ตอนที่แล้วบทที่ 332 พื้นที่ต้องห้ามของจอมเวทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 334 ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร?

บทที่ 333 โศกนาฏกรรมของเจียงอี้


สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว

พื้นที่ต้องห้ามจอมเวทย์!

นัยน์ตาของเจียงอี้หดลง ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลเฉียนกล่าวถึงพื้นที่ต้องห้ามในป่าอเวจีแล้วหรือ? เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองจะถูกตามโดยไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวกับเรื่องนี้มากนัก เขามองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เยือกเย็นขณะที่ดาบมังกรไฟปรากฏขึ้น จากนั้นเขาก็ใช้มันผ่าไปด้านหน้าในทันใด

ฟึ่บ ฟึ่บ!

มังกรเพลิงทั้งสองพุ่งพล่านออกมา แต่เจียงอี้ก็ต้องตกใจเนื่องจากหยุนลู่ได้หายไปจากที่ที่เขาเคยยืนอยู่ ซึ่งมังกรเพลิงทั้งสองก็หายไปในหมอกหนาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สัมผัสโดนสิ่งใดเลย

ฟึ่บ!

เขาปลดปล่อยเจตจำนงสังหารและวิ่งไปด้านหน้า เมื่อขาวิ่งไปถึงจุดที่หยุนลู่เคยอยู่ก่อนหน้านี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหยุนลู่จึงหายไปในทันที เพราะเลยด้านหน้าไปอีกสามสิบกิโลเมตรเป็นหน้าผา ซึ่งดูท่าว่าหยุนลู่จะกระโดดลงไป

ฟึ่บ ฟุ่บ!

ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยมังกรเพลิงทั้งสองตัวผ่าแหวกลงไปยังหน้าผา และมันก็เป็นเช่นเดิม มังกรเพลิงไม่ได้ปะทะเข้ากับสิ่งกีดขวางใดๆ มันเป็นเหวลึกที่ลึกลงไปกว่าสามสิบกิโลเมตรอย่างแท้จริง

มันเป็นก้นบึงเหวลึกที่ไม่มีก้นเหวและเต็มไปด้วยหมอกหนา เจียงอี้ไม่กล้าประมาทกระโดดลงไป เขาตัดสินใจด้วยตัวเองว่าด้วยความแข็งแกร่งของหยุนลู่ในตอนนี้คงตายไปแล้วแน่ๆ

แน่นอนว่า เขาจะต้องมั่นใจกับเรื่องนี้ เขายังคงวนเวียนอยู่แถวๆนั้นและทำให้มั่นใจแล้วว่าหยุนลู่ไม่ได้อยู่แถวนั้นก่อนที่จะกลับไปยังที่ที่เขามา ที่ที่เขาผ่านเข้าหมอกขาวมานั้นอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรและเขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถออกจากพื้นที่ต้องห้ามของจอมเวทย์ได้

เขาไม่กล้าใช้งานศาสตร์แปรผันดวงจิตเพราะเขาเกรงว่าเขาอาจจะย้ายร่างไปแล้วตกเหวลึกลงไปก็ได้ เขาเดินกลับไปในทางเดิมที่เขาเข้ามา มีหมอกสีขาวไปทั่วทุกที่และไม่มีต้นไม้อยู่รอบๆเลย ซึ่งมันไม่มีวิธีที่จะแยกแยะทิศทางได้เลย เจียงอี้จึงทำได้เพียงเดินเป็นเส้นตรงเท่านั้น

“เอ๊ะ?”

หลังจากเดินไปสิบห้านาที เจียงอี้ก็อุทานออกมาทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับว่าเขาเห็นผี มีหน้าผาไร้ก้นเหวอยู่เบื้องหน้าเขาซึ่งมีหมอกสีขาวอยู่ด้านล่าง มันทำให้ใจของเขาเต้นรัว

“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!”

เจียงอี้กระพริบตาปริบๆ เขาหยิบดาบมังกรเพลิงและปล่อยมังกรเพลิงออกไปอีกครั้ง เมื่อเขามั่นใจแล้วว่านั่นเป็นหน้าผา การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นมืดมนในทันใด เขารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องร้ายแรงแล้ว!

เขาก้าวเท้ามาเป็นเส้นตรงและเมื่อเขามาจากทางนั้น มันก็ไม่มีหน้าผามาก่อนเลย ในตอนนี้เขากลับอยู่ข้างหน้าผา? มีคำอธิบายเดียวเท่านั้น....สถานที่แห่งนี้คือเขตลวงตา

เจียงอี้กลายเป็นคนบ้าคลั่งไปอย่างรวดเร็วและวิ่งไปมาเป็นชั่วโมง สุดท้ายแล้วเขาก็มั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเขตลวงตาที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหน สุดท้ายเขาก็จะมาบรรจบลงที่หน้าผาแห่งนี้

“เจ้าเหลืองใหญ่!”

เจียงอี้ยังไม่สิ้นหวัง เครื่องรางสัตว์วิญญาณส่องสว่างอยู่ในมือเขาและมีสัตว์อสูรตัวยักษ์ปรากฏตัวขึ้น เขากระโดดขึ้นไปบนเถาอู้และตะโกนว่า “เจ้าเหลืองใหญ่ ขุดลงไปใต้ดิน!”

ผลที่ได้นั้น....ช่างน่าเศร้านัก!

เขาทั้งหกของเถาอู้เปล่งแสงสีเหลืองออกมาแต่พื้นผิวดินเหมือนเหล็กดำหมื่นปี แสงสีเหลืองที่เปลี่ยนโคลนและหินให้กลายเป็นฝุ่นได้ มันกลับไม่สามารถทะลุผ่านพื้นดินนี้ไปได้

“ข้าไม่เชื่อ!”

เจียงอี้เก็บเจ้าเหลืองใหญ่กลับมาและใช้ดาบมังกรเพลิงผ่านพื้นดิน ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นเพียงสะเก็ดไฟขณะที่มือของเขาชาเพราะถูกแรงสะท้อนกลับมา พื้นผิวดินสว่างขึ้นด้วยแสงสีขาวนวลซึ่งมันคืออาคมยับยั้งอย่างชัดเจน

“หินวิญญาณเพลิง!”

เจียงอี้กัดฟันแล้วหยิบหินวิญญาณเพลิงออกมาก้อนหนึ่ง คราวนี้มันได้ผล พื้นผิวดินเปล่งประกายด้วยแสงสีขาวขณะที่มันเผาไหม้อย่างรวดเร็วและสร้างหลุมลึกประมาณหกเมตร ปัญหาก็คือ....หลุมนี้มันทำอะไรได้บ้าง? พื้นดินโดยรอบก็ยังมีความแข็งคล้ายกันเช่นเดิมซึ่งเทียบได้กับสิ่งประดิษ์ศักดิ์สิทธิ์

หินวิญญาณเพลิงนั้นเหลืออยู่เพียงหกก้อนและเจียงอี้ไม่อยากใช้มันโดยประมาทอีก เขาพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจใช้ไพ่ตายของเขา....ศาสตร์แปรผันดวงจิต!

ทักษะวิชานี้มีพลังมาก แต่ก็เป็นอันตรายมากเมื่อใช้มัน แต่เจียงอี้ไม่มีทางเลือกอื่น ร่างของเขาส่องแสงสีขาวขณะที่เขาเพ่งเล็งและย้ายร่างไปยังฝั่งตรงข้ามหน้าผา

“อ่า....”

ผลที่ตามมาคือสิ่งที่น่าเศร้าของเขา เมื่อร่างของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาก็รู้ว่าตัวเองนั้นลอยอยู่กลางอากาศและเบื้องล่างของเขาเป็นเหวลึก ร่างของเขากำลังร่วงหล่นอย่างจริงจัง แล้วเขาก็ลงสู่ก้นบึ้งของหุบเหวในทันใด

“ข้าจบเห่แล้ว!”

เขาสัมผัสได้ว่าความเร็วในการดิ่งลงเหวนั้นเร็วขึ้น เจียงอี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นของความตาย ใครบ้างจะไม่รู้สึกเหมือนถูกทุบตีราวกับอยู่ในโรงเหล็กหลังจากที่ดิ่งสู่ผาสูงเช่นนี้กัน?

ร่างของเขาอยู่กลางอากาศเพราะเขาตกลงมาอย่างรวดเร็วจึงทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ และจิตใจของเขาก็ปั่นป่วนไปหมด เขาไม่มีทางที่จะปลดปล่อยศาสตร์แปรผันดวงจิตและเขาก็กำลังอยู่ระหว่างหลุมที่ตกลงมา และถึงแม้ว่าเขาจะสามารถย้ายร่างกะทันหันได้ เขาจะย้ายไปไหน?

บูม!

ความคิดของเขาค่อยๆทำให้เขาเวียนหัวจากความกดดันจนท้ายที่สุดก็เป็นลมไป ร่างของเขายังคงร่วงหล่นลงไปและหมอกหนาสีขาวก็ยังคงอยู่รอบๆ ไม่มีผู้ใดเห็นว่าด้านล่างนั้นเป็นเช่นไรและดูเหมือนว่าด้านล่างของผานี้คืออเวจีเก้าภพ

...

ทางด้านของจ้านอู๋ซวงและเฉียนว่านก้วนไม่รู้ว่าเจียงอี้ได้ก้าวเข้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามของจอมเวทย์เพื่อตามล่าหยุนลู่

พวกเขาค่อนข้างตามเก็บศัตรูที่เหลืออย่างรวดเร็วและไม่เหลือรอดไปแม้แต่คนเดียว จากนั้นพวกเขาก็ล้างสนามรบอย่างรวดเร็วและทำให้มั่นใจว่าไม่ได้เหลือร่องรอยหลักฐานใดๆไว้ จากนั้นพวกเขาก็หลบหนีไปทางอุโมงค์ใต้ดิน

ทั้งสองตระกูลสูญเสียผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดไปเจ็ดคนในการตามล่าหยุนลู่และผู้อาวุโสลู่ แม้แต่เจียงอี้ก็ยังไล่ตามไป หากพวกเขายังไม่สามารถตามล่าหยุนลู่ได้ เช่นนั้นก็คงเป็นพระประสงค์ของสวรรค์อย่างแท้จริง

พวกเขาหลบหนีไปกันอย่างรวดเร็ว จ้านอู๋ซวงให้เฉียนว่านก้วนตามกองทัพและหลบหนีไปยังอาณาจักรต้าเซี่ยก่อนขณะที่เขานำผู้เชี่ยวชาญหลายคนมุ่งตรงไปยังส่วนลึกของป่า

กองทัพจากเมืองเทียนหมิงจะมาถึงเมื่อใดก็ได้ หากจ้านอู๋ซวงหลบหนีออกจากป่าไม่ทันการณ์ เขาอาจจะต้องตายอยู่ที่ป่าอเวจีแห่งนี้ตลอดไป แต่เขาก็ยังคงยืนยันที่จะไป หากเจียงอี้ไม่กลับมา เขาก็มีความรู้สึกไม่สบายใจที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

กองทัพจากเมืองเทียนหมิงมาถึงที่นี่ในเวลาเพียงหกชั่วโมง นอกเหนือจากร่องรอยต่อสู้แล้ว พวกเขาก็ไม่เห็นศพแม้แต่ศพเดียว

ก่อนที่จ้านอู๋ซวงจะไป เขารวบรวมศพทั้งหมดและเผาพวกเขาไปหมดแล้ว การทำเช่นนี้ ศัตรูก็จะไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้และจะไม่มีหลักฐานได้สาวไปถึงได้

การจัดการของจ้านอู๋ซวงนั้นสมบูรณ์แบบ กองทัพที่แม่ทัพหยุนหรูส่งมาจากเมืองเทียนหมิงต่างค้นทั่วทั้งพื้นที่และไม่พบหลักฐานใดๆนอกจากอุโมงค์ใต้ดิน

เป็นเช่นนี้ไปอยู่พักหนึ่ง เขาก็ยังไม่สามารถระบุว่าผู้ใดเป็นผู้ลงมือ อย่างไรก็ตาม องค์ชายทั้งสองนั้นมีความขัดแย้งกันอยู่ภายในอาณาจักร หากสิ่งนี้เกิดขึ้นโดยน้องชายขององค์หญิงหยุนเฟย เขาก็คงจะไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากคอยให้กองทัพสอดแนมรอบๆขณะที่ส่งรายงานสถานการณ์ฉุกเฉินไปยังอาณาจักรเทียนเซวี่ยน เขายังส่งรายงานอื่นให้หน่วยสอดแนมนับไม่ถ้วนในละแวกใกล้เคียงเพื่อคอยลาดตระเวนทั่วทั้งหมื่นกิโลเมตรเพื่อหาเบาะแสผู้กระทำผิดนี้

เมื่อรายงานไปถึงเมืองเซวี่ยนเทียนมันก็ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความโกลาหล หยุนลู่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจอมเวทย์ซึ่งส่งผลให้ตระกูลอื่นๆมากมายที่เริ่มไม่สนับสนุนเขาและมีการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ เมืองเซวี่ยนเทียนได้ตัดสินกันภายในว่าจะให้เขาขึ้นเป็นองค์ราชาในภายภาคหน้า แต่เขาก็ถูกลอบสังหารและถูกฆ่า มันมีความเป็นไปได้ถึงแปดส่วนที่เขาอาจตายไปแล้ว

ราชาแห่งอาณาจักรเทียนเซวี่ยนมีโทสะขึ้นมาและทำให้น้องชายของหยุนเฟยถูกกุมตัวทันที จากนั้นเขาก็ออกคำสั่งให้ตามหาตัวหยุนลู่ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม หากเขายังมีชีวิตอยู่ องค์ราชาก็อยากจะพบเขา หากเขาตายไปแล้ว องค์ราชาก็ยังอยากเห็นศพของเขา แถมองค์ราชายังสั่งให้สืบสวนหาผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง มันไม่สำคัญว่าผู้นั้นจะเป็นใคร หากพบตัวแล้วจะต้องถูกประหารชีวิต

สาส์นลับนับไม่ถ้วนต่างก็ถูกส่งขึ้นมากมาย หน่วยลับจากตระกูลต่างๆนับไม่ถ้วนก็เริ่มเคลื่อนไหว ซึ่งรวมไปถึงหน่วยลับจากห้าขั้วอำนาจและจักรวรรดิมังกรเวหา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการตามหาข้อมูลทั้งหมดและหาตัวผู้กระทำผิด! หยุนลู่นั้นพาทหารไปด้วยตั้งพันคนและมีผู้อุทิศสองคนที่รู้เวทย์มนตร์โบราณ แน่นอนว่าคนทั่วไปคงไม่สามารถฆ่าเขาได้

ข่าวนั้นแพร่สะพัดไปทั่วอาณาจักรเทียนเซวี่ยนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วทวีป ประชาชนจำนวนมากต่างพากันกังวลและสงสัยว่าเหตุการณ์ของหยุนลู่นั้นจะกลายเป็นชนวนสงครามอีกหรือไม่?

.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด