ตอนที่แล้วตอนที่ 50 เจ้าเป็นพี่ที่แย่มาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 52 เรื่องเล่าเทพนักขุด

ตอนที่ 51 คนรักสัตว์


ณ ห้องเก็บสินค้า ชั้นล่างสุดของเรือ เวลา 02.58 น.

ท่ามกลางสัตว์อสูรที่อยู่ในกรงเหล็กนับร้อยกรง เหนือภพกำลังเดินให้อาหารมันทีละกรงๆอย่างเบื่อหน่าย นอกจากให้อาหารแล้ว เขายังต้องคอยสังเกตตรวจตราเจ้าพวกนี้ว่ามีตัวไหนหายไป มีอาการป่วย มีอาการบาดเจ็บอะไรหรือไม่ เพราะถ้าสัตว์อสูรสูญหายหรือตาย คนเฝ้าก็ต้องเสียค่าปรับเป็น 10 เท่าของค่าจ้าง มันเป็นงานที่เสี่ยงแต่รายได้งาม

สัตว์อสูรแต่ละตัวนั้นดุร้ายจึงไม่แปลกที่เหนือภพจะได้ยินข่าวลือว่า คนเฝ้าสัตว์คนก่อนๆพลาดถูกสัตว์อสูรจับกิน ตอนแรกเหนือภพไม่เชื่อ แต่ตอนนี้บนพื้นยังมีรอยคราบเลือดสีแดงติดอยู่ต่อให้เขาไม่เชื่อก็คงปฏิเสธไม่ได้แล้ว เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าเลือดของสัตว์อสูรนั้นมีสีม่วง มีแต่เลือดมนุษย์สีแดง

หลังจากให้อาหารพวกมันจนครบแล้ว เหนือภพก็ใช้เวลาว่างเลื่อนดูสินค้าในแท็บแล็ตตามปกติ ตอนนี้เขามีเงินก้อนโตที่หยิบฉวยมาจากเจ้าของร้านเพิ่มทรัพย์ ในถุงนั้นมีเหรียญเงินมูลค่า 500 เหรียญเงินอยู่

“หุหุ ตอนนี้ข้ามีเงินเติมจนได้ 5 ล้านพ้อยแล้ว วันนี้จะซื้ออะไรดีน้า”

ขณะที่เหนือภพกำลังเลื่อนหาวัตถุดิบในฝันอยู่นั้น สัตว์อสูรตัวใหญ่ยักษ์รูปร่างคล้ายสุนัขแต่มีสองหัว อยู่ๆมันก็พุ่งโจมตีกรงเหล็กของมัน

“เงียบๆหน่อยสิ”

เหนือภพหัวคิ้วกระตุกลุกขึ้นไปดู ก่อนจะซัดกำปั้นใส่กรงเหล็กของมันไปหมัดหนึ่งเพื่อให้สงบลง แต่ว่าหมัดเดียวกลับไม่อาจทำให้มันสงบลงได้ สัตว์อสูรสุนัขสองหัวมันเห่ากรรโชก แสดงออกด้วยท่าทีดุร้าย สองขาหน้าตะกุยกรงรุนแรงจนสัตว์อสูรที่อยู่ในกรงใกล้ๆเริ่มมีอาการหงุดหงิดบ้าคลั่งตามกันไป

เหนือภพปรายตามองด้วยสายตาเย็นชา

“ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาสินะ”

เหนือภพเปิดกรงเหล็กออก เดินเข้าไปในนั้นแล้วปิดกรงเหล็กกลับดังเดิมด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน สุนัขสองหัวก็ส่งสายตาเหมือนดูถูก มันมองเหนือภพไม่ต่างจากอาหารชิ้นหนึ่ง พลางเลียริมฝีปากตัวเอง ขณะที่น้ำลายไหลหยดย้อย

ผ่านไปเพียงไม่ถึงสิบนาที สิ่งที่ไหลหยดย้อยออกมาอย่างมากมายกลับเป็นน้ำตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็นว่าช่วงหว่างขาของมันดูบวมปูดผิดปกติ

สุนัขสองหัวเพศผู้ครางหงิ๋งๆ นอนขดตัวอยู่มุมกรงอย่างกับเพิ่งถูกขืนใจ ทำเอาสัตว์อสูรในกรงที่อยู่ในละแวกเดียวกับสุนัขสองหัวจากที่มีท่าทีบ้าคลั่ง พวกมันกลับสงบเสงี่ยอย่างว่าง่าย

เหนือภพพยักหน้าให้พวกสัตว์อสูรอย่างอารมณ์ดี

“เด็กดี ทำตัวดีๆแบบนี้ก็อยู่กันยาว”

เหนือภพกลับมาดูรายกายสินค้าในตลาดออนไลน์อีกครั้ง เขาค่อยๆเลื่อนดูสินค้าทีละชิ้นอย่างละเอียด แม้เขาจะมีงบ 5 ล้านพ้อย แต่ทางที่ดีควรใช้เพียงไม่กี่แสนพ้อยก็พอ เขาค้นหาสินค้าภายใต้งบ 1 แสนพ้อย สิ่งที่ได้คือ

สินค้า : ลิ้นไนติงเกล

ที่มา : ป่าชายขอบเมืองต้นกำเนิด

สรรพคุณ : กระตุ้นกล่องเสียงและลิ้น เพิ่มความสามารถในการร้องเพลง

คุณภาพ : ต่ำ

ราคา : 90,000 พ้อย

“ฮึ่ย ไม่มีอย่างอื่นแล้วรึไง”

เหนือภพเพิ่มงบประมาณในการค้นหาไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่ตรงใจที่ต้องการ

สินค้า : ข้อมือภูตินางฟ้า

ที่มา : ห้องสมบัติโบราณของกษัตริย์โมโจ

สรรพคุณ : ช่วยปรับนิ้วมือทั้งสิบให้สวย เรียบเนียนและเรียวงาม เสริมความสง่ายามสวมแหวน

คุณภาพ : ต่ำ

ราคา : 200,000 พ้อย

สินค้า : ดวงตาอสูรเงามายา

ที่มา : ไม่ระบุ

สรรพคุณ : ช่วยให้มีสายตาแห่งศิลป์ สามารถแยกแยะและจำแนกความสุนทรีย์ได้ทุกรูปแบบ

คุณภาพ : ต่ำ

ราคา : 500,000 พ้อย

เหนือภพยังคงค้นหาต่อไป โดยลงเพิ่มงบประมาณทุกๆ 1 แสนพ้อย จนกระทั่งเขาเจอบางอย่าง

สินค้า : เนื้อสันนอกช้างพิภพ

ที่มา : บ้านพรานสมิงพราย

สรรพคุณ : กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขา ให้มีพละกำลังดุจช้างพิภพ แต่ประสิทธิภาพการเคลื่อนที่หรือเคลื่อนไหวด้วยขาจะลดต่ำลง

คุณภาพ : ต่ำ

ราคา : 900,000 พ้อย

ในที่สุดก็เจอบางอย่างที่พอจะมีประโยชน์ แต่ราคาของมันเกินเหตุไปหรือไม่ เหนือภพอดรนทนรอไม่ไหวจนต้องทักไปสอบถามผู้ชี้นำของเขา แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจากผู้ชี้นำเลย

เหนือภพมองดูรายละเอียดเนื้อชนิดนี้อย่างสองจิตสองใจ มันเพิ่มพละกำลังให้กล้ามเนื้อส่วนขา แต่ความสามารถในการเคลื่อนไหวจะลดต่ำลง ทำไมผลลัพธ์และผลเสียมันถึงได้ดูแปลกๆเช่นนี้

ท้ายที่สุดเหนือภพก็ได้แต่พับจอเก็บลงไปก่อน เอาไว้ค่อยซื้อตอนที่เขาไปทำงานที่ร้านอาหารก็แล้วกัน

เวลา 04.00 น.

หมดเวลางานของเหนือภพแล้ว หัวหน้าผู้ดูแลสัตว์อสูรเหล่านี้ก็ลงมาตรวจเช็คดูตามหน้าที่ ในขณะที่เขาก้าวลงบันไดมานั้น เขาถึงกับต้องขนลุกพรึ่บ ความเงียบกริบแบบนี้มันเป็นความผิดปกติอย่างที่สุด มันไม่มีแม้กระทั่งเสียงร้องของเหล่าสัตว์อสูร

‘พวกมันตายแล้วหรือ แย่แล้ว แย่แน่ๆ’

หัวหน้าผู้ดูแลสัตว์อสูรกระโจนลงบันไดด้วยความตื่นตระหนก เพียงก้าวเดียวเขาก็ลงบันไดมาแล้ว 20 กว่าขั้น แต่สิ่งเขาเห็นเบื้องหน้ากลับกลายเป็นว่ากรงสัตว์อสูรยังคงตั้งเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ อีกทั้งเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ในกรงยังทำตัวเป็นมิตร ท่าทางหน้ารักน่าเอ็นดูและให้ความร่วมมือกับเด็กที่ชื่อว่าเหนือภพเป็นอย่างดี ทำให้หัวหน้าผู้ดูสัตว์อสูร ไม่เข้าใจ

“เจ้าทำได้ยังไงน่ะ”

เหนือภพเงยหน้ามองหัวหน้า ยิ้มอ่อนจางก่อนตอบว่า

“ข้าเป็นคนรักสัตว์น่ะ เจ้าพวกนี้คงจะสัมผัสได้”

เหนือภพตอบด้วยอารมณ์เบิกบาน ส่วนหัวหน้าของเขานั้นกลับมีสีหน้าไปในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“งั้นรึ อ่ะนี่เงินค่าจ้างของวันนี้ มะรืนนี้เป็นวันหยุดที่เจ้าไม่ได้ไปทำงานที่ร้านอาหารใช่มั๊ย”

“ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่า”

“ข้าอยากจะขอให้เจ้ามาช่วยเฝ้าสัตว์ตอนกะกลางวันด้วย ได้รึเปล่า”

“อ้าวแล้ว พี่เปรมชัยไปไหนแล้วล่ะครับ”

“เอ่อ ก็.. เขาไปทำงานอื่นแล้วมั้ง เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก”

หัวหน้าตอบตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่เหนือภพก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

“ตกลงครับ มะรืนนี้ข้าจะมาเฝ้าให้ทั้ง 2 กะเลย”

เหนือภพรับเงินมาด้วยความดีใจ กว่าเรือจะเดินทางข้ามทะเลสาบขนาดใหญ่นี้จนไปถึงเมืองโกงกางก็คงใช้เวลาอีกสักอาทิตย์ จนถึงตอนนั้นเขาคงมีเงินเก็บเพิ่มมาอีกไม่น้อย เดี๋ยวเขาจะรีบกลับไปนอนสัก 2 ชั่วโมงแล้วค่อยตื่นไปทำงานที่ร้านอาหารต่อตามปกติ

ระหว่างทางที่เหนือภพกำลังเดินกลับ ก่อนถึงบันไดที่ตรงนั้นเป็นที่ตั้งของกรงสัตว์อสูรเสือดำ มันมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ที่กรงเหล็กและมันคือรอยเลือดสีแดง

“เอ๋? หรือว่าพี่เปรมชัยจะ….”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด