ตอนที่แล้วบทที่ 468 ปลุก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 470 ออกมาแล้ว !

บทที่ 469 ปีศาจสงคราม


บทที่ 469  ปีศาจสงคราม

ที่คือตราประทับไว้ควบคุมวิญญาน !

ตราประทับนี้เป็นสิ่งที่เชื่อมต่อกับหลาวหลัว . เมื่อฉื่อหยานส่งจิตใจของเขาจมลงไปในตราประทับ เขาก็พบว่าเขาสามารถควบคุม หุ่นเหล็กดำนี่ได้

มันให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ ทันทีที่เขาคิดส่งความคิดไปที่ตราประทับวิญญาจักพรรดิ  หุ่นเหล็กสีดำก็จะทำตามคำสั่งของเขา

จิตใจของเขาริบหรี่ลง และหุ่นเหล็กดำก็เดินเข้ามาหาเขา  กลิ่นอายที่อันตรายที่ทะลักออกมาจากหุ่นก็ทำให้กระดูกสั่นหลังของฉื่อหยานหนาวเย็น

ภายใต้ความกดดันอันยิ่งใหญ่นี้ เขารู้สึกตรึงเครียดอย่างไม่เคยมีมาก่อน  แต่แหวนสายโลหิตของเขากลับมีอำนาจที่สามารถควบคุมหลาวหลั่วได้

ฉื่อหยานผ่อนคลายความตึงเครียดของเขาและเริ่มที่จะศึกษาตราประทับวิญญานในร่างของเขา เขาส่งสมาธิจมลงไปพร้อมกับออกคำสั่ง

เป็นไปตามคาด หุ่นเหล็กสีดำขยับเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องตามความคิดของเขา เพียงเขาคิดสิ่งใด หุ่นก็จะทำตาม

ดวงตาของเขาพลันสว่าง

ข้อความของเขาถูกส่งไป หุ่นเหล็กสีดำอย่างรวดเร็วก็เคลื่อนไหวไปทั่วโครงกระดูกมังกรยอดโบราณ

" ปีศาจสงคราม !

เปลวเหมันเยือกแข็งก็ส่งเขาข้อความออกมาจากแหวนสายโลหิต มันดูตกใจเป็นอย่างมากตกใจ

" เอ๋ ? "

ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ แต่เขาก็ตอบทันที " เจ้ารู้จักเจ้านี่ด้วยรึ ?

" หุ่นรบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักรบยุคสมัยโบราณ มันเชี่ยวชาญการต่อสู้และสามารถทำลายได้ทุกการป้องกัน !" ข้อมูลจากเปลวเหมันเยือกแข็งยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น " เจ้าได้มันมายังไง ? หุ่นรบนี่สร้างโดยนักรบในสมัยโบราณ มันถูกเรีบกว่าปีศาจสงคาม ! มีเพียงนักรบในยุคนั้นรู้วิธีการสร้างปีศาจสงคราม กลิ่นอายของปีศาจสงครามนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ข้าคิดว่าขั้นต่ำพลังของมันสมควรอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับพระเจ้า”

" แล้วเจ้าปีศาจสงครามนี้คืออะไรกัน ?

" ปีศาจสงครามเป็นหุ่นที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้และทำสงคราม ปีศาจสงครามระดับสูงต่างก็มีตราประทับของเจ้านายตัวเองประทับอยู่ และมีเพียงยอดฝีมือระดับพระเจ้าราชันย์เท่านั้นที่มีมัน เพื่อสร้างปีศาจสงคราม จะต้องใช้ทรัพยากรนับร้อยหรือแม้กระทั่งนับพันปีหลอมรวมกันเป็นพลังสวรรค์และพื้นดินไม่มีสิ้นสุด . ด้วยการดูดซับพลังสวรรค์และพื้นดิน มันก็ค่อยๆก่อตัวขึ้น "

ดูเหมือนเย็นเปลวไฟได้รู้เกี่ยวกับหุ่นนี้มันรีบอธิบายให้ ฉื่อหยานฟัง " เท่าที่ข้าเคยรู้จัก ในยุคนั้น ปีศาจสงครามแต่ละตัวนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันสามารถนำมาใช้เป็นร่างแปลงของเจ้านายของมันได้ตราปรับทับศักดิ์สิทธิ์และ พลังของมันก็ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก .

" ปีศาจสงครามเป็นสิ่งที่มาจากยุคสมัยโบราณสินะ . " ฉื่อหยานตาดวงตาก็ส่องประกาย

บางที เจ้าของเดิมของแหวนสายโลหิตคงจะเป็นนับรบที่แข็งแกร่งในยุคสมัยโบราณ หรือเก่าแก่กว่ายุคสมัยนั้นไปเสียอีก ตัวตนของนักรบคนนี้อยู่ในยุคสมัยใดกันแน่ ?

ทันใดนั้น เขาก็สับสน .

เขาไม่เคยคิดเลยว่า ที่มาของแหวนสายโลหิตจะอยู่เหนือจินตนาการของเขาขนาดนี้

ยุคสมัยโบราณเป็นยุคที่นักรบรุ่งเรื่องที่สุด ซึ่งมีนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในตำนานอยู่ในช่วงนั้น พวกเขาว่ากันว่ามีนักรบที่อยู่กว่าระดับพระเจ้าราชันย์อยู่ พวกเขามีอำนาจและน่าหวาดเกรง , ร่างกายของพวกเขาได้ออกจากแผ่นดินรุ่งเรืองล่องลอยอยู่บนพื้นฟ้าที่ยิ่งใหญ่

ถ้าแหวนสายโลหิตมาจากยุคนั้น เจ้าของเดิมจะต้องเป็นนักรบที่ทำให้โลกสั่นสะเทือนได้แน่นอน

ทำไมเขาถึงตาย ทำไมแหวนสายโลหิตจึงปรากฏในที่ถ้ำลึกลับ ทำไมถึงมาโผล่ในถ้ำนั้นและการที่เขามายังโลกนี้และไปอยู่ที่นั่นเป็นเรื่องบังเอิญงั้นรึ ?

หรือนักรบยุตสมัยโบราณรู้วืธีการควบคุมเวลาและเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อนำคนจากโลกอื่นมาที่โลกนี้กัน ? การที่เขาสามารถควบคุมโลกได้เช่นนั้น พลังที่ยิ่งใหญ่ของเขาจะต้องอยู่ในระดับใดกัน ?

เขาก็ตะลึงจนพูดไม่ออก .

ในตอนนี้ เขาก็ตระหนักว่ามันไม่ได้เ็นเรื่องบังเอิญที่เขาปรากฎตัวในถ้ำนั้น บางทีทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นไปตามแหวนสายโลหิต

" นักรบที่สามารถเข้าถึงทุกพลังของสวรรค์และพื้นดิน ควบคุมได้แม้กระทั่งโลกที่ต่างกัน และความลับต่างๆอีกมากมาย ทุกวิชาต่อสู้ ทุกวิชาวิญญาน หรือจิตวิญญาต่อสู้ที่สืบทอดมาจากนักรบสมัยยุคโบราณ ยุคที่เป็นต้นกำเนิดของนักรบ สิ่งเหล่านี้ล้วนรากฐานของนักรบทั้งมวลในปัจจุบัน "

เปลวเหมันเยือกแข็งบอกฉื่อหยาน

ฉื่อหยานก็ตกใจมากขึ้นเมื่อเขาฟังสิ่งที่เปลวเหมันเยือกแข็งพูด

ตามคำพูดของเปลวเหมันเยือกแข็ง นักรบสมัยยุคโบราณ เมื่อเทียบกับพวกนักรบปัจจุบันในโลกนี้ นักรบปัจจุเทียบได้เท่ากับมดแมลงตัวหนึ่ง  พวกเขาสามารถถูกฆ่าได้ภายในหนึ่งวินาที

" ปีศาจสงครามเป็นหุ่นรบที่เกิดขึ้นในสมัตยนั้น มันสามารถทำลายทุกการป้องกันได้ ถ้าเจ้าสามารถควบคุมมันได้ ก็จะไม่มีใครในทะไม่มีสิ้นสุดหยุดเจ้าได้”

ฉื่อหยานไม่สามารถช่วยที่จะตื่นเต้น

การเดินทางมายังสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับทำให้เขาได้รับสิ่งที่ไม่คาดคิด

ตั้งแต่ที่เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ เขาก็กังวล เมื่อเขาเข้ามา เขาก็คิดว่าเขาต้องเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อมาดูโครงกระดูกมังกรเท่านั้น เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าโลงศพจะมีอะไร

แต่ไม่คาคิด เพราะการนำทางของแหวนสายโลหิต กลับทำให้เขาไม่เจอกับอันตรายใดๆในการเดินทางครั้งนี้ มันเหมือนกับว่าเขากำลังเดินเล่นไปทั่วสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ ตอนนี้ เขาได้พบกระดูกของมังกรและหุ่นเหล็กดำ . ทุกอย่างล้วนเรียบร้อยปกติ เขานั้นไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

ผ่านไปยังไม่ถึงวัน เขาก็ได้รับสิ่งที่ต้องกา  การเก็บเกี่ยวนี้ทำให้เขาหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ

ต้องขอบคุณแหนสายโลหิต

สมบัติลึกลับที่เขาได้ตลอดมาเมื่อมายังแผ่นดินรุ่งเรือง ล้วนเป็นสิ่งที่มีพลังยิ่งใหญ่และแปลกประหลาด  และความสามารถที่น่าทึ่ง นอกจากนั้นยังเขายังสามารถปลุก ปีศาจสงครามหลาวหลัวได้

ปีศาจสงคราม

ฉื่อหยานก็ขดริมฝีปากของเขา มองหุ่นที่เรียกว่าปีศาจสงครามและไม่สามารถช่วยได้ที่จะรู้สึกโชคดี

เขาโชคดีที่เขามีแหวนสายโลหิต หลังจากลอยอยู่รอบสุสานมังกรยอดโบราณหนึ่งรอบ เขาก็พบว่าพลังวุ่นวายที่นี่ได้เข้าไปในร่างของหุ่นรบและกลายเป็นเงียบสงบ

พลังที่อย่างที่มีอยู่ในสุสานของมังกรถูกดูดซับโดยปีศาจสงคราม พวกมันถูกดึงดูดเข้ามาและหายเข้าไปในร่างของหุ่น ปีศาจสงครามดูดซับพวกมันทั้งหมดไป อย่างไรก็ตาม กลิ่ยอายของมันนั้นไม่ได้มีมากขึ้น แต่ค่อยๆล่าถอยเข้าไปในร่างกายของมัน

จากตราประทับวิญญานในหัวใจของเขา ฉื่อหยานก็รู้สึงได้ถึงพลังมืดมิดในหัวใจของปีศาจสงครามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปีศาจสงครามราวกับนักรบที่มีความรู้ลึกซึ้ง มันปกปิดกลิ่นอายของตัวเองและแรงกดดันก็ค่อยๆหายไป

ฉื่อหยาน ไม่ได้รีบร้อน รอปีศาจสงครามดูดซับพลังภายในโครงกระดูกมังกรยอดโบราณลึกลับ

นอกสุสาน

หยินหุ้ยขมวดคิ้วรอเขาอยู่ ทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายที่หนาแน่นได้เจือจางลง

ปรากฏการณ์นี้ทำให้หยินหุ้ยประหลาดใจเป็นอย่างมาก แสงประกายในดวงตาของเขาขณะที่เขากำลังจ้องมองบริเวณนั้น

" เกิดอะไรขึ้น ? " หยินหุ้ยยืนอึ้งอยู่ตลอดครึ่งวัน เขาส่ายหน้าแล้วพึมพำอย่างเหลือเชื่อ“เพียงแค่สองวัน . . . . . . . เจ้าเด็กนั่นได้เจอบางสิ่งในนั้นแล้วรึ ทำไมพลังที่น่าหวาดกลัวถึงเริ่มเปลี่ยนไปไม่นานหลังจากที่เขาเข้าไปในสถานที่แห่งนี่น ? เขารู้ความลับของสุสานยอดมังกรโบราณลึกลับงั้นรึ ?” หยินหุ้ยก็ตกใจ

" เอ๋ ? มีบางอย่างแปลกๆ  ! " กู่ฉาวดวงตาก็ส่องประกายขึ้นในขณะที่ค้นหา เป้าหมายของเขาในน้ำทะเล

เขาชี้ไปยังทิศทางที่ตั้งของสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ เขาขมวดคิ้วแล้วถามคนอื่น " เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น ? นั่นเป็นเขตแดนของเผ่าฉลามเงินใช่หรือไม่ ? ทำไมมันถึงได้มีพลังมหาศาลอยู่ที่นั่น ? "

เสินตู่เจีย ส่ายหัว ลังเลสักพักแล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนกระทันหัน "ที่นั่นคือ สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ "

" สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ ?"  กู่ฉาวประหลาดใจ เขาส่ายหน้าถามด้วยความงุนงง ” มันคืออะไร ?

" มันคือพื้นที่ต้องห้ามที่อันตรายที่สุดที่ใต้ทะเล ! "เสินตู่เจีย เป็นสาวกของพระราชวิงจิตวิญญานศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ทะเลสวรรค์ และเคยมาใต้ทะเลมาก่อน เขารู้ว่ามีสถานที่ลึกลับเช่นอยู่ที่ใต้ทะเล ชนเผ่าทะเลต่างก็ถือว่าเป็นสถานที่ต้องหาม และไม่กล้าที่จะก้าวก่าย

เสินตู่เจีย อธิบายทุกประเภทของข่าวลือที่เกี่ยวกับสุสานมังกรยอดโบราณที่เป็นสถานที่ต่องห้าม นักรบของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดมีใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีไปหลังจากที่พวกเขาฟัง

" พื้นที่ต้องห้ามของชนเผ่าทะเล " .

ฉาวจื่อหลาน รำพึงสักพักก่อนพูด " บางทีมันคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฉื่อหยาน เขาคงไม่โง่ที่จะเข้าไปพื้นที่แห่งนั้น แม้แต่นักรบระดับพระเจ้าของชนเผ่าทะเลยังไม่สามารถหนีจากความตายได้เมื่อเขาก้าวไปยังพื้นที่แห่งนั้น แล้วเขาจะกล้าเสี่ยงชีวิตของเขางั้นรึ ? ?

" ใครจะไปรู้ ?" เสินตู่เจียลังเลสักครู่ก่อนที่จะพูดข้อเสนอแนะของเขา“ค้นหาอย่างไม่มีจุดหมาย ไม่ใช่ทางออกที่ดี ถ้าสุสานแห่งนั้นมีบางอย่างผิดปกติ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของชนทะเล เราต้องไปตรวจสอบและรายงาน .”

" ได้ "

ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

" ไปกันเถอะ "

ไม่นานนัก เหล่านักรบจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดก็มาถึงขอบสุสานมังกรยอดโบราณ ที่เป็นสถานที่ต้องห้าม และได้พบกับหยินหุ้ยที่นั่น

" ท่านประมุขของเผ่าฉลามสีเงิน "

จั่วเยว่เฟิงก็ขมวดคิ้วด้วยสัญชาตญานเมื่อเขาคิดว่าพวกเขาได้มาถึงสถานที่ที่คุยกันไว้ แต่ที่แห่งนี้ก็เป็นสถานที่หนึ่งที่ชนเผ่าทะเลไม่อยากให้คนนอกรู้

หยินหุ้ยก็แปลกใจ เขาส่ายหน้าแล้วมองด้วยสีหน้าแปลก ๆ " ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะมาที่นี่ด้วย ถึงพวกเจ้าจะโชคดี แต่มันไม่มีประโยชน์ แม้เจ้าจะมาที่นี่ก็ไม่ได้อะไร ฉื่อหยานอยู่ในสุสานนั่น ถ้าเจ้าไม่กลัวตาย พวกเจ้าก็สามารถเข้าไปหาเขาได้ .

" อะไรนะ ! "

ฉาวจื่อหลานตะโกน นางประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่าฉื่อหยานอยู่ที่ใด

" จริงั้นรึ ? " เสินตู่เจียยิ้มอย่างตื่นเต้น " ดูเหมือนพระเจ้าจะต้องการเด็กนั่นจะตาย มาดูกันว่าเขาจะรอดชีวิตจากที่นี่ได้หรือไม่ ! "

" ถ้าเขามาออก แล้วพวกเจ้าที่รออยู่จะได้อะไร ? "หยินหุ้ยถาม " เขาอยู่ที่นั่นเกือบ 3 วัน ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ข้ามั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในนั้นมาจากเขา ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าเขา ก็เข้าไปในเลย "

" ฮ่าๆ เราจะรออยู่ข้างนอกนี่หละ "

จงหลี่ต้วนยิ้ม แน่นอน เขาไม่หลงกับดักของอีกฝ่ายแน่ .เขาในอนาคตจะต้องเป็นประมุขของพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้ เขารู้ถึงความน่ากลัวของสุสานนี้ดี เขาจึงไม่เสี่ยงแน่นอน

" งั้นก็เชิญตามสบาย"

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด