้ใจ ดูจากที่เขาบุกไปรับเธอที่บ้านก่อนจะมาเจอเรื่องวุ่นๆ ที่ลอนดอน

“มั่นใจในตัวเองจริงนะ” เธอแลบลิ้นใส่เขา

“ถ้าไม่มั่นใจผมไม่ไปถึงบ้านคุณหรอก” เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้ “ผมจริงจังกับคุณ เปิดเผยกับคุณแค่คุณปิดใจไม่ยอมรับผมก่อน ผมก็ต้องใช้วิธีนี้”

“หลอกล่อให้ฉันมากับคุณถึงที่นี่” เธอหลิวตามองแล้วยิ้ม “แผนเยอะนะ”

“ผมเป็น CEO ก็ต้องรู้จักวางแผนก่อนรุกซิ”

“แต่งงานแล้ว ฉันก็ยังทำงานเหมือนเดิมนะ” เธอบอกเขาไว้ก่อน “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่จะอยู่เฝ้าบ้าน”

“ไม่มีปัญหานี่ ผมไม่คิดเปลี่ยนแปลงคุณ เป็นแบบนี้แหละ ผมชอบมีคนชวนทะเลาะด้วย”

“คุณมันซาดิสม์หรือไง” เธอเบ้ปากแต่ก็อดหัวเราะไม่ได้

“อยากลองพิสูจน์ดูไหมล่ะ”

“คนบ้า” แม้เขาจะขับรถอยู่แต่ลักษณ์ณาราก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

“เรื่องงานแต่งล่ะ คุณอยากจัดแบบไหน”

คราวนี้เธอนิ่งเงียบไปจนเขาแปลกใจ “มีอะไรหรือเปล่า”

“คือ”  เธอโคลงศีรษะไปมา “ฉันไม่เคยนึกถึงภาพตัวเองอยู่ในพิธีแต่งงาน เคยไปช่วยงานเพื่อนๆ พี่ๆ แล้วรู้สึกเหนื่อยแทน ต้องใส่กระโปรงยางรองเท้าส้นสูง หน้าผมต้องเป๊ะ ไหนจะลำดับขั้นตอน ไหนจะต้องดูแลแขกที่มาในงาน ของชำร่วย การ์ดงานแต่ง ฉันเลยคิดว่า...ฉันไม่แต่งดีกว่า ถ้าเจอคนที่ใช่ก็แค่จดทะเบียนสมรสก็พอ”

การ์เร็ตหัวเราะเสียงดังจนลักษณ์ณาราค้อนขวับเข้าให้

“ขอโทษผมไม่ได้จะหัวเราะคุณ ผมก็แค่...คิดเหมือนคุณ”

“จริงเหรอคะ คุณไม่ได้อยากได้งานแต่งงานใหญ่ๆเพื่อชื่อเสียงของคุณเหรอ”

“ลักษณ์ณารา คุณก็เห็นแล้วว่าผมมาจากครอบครัวแบบไหน พิธีแต่งงานไม่ได้มีความหมายสำหรับเท่ากับผู้หญิงที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย ผมเข้าใจว่าผู้หญิงมักคิดฝันถึงงานแต่งงานหรูหรา แต่สำหรับเด็กที่เติบโตข้างถนนอย่างผมไม่ได้คิดถึงตรงนั้น แค่มีใครสักคนที่เข้าใจและพร้อมจะอดทนกับผมยามยากลำบาก นั้นมันก็ยิ่งกว่าคำสาบานใดๆ และผมก็คิดว่าผมเจอคนๆ นั้น...ใช่ไหมลักษณ์ณารา”

หญิงสาวยิ้มให้เขา หัวใจเธอพองโตด้วยความตื้นตัน แล้วจู่ๆ เธอก็คิดได้

“งั้นเราจัดเหมือนงานปาร์ตี้ไหมคะ เงินใส่ซองหรือของขวัญที่จะเอามาให้เรา เราก็เอาไว้ไปมอบให้เด็กๆ ชิ้นไหนมีราคาหน่อยเราก็เอามาประมูลกัน รายได้เราจะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสกัน ว้าว...แค่คิดก็สนุกแล้ว ตอนนี้ชักอยากแต่งงานแล้วซิ”

“แบบนั้นก็ไม่เลวนะ” เขายิ้มแล้วยี้ผมเธอเบาๆ  รถเก๋งมาจอดที่หน้าโรงแรม โอบไหล่เธอไว้แล้วเดินไปที่หน้าลิฟต์ เขากดปุ่มแล้วรอคอย “แต่ก่อนอื่นผมขอมัดจำก่อนนะ”

ลักษณ์ณาราหันไปมองเขาเพื่อจะถามว่ามัดจำอะไร แต่ใบหน้าคมเข้มก็โน้มลงมาจูบเธอเสียก่อน  มือใหญ่โอบร่างเนียนเข้ามาชิดแผงอก  ริมฝีปากดูดกลืนรสหวานจากเรียวลิ้นของอีกฝ่าย  ร่างกายเธอตอบสนองเพียงแค่ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลูบไล้แผ่นหลังผ่านผ้าเรียบรื่น เพียงแค่นี้หญิงสาวก็ปั่นป่วนจนแข้งขาแทบไม่มีแรงยืน

“ลักษณ์ณารา!”

เจ้าของชื่อสะดุ้งทำให้การต้องหยุดการจูบแสนหวานนั่น เธอหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย หญิงสาวเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งเข้ามาหา

“ดารัณ!” ลักษณ์ณาราผละจากร่างใหญ่ของการ์เร็ตแล้วโผเข้ากอดเพื่อนสาวที่แสนคิดถึง “มาได้ไงเนี้ย”

“มากับพี่ธันวาจ๊ะ” ดารัณบอก เพื่อนสาวมองตามไปที่ด้านหลังเห็นคุณหมอหนุ่มมาดสุขุมกำลังก้าวเข้ามา “คุณป้ารดาบอกว่าเธอมาอังกฤษ พอดีฉันมากับพี่ธันวามาเยี่ยมครอบครัวพี่กรกฏกับพี่เบลล่า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด