ตอนที่แล้วบทที่ 54 ชายผู้มีชีวิตอันผ่อนคลายภายในป่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 ฉือหว่านชิง

บทที่ 55 ยื่นมือเข้าช่วย


“พี่เย่…ครูฝึกสอนพวกผมไว้ว่าใครเก่งสุดถือเป็นพี่ใหญ่  ถึงแม้ผมจะแก่กว่านาย 2-3 ปี  แต่ผมก็รู้ว่านายต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่  ดังนั้นจึงได้เรียกนายว่าพี่  ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจสำนวนที่ว่า ‘ความรุ่งโรจน์หรือล่มจมของประเทศขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของทุกคน’ สักเท่าไหร่  แต่ไอ้พวกเวียดนามมันปล้นฆ่าเผาทำลายเขตชายแดนของพวกเรา!  ไม่มีเรื่องชั่วร้ายใดที่พวกมันจะไม่ทำ!”

“เมื่อ 30 ปีก่อนทหารของพวกเราได้ทำการโต้กลับ  ไอ้พวกหนานกุ่ยมันฆ่าล้างดูถูกพวกเราชาวจีน   มันเผาทำลายโรงงานตรงขอบชายแดนของพวกเรา  ประชาชนจีนโดนฆ่าตัดหัวราวกับหมูกับหมาไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน  ถึงแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม  แต่ไอ้พวกกุ้ยหนานก็ยังไม่หยุดการกระทำของพวกมัน  แม้ตอนนี้พวกมันจะหลบซ่อนอยู่บ้างแต่ก็ถือเป็นภัยร้ายคุกคามพวกเราเสมอมา”

“ครั้งนี้เพื่อนร่วมทีมของผมถูกพวกเวียดนามล้อมขังเอาไว้  ตัวผมกัวฉี่ต่อให้ตายก็จะต้องช่วยพวกเขาออกมาให้ได้  ในฐานะที่พวกเราเป็นประชาชนชาวจีนเหมือนกัน…ผมขอร้องล่ะ  อีกอย่างพวกผมเองก็ถือว่าคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้อยู่พอสมควร  ถ้าช่วยพวกเขากลับมาได้ผมก็ยินดีจะช่วยนายตามหาอีกแรง”  กัวฉี่พูดจบก็จ้องมองเย่โม่ด้วยความคาดหวัง

เย่โม่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง  เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับพวกเวียดนามเหมือนกัน  ส่วนเรื่องให้กัวฉี่ช่วยหาของนั้นก็ช่างเถอะ  เขาเองหามาแล้วหลายวัน  เย่โม่ไม่เชื่อว่าพวกกัวฉี่จะช่วยเขาได้  เพียงแต่ที่กัวฉี่พูดมาก็มีเหตุผล  ตอนนี้เขาก็ถือว่าเป็นคนจีนคนหนึ่ง  ในเมื่อเป็นคนจีน...จะช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้ก็ถือว่าสมควรแล้ว

คิดถึงตรงจุดนี้เย่โม่ก็พยักหน้า  “ที่พูดมาก็ไม่ผิด  อย่าใส่ใจสิ่งที่ผมพูดเมื่อครู่เลย  ถือเสียว่าผมคิดน้อยไปหน่อย...ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเราก็ไปกันเถอะ  ระหว่างทางก็บอกสถานการณ์ให้ผมรู้ด้วย  แค่พวกหนานกุ่ยไม่กี่คนไม่อยู่ในสายตาผมหรอก”

“ขอบคุณมากพี่เย่!”  กัวฉี่ที่เห็นเย่โม่ยอมช่วยเหลือก็ดีใจแล้วรีบประสานมือคำนับ  เขารู้แล้วว่าแท้จริงเย่โม่ไม่ใช่คนหนุ่มไร้หัวใจ  เขาคงแค่อยู่ตัวคนเดียวมาเป็นเวลานาน  ทำให้มุมมองต่างๆ อาจจะตื้นเขินไปบ้างก็เท่านั้น

กัวฉี่หยิบปืน 3 กระบอกที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา  เขายื่นให้เย่โม่กระบอกหนึ่ง

เย่โม่โบกมือปฏิเสธ  ไม่จำเป็นหรอก  “ผมไม่ชอบใช้ปืน  ถือไปก็ออกจะเกะกะอยู่บ้าง”

กัวฉี่คิดถึงภาพที่เย่โม่ฆ่าเหล่าทหารด้วยมือเปล่าแล้วก็เข้าใจได้

เมื่อเย่โม่ได้ฟังกัวฉี่เล่าถึงสถานการณ์ทั้งหมดให้ฟังเขาจึงค่อยเข้าใจขึ้นมาบ้าง  ไม่ใช่ว่าพวกของกัวฉี่ไม่มีฝีมือ  แต่เพราะตอนที่กำลังทำภารกิจตรงชายแดนนั้น...ทีมทั้ง 6 คนของกัวฉี่ถูกซุ่มโจมตีนั่นเอง  ถึงแม้ฝ่ายศัตรูจะไม่ได้แสดงตัวออกมาแต่กัวฉี่ก็รู้ว่าต้องเป็นพวกเวียดนามแน่นอน

ขณะที่กำลังถูกซุ่มโจมตี  ทีมของกัวฉี่จาก 6 คนก็เสียชีวิตไปแล้ว 2  ส่วนอีก 3 คนที่เหลือนั้นถูกล้อมขังไว้ในถ้ำ  มีเพียงกัวฉี่ที่หนีฝ่าออกมาได้  ส่วนที่ๆ อีก 3 คนอยู่นั้นเรียกว่า ‘ถ้ำหานฉาน’ (จักจั่น) จากที่กัวฉี่พูดนั้น...หากไม่ใช่ว่าตรงถ้ำนั้นพวกเขาได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ล่ะก็  คาดว่าพวกเขาคงถูกฆ่าตายจนหมดไปแล้ว อีกอย่างถ้าไม่ได้เย่โม่ช่วยไว้  ต่อให้เป็นเขาก็คงจะหนีได้ไม่ไกลนัก

‘ถ้ำหานฉาน’ นั้นอยู่ไม่ไกลนัก  กัวฉี่กับเย่โม่เดินทางด้วยความเร็วก็มาถึงถ้ำภายใน 2 ชั่วโมง  ตอนที่พวกเขามาถึงนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นครั้งหนึ่ง

กัวฉี่ที่ได้ยินเสียงปืนก็พูดออกมาด้วยความยินดี  “ทีมของผมยังไม่เสียท่าศัตรู!  นี่เป็นเสียงปืนของเพื่อนร่วมทีมของผม  ผมฟังออก”

เย่โม่เองก็รู้สึกทั้งยินดีและประหลาดใจเช่นกัน  เพราะเขาเพิ่งค้นพบว่าสถานที่ๆ ฟางหนานพูดถึงก็คือ ถ้าหานฉานแห่งนี้นี่เอง  ถึงแม้เขาจะยังไม่เจอ ‘ต้นสนหมื่นปี’ ก็ตาม  แต่พื้นที่โดยรอบนั้นเหมือนกับที่ฟางหนานบรรยายไว้ไม่มีผิด  ดูเหมือนเขาจะต้องช่วยเหลือคนอื่นบ่อยๆ เสียแล้ว  ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถเจอสถานที่นี้ภายใน 2 ชั่วโมงแน่

“พี่เย่…ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?”  ถึงแม้กัวฉี่เองจะเป็นถึงหัวกะทิในกองกำลังพิเศษก็ตาม   แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองกับเย่โม่ตรงหน้านั้นห่างชั้นกันไกลนัก  ตอนนี้ในเมื่อรู้แล้วว่าทีมของเขายังไม่เสียท่าให้กับฝ่ายศัตรู  วิธีคิดของกัวฉี่จึงยิ่งไหลลื่นไม่ยึดติด

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ดี...ถึงตอนนี้ทีมของเขาจะยังมีชีวิตอยู่  แต่ก็คงต้านทานไว้ได้ไม่นานนัก  เพราะถ้าหากพวกเขายังเหลือกระสุนพอล่ะก็  พวกเขาคงจะไม่นานๆ ครั้งยิงทีแบบนี้

“อีกฝ่ายมีทั้งหมดกี่คน?”  เย่โม่หลุดจากห้วงความคิดของตน  ถ้าเขาอยากจะหาของที่ต้องการ   อย่างน้อยก็ต้องฆ่าพวกเวียดนามที่ล้อมทีมของกัวฉี่เสียก่อน

“ถ้านับตามเสียงปืนตอนที่พวกมันซุ่มโจมตีทีมของผมล่ะก็  คาดว่าคงมีไม่น้อยกว่า 20 คน  ตอนนั้นพวกเราจัดการไปได้ 3-4 คน  คิดว่าตอนนี้คงเหลือประมาณ 16-17 คนเห็นจะได้  จากสถานการณ์ตอนนี้ที่ทีมของผมยังไม่เสียท่านั้น  พวกเขาคงจะรอให้ฟ้ามืดเสียก่อนจึงค่อยฝ่าวงล้อมออกมา  แต่ฝ่ายศัตรูก็คงรู้ถึงจุดนี้เช่นกัน  พวกมันคงไม่รอให้ฟ้ามืด  คิดว่าพวกมันคงกำลังวางแผนกันอยู่แน่”  กัวฉี่อธิบายสถานการณ์อย่างละเอียด

เย่โม่พยักหน้า  นายตามหลังผมมาดีๆ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ต้องยิง  ที่เหลือให้ผมจัดการเอง

กัวฉี่ที่เคยเห็นเย่โม่ลงมือฆ่าทหารจากกองกำลังพิเศษทั้ง 3 คนอย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอยแล้ว  เขาจึงไม่สงสัยในการตัดสินใจของเย่โม่แม้แต่น้อย  ถ้าเย่โม่อยู่ในที่ลับล่ะก็...มีเป็น 10 คนยังไม่พอจะรับมือเย่โม่คนเดียวด้วยซ้ำ  เพียงแต่เมื่อเทียบกับ ‘ซู่ฉือ’ ที่ทางเบื้องบนระดับสูงส่งมาสอนพวกเขา 3 วันแล้ว  ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เก่งกว่ากัน

ตอนที่กัวฉี่กำลังคิดอยู่นั้น  เย่โม่ก็เริ่มลงมือแล้ว!

ถ้าหานฉานนั้นตั้งอยู่ในหุบเขา  ภายในนี้ถือว่าป้องกันได้ง่ายโจมตีได้ยาก  ถึงเย่โม่จะไม่รู้ว่าเหตุใดพวกเวียดนามถึงต้องมาซุ่มโจมตีพวกของกัวฉีตรงนี้ก็ตาม  แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าคงเป็นเพราะรีบร้อนเกินไป...หรือไม่ก็ทีมของกัวฉี่มีความสามารถมากพอจะถอยร่นมาถึงตรงนี้ได้

ตอนนี้จิตสัมผัสของเย่โม่สามารถกระจายออกไปรอบตัวได้ถึง 7 เมตรแล้ว  หลังจากจิตสัมผัสของเขาแผ่เข้ามาในถ้าแล้ว  เย่โม่ก็สัมผัสได้ถึงชาย 6 คนที่ซุ่มอยู่ไม่ไกลทันที

หากไม่ใช่คาดการณ์ผิด…ก็คงเป็นเพราะคนพวกนี้เป็นกองกำลังเสริมนั่นเอง

เสียง บู้มมม! ของระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวข้างนอกถ้ำ  เกิดเป็นควันรูปดอกเห็ดขนาดใหญ่  ดูท่าแล้วหากไม่ใช่เพราะไม่อยากเก็บพวกของกัวฉี่เป็นๆ แล้ว  ก็คงเป็นเพราะต้องการข่มขู่คนที่ซ่อนตัวในถ้ำนั่นเอง

ตะปูทั้ง 6 ตัวถูกเย่โม่ซัดออกไป  ตะปูพวกนี้ปักเข้าไปไม่ตรงขมับก็หลังหัวของทหารที่ล้อมถ้าหานฉานเอาไว้  คนที่ถูกเย่โม่ซัดตะปูใส่ร่วงลงไปนอนโดยไม่มีโอกาสแม้จะส่งเสียงร้องเสียด้วยซ้ำ

หุบเขาด้านนอกถ้ำหานฉานนั้นมีรูปทรงเป็นพัดอันหนึ่ง  ถึงจะง่ายต่อการป้องกันแต่ก็ง่ายต่อการถูกล้อมโจมตีเช่นกัน  เย่โม่เดินไปตามเส้นทางทรงพัดด้านนอกถ้ำพร้อมกับฆ่าคนไปตามรายทาง  โดยรวมแล้วเขาฆ่าไปร่วม 21 คน  ตอนนี้เย่โม่พบศัตรูที่เหลืออีก 3 คนแล้ว  นั่นก็เพราะคนสุดท้ายที่เย่โม่ฆ่านั้นกำลังติดต่อสื่อสารกับ 3 คนที่เหลืออยู่นั่นเอง  เสียงของชายที่ถูกเย่โม่ฆ่าหยุดลงอย่างกะทันหัน  เมื่อทั้ง 3 คนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเย่โม่ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาเสียแล้ว

ปืนทั้ง 3 กระบอกยิงไปที่เย่โม่ทันที  ถึงแม้เย่โม่จะรู้จากจิตสัมผัสอยู่ก่อนแล้วถึงการขยับนิ้วลั่นไกของพวกเขารวมถึงการหลบหลีกอย่างทันท่วงทีของเย่โม่ก็ตาม  แต่แขนของเขาก็ยังถูกกระสุนถากจนเป็นรอยเลือดอยู่ดี

พูดได้ว่าทหารพวกนี้เมื่อเทียบกับแก๊งโจร ‘13 ผู้พิทักษ์’ แล้วถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก  รวมถึงปืนในมือของทหารพวกนี้ก็ยังดีกว่าขยะของโจรพวกนั้นหลายร้อยเท่านัก

ในเมื่อได้รับบาดเจ็บแบบนี้  เย่โม่ก็ซัดตะปูออกไป 6 ตัวด้วยโทสะ ตะปู 2 ตัวได้ปลิดชีพชายอีก 2 คน  ส่วนตะปูอีก 4 ตัวที่เหลือได้ถูกซัดเข้าไปที่หน้าของชายที่ยิงโดนแขนของเย่โม่

“ออกมาได้แล้ว”  เย่โม่เรียกกัวฉี่หลังจากฆ่าคนพวกนี้จนหมดแล้ว

ตอนนี้กัวฉี่เพิ่งจะได้รู้ว่าคนที่ล้อมโจมตีทีมของเขาไม่ได้มีแค่ 10 กว่าคนเท่านั้น  ยังมี 6-7 คนตามมาสมทบด้วย

กัวฉี่พูดขึ้นอย่างอับอายเล็กน้อย  “ขอโทษทีพี่เย่  ดูแล้วข้อมูลของผมจะผิดพลาดจริงๆ”

“รีบไปหาทีมของนายเถอะ”  เย่โม่โบกมือไล่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด