ตอนที่แล้วบทที่ 466 นภาที่สองระดับนภา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 468 ปลุก

บทที่ 467 อำนาจที่เหลือล้น


บทที่ 467 อำนาจที่เหลือล้น

หลังจากการต่อสู้ ฉื่อหยานก็ได้เข้าสู่นภาที่สองระดับนภา

ผ่านการต่อสู้กับจั่วเยว่เฟิงและเสินตู่เจี่ย เขาก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น เขารู้ว่าแม้แต่นักรบนภาที่สองระดับพระเจ้าก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ ดังนั้น เมื่อเขาอยู่กับหยินหุ้ย เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป หยินหุ้ยนับได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับฉื่อหยาน ซึ่งอาจจะทำให้เขาพัฒนาระดับสูงขึ้นไปอีก

ดังนั้น เมื่อเขาได้พูด กับหยินหุ้ย เขาไม่จำเป็นต้องกังวล เขาจะพูดอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะทำให้หยินหุ้ยไม่พอใจ

เหตุผลที่เขาเลือกต่อสู้ที่ด้านหน้าของป้อมปรากรหินเงิน ก็เพื่อแสดงความสามารถของเขาให้เหล่าชนเผ่าทะเลเห็น นี้จะทำให้คนเหล่านั้นตระหนักถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา ที่อาจจะช่วยให้เขาตอบโต้นักรบที่แข็งแกร่งจากชนเผ่าอื่นๆ ให้พวกเขารู้ว่า เขานั้นสามารถเอาชนะได้

เผ่าหยางตอนนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาไม่มั่นคง เขาต้องการที่จะพิสูจน์ว่าเขาแข็งแรงพอที่จะขู่เผ่าทะเล เขาต้องการที่จะทำให้พวกเขาตระหนักว่า แม้จักพรรดิหยางเทียนจะไม่อยู่ แต่ตราบใดที่ ฉื่อหยาน ยังอยู่ที่นี่ เผ่าหยางก็ยังสามารถอยู่ในเมืองใต้บาดาลอย่างสงบสุข

เขาต้องการทำให้ชนทะเลเผ่าที่ไม่ซื่อสัตย์เห็นพลังของเขา เขาเชื่อว่า รายละเอียดของการต่อสู้นี้จะถูกกระจายไปทั่วทุกเผ่าใต้ทะเลแน่นอน ตอนนี้ หยางจั่ว ที่อยู่ในเมืองใต้บาดาลก็คงรู้ว่าเขากำลังจะไปยังสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ เขาอาจจะเบาได้ใจ

" จริงๆท่านไม่ต้องพาข้าไปเองก็ได้นะ "

ลอยอยู่ในน้ำ ฉื่อหยานก็จ้องมองหยินหุ้ยที่ลอยอยู่ข้างๆเขา เขาขมวดคิ้ว และกล่าวว่า " ท่านเป็นประมุขของเผ่า ท่านต้องมีธุรกิจมากมายที่ต้องดูแล ทำไมคุท่านถึงต้องเสียเวลาไปส่งข้าด้วยตัวเอง ? "

" ข้าเองก็ต้องการที่จะตรวจสอบสถานการณ์ในสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ  หยินหุ้ยพูด " ที่อยู่ของชนเผ่าฉลามเงินเราอยู่ระแวกนี้ ข้าเคยไปที่สุสานมังกร แต่ข้าไม่กล้าที่จะเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้ ฮ่าฮ่า . . . . . . . มันยากที่จะหาคนที่ไม่กลัวตาย แน่นอน ว่าข้าก็ต้องการเห็นสิ่งที่เจ้าทำได้ด้วย . "

ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ " ท่านเคยไปมาก่อนรึ ? ท่านไม่ได้พูดหลอกรึว่าใครที่เคยไปที่นั่นไม่มีรอดกลับมา ? "

หยินหุ้ยก็รู้สึกอับอาย "  ข้าบอกว่า ข้าสังเกตอยู่ห่างๆ ข้าไม่กล้าที่จะเข้าไปในสุสาน เจ้ากล้าล้อเลียนข้ารึ ? "

" ป่าว " ฉื่อหยานยิ้ม“แล้วมันอยู่ที่ไหนรึ ?”

" ข้ากำลังพาเจ้าไปที่นั่น มันไม่มีประโยชน์ที่จะตอบคำถามนั้น เจ้าจะได้เห็นด้วยตัวเองแล้วจะรู้ว่ามันจริงไม่จริง. " หน้าหยินหุ้ยก็เริ่มจริงจัง เขาลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง " ฉื่อหยาน , ข้าคิดว่าข้าควรจะเตือนเจ้า ถ้าเป็นไปได้ อย่าไปที่นั่น "

" เอ๋ ? "

" สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับถูกคุ้มครองด้วยพลังบางอย่างของชนเผ่าทะเลเรา แม้แต่เราก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับไปมาได้หากเข้าไปยังพื้นที่แห่งนั้น อย่าว่าแต่เด็กน้อยเช่นเจ้าเลย " หยินหุ้ยพูดออกมาจากใจของเขา . " หนุ่มน้อย , ระดับการบ่มเพาะของเจ้านั้นโดดเด่น เห็นได้ชัดว่าต่อไปเจ้าจะอยู่บนจุดสูงสุดของทะเลไม่มีสิ้นสุด ทำไมเจ้าถึงต้องไปเสี่ยงชีวิตของตนด้วย ? "

" ถ้าข้าไม่เสี่ยง ข้าก็ไม่สามารถบรรลุระดับได้ถึงทุกวันนี้ . " ฉื่อหยานหัวเราะ " ที่ท่านสามารถเข้าสู่นภาที่สองระดับพระเจ้าได้ ข้าแน่ใจว่า ท่านต้องได้รับสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาเช่นกัน ถ้าเราไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความตาย เราจะสามารถทำลายขีดจำกัดของตนได้อย่างไร ?

" ช่างเถอะ มันก็ไม่เป็นไรถ้าเจ้าคิดจะไม่ฟังคำแนะนำของข้า" หยินหุ้ย แน่นอนว่าเข้าใจว่าคำพูดของเขาและไม่คิดว่ามันเป็นคำพูดที่ไร้สามรถ นักรบจะแข็งแกร่งขึ้นได้นั้นจะต้องรับรู้ขอบเขตความเข้าใจผ่านการต่อสู้ที่ร้ายแรง ถ้าพวกไม่เฉียดความตายพวกเขาจะไม่รู้ว่ามีสิ่งใดที่ต่างออกไปจากตอนที่พวกเขาใช้ชีวิตปกติ

" มันไม่ใช่ว่าข้าจะเจอกับอันตรายเหมือนคนอื่น เมื่อข้าเข้าไปสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับเสียหน่อย " ฉื่อหยานหัวเราะ .

" อะไร ? "

" บอกมา เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นรึ ?

" ป่าวท่านไม่ได้โง่ . "

" ดี งั้นก็เชิญเจ้ามั่นใจต่อไป "

" เจ้าเคยไปหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬมาก่อนใช่ไหม ข้าได้ยินเจ้าพูดก่อนหน้านี้ แต่ข้าก็ได้ยินรายระเอียดไม่ชัดเจนนัก   มีอะไรข้างในหมอกแม่เหล็กพิษ ? เท่าที่ข้ารู้จัก มีสมบัติที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่นั่น . . . . . . . เช่น วารีแรกเริ่มชีวิต ?

หน้าฉื่อหยานก็เปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจ ดวงตาของเขาส่องประกาย

" ดูเหมือนว่าท่านจะรู้เรืองเกี่ยวกับหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬดีนะ ?

"ไม่ใช่ข้า  เป็นบรรพบุรุษเผ่าของข้าที่รู้อะไรเกี่ยวกับหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ " หยินหุ้ย พิจารณาไตร่ตรองแล้วพูดอีกครั้ง " เผ่าฉลามเงินของเราอาศัยอยู่ใต้ทะละพื้นที่ทะเลสวรรค์ และทิศตะวันออกของพื้นที่ทะเลสวรรค์ก็คือหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ใช่ จุดศูนย์กลางของที่อยู่ชนเผ่าฉลามเงินเราอยู่ใกล้กับที่แห่งนั้น มีบรรพบุรุษของเผ่าขเราได้ไปยังที่แห่งนั้น แต่ที่สุดของพวกเขาได้สูญหายไป แต่พวกก็มีบางส่วนที่กลับมา พวกเขานั้นไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเกี่ยวภายในพื้นที่แห่งนั้น มีเพียงประมุขของเราในตอนนั้นเท่านั้นที่ได้พบกับมนุษย์ในที่แห่งนั้น และด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้บางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ในสถานที่แห่งนั้น."

" ท่านรู้หรือไม่ว่า วารีแรกเริ่มชีวิตทำอะไรได้ ?" ฉื่อหยาน ตะลึง

" มันช่วยให้นักรบนภาที่สามระดับพระเจ้ามีโอกาศสูงที่จะบรรลุเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริง ช่วยลดความเป็นไปได้ที่จะเกิดความล้มเหลวและความเสี่ยง " หยินหุ้ย ดวงตาสดใส เขาตะโกนว่า " ข้าคิดว่าไม่มีนักรบระดับพระเจ้าคนใดที่ได้ยินเรื่องของวารีแรกเริ่มชีวิตแล้วจะลืมได้ ถ้าเขาได้สิ่งนี้ ข้าคิดว่าตอนนี้นู่หลางคงจะแยกตัวออกไปฝึกบ่มเพาะและทะลวงเข้าสู่ระดับพระเจ้าแท้จริงโดยตรงแล้ว นู่หลางเองก็รู้เรื่องนี้ แต่เขาไม่กล้าที่จะฝันต่อไป .

ฉื่อหยานเคลื่อนไหว

" เจ้าบอกว่าเคยเข้าไปในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ . . . . . . . เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ ? " หยินหุ้ย ดวงตาสดใสเหมือนไฟฉายเขายิ้มจนเห็นฟัน แล้วกล่าวว่า " ประมุขของเราตอนนั้นบอกเราว่าวารีแรกเริ่มชีวิตนั้นมีสัตว์อสูรระดับสูงเฝ้าอยู่ ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าสัตว์อสูรนั่นคงจะเป็นราชาแมลงอสูรกลืนกินใช่หรือไม่ ? "

ฉื่อหยานขมวดคิ้ว ในที่สุดเขาก็รู้เหตุผลที่หยินหุ้ยอยากพาเขาไปที่สุสานมังกรด้วยตัวเอง

เขาต้องการวารีแรกเริ่มชีวิต !

ถ้สนักรบในระดับพระเจ้า รู้เรื่องเกี่ยวกับวารีแรกเริ่มชีวิต ก็คงไม่มีใครห้ามความปรารถของตนเองได้

เผ่าฉลามเงินอาศัยอยู่ใกล้หมอกแม่เหล็กพิษ บรรพบุรุษของเผ่าฉลามหลายเงินได้เคยไปยังสถานที่แห่งนั้น พวกเขาต้องรู้เกี่ยวกับวารีแรกเริ่มชีวิต ฉื่อหยานกลับจากความหมอกแม่เหล็กพิษ และเขาก็นำราชาแมลงอสูรกลืนกินกลับมาด้วย

เมื่อเขาได้นำข้อมูลมาเชื่อมต่อกัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหยินหุ้ยคิดอะไรอยู่ ?

" เมื่อข้าอยู่ในที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับวารีแรกเริ่มชีวิตมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ข่าวลือที่ข้ารู้จัก นั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับราชาแมลงอสูรกลืนกิน " ฉื่อหยานสวมใบหน้าที่สงบ และพูดเบาๆ " เท่าที่ข้ากังรู้ ,ราชาแมลงอสูรเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวารีแรกเริ่มชีวิตเช่นกัน ข้าคิดว่าท่านคิดมากเกินไปแล้ว ”

" ข้ารึ ? " หยินหุ้ยตอบกลับ ดวงตาของเขาลุกโชนเหมือนเปลวไฟ มองฉื่อหยาน " ฮ่าฮ่า . . . . . . . บางทีข้าอาจจะคิดมากไปเอง . ที่คิดว่าเจ้าได้วารีแรกเริ่มชีวิต ใช่ ถ้าเจ้าวารีแรกเริ่มชีวิต ก็ให้มันกับข้าแค่คนเดียวพอ ถึงแม้นู่หลางจะยินดีทำธุรกิจกับเจ้า แต่การให้วารีแรกเริ่มชีวิตแก่นู่หลางหยดนึงนั้นมีค่ายิ่งกว่าทะเลไม่มีสิ้นสุดเสียอีก "

ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน ยิ้ม แต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย

" ถ้าข้าได้รับวารีแรกเริ่มชีวิจสักหยก ข้า หยินหุ้ยก็สามารถทำตามตัวเองได้”

" น่าเสียดายที่ข้าไม่มี เจ้าก็ไม่ควรคิดเกี่ยวกับมันมาก .

" เสียใจด้วย "

. . . . . . .

ในเมืิองใต้บาดาล

จากชนเผ่าทะเล หยางจั๋ว ได้รู้เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นที่ป้อมปราการหินเงิน ในท่ี่สุด เขาก็สามารถยืนยันได้ว่า ฉื่อหยานต้องการไปที่สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ

" ท่านพ่อ ทำไมฉื่อหยานถึงทำให้จั่วเยว่เฟิงและเสินตู่เจียบาดเจ็บได้กัน ?และ เขายังทำให้พวกเขาหนีด้วยความยากลำบาก นี่มันเกิดขึ้นจริงๆรึ ?"   หยางมู่ถาม ด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของรุ่นเยาว์ตระกูลหยางก็กลายเป็นสีแดง ราวกับว่าพวกเขาเป็นคนต่อสู้ในเหตุการณ์นั้นเอง

" ถูกต้อง ชนเผ่าทะเลต่างก็พูดกันเช่นนั้น สมาชิกหลายคนของชนเผ่าที่ทะเลที่อยู่ป้อมปราการสีเงินได้เห็นการต่อสู้ในครั้งนั้น หลังจากนั้น ชนเผ่าทะเลจำนวนมากก็สนใจเขาและ . พวกเขาจะปฏิบัติต่อเราด้วยความเคารพยิ่ง"

" เจ้าเด็กฉื่อหยานคนนี้ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก ฮ่าฮ่า . . . . . . . ข้ารู้อยู่แล้วว่า เขาจะต้องไม่เชื่อฟังใครแน่ ท่านเห็นหรือไม่ เพียงไม่กี่วันเขาก็สามารถทำให้คนที่อยู่ป้อมปราการหินเงินเคารพได้ " หยางมู่หัวเราะ

" อย่าพึ่งมีความสุขไป ยังไงเสีย เขาก็ยังโง่เง่า ตอนนี้เขากำลังไปที่สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ "

" ข้าคิดว่าเขาน่าจะไม่เป็นไร " ดวงตาคู่สวยของหลี่เฟิงก็ส่องประกาย  “ไม่รู้ว่าทำไม แต่ข้าสัมผัสได้ถึงความสามารถในตัวเขา ถ้าใครไปสุสานมังกร ข้าแน่ใจว่าเขาจะตาย แต่ถ้าเป็นฉื่อหยาน ข้าคิดว่า จผลที่ออกมาจะแตกต่างกัน”

" ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน " หยางซู่หยิ้ม .

รุ่นเยาว์ของตระกูลหยางหลายคนต่างก็ไว้ใจฉื่อหยาน หลังจากที่พวกเขาได้สัมพัสกับความประหลาดใจมากมายที่ฉื่อหยานสร้างขึ้น

" พวกเจ้าช่างไม่รู้จักท้องฟ้าและพื้นดินที่กว้างใหญ่จริงๆ " หยางจั๋ว ฝืนยิ้ม

. . . . . . .

ภายใต้ทะเลของพื้นที่ทะเลสวรรค์ ภายในแนวปะการังหลากสีสัน . . . . . . .

คนสี่คนค่อยๆลงมาข้างๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง

" ป้าเซียง " ฉาวจื่อหลานก็เรียก " ในที่สุดพวกท่านก็มา ."

หลังจากที่พวกเขาได้รับข่าวการต่อสู้ ชิงหมิง ราชินีนภา , กษัตรีย์ปฐพี แลกู่ฉาวทันทีพวกเขาก็จากการชุมนุมที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดและมายังใต้ทะเลพร้อมกัน

" พวกเจ้าเองก็ได้รับบาดเจ็บจากเขางั้นรึ  ? " กู่ฉาวถามกลุ่มทั้งหกด้วยสีหน้าเย็นชา

" เขาอันตรายขนาดนั้นเชี่ยวรึ ?" กู่ฉาวมองเสินตู่เจี่ย  แล้ว ชิงหมิง ราชีนีนภา และกษัตริย์ปฐะีก็ขมวดคิ้ว "ถึงขนาดต้องให้พวกเราร่วมมือกันเลยหรือไง ? "

" ถ้าเราไม่กำจัดเขา ตอนนี้ ภายหลังเราไม่มีโอากาสแน่ " เสินตู่เจีย ส่ายหัวและถอนหายใจ " . เจ้านั่นการโจมตีทางวิญญานไม่สามารถทำอะไรได้ ปัจจุบันเขาอยู่ในระดับนภา แต่ข้าไม่รู้ว่าพลังจากภายนอกที่เขายืมนั้นจะอยู่อีกนานเท่าใด ด้วยพลังนี้ เขาราวกับอยู่ในนภาที่สองระดับพระเจ้า นอกจากนี้ เขายังมีสัตว์อสูรระดับ 8 และ สัตว์อสูรชั้นโลหะ พวกมันอันตรายเป็นอย่างมาก .

" เพียงแค่ปีเดียว เขากลับก้าวหน้าเพียงนี้เลยรึ ? " ราชีนีนภา ฟางเซียงหยุนก็ ฝืนยิ้ม ." เราไม่สามารถสู้กับเขาได้ในการต่อสู้ในปีนั้น ตอนนี้ เขากลับอันตรายมากขึ้น ตอนนี้คงไม่ง่ายดายแน่นอน . "

" ถ้ามันง่าย ข้าก็ไม่ต้องเรียกพวกท่านมาที่นี่หลอก " จั่วเยว่เฟิงถอนหายใจ

" แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม ด้วยการมีพวกท่านอีก 4คน เราจะต้องชนะแน่นอน " เสินตู่เจีย ใบหน้าของเขาก็มืดมนและเขาก็พูดอย่างรุนแรง " ครั้งนี้ มันต้องตาย ! "

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด