ตอนที่แล้วตอนที่ 91 ทำไมนะสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 93 อย่าหวังจะได้อะไรคืนไป

ตอนที่ 92 ลักพาตัว


ภาพเพลิงไหม้รุนแรงที่กระโจมของเหนือฟ้าทำให้ทุกคนแตกตื่น บางคนรีบวิ่งมาดู บางคนรีบวิ่งไปหาน้ำมาดับไฟซึ่งแถวนี้ก็ไม่มีแหล่งน้ำใกล้ ๆ ซะด้วยสิ

“ฟ้า กลิ่นจันทน์ พวกเจ้าอยู่ไหน”

เหนือภพมาถึงก็เตรียมบุกตะลุยเข้าไปในกองไฟในทันที โชคดีที่ยังมีคนเรียกเขาเอาไว้เสียก่อน

“พี่ภพ ข้าอยู่นี่”

เหนือฟ้านั่งคลุมผ้าห่มเปียกน้ำอยู่บนพื้นข้าง ๆ กระโจมของแพทย์คนหนึ่ง

“เจ้าเป็นอะไรมั๊ย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น กลิ่นจันทน์ล่ะ”

เหนือภพกอดน้องสาวไว้พลางถามอย่างละล่ำละลัก

“ข้าไม่รู้ ข้าสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะไฟไหม้กระโจม แต่ตอนนั้นพี่กลิ่นจันทน์หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”

โชคดีที่เหนือฟ้ามีสติตื่นขึ้นมาก่อนที่จะโดนไฟคลอกตาย เมื่อเธอตื่นแล้วมันก็ง่ายที่จะใช้อาคมปกป้องตนเอง ในตอนนี้เธอไม่ได้ห่วงตัวเองเท่าไหร่ แต่เธอกังวลเกี่ยวกับกลิ่นจันทน์มากกว่า

เนื่องจากกลิ่นจันทน์เป็นเด็กสาวชาวบ้านที่มาจากตระกูลผู้ไร้พรสวรรค์ และตอนนี้กลิ่นจันทน์ก็ใกล้จะอายุครบ 12 ปีเต็มแล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับปาฏิหาริย์ดังเช่นเหนือฟ้า เธอจึงไม่มีอาคมที่จะปกป้องตัวเองได้

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายดับไฟและตามหากลิ่นจันทน์อยู่นั้น ซวยซวยที่กำลังค้นหาเหล้าอยู่แถวเกวียนสินค้า เขาก็ได้พบเห็นอะไรบางอย่างวิ่งตัดผ่านหน้าไป

“เฮ้ย ใครน่ะ”

แม้ซวยซวยจะมองเห็นได้เพียงรางเลือน แต่เขาก็มั่นใจว่าเห็นใครบางคนวิ่งเข้าไปในป่าที่มืดสนิทพร้อมทั้งยังแบกอะไรบางอย่างไว้บนบ่าอีกด้วย

แต่ซวยซวยก็ไม่ได้ตามไป เพราะเขาถูกความวุ่นวายเรื่องไฟไหม้ดึงดูดความสนใจไว้เสียก่อน

“อ้าว เหนือภพจะไปไหน”

ซวยซวยที่กำลังหอบเหล้าไว้เต็มอ้อมแขนตะโกนถามเหนือภพที่กำลังกระโดดข้ามกระโจมไปมาอย่างเร่งร้อน

“กลิ่นจันทน์หายตัวไป เจ้าเห็นกลิ่นจันทน์บ้างรึเปล่า”

“ข้าไม่เห็นกลิ่นจันทน์นะ แต่ข้าเห็นใครบางคนวิ่งเข้าไปในป่า บนบ่าแบกอะไรไว้ก็ไม่รู้ หรือว่า….”

ยังไม่ทันที่ซวยซวยจะได้วิเคราะห์อะไร เหนือภพก็ตาโตทันที

“ใช่แน่ มันเป็นใครกันถึงมาลักพาตัวกลิ่นจันทน์ไป แล้วมันไปทางไหน”

ซวยซวยชี้นิ้วบอกทางแก่เหนือภพ แล้วเหนือภพก็พุ่งเข้าป่าไปโดยไม่ฝากความอะไรไว้เลย ซวยซวยเกาหัวแกรก ๆ จากนั้นก็ไปบอกข่าวนี้ให้กับทุกคน

หัวหน้าไทและทีมฮันเตอร์ของเขาต่างพากันแยกย้ายเข้าป่าไป โดยกระจายตัวออกเป็นรูปพัดเพื่อจะได้ค้นหาได้ในรัศมีที่กว้างขึ้น ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคนร้ายปริศนาหนีไปในทิศทางไหนแล้ว

ทางด้านสมุทรนั้น เขากำลังรอฟังคำรายงานจากลูกน้องอยู่ เพื่อวางแผนออกค้นหากลิ่นจันทน์เช่นกัน

“มันเป็นใคร”

สมุทรเอามือไขว้หลังพลางยืนจ้องไปที่กระโจมที่ผู้คนกำลังช่วยดับไฟอยู่ โดยมีฮันเตอร์ตัวใหญ่คนหนึ่งยืนรายงานข่าวอยู่เบื้องหลังของเขา

“คาดว่าน่าจะเป็นคนขององค์หญิงบุษย์น้ำทอง ที่ตามมาแก้แค้นเหนือภพขอรับ”

“คนพวกนี้นี่ฉลาดจริงๆ”

สมุทรยืนนิ่งคิดเพียงไม่นานก็รู้ได้ว่า คนพวกนั้นคงจะดูออกว่าเหนือภพนั้นจัดการได้ยาก แถมเหนือภพยังทำตัวติดหัวหน้าไทอยู่ตลอดเวลา พวกนั้นจึงเล็งเป้าไปที่คนที่มีความหมายกับเหนือภพแทน และคนที่เหนือภพห่วงใยนั้น ระหว่างเหนือฟ้าผู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์เลิศล้ำ กับกลิ่นจันทน์เด็กสาวธรรมดาที่ไร้อาคม ไม่ต้องคิดลึกซึ้งมากมายก็มั่นใจได้ว่าพวกมันต้องเลือกเล่นงานกลิ่นจันทน์แน่นอน

“สืบหาได้รึยังว่าใครเป็นสายให้มัน”

ใบหน้าของสมุทรฉายแววขึงขัง แม้เขาจะยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อ่อนประสบการณ์ แต่หากเขารู้สึกจริงจังกับเหตุการณ์ใดขึ้นมา พวกลูกน้องก็จะรู้สึกกริ่งเกรงเขาขึ้นมาทันที

แม้คนนอกจะไม่รู้ประวัติของสมุทร แต่พวกลูกน้องทุกคนต่างรับรู้โดยทั่วกันว่าสมุทรคือทายาทชั้นเลิศของตระกูลไตรลักษณ์ และเป็นทายาทที่นับได้ว่ามีพรสวรรค์ด้านธนูอาคมมากที่สุดของตระกูลในรอบ 300 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าริท้าทายเรื่องพลังอาคมกับเขาเป็นอันขาด

“ยังขอรับ แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งในทีมฮันเตอร์ของเราเอง”

“เร่งสืบให้เร็วกว่านี้ แล้วกำจัดมันซะ”

“ขอรับ”

สมุทรเริ่มระแคะระคายเกี่ยวกับหนอนบ่อนไส้มาสักระยะแล้ว เรื่องวุ่นวายที่เกิดกับขบวนสินค้าของเขาก็ต้องเป็นเพราะเจ้าหนอนตัวนี้ และยังมีเรื่องวุ่นวายในคืนนี้อีกที่ช่วยยืนยันว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่จริง ๆ ไม่เช่นนั้นจะมีคนบุกเข้าไปถึงกระโจมชั้นในได้อย่างไร

“แบ่งคนของเราครึ่งหนึ่งเฝ้าที่นี่ไว้ อีกครึ่งกระจายกันค้นหากลิ่นจันทน์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามให้ทุกคนกลับมารวมตัวกันที่นี่ภายในเวลาเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องสืบหาหนอนเน่านั่น เจ้าต้องสืบหาด้วยตัวเองเท่านั้น ข้าไม่ไว้ใจคนอื่น”

“ขอรับ”

เมื่อสมุทรสั่งความลูกน้องเสร็จแล้ว เขาก็วิ่งเข้าป่าตามเหนือภพไป

“ปล่อย...ปล่อยข้า”

กลิ่นจันทน์กระซิบบอกคนที่ลักพาตัวเธอมาอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เธอถูกพาตัวออกมาทั้ง ๆ ที่ยังหลับอยู่ พอเธอตื่นรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังถูกใครก็ไม่รู้แบกเธอวิ่งอยู่ในป่า

ชายคนนั้นไม่ตอบอะไร เขาเพียงแบกเธอวิ่งมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ไปทางตรงบ้าง ทางอ้อมบ้าง บางทีก็วิ่งย้อนกลับไปทางเดิม เขาพยายามสร้างความวุ่นวาย กลบเกลื่อนร่องรอยที่แท้จริงและสร้างร่องรอยปลอมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้พวกเหนือภพหัวปั่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เขาพาตัวเด็กสาวมาเกือบชั่วโมงแล้ว พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า ท้องฟ้าสว่างมากขึ้น แสงแดดรำไรส่องทะลุยอดไม้ลงมาถึงผืนป่าเบื้องล่างแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้นอนมาเลยทั้งคืน

ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาได้ไปลอบสังหารกลุ่มโจรที่แตกกระสานส่านเซ็นนับร้อยคน ด้วยความว่องไวและฝีเท้าที่เงียบกริบราวกับเงาของเขาทำให้การฆ่าเป็นได้อย่างราบรื่น ต่อให้พวกโจรวางกำลังเฝ้ายามกันอย่างเต็มที่พวกมันก็ไม่รอด และความลับทั้งหลายก็จะต้องหายสาบสูญไปพร้อมกับร่างไร้วิญญาณของพวกโจร นี่เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่าฝีมือของชายหนุ่มนั้นไม่ธรรมดา

การที่เขาลักพาตัวเด็กสาวอ่อนแอคนนี้มาก็เพื่อประกาศให้คนทั้งหมดได้รู้ว่า อย่าริมาเป็นศัตรูกับเจ้านายเขา และเขาก็จงใจให้มีคนเห็นตอนเขาลักพาตัวมาด้วย เพราะถ้าหากกลิ่นจันทน์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครสืบหาต้นตอได้ การแก้แค้นครั้งนี้มันจะมีประโยชน์อะไร

เขาต้องการให้พวกมันเจ็บแค้น เอาให้เจ็บยิ่งกว่าสิ่งที่องค์หญิงบุษย์น้ำทองของเขาได้รับมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด