ตอนที่แล้วตอนที่ 16 : ทนทุกข์ความโกรธแค้นจากคุณหนูสี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 : คุณหนูสี่ผู้น่าสงสารวิ่งหนีไป

ตอนที่ 17 : รับความโกรธอันดุเดือดของคุณหนูสี่


Power Up Artist Yang!

ยูเจี๋ยจ้องเขม็งไปที่ชายสามคนในตรอก  แสงแดดจากบนท้องฟ้าพาดผ่านท่ามกลางเงาของกำแพง  แต่แสงแดดจ้าที่หลุดรอดผ่านหน้านั้นไม่สามารถปิดบังแววตาของเธอซึ่งเปล่งประกายความโกรธได้

ไม่น่าแปลกใจที่ขโมยทำงานเร็วขนาดนี้!  เขาจะต้องมีผู้สมคบคิด โดยให้หนึ่งในนั้นเบี่ยงเบนความสนใจของเธอโดยการคว้ากระเป๋าเหรียญของเธอในขณะที่อีกคนหนึ่งคว้าถุงในมือเธอแน่  สามคนนี้....เธอคาดคิดว่าหนึ่งในชายสามคนนี้วางแผนที่จะพบกันในตรอกนี้เพื่อขโมยของได้แล้ว

เธอมองไปที่ทั้งสามคน  สังเกตว่าคอเสื้อที่เธอกำดึงไว้เขาดูแข็งแรงที่สุด ในขณะที่คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของตรอก อีกคนอยู่ในเงามืดดูเหมือนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเข้มเรียบง่าย

คนที่เหลือ ผู้ชาย – หรือเด็กชาย ตัดสินโดยความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ดูแก่กว่าคนรอบ – เป็นคนที่เธอเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้  แต่งตัวอย่างหรูหราเมื่อเปรียบเทียบกับสองคนที่เหลือ เด็กชายสวมเสื้อคลุมสีอ่อนและเสื้อคลุมสีไวน์แดงเต็มไปด้วยขนที่พาดบนไหล่ของเขาเพื่อให้ความอบอุ่นจากอากาศในต้นฤดูใบไม้ผลิ  หูของเขาเจาะฝังด้วยทองคำเล็กๆในแต่ละรู  ด้ายที่เรียงรายอยู่ตามขอบเสื้อคลุมก็เป็นทองคนเช่นกัน

อืม ด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหราของเขา  เขาต้องเป็นคนที่รับผิดชอบทุกอย่าง

เมื่อสายตาที่จ้องเขม็งของเธอเปลี่ยนไปเพ่งมองที่เขา นางก็ประกาศว่า  “ข้าไม่รู้ว่าขโมยมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย”

เขามองที่เธอ  ริมฝีปากของเขาแยกจากกันอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย? เขานี่นะ?  เขาเป็นถึง ฟุยี่วชางเป็นที่หนึ่งในจักรวรรดิ์ และเพียงคนเดียว –

ยี่วชางตัดสินใจว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเขาจะยกตัวเองเหนือกว่าและแสดงสถานะอันยิ่งใหญ่  ตรงกันข้าม  เขากลับยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ให้กับหญิงสาว  “คุณหนู  ข้าคิดว่าท่านสับสนระหว่างคนอย่างเขา” เขาแสดงท่าทางกับขโมยที่อยู่ข้างหลังนาง “กับข้า   เจ้าเห็นว่าอยู่ที่นี่  ข้าไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย ความจริงแล้วข้าเป็นคนที่จับเขา เขาเป็นคนที่ขโมยของเหล่านี้ – โอ้ เป็นของแม่นางเองรึ? – และข้าแค่เผชิญหน้ากับเขาเท่านั้น ตอนนี้ข้าพร้อมที่จะจับส่งเขาให้กับเจ้าหน้าที่เช่นกัน”

กรามของขโมยลดลงขณะที่เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เชื่อ  ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเขากำลังทำสิ่งที่ดีโดยการปล่อยให้จากไป แต่ตอนนี้มีสาวสวยปรากฏขึ้นความคิดของชายคนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

ในขณะเดียวกันยูเจี๋ยก็ปราดมองชายที่ดูรวยอย่างรวดเร็ว  “อย่าแม้แต่จะโกหกข้า  ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ข้ายังเห็นเจ้าปล่อยให้ขโมยไปหลังจากที่ขโมยของฉัน”  เธอเน้นเสียงของเธอที่คำว่า “ฉัน”  จากนั้นหยุดครู่หนึ่ง “ฉันจ่ายเงินอันมีค่าของฉันและซื้อของ ถ้าเจ้าไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับขโมย ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงทำเช่นนั้น?”

พระเจ้า คนและคำแก้ตัวของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถคิดถึงสิ่งที่ดีกว่านี้ได้แล้วหรือ?

เธอสังเกตเห็นว่าเด็กชายสะดุ้งเล็กน้อย  รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหดลงและเขาก็หันหน้าซีดไปหาชายอีกคนที่ยืนข้างหลังเขา  “ซีเฉินเดินออกมาและเป็นพยานให้ข้า  ข้าเป็นคนเผชิญหน้ากับโจรใช่ไหม?”

ชายในเงามืด – หรือซีเฉิน – ก้าวออกไปด้านหน้า  ตอบอย่างนิ่งๆ  “ใช่ขอรับ”

ยูเจี๋ยถอนหายใจ  “มันไม่เข้าท่าเท่าไหร่หรอกนะ  เห็นได้ชัดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเป็นการส่วนตัว  เขาจะเป็นพยานได้อย่างไร ถ้าคำให้การของเขาอาจจะเป็นและมีความลำเอียงอย่างแน่นอน?”

ซีเฉินดูสับสนเล็กน้อย ในทางกลับกันคนรวยยังคงทำหน้าบึ้งชี้ไปที่ตัวเอง “เจ้ารู้ไหว่าข้าเป็นใคร เจ้ากล้าสงสัยในคำพูดของข้าได้อย่างไร?”

“ไม่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร”  ด้วยการเย้ยหยัน ยูเจี๋ยทำให้เขามองอย่างโมโห  “อะไร เจ้าเป็นพระเยซูเจ้าหรืออะไร? ทำไมข้าต้องเชื่อในทุกคำที่เจ้าพูด? มันไม่เหมือนทองคำที่พุ่งออกมาจากปากของเจ้าเมื่อเจ้าพูดหรือทำอะไร”

คนผู้นี้หยิ่งยโสมากในช่วงเวลานี้....

ในขณะที่นางพูดพร่ำเพ้อความคิดหลายอย่างก็หมุนวนอยู่ในใจของยี่วชาง  นางกำลังพูดถึงใคร ‘พระเยซูเจ้า’ เป็นใครในเรื่องนี้  ตลอดชีวิตของเขาผู้คนต่างพูดกับเขาด้วยความเคารพเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม  แม้ว่าในขณะนี้เขาไม่ได้อยู่ในวังที่ซึ่งเขามีอำนาจเหนือกว่าทุกสิ่ง  มันเป็นเรื่องยากที่จะพบกับหญิงสาวที่มีทัศนคติที่ไม่สุดภาพเช่นนาง!

หญิงผู้ดีจะได้เห็นดีกันเมื่อเขากลับเข้าวัง  เขาจะใช้พลังอำนาจของเขาภายใต้มงกุฎที่เขาสวม –

ความคิดของยี่วชาวนั้นถูกขัดจังหวะอีกครั้งเมื่อหญิงสาวเข้ามาใกล้  ปฏิกิริยาตอบกลับอย่างอัตโนมัติเขาก้าวถอยหลัง

“ข้าไม่เคยพบเคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นเจ้า”  ยูเจี๋ยโกรธเขาอย่างมาก  เธอก้าวเข้าหาเขาเขาก้าวถอย

เธอก้าวตามไปอีกครั้ง  “บ่อยแค่ไหนแล้วที่เจ้าถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ยังมีหน้ามาบอกว่าเจ้าบริสุทธิ์?” เขาก้าวถอยอีกก้าว

อีกครั้งเธอก้าวเข้าหาเขา  “เจ้า ท่านไม่มีมโนธรรมสำนึก  ไม่ควรที่โจรจะมีความประพฤติในศีลธรรมหรือ? ตอนนี้เจ้าแค่ขโมยของจากผู้หญิงอย่างข้าในตลาด แต่ต่อไปเจ้าจะขโมยใครอีก ครอบครัวที่ตกอยู่ในความยากจน? หญิงที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเมื่อสามีเธอได้ตายจากไปแล้วอย่างนั้นรึ? เจ้าจะต่ำสิ้นหมดหนทางขนาดจะขโมยอาหารที่หายากของสุนัขจรจัดหรือไม่? ความรู้สึกสำนึกผิดของเจ้าอยู่ที่ไหน?”

ขณะที่นางขยับเข้าใกล้  ยี่วชางถูกบังคับให้ต้องเดินถอยหลังหลายก้าวจนกว่าเขาจะอยู่ถัดจากซีเฉินซึ่งดูเหมือนจะงุนงงเหมือนเดิม  คำพูดของผู้หญิงคนนี้มีอำนาจมากขนาดไหนที่ทำให้ทั้งคู่ต่างก็ตกตะลึงจนพวกเขาไม่สามารถนึกคำที่จะตอบโต้กลับมาได้?  แม้แต่ซีเฉินองค์รักษ์ส่วนตัวของเขาที่ไม่เคยสั่นคลอนต่อความรุนแรงที่สุดจากสิ่งต่าง ๆ ในขณะนี้ยืนอยู่ข้างเขา ยี่วชางยังสังเกตเห็นใบหน้าที่ความหวาดหวั่นจากการโจมตีบนใบหน้าของเขา

องค์รักษ์ส่วนตัวของเขาประหลาดใจมากกับคำพูดของผู้หญิงคนนี้ที่ไม่ได้ทำให้เขาเป็นกังวล แม้แต่จะพยายามปกป้องนายของเขา  คนที่เขาควรปกป้องจากเรื่องทั้งหมดหรือไม่?

เมื่อยี่วชางเต็มไปด้วยความโกรธต่อองค์รักษ์ของเขา ซีเฉินดูชื่นชมอย่างเงียบๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มีทักษะที่แข็งแกร่งในการทำให้เจ้านายของเขาไร้คำตอบโต้  เขาคิดอยู่เสมอว่าตั้งแต่นายหนุ่มของเขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหรูหรและคำเยินยออัตตาของเขาก็สูงเกินจริงไปเล็กน้อย  ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่เขาได้รับการตำหนิจากผู้หญิงคนนี้

ดวงตาของซีเฉินสบกับหญิงสาวและนางก็จ้องกลับที่เขาเช่นกัน  ไม่ต้องการให้นางโอนถ่ายความโกรธนั้นมาที่เขา เขามองนางและทำท่าทางไปที่ยี่วชาง คนที่ยืนอยู่ข้างเขาจากนั้นก็พยักหน้าให้หญิงสาว  เขาหวังว่าข้อความเงียบๆของเขาจะถูกส่งไป – ‘ข้าไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ให้ไปลงที่คนนั้น เขาสมควรได้รับมัน’

แม้ว่าหญิงสาวจะเข้าใจความคิดของเขา แต่เธอก็ยังคอยจับตาดูซีเฉินตลอด “อย่างคิดว่าเจ้าสามารถออกจากเรื่องนี้ได้ง่ายๆเช่นกัน  เพราะเด็กอวดรวยนั่นทำให้ฉันหงุดหงิด นายทั้งสามคนมีส่วนร่วมในความผิดอย่างเท่าเทียมกัน”  เธอจ้องซีเฉินอีก หยิบอุปกรณ์งานศิลปะออกมาจากมือของเขา  “พวกนายทุกคนมากับฉันเพื่อตัดสินใจศาล”

ซีเฉินมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน  เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน! เจ้านายหนุ่มของเขาแค่อยากจะปล่อยโจร แต่เขาไม่เคยพูดอะไรเลย!

ฟุยี่วชางมองเธอด้วยหน้าตาบูดบึ้ง เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! เขาไม่เคยพูดกับโจรว่ามันไม่เป็นไรที่จะขโมยจากเด็กสาวและเขาก็ไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดของขโมยด้วยเช่นกัน!

โจรมองเธอด้วยน้ำตาเกือบจะผุดขึ้นมาในดวงตาของเขา  เขามีส่วนร่วมในเรื่องนี้เต็มๆ แต่เขาแค่อยากได้เงินเพิ่มเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะปั่นป่วนไปในวงกว้างทำให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้!

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งหมดมองเธอด้วยความหวาดกลัว  ยูเจี๋ยมอบรอยยิ้มแสนหวานและชัยชนะแก่พวกเขา  เธอไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างเธอจะสร้างความเสียหายด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว  ดังนั้น เธอจึงต้องใช้ความคิดและใช้ประโยชน์จากความผิดในใจของพวกเขาทั้งหมด  ไม่อย่างนั้น ทำไมชายทั้งสามคนที่แข็งแกร่งกว่าเธออย่างแน่นอน แม้จะรู้สึกกังวลเล็กน้อยจากคำพูดของตัวเอง?

ยิ่งเธอพูดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งมีความสนุกมากขึ้น  เมื่อมองไปที่การแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาในรูปแบบที่แตกต่างกัน

“พวกนายทั้งหมดคิดว่าการลงโทษสำหรับการลักทรัพย์คืออะไร?”  เธอครวญครางอมยิ้มเต็มหน้าเธอ  “ข้ารู้กฎหมายไม่ดีเท่าไหร่ แต่พวกเขาไม่ตัดมือของพวกคุณสำหรับการขโมยใช่ไหม? ไม่ว่ามือใดขโมยสิ่งใด... ฉับ ฉับ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด