หลังจากกินบะหมี่ไปคิ้วขมวดไป หลินชิงหยินก็ล้างถ้วยและมองดูนาฬิกา เมื่อเห็นว่าเป็นเก้าโมง เธอก็ตัดสินใจไปอาคารที่มีหนังสือมากมายในความทรงจำของเธอ เพื่อหาดูว่าจะมีหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์แห่งตัวเลขหรือเปล่า
ครอบครัวหลินชิงหยินอาศัยอยู่ในเมืองเก่า ซึ่งอยู่ห่างจากร้านหนังสืออย่างน้อยสิบป้ายรถเมล์ หลินชิงหยินนั่งรถเมล์และมองออกไปทางหน้าต่าง เธอมองดูภาพเคลื่อนไหวข้างทาง แค่หนึ่งพันปีผ่านไปคนในยุคนี้ก็ขึ้นไปบนฟ้าได้และด่ำดิ่งลงไปในท้องทะเลได้ พวกเขาเกือบจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในยุคนี้ บางทีองค์ความรู้ในศาสตร์แห่งตัวเลขก็อาจจะก้าวกระโดดไปไกลมาก
หลังจากลงจากรถเมล์ หลินชิงหยินก็เดินเข้าไปในร้านหนังสือ ความเย็นลอยมาปะทะตัวเธอ ขับไล่อากาศร้อนออกไป ในความทรงจำของเธอเจ้าเครื่องที่ช่วยทำความเย็นนี้เรียกว่าเครื่องปรับอากาศ มันเป็นเครื่องที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยปรับอุณหภูมิในห้อง แต่ครอบครัวของหลินชิงหยินไม่มีเจ้าเครื่องนี้เพราะว่าครอบครัวเธอยากจนสุดๆ
ร้านหนังสือมีทั้งหมดเจ็ดชั้น มีหนังสือมากมายอยู่ในร้าน หลินชิงหยินเดินวนดูรอบๆเป็นชั่วโมงๆ แต่ก็ยังไม่เจอหนังสือที่ต้องการ เธอหลับตาและพยายามค้นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม แต่กลับพบว่าเจ้าของร่างนี้ไม่มีความสนใจในศาสตร์แห่งตัวเลขเลยแม้แต่น้อย
ในขณะนั้นผู้ชายร่างอ้วนอายุสามสิบปีเดินผ่านเธอไป เขาถือโทรศัพท์มือถือและกำลังคุยโทรศัพท์ท่ามกลางสายตาของคนอื่นที่จับจ้องมายังเขา
“ฉันอยู่ในร้านหนังสือ! นายกำลังพูดอะไร? ทำไมฉันจะซื้อหนังสือไม่ได้? ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะ การทำนายโชคชะตาก็เป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์ มันไม่เหมือนกับศาสตราจารย์งี่เง่าพวกนั้นที่หลอกลวงผู้คน”
ทันใดนั้นหลินชิงหยินก็วางหนังสือกลับเข้าชั้นและเดิมตามหลังชายคนนี้ไป หลังจากเดินวนอยู่เจ็ดแปดรอบ เธอชูคอขึ้นมองไปยังชั้นหนังสือหมวดลึกลับ ร่องรอยความพอใจแวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเธอ
ชายอ้วนคนนั้นเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า หยิบหนังสือจากชั้น เขาขมวดคิ้วมองดูมันอยู่สักพัก จากนั้นก็เก็บมันกลับเข้าที่เดิม
“ภาษาจีนโบราณ ฉันอ่านมันไม่ออก”
หลินชิงหยินยืนห่างจากเขาสามเมตรก็เก็บหนังสือเข้าชั้น และหยิบอีกเล่มออกมา เธออ่านดูอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเนื้อหาในหนังสือเหมือนกับความรู้ของเด็ก หลินชิงหยินก็เต็มไปด้วยความสงสัย ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เจริญก้าวหน้าไปมาก แต่ศาสตร์แห่งตัวเลขกลับเสื่อมถอยไปอย่างนั้นหรือ? เนื้อหาในหนังสือไม่ได้บอกอะไร แม้แต่ลูกศิษย์ของสำนักพยากรณ์ก็ยังรู้มากกว่านี้ หรือความรู้เกี่ยวกับศาสตร์แห่งตัวเลขถูกตัดออกไป?
“หนังสือเล่มนี้ดี”
ในที่สุดชายอ้วนก็หาหนังสือที่ถูกใจเจอ เขาหัวเราะด้วยความพึงพอใจราวกับว่าเขาพบสมบัติล้ำค่า หัวใจของหลินชิงหยินสะดุด เธอปรายตามองหนังสือของเขาและพบว่ามันเป็นฉบับแปลของภาษาท้องถิ่นที่ไม่สมเหตุสมผลและเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด หลินชิงหยินมองเขาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
“เธอมองอะไร? รู้จักหนังสือเล่มนี้เหรอ?” เขาเชิดคางขึ้นและพูดกับหลินชิงหยินแล้วส่ายหัวเบาๆ
“นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เชียวนะ ตราบใดที่ฉันมีหนังสือเล่มนี้ ฉันสามารถทายเหตุการณ์ที่เป็นมงคลและไม่เป็นมงคลได้ เรื่องลึกซึ้งแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาอย่างเธอจะเข้าใจ”
หลินชิงหยินมองดูหนังสือในมือของเขาแล้วหัวเราะเบาๆ “ให้หนูทำนายคุณไหมคะ หนูคิดว่าคุณจะเลือดตกอย่างออกวันนี้ ระวังหน้าผากของคุณไว้ด้วยนะคะ”
“เด็กแบบเธอพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน เชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถทำร้ายเธอได้ง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเมื่อเธอออกไปข้างนอก?” ชายร่างอ้วนเพิ่งจะสบถด่าเธอเสร็จ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาไม่มีกะจิตกะใจจะพูดกับเธอต่อ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและตะคอกไปว่า
“อะไรอีกล่ะ?!”
“มีงานเหรอ?” ดวงตาของเขาสว่างวาบ เสียงของเขาลดลงโดยอัตโนมัติ เขาเอามือป้องปากขณะที่พูด
“เกี่ยวกับอะไร? มีผู้หญิงอยากรู้ดวงชะตาของลูกสาว? เยี่ยม นายช่วยฉันรั้งเธอไว้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้และจะให้นายห้าสิบหยวนเมื่อเสร็จงาน”
หลังจากวางสาย ชายร่างอ้วนก็ขยิบตาให้หลินชิงหยินและพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“เห็นไหม สิ่งนี้สามารถทำเงินให้เธอได้ อย่าคิดว่าฉันเล่นๆกับเธอล่ะ!” พูดจบเขาก็เก็บหนังสือคืนเข้าชั้นและรีบเร่งจากไป
หลินชิงหยินนึกขึ้นได้ว่าเช้านี้เธอเดินไปเดินมาสองชั่วโมงแล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีลูกค้า ดังนั้นเธอจึงหมุนตัวตามเขาออกไป เธออยากจะเห็นว่าเขาใช้ทักษะอะไรในการทำนาย
สถานที่นัดของชายร่างอ้วนอยู่ไม่ไกลจากร้านหนังสือ เขาเดินประมาณเจ็ดถึงแปดนาทีก็มาถึงถนนไม่กว้างไม่แคบ ทั้งสองข้างถนนมีตึกเก่าและแผงลอยขายเสื่อและหมวก บ้างก็ขายแก้วและถ้วย บ้างก็ทำงานเล็กๆน้อยๆ ชายร่างอ้วนเป็นหมอดูคนเดียวในถนนเส้นนี้
“อาจารย์!”
เมื่อเห็นว่าชายร่างอ้วนเดินเข้ามา พ่อค้าหาบเร่ที่คุยกับป้าคนหนึ่งเป็นเวลานานในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจ เขารีบโบกมือให้ชายอ้วน
“ในที่สุดอาจารย์ก็กลับมาแล้ว พี่สาวคนนี้กำลังมองหาหมอดู”
‘อาจารย์หวัง’ จู่ๆบรรยากาศที่อยู่รอบตัวเขาก็เปลี่ยนไป เขาวางท่าเหมือนอาจารย์ตัวจริง เขาเดินสง่าผ่าเผยเข้ามาและพูดว่า
“คุณกำลังมองหาผมให้ช่วยทำนายดวงชะตาให้ใช่ไหม?”
ป้าคนนี้มองดูชายอ้วนด้วยความสงสัยคลางแคลงใจ เธอหลุดปากพูดไปว่า “คุณทำนายได้หรือ?”
เมื่ออาจารย์หวังได้ยินป้าคนนี้กล้าตั้งคำถามสงสัยในความสามารถของเขา เขาก็โพล่งออกมาด้วยความเดือดดาล
“แน่นอน ผมทำได้! คุณลองถามคนแถวๆนี้ดูสิ คุณจะได้รู้ว่าคนแถวนี้มาหาผมเมื่อพวกเขาจะแต่งงาน ถ้าผมไม่มีความสามารถพวกเขาจะมาหาผมหรือ?”
ฟังดูมีเหตุผล คนในถนนสายนี้ต้องรู้ว่าเขามีความสามารถดังนั้นจึงมาหาเขา มิฉะนั้นจะจ่ายเงินให้เปลืองไปเปล่าๆปลี้ทำไม! สีหน้าของเธอดูสบายใจขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและคลิกที่รูป ส่งให้อาจารย์หวัง
“ฉันต้องการให้คุณช่วยทำนายลูกสาวฉันให้หน่อย นี่รูปลูกสาวฉัน”
ในรูปปรากฏภาพหญิงสาวอายุยี่สิบห้าปี ผมยาวและกำลังยิ้ม เธอดูสวยและมีสง่าราศี
อาจารย์หวังมองดูรูปถ่ายและเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าเขา ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ ถือถุงร้านสะดวกซื้อในมือซึ่งเต็มไปด้วยผักและผลไม้ เขาไม่เห็นความกังวลระหว่างคิ้วของเธอ บางทีเธออาจเห็นว่ามีหมอดูอยู่แถวนี้จึงแวะมาดูดวงโดยบังเอิญ มองดูอายุผู้หญิงในรูป อาจารย์หวังก็เดาจุดสำคัญออก
“คุณอยากจะรู้เรื่องการแต่งงานของลูกสาวคุณ”
เธอรู้สึกงุนงงอยู่พักหนึ่ง แต่จากนั้นเธอก็ปรับอารมณ์ของเธออย่างรวดเร็วและถามว่า
“การแต่งงานของลูกสาวฉันจะเป็นอย่างไรบ้าง”
อาจารย์หวังนั่งลงบนเก้าอี้และหยิบปากกาลูกลื่นออกมาจากกล่องข้างเขา
“บอกลักษณะลูกสาวของคุณมาแปดอย่าง!”
ทันใดนั้นเธอก็บอกข้อมูลเขา อาจารย์หวังเขียนลงไปบนกระดาษ นับนิ้วมือและท่องงึมงัมในขณะที่พลิกดูหนังสือที่หน้าหายไปเป็นบางหน้า ผ่านไปสามสี่นาที อาจารย์หวังลูบหนวดปลอมของเขาแล้วพยักหน้า
“ผมเห็นแล้ว แต่ต้องจ่ายเพื่อให้เห็นภาพชัดกว่านี้ พี่สาว ผมต้องขอสามร้อยหยวนในการทำนาย”
“สามร้อยหยวน?” เธอลังเล “คุณพอจะบอกได้ไหมว่าในอนาคตลูกสาวของฉันจะมีลูกกี่คน?”
อาจารย์หวังอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “พี่สาว คุณนี่ตลกจัง คุณคิดไปถึงว่าลูกสาวคุณจะมีลูกกี่คนทั้งที่เธอยังไม่แต่งงานเนี่ยนะ? แน่นอน ผมสามารถบอกได้ แต่คุณต้องให้ผมเพิ่มอีกสองร้อยหยวน”
“จูบก้นฉันเถอะ แกมันคนปลิ้นปล้อน!” ทันใดนั้นเธอก็ยกถุงในมือฟาดไปที่ศีรษะเขา ใครจะรู้ได้ว่าในถุงนั้นมีอะไรบ้าง แต่หน้าผากของอาจารย์หวังเป็นรอยถลอกและมีเลือดออก
ดูเหมือนว่าอาจารย์หวังจะคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้และหยิบผ้าขนหนูออกมาทันที จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงประหนึ่งว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
“ถ้าไม่อยากดู ก็ไม่ต้องดู ไม่เห็นต้องตีคนอื่นเลย!”
“ฉันจะตีแกให้ตาย ไอ้คนปลิ้นปล้อน” เธอมองเลือดออกที่หน้าผากของเขาและความรู้สึกผิดก็พาดผ่านเข้ามาในดวงตา แต่เธอก็ขจัดความรู้สึกผิดนั้นให้หายไป เธอเอามือท้าวสะเอวและชี้นิ้วไปที่อาจารย์หวัง จากนั้นก็ต่อว่าเขา
“แก ไอ้คนปลิ้นปล้อนหลอกหลวง! ทำไมไม่ทำนายดวงให้ตัวเองล่ะ? หรือทำไมไม่เรียกตำรวจมาตัดสินเรื่องนี้ไปเลย?”
อาจารย์วังห่อเหี่ยวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำว่าตำรวจ เขาเอามือมากุมหน้าผากไว้
“ลืมมันซะ ฉันจะคิดว่ามันเป็นโชคร้ายของฉันล่ะกัน ไปซะถ้าไม่อยากดูดวง”
เธอมองดูหน้าผากอาจารย์หวัง กระชับถุงในมือแน่นและเตรียมตัวจะเดินจากไป จู่ๆก็มีเสียงชัดใสดังขึ้นจากด้านหลังเธอ
“รอก่อนค่ะ!”
เธอหันมามองดูรอบๆและคนที่หยุดเธอเอาไว้คือเด็กสาวที่ดูยังไงก็เหมือนเด็กนักเรียน เธอมองหล่อนด้วยความสงสัย
“ต้องการอะไรจากฉัน?”
หลินชิงหยินเดินเข้ามาใกล้เธอ มองดูใบหน้าของเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงชัดแจ๋ว
“ดูจากหน้าคุณป้าแล้ว ประตูวังมังกรนั่นชั่วร้ายและมืดมน คุณป้าจะไม่มีทายาทสืบทอด”
พ่อค้าหาบเร่ที่ยืนอยู่ข้างอาจารย์หวังตีแขนเขา แล้วถามเสียงเบาๆ “วังมังกรอยู่ที่ไหน”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?” อาจารย์หวังกลอกตา “ถ้าฉันรู้มากขนาดนั้น ฉันคงเปิดร้านไปแล้วไม่มานั่งใต้แสงแดดอย่างนี้ทุกวันหรอก” เขาจำเด็กคนนี้ได้ที่ร้านหนังสือ เธอมองเขาตอนที่เขาหยิบหนังสือ เขาคิดว่าเธอกำลังพยายามขายความรู้ของเธอ ดังนั้นเขาจึงดึงหลินชิงหยินออกมาและให้คำแนะนำเธอไปว่า
“อย่าพูดเหลวไหล ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายคน ถ้าขืนพูดมากกว่านี้เธออาจถูกตีน่าเกลียดกว่าฉันก็ได้”
หลินชิงหยินผลักมืออาจารย์หวังออก “เดิมทีป้ามีลูกชายและลูกสาว แต่ตายตอนอายุได้สามขวบซึ่งนั่นทำให้ป้าไม่มีทายาท แต่ด้วยความใจกว้างและใจดีที่มากมายของป้า ป้าจึงได้ลูกสาวคนนี้มา ป้าไม่มีทายาทของป้าเองแต่ป้ามีหลาน” หลินชิงหยินพูดพลางยืนมือออกไป
“ขอดูรูปลูกสาวหน่อยค่ะ?”
คุณป้าดูตกตะลึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและส่งให้หลินชิงหยิน หลินชิงหยินมองดูรูปและคืนโทรศัพท์กลับไป
“ลูกสาวของป้ามีชีวิตที่ดี ถึงแม้จะมีผกผันไปบ้างตอนที่มีลูก ทุกอย่างราบรื่นในวัยผู้ใหญ่ ชีวิตการแต่งงานของเธอก็ดี เธอเพิ่งให้กำเนิดมังกรคู่หนึ่งและนกฟีนิกซ์ในปีนี้”
ป้าตบต้นขาของเธอแล้วจับมือหลินชิงหยินอย่างตื่นเต้น “สาวน้อย คำทำนายของหนูแม่นจริงๆ หนูรู้ใช่ไหมว่าป้าจะถามอะไร?”
หลินชิงหยินยิ้ม “ป้าต้องการหาพ่อแม่ที่แท้จริงของลูกสาว!”
“ถูกต้อง!” ป้าเอื้อมมือไปคว้าสิ่งที่เธอเพิ่งเขียนจากมือของอาจารย์หวัง เมื่อเธอหันไปหาหลินชิงหยินเธอก็แสดงรอยยิ้มที่ประจบสอพลอทันที
“ป้าจะขอรบกวนอาจารย์น้อย…คำนวณให้ป้า”
หลินชิงหยินมองดูกระดาษในมือของคุณป้า เธอเอื้อมมือปลดกระเป๋าออกจากหลัง จากนั้นก็หยิบกระดาษแข็งออกมาและส่งให้คุณป้า
อาจารย์หวังมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ค่าดูดวงหนึ่งพันหยวน!”
เขาปิดปากแล้วมองหลินชิงหยินด้วยตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ เฮ้ หัวใจของเด็กสาวตัวน้อยนี้ดำมืดกว่าเขามาก!