ตอนที่แล้วตอนที่ 101 เงินวิบวับเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 103 ปราณอมนุษย์

ตอนที่ 102 เหล็กไหลปะทะเหล็กไหล


กำปั้นขวาของทั้งคู่ปรากฏเส้นเลือดปูดโปน กล้ามแขนพลันขยายขึ้นผิดหูผิดตา ทั้งสองกระแทกหมัดไปยังพื้นดินเบื้องหน้าดังปัง พื้นแตกแยกออกและยุบตัวลง กระจายออกเป็นวงกว้างขณะที่เหนือภพดีดตัวพุ่งขึ้นฟ้า

ทางด้านกลิ่นจันทน์นั้นแม้จะมีกำลังด้อยกว่าเหนือภพเล็กน้อย แต่ท่วงท่าของเธอนั้นพลิ้วไหวกว่ามาก การเคลื่อนที่ว่องไว เพียงพริบตาเข็มเหล็กไหลที่ซ่อนอยู่ภายในมือขวาของเธอ ก็ทิ่มแทงไปเบื้องหน้าตรงตำแหน่งหัวใจของเวตาล เข็มนี้เจาะทะลวงเกราะอาคมที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นจนแตกกระจาย

‘เป็นไปได้ยังไง’

แววตามั่นอกมั่นใจของเวตาลถูกสั่นคลอน แต่ก็เพียงแค่วูบเดียวเท่านั้น เขาก็รีบใช้มือเบี่ยงแขนของกลิ่นจันทน์ที่มีเหล็กไหลออก พลางถอยฉากไปด้านหลังด้วยประสบการณ์การต่อสู้แลกชีวิตมาอย่างยาวนาน แค่เรื่องเหนือความคาดหมายเพียงเท่านี้ ไม่สามารถสร้างความกังวลให้เขาได้

ช่วงเวลาที่เวตาลถีบตัวห่างถอยออกไปเพียง 3 เมตรนั้น กลิ่นจันทน์กลับไม่ได้คิดจะติดตามเขาไป นั่นทำให้เวตาลต้องชะงักรู้สึกผิดปกติก็รีบแหงนหน้ามองฟ้าทันที เขาลืมเหนือภพเสียสนิท เด็กหนุ่มตัวโตที่กำลังพุ่งลงมาจากเบื้องบนด้วยความเร็ว แม้เวตาลจะหลบพ้นได้อีกครั้ง แต่รัศมีการระเบิดจากการเสริมพลังของเหล็กไหลได้สร้างรัศมีการทำลายล้างมากถึง 4 เมตร มันกว้างพอ ๆ กับการโจมตีของสัตว์อสูรไนท์อาวตัวโตเลยทีเดียว

เวตาลสร้างปราณอาคมปกป้องกาย แต่เหนือภพไม่ใช่เด็กไร้พรสวรรค์ที่อ่อนแอเฉกเช่นเมื่อก่อน ทันทีที่คลื่นกระแทกปะทะเข้ากับผิวเกราะอาคมของเวตาล มันก็เกิดรอยแตกร้าวลุกลามไปทั่ว ทำให้คลื่นกระแทกบางส่วนแทรกซึมเข้าไปทำร้ายเวตาลได้ถึงอวัยวะภายในเลยทีเดียว

เหนือภพและกลิ่นจันทน์โจมตีสอดประสานได้สอดคล้องกันอย่างประหลาด พวกเขาต่างไม่พูดอะไรออกมา แต่กลับมีความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นั่นคือถ้าคิดจะเริ่มการต่อสู้ก็ต้องเอาให้ถึงที่สุด แย่งชิงโอกาสเป็นฝ่ายรุกโจมตีตอบโต้ อย่าให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสตั้งตัวได้

ร่างของเด็กสาวพร่ามัวยามเคลื่อนไหวเข้าประชิดตัวเวตาล สองมือและสองเท้าของทั้งคู่ต่างผลัดกันรุก ผลัดกันรับ เตะต่อยต่อต้านเป็นพัลวันโดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบก่อนใคร

ทุกครั้งก่อนที่เข็มเหล็กไหลสีดำของกลิ่นจันทน์จะได้ลิ้มรสเลือดศัตรู เวตาลก็เลือกที่จะถอยหนีออกมาเสียก่อน เขาตัดสินใจเลือกที่จะต่อสู้วงนอก

ส่วนเหนือภพนั้น เขาถือว่าตัวเองเป็นหน่วยโจมตีไกล เขาจะคอยหาโอกาสเหมาะกระโดดพุ่งชนเวตาลอยู่เสมอ

และแล้วท่าทางของเวตาลก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาถอยฉากไปด้านหลังและทำการเคลื่อนไหว ยักย้ายแขนขาเป็นท่วงท่าประหลาด ราวกับว่ากำลังรำแต่มันก็ดูหนักแน่นเข้มแข็งอยู่ในที ออร่าที่อยู่บนร่างกายของเวตาลนั้น จากเดิมมันส่องแสงเจิดจ้าสีทองดุจพระอาทิตย์ ก็เริ่มมีสีที่มืดครึ้มลง ราวกับแสงอาทิตย์ยามสนธยา

เมื่อเหล่าทหารองครักษ์เห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าผู้เป็นหัวหน้าเริ่มเอาจริงแล้ว และเพื่อให้พลังของหัวหน้าสำแดงออกมามากขึ้น พวกเขาจึงจำเป็นต้องใช้ปราณอาคมประจำตัว เข้าขัดขวางเด็กหนุ่มสาวป่าเถื่อนสองคน ที่จ้องจะใช้โอกาสที่ดีนี้ดับชีวิตผู้เป็นหัวหน้าของพวกตน

“ขี้ขลาด พ่อแม่เจ้าไม่เคยสั่งสอนหรือไงว่า อย่าขัดพิธีร่ายอาคมผู้อื่น”

หนึ่งในทหารที่เก่งกล้าเอ่ยขึ้น ปราณอาคมของเขาคือเหล่าวิหคแร้งดุร้ายฝูงใหญ่ที่เกิดจากภาพเนรมิต ฝูงวิหคแร้งเข้ารุมทึ้งทั้งสองอย่างพร้อมเพรียงกัน

ขณะที่ทหารองครักษ์คนอื่นก็พุ่งเข้ามาสลับผลัดเปลี่ยนกันต่อสู้เพื่อขัดขวางเด็กชายหญิงป่าเถื่อนคู่นี้ แต่ทว่าพวกองครักษ์กลับค่อย ๆ ดับสิ้นและเสียความสามารถในการต่อสู้ไปทีละคน ทีละคน

“พี่ภพ ทางนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ข้า พี่ไปจัดการมันก่อน อย่าได้ให้มันร่ายอาคมสำเร็จ ไม่งั้นเราทั้งคู่คงไม่ใช่คู่ต่อสู้มันแน่”

ด้วยความรู้ที่ได้รับจากตำราจอมปราชญ์ทำให้เธอเข้าใจในเอกลักษณ์ของปราณอาคมแต่ละแขนงเป็นอย่างดี ปราณอาคมแขนงที่ใช้เวลาร่ายอย่างยาวนานนั้น จะมีอานุภาพที่รุนแรงมาก แต่มันก็เสี่ยงต่อการถูกทำลายสมาธิขณะเรียกใช้มากเช่นกัน

“ได้”

เหนือภพขานรับ จากนั้นก็กระโดดขึ้นสูง เขาเล็งเป้าไปทางเวตาลที่อยู่ข้างหลังกองทหารนับร้อย

เหนือภพยังคงมุ่งหน้าดิ่งลงมาเพื่อประจันหน้ากับเหล่าทหารที่กำลังวิ่งเฮโลมาล้อมเขาไว้อย่างไม่สนความเป็นความตาย

“มาสิเร็ว ๆ สิไอ้หนู”

ยังไม่ทันที่เหนือภพจะดิ่งลงมาถึงพื้น ห่าฝนลูกธนูที่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษก็ถูกระดมยิงเข้าหาเหนือภพ พวกเขาเตรียมความพร้อมกันมาอย่างดี เมื่อรู้ว่าจะต้องมาล้อมจับเด็กหนุ่มที่มีความสามารถไม่ธรรมดา พวกเขาก็เตรียมธนูที่มีส่วนผสมของเหล็กไหลเอาไว้ ลูกศรเหล็กไหลนี้สามารถเจาะทะลวงเกราะอาคมได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้เหนือภพจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ก็คงไม่อาจต้านลูกศรพวกนี้ได้แน่

เฟี๊ยว ! เฟี๊ยว ! เฟี๊ยว !

ความรู้สึกหวาดเสียวแล่นเข้ามาในใจของเหนือภพอย่างฉับพลัน จนถึงกับรู้สึกหวิว ๆ อยู่กลางอากาศเลยทีเดียว แต่ว่ายังไม่ทันที่ห่าธนูเหล่านั้นจะได้ทำหน้าที่ของมัน พวกมันอยู่ก็สั่นสะเทือนอยู่กลางอากาศอย่างรุนแรง

แรงส่งของลูกธนูและแรงสั่นสะเทือนคล้ายกับว่าเกิดแรงต้านบางอย่างในอากาศกำลังต่อสู้ขัดขวางกันอยู่ในตัว ทำให้ลูกธนูทั้งหลายลดความเร็วลงเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดลูกธนูก็ยังพุ่งตัวเข้าหาเหนือภพตามเดิม

แต่เมื่อพวกลูกธนูเข้ามาล้อมใกล้ร่างกายของเขา ห่างจากผิวหนังของเขาไปเพียง 2 คืบเท่านั้น จู่ ๆ พวกลูกธนูทั้งหมดก็แตกระเบิดออกในทันที จำนวนลูกธนูกว่าร้อยดอกแหลกละเอียดราวกับถูกอะไรบางอย่างทำลายเสียหมดสิ้น เหลือแต่เศษซากเหล็กไหลที่เป็นส่วนผสมของลูกธนู พวกมันต่างชักนำตัวเองมารวมกันเป็นก้อนกลมแหลม ก่อนจะพุ่งเข้าหาเหนือภพอย่างไม่ยอมรามือ คล้ายกับว่าพวกมันได้รับเจตจำนงมาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น

แต่พอมันเข้าใกล้เหนือภพอีกครั้ง ก้อนเหล็กไหลสีดำทำนั้นก็เบี่ยงออกเหมือนถูกผลัก กลายเป็นว่าพวกมันพุ่งไปรวมกับเหล็กไหลที่อยู่ภายในมือกลิ่นจันทน์แทน จากเหล็กไหลที่มีขนาดเท่าเข็มก็กลายเป็นว่ามันมีขนาดเท่าตะเกียบ

กลิ่นจันทน์ดีใจมากที่เหตุการณ์กลับกลายเป็นเช่นนั้น เหล็กไหลในมือเธอตอนนี้ช่างเหมาะมือเธอยิ่งกว่าเดิม เธอใช้มันอย่างเริงร่า พลางไล่เสียบแทงจุดสำคัญของเหล่าทหารองครักษ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ คล่องแคล่วและถนัดมือมากขึ้นกว่าเก่า

เธอหันไปยิ้มให้เหนือภพเป็นเชิงขอบคุณ ส่วนเหนือภพเองก็ยิ้มตอบรับทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันแน่

ส่วนพวกทหารนั้นต่างตะลึงตาค้างกันไปหมดแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด