ตอนที่แล้วตอนที่ 13 ข้ารู้เจ้าก็เป็นลูกสัตว์อสูรเช่นเดียวกับข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 เหมืองโบราณ

ตอนที่ 14 สามเหรียญเงินข้าก็เอา


หลังจากที่เหนือภพเดินออกมาจากร้านทำอาวุธ เขาก็มุ่งหน้าไปที่โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดของเมือง เพื่อไปขอสมัครงาน เขาพูดคุยตกลงกับผู้เฒ่าคนดูแลโรงเตี๊ยมได้เรียบร้อย เหนือภพก็ยิ้มแก้มปริเดินเข้าไปในที่พักสำหรับคนงานทันที

ตำแหน่งที่เหนือภพมาสมัครคือ บริกร มันเป็นตำแหน่งเดียวที่ยังว่างอยู่ บริกรของที่นี่มีหน้าที่จัดส่งอาหารจากโรงครัวไปให้ถึงโต๊ะลูกค้าอย่างเรียบร้อยและนุ่มนวล แถมยังมีหน้าที่รินเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้ลูกค้าด้วย และหากลูกค้าต้องการบริการอื่นใด เขาก็จะต้องจัดให้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง

เดิมทีผู้เฒ่าเกือบจะปฏิเสธเหนือภพไปแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาและท่าทางราวกับนักรบที่ไปฝึกเพาะกล้ามแบบนี้ คงยากที่จะเหนือภพจะบริการลูกค้าได้ ทว่าเหนือภพกลับยอมกรีดหัวใจตัวเองเพื่องานนี้เลยทีเดียว

“ท่านผู้เฒ่า ข้าต้องการทำงานจริง ๆ นะ ได้โปรดรับข้าไว้เถอะ”

“ข้าต้องจ่ายวันละ 5 เหรียญเงินให้กับบริกรที่ไม่มีเคยผ่านงานบริการมาเลยเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ”

“เดี๋ยวท่าน ข้า.. ข้า.. ข้าขอแค่วันละ 4 เหรียญเงินก็พอ ขอเพียงท่านมีที่อยู่ที่กินให้ข้า ข้ายอม”

ผู้เฒ่าหรี่ตามองเหนือภพราวกับเหยี่ยวกำลังจะโฉบเหยื่อ

“3 เหรียญเงินต่อวัน เป็นไง”

“เอ่อ ก็ได้ ก็ได้”

เรื่องการรับสมัครงานจึงจบลงด้วยความสำเร็จของทั้งสองฝ่าย เหนือภพได้งานพร้อมที่อยู่ที่กิน ส่วนผู้เฒ่าก็ได้คนงานในราคาแสนถูก

“เหนือภพเอาอาหารชุดนี้ไปส่งให้ลูกค้าห้องพิเศษหน่อย”

“เหนือภพมาช่วยล้างจานด้วย”

“นี่ ไอ้หนุ่มเอาอสูรม้าของลูกค้าไปมัดไว้ที่คอกสัตว์ข้างหลังที”

“............................”

เหนือภพอดทนทำงานที่โรงเตี๊ยมจนครบ 3 วัน เขาเก็บเงินได้ 9 เหรียญเงินแล้ว มันเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลย แต่มันก็ไม่มากพอที่เขาจะใช้ซื้อของในแท็บแล็ตได้อย่างสบายใจ

คืนนั้นเหนือภพนั่งเขียนจดหมายอยู่บนโต๊ะริมหน้าต่างห้องนอน ด้วยชุดเครื่องเขียนที่เขาเพิ่งไปซื้อมาใหม่

----------------------------------------------

ผู้ส่ง - เหนือภพ

ที่อยู่ผู้จัดส่ง - โรงเตี๊ยมสำราญใจ เมืองโกงกาง

ผู้รับ - เหนือฟ้า

ที่อยู่ผู้รับ - โรงเรียนเซนต์อมตะแห่งอมตะนคร

เป็นไงสาวน้อยของพี่ อย่าเพิ่งโกรธพี่นะ พี่เพิ่งจะมีโอกาสเหมาะ ๆ มาเขียนจดหมายน่ะ พี่ได้รับจดหมายของน้องทุกฉบับเลย วางใจได้ ตอนนี้พี่กำลังมุ่งทำงานเก็บเงินอยู่น้องไม่ต้องเป็นห่วง หากพี่พอจะตั้งตัวได้แล้วก็จะรีบไปหาน้องที่โรงเรียนแน่นอน

รักและคิดถึงเสมอ

ปล.ไม่ต้องส่งจดหมายมาหาพี่อีก เพราะพี่คงจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ น้องรอจดหมายจากพี่อย่างเดียวก็พอ

ลงชื่อ เหนือภพ

พี่ชาย

----------------------------------------------

“ไอ้หนู รีบขนอาหารหน่อยนะ วันนี้ลูกค้าเยอะ”

พ่อครัวตัวอ้วนตะโกนสั่งงานเหนือภพ ในขณะที่กำลังผัดข้าวไปด้วย

“ครับ”

เหนือภพจัดเรียงจานในอ้อมแขนทั้งสอง เขาต้องขนไปให้ได้มากที่สุดในครั้งเดียว และครั้งนี้เขาก็ได้ทำลายสถิติของตัวเองที่จำนวน 12 จานต่อ 1 รอบ จากนั้นเขารีบเดินมุ่งหน้าไปที่โต๊ะของบรรดาลูกค้าในทันที

วันนี้โรงเตี๊ยมมีลูกค้าแน่นร้าน โต๊ะอาหารบริเวณชั้นหนึ่งเต็มทุกโต๊ะ ผู้คนเบียดเสียดกันจนแทบไม่มีเก้าอี้ว่าง ส่วนบริเวณชั้นสองก็เต็มเช่นเดียวกัน

“เถ้าแก่ ลูกสะใภ้ของท่านช่างน่ารักน่าเอ็นดู ข้าขอแสดงความยินดีด้วยจริง ๆ”

“ใช่ ๆ ขอแสดงความยินดีด้วย”

แล้วบรรดาแขกเหรื่อก็พากันยกสุราดื่มให้แก่เจ้าของงาน วันนี้เป็นการปิดร้านเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเถ้าแก่ร้านค้าเกลือได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา

“ไชโย ไชโย”

“เถ้าแก่ วันนี้ข้าจ้างนางระบำมาจากหอร้อยบุปผาเพื่อให้ท่าน คู่บ่าวสาว และแขกทุกคนได้รับชม เด็ก ๆ เริ่ม !”

“เฮ...”

หลังจากดื่มกินกันอย่างเต็มเหนี่ยว เพียงไม่นานคนทั้งงานก็เริ่มมึนเมา

“หลบหน่อย”

“เอ๊ะ อย่ามายุ่งกับข้า”

“หลบหน่….”

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มหน้ามนจะพูดจบ เขาก็อ้วกใส่คุณชายที่กำลังนัวเนียสาวจากหอร้อยบุปผาโดยไม่อาจยับยั้งได้ ทำให้คนที่กำลังนั่งอยู่นั้นวงแตกในทันที

“ว๊ายย”

“นี่เจ้า วอนหาเรื่องงั้นรึ ไปจัดการมันสิ”

คุณชายส่งสัญญาณให้ลูกน้องเข้าไปจัดการหนุ่มหน้ามน โดยไม่ได้สนใจเลยว่าบริเวณนั้นมีใครอื่นอยู่ด้วยหรือเปล่า

หนุ่มหน้ามนถูกต่อยเข้าไปทีเดียวก็ถึงกับสร่างเมา ใครต่อยเขา เขาก็เตะกลับ พวกเขาต่อยตีนัวเนียกันเช่นนั้น ไม่สนใจว่าจะมีกี่คนที่ถูกลูกหลงบ้าง

“โอ๊ย ดูดี ๆ ก่อนสิ โว้ย!”

“ไอ้พวกกากเดน”

“เฮ้ย กร่างหรอแกน่ะ”

“เดี๋ยวขอรับ อย่าเพิ่งตีกัน คุณลูกค้า”

“อย่ามาขวางอยากโดนด้วยรึไง ห๊า”

แล้วหลังจากนั้นบริเวณชั้นหนึ่งเกือบทั้งชั้นก็เกิดความชุลมุนขึ้น ดูเหมือนว่าพวกผู้ชายทั้งหลายจะซัดกันนัวโดยไม่สามารถแบ่งแยกฝ่ายได้อีกต่อไป ส่วนพวกผู้หญิงและเด็กเล็กก็พากันวิ่งออกไปยืนข้างนอกร้านเรียบร้อยแล้ว

ส่วนลูกค้าที่อยู่บนชั้นสองก็ดูเหมือนจะช่วยโห่เชียร์เสียมากกว่าที่จะช่วยห้าม

“ท่านผู้เฒ่าเอาไงดีขอรับ โต๊ะเก้าอี้พังเกือบหมดแล้ว ประตูหน้าต่างก็ไม่เหลือ ตอนนี้ข้ากำลังเป็นห่วงผนังขอรับ”

หัวหน้าบริกรร่างเล็กยืนปรึกษาอยู่กับผู้เฒ่าผู้ดูแลโรงเตี๊ยมด้วยความร้อนใจ พวกเขาไม่สามารถห้ามศึกนี้ได้เลย

ผู้เฒ่าผู้ดูแลมีสีหน้าเรียบเฉยขณะสั่งงาน

“เหนือภพ ไปห้ามลูกค้าหน่อย”

“ห๊ะ ! ทำไมต้องเป็นข้าล่ะ”

“เจ้าก็ดูดี ๆ สิ ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร”

เหนือภพกวาดตามองเพื่อนร่วมงานที่กำลังยืนเรียงแถวหน้าสลอนอยู่ข้าง ๆ ผู้เฒ่า ทุกคนล้วนเป็นบริกรที่มีรูปร่างเล็ก เพรียวบาง ดูคล่องแคล่วแต่อ่อนแอ มีเพียงเหนือภพคนเดียวที่ดูล่ำสันบึกบึนต่างจากทุกคน

เหนือภพทำท่าอิดออดอยู่นาน เพราะเขาไม่ต้องการต่อสู้ถ้าไม่จำเป็น เมตตา เมตตา ท่องไว้ เมตตา…

“ข้าจะให้รางวัล 5 เหรียญเงิน แต่ถ้าผนังพังลงมา เจ้าอดได้… อ้าว”

ยังไม่ทันที่ผู้เฒ่าจะพูดจบ เหนือภพก็พุ่งออกไปราวกับลูกธนูหลุดจากแล่ง เขาบุกตะลุยเข้ากลางวงล้อมโดยไม่สนใจหลบมือเท้าของใครทั้งนั้น ใครที่บังเอิญเตะต่อยมาโดนเหนือภพ คนนั้นก็ต้องแบกรับความเจ็บเอาเอง

“ขอโทษนะขอรับคุณลูกค้า”

พูดจบเหนือภพก็จับคอเสื้อของคู่กรณี โยนคนหนึ่งไปทางซ้าย แล้วโยนอีกคนไปทางขวา เขาแบบนี้ซ้ำ ๆ กับทุกคนที่ยังต่อยตีกันอยู่ และไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้ชายร่างใหญ่ขนาดไหนก็ตาม เหนือภพก็สามารถจับโยนทิ้งได้ราวกับโยนตุ๊กตาผ้า

จนในที่สุดทั้งห้องก็กลับมาสู่ความสงบ โดยมีกองมนุษย์แยกกันอยู่ที่มุมซ้ายและมุมขวาของห้อง พวกเขาต่างงงงวย ไม่เข้าใจว่าตัวเองมานอนทับกันอยู่แบบนี้ได้ยังไง ความมึนเมาผสมความสับสน คละเคล้าด้วยความเจ็บปวดตามร่างกาย ทำให้บรรดาลูกค้าทั้งหลายได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่สามารถหาต้นตอของเรื่องนี้ได้

ส่วนเหนือภพนั้นแอบหนีกลับเข้ามาข้างในตั้งนานแล้ว

“อืมดี อ่ะนี่รางวัล”

ผู้เฒ่ามองเหนือภพที่รับเงินไปด้วยอาการดี๊ด๊าอย่างไม่เข้าใจ

‘เจ้าหนุ่มนี่แอบซ่อนฝีมือไปเพื่ออะไรกัน ดีนะที่ข้าไม่กดขี่มันมากไปกว่านี้ ไม่งั้นล่ะก็ ไม่อยากจะคิดเลย แล้วทำไมฮันเตอร์ถึงเลือกมาทำงานที่นี่’

หลายวันจากนั้นเหนือภพก็คล้ายว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง เขาได้รับหน้าที่จัดหาอาหารให้ลูกค้าชั้นพิเศษที่อยู่บนชั้นสามของโรงเตี๊ยม แน่นอนว่าเหนือภพชอบมาก ลูกค้าชั้นเลิศก็ย่อมให้เงินรางวัลพิเศษเป็นค่าบริการอย่างงาม

“นี่คือกุ้งหัวโตจากแม่น้ำนันทาย่างเกลือเจ็ดทิวาขอรับ”

“นี่คือลิ้นอสูรกระทิงตุ๋นซอสส้มขอรับ”

“.................”

แล้วเหนือภพนำเสนออาหารทุกจาน ตบท้ายด้วยการรินสุราผลไม้หมักสิบปีให้แก่ลูกค้าทั้งสามคนอย่างมืออาชีพ จากนั้นเขาก็ถอยหลังไปยืนอยู่ที่มุมห้องเพื่อคอยบริการลูกค้า

ลูกค้าทั้งสามคนมีคุณชายที่ดูร่ำรวย มีหญิงสาวที่ดูร้อนแรง และผู้ชายอีกคนที่ดูออกอย่างชัดเจนว่าเป็นฮันเตอร์รับจ้างนอกกฎหมาย บทสนทนาของพวกเขาไม่มีการพูดคุยเวิ่นเว้อหรืออารัมภบทอะไรทั้งสิ้น และนั่นทำให้เหนือภพเกือบเก็บอาการเอาไว้ไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดจะมาถึงในวันนี้

สิ่งที่เขารอคอยก็คือ ข้อมูล นั่นเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด