ตอนที่แล้วบทที่ 463 อิสระอย่างปลอดภัย [ส่วนแรก]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 465 พลังปราณชั่วร้ายล้นทะลัก

บทที่ 464 เห็นไหม ? เจ้าหนะยังแข็งแกร่งไม่พอ


บทที่ 464 เห็นไหม ? เจ้าหนะยังแข็งแกร่งไม่พอ

นอกป้อมปราการหินเงิน กลุ่มของฉาวจื่อหลานทั้งหกคนก็รออย่างเงียบๆ

สองนักรบระดับพระเจ้า สองนักระดับนภา และนักรบที่มีพรสวรรค์แต่ระดับการบ่มเพาะต่ำ  , ฉาวจื่อหลานและพานโจว กลุ่มนี้นับได้ว่าเป็นกลุ่มนักรบที่แข็งแกร่งของทะเลไม่มีสิ้นสุด ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าคอแยพวกเขา

แม้ว่าพวกเขากำลังรอ ฉื่อหยาน , แต่พวกเขากลับไม่ได้มีสีหน้าผ่อนคลายเลย พวกเขามีสีหน้าจริงจังจลอดเวลาราวกับกำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูตัวฉกาจของพวกเขา

ชื่อของฉื่อหยานนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วทะเลไม่มีสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว ด้วยความโหดเหี้ยมและแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถทำให้โมจีต้าได้รับบาดเจ็บสาหัสและทำให้ ชิงหมิง ราชินีนภาและกษัตริย์ปฐพี ได้รับความอับอาย  ข่าวนี้ได้แพร่กระจายผ่านทะเลไม่มีที่สิ้นสุด  ด้วยการกระทำเหล่านี้ทำให้คนเหล่านั้นยอมรับว่าต่อให้ระดับการบ่มเพาะของฉื่อหยานจะไม่สูง แต่เขานั้นอันตรายเป็นอย่างมาก หากไม่มี จั่วเยว่เฟิงและเสินตู่เจีย พวกเขาคงไม่กล้าที่จะยุ่งกับฉื่อหยาน

" จากนี้ระวังให้ดี . " ฉาวจื่อหลานพูดด้วยเสียงต่ำและใบหน้าจริงจัง " ดูเหมือนว่าระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นทุกวี่วันอย่างรวดเร็ว ครั้งก่อนตอนที่เขาอยู่ในทะเลกว้างใหญ่ เขาอยู่ในระดับรู้แจ้ง แต่ตอนนี้ เขากลับทะลวงเข้าสู่ระดับนภาแล้ว ตอนนั้น เขาสามารถรับมือกับชิงหมิงและอีกสองคนได้ พวกเขาต่างก็อยู่ในระดับพระเจ้า ตอนนี้เขาอยู่ในระดับนภาแล้ว คงไม่ง่ายที่จะจัดการกับเขา " .

" ไม่ต้องห่วง " จั่วเยว่เฟิงโก่งขมวดคิ้ว และยิ้มอย่างเย็นชา " ราชินีนภาและกษัตริย์ปฐพีนั้นถึงจะอยู่ในระดับวิญญาน แต่พลังระดับพระเจ้าของพวกเขาในการต่อสู้นั้นไม่แข็งแกร่งนัก เสิ่นตู่เจียและข้านั้นอยู่ในระดับพระเจ้าได้จากการฝึกฝนที่หนักหน่วง . เราแตกต่างจากราชินีนภา และกษัตริย์ปฐพี ถ้าเราร่วมมือกันโจมตี แม้ว่าเจ้าเด็กนนั้นจะมีพลังลึกลับหรือได้แข็งแกร่งขึ้นแล้วก็ตาม เราก็สามารถฆ่าเขาให้ตกตายใต้ทะเลได้ "เสินตู่เจีย ยิ้ม“เมื่อตอนที่เราอยู่เกาะสุริยัน , ข้าเคยลองมาแล้ว แม้ว่าเด็กนั้นจะสามารถยืมพลังจากภายนอก มันก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงระดับพลังที่แท้จริงของเขา ห้วงจิตสำนึกของเขานั้นอ่อนแอและต่ำกว่าเรา ถ้าเราร่วมมือกันโจมตีไปที่จุดนั้น เราจะสามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ และจากนั้นเขาก็หนีเราไม่พ้น”

" ใช่ " จงหลี่ต้วนพยักหน้า " มันยากที่จะเปลี่ยนห้วงจิตสำนึก ถ้าเราใช้กานโจมตีทางวิญญานและบุกรุกห้วงจิตสำนึกของเขา เขา เขาจะไม่สามารถรับมือได้แน่นอน ถ้าเราสามารถโจมตีได้เร็วพอ ข้าคิดว่า เขาคงไม่มีเวลาที่จะยืมพลังจากภายนอก เราจะสามารถแยกห้วงจิตสำนึกและทำลายวิญญานของเขาได้"

" ความสามารถของเขาในการใช้พลังวิญญานนั้นไม่ธรรมดา เราต้องระวังให้มาก "

พานโจวส่ายศีรษะและฝืนยิ้ม " ปีนั้น เมื่อเราอยู่ในดินแดนแห้งแล้งที่หุบเหวสนามรบ เขาได้เรียนรู้เคล็ดวิชาวิญญานมากมายจากเผ่าเสียงอสูร ความเข้าใจของเขาที่มีต่อวิญญานของเขานั้นลึกซึ้งมากกว่าคนทั่วไป เฮ้อ ตอนนั้นข้าเองก็เป็นเหยื่อ ความรู้ของเขาในด้านวิญญาณนั้นลึกลับจริงๆ พวกท่านอย่าได้ประมาทเด็ดขาด "

" พวกเรา 6 คน รอเขาอยู่ที่นี่ ข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้าออกมาจากป้อมปราการหินเงินแน่ " จงหลี่ต้วน แสยะยิ้ม " ถ้าเขาไม่โง่พอ เขาจะต้องอยู่ในป้อมปราการหินเงิน และเห็นว่าเรานั้นเกรงใจเผ่าฉลามเงินเลยไม่กล้ายุ่งกับเขา ข้าเชื่อว่าเขาไม่ออกมาแน่ "

" ไม่พึ่งแน่ใจไป "

ดวงตาที่งดงามของฉาวจื่อหลานก็ส่องแสงระยิบระยับเมื่อนางถอนหายใจเบาๆ " . ชายคนนี้กล้าหาญมากกว่าคนทั่วไป ข้าเดาว่าเขาจะต้องออกมาแน่นอน "

" พวกเจ้าประเมินเขาสูงไปแล้ว " จงหลี่ต้วนพูดดูถูกเหยียดหยาม

" เขากำลังมาที่นี่ !

เสินตู่เจีย ดวงตาก็ประกายเย็นชาอย่างรุนแรง เขาไม่สามารถช่วยได้ที่จะตะโกนว่า " เขาออกมาจากประตูหลักแล้ว เจ้านี่ช่างหยิ่งพยองนัก ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นเราอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เขารู้ว่าเรากำลังรอเขาอยู่ แต่เขาก็ยังกล้าที่จะมา หึ เจ้าเด็กนี่อยากตายนักใช่ไหม "

" บางทีเขาอาจจะไม่กลัวก็เป็นได้ . . . . . . . " พานโจวสีหน้าก็แปลกไป

จากประตูหลักของป้อมปราการหินเงิน ชายหนุ่มลอยผ่านพื้นที่ว่างเปล่า ดูราวกับว่าเขาไม่รู้ว่ามีคนรอเขาอยู่

ข้างหลังเขาคือนักรบที่แข็งแกร่งของชนเผ่าทะเลที่กำลังดูสถานการณ์อยู่ ทุกคนต่างก็รู้ว่าจะมีการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น แม้แต่นักรบระดับพระเจ้าสองคนจากเผ่าฉลามเงิน หยินหุ่ยและอาวุโสกู่ก็ยื่นอยู่บนตึกสูงมองรอบๆ

ไห่หลัวยืนข้างๆอาวุโสกู่ ฟังพ่อของนางพูด ดวงตาคู่สวยของนางส่องประกายแวววาวเหมือนไข่มุกเงางาม และริมฝีปากฉ่ำของนางก็ขยับไปตามอารมณ์

สมาชิกชนเผ่าทะเลกำลังสังเกตพวกเขาจากระยะไกล

"ช่างเป็นเด็กที่โอหังนัก " อาวุโสกู่ส่ายหัวแล้วขมวดคิ้ว " . นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเจอคนที่หยิ่งหยองเช่นนี้ ข้ามั่นใจเลยว่าจะได้ดูการแสดงดีๆ "

" ถ้าเขาสามารถออกไปได้เหมือนสายลมที่พัดผ่าน ข้าคิดว่าเขาจะต้องอยู่บนจุดสูงสุดของทะเลไม่มีสิ้นสุดในอนาคตแน่นอน " หยินหุ้ยกำลังประเมินด้วยสีหน้าจริงจัง" อนาคตของคนหนุ่มสาวนี้ไม่อาจรู้ล่วงหน้าก่อนได้ ถ้าเขามีเวลามากพอที่จะเติบโต ฉาวเชี่ยวเต้า หยางอี้เทียน หรือ จักพรรดิหยางเทียน ก็ไม่อาจเทียบเขาได้ "

"ประมุข ท่านไม่คิดว่าประเมินเขาสูงเกินไปรึ ? " อาวุโสกู่แปลกใจ

" ตามข้อมูลที่ข้ามี เมื่อจักพรรดิหยางเทียนอายุเท่าเขา เขาอยู่ในระดับปฐพีเท่านั้น ต่อให้ถึงแม้ว่าตอนนี้จักพรรดิหยางเทียนอยู่ในระดับนภา ข้าก็ไม่คิดว่าเขาจะหยิ่งพยองเช่นนี้ " ภายใต้การจ้องมองของนักรบระดับพระเจ้า หยินหุ้ยก็ยิ้ม " รอดูไปก่อน ถ้าเขาสามารถออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย ยุคสมัยในอนาคตจะต้องเป็นของเขา !

อาวุโสกู่และไห่หลัว ดวงตาก็ส่องประกาย

" ข้าขอโทษที่ปล่อยพวกเจ้าให้รอนาน " นอกป้อมปราการฉื่อหยานก็ยิ้มแล้วถอนหายใจ " . เสียใจด้วยสำหรับเวลาที่เีสยไป  ถ้าเจ้าต้องการที่จะจัดการกับ ข้าคิดว่าต้องให้ฉาวเชี่ยวเต้าหรือไม่ก็หยางอี้เทียนมาเองดีกว่า เพียงจั่วเยว่เฟิงกับเสินตู่เจีย คงไม่เพียงพอ "

" เด็กคนนี้คำพูดช่างใหญ่โตโอ้อวดนัก !

จั่วเยว่เฟิงสูดลมหายใจเข้า และยิ้มอย่างเย็นชา " เจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าคิดถูกแล้วงั้นรึ ? เจ้านั้นเป็นเพียงนักรบระดับนภา เจ้าคิดว่ามันมากพอที่จะหยอกล้อกับยอดฝีมืองั้นรึ ? วันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าสถานการณ์ที่แท้จริงของไม่มีที่สิ้นสุดนั้นไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิด ต่อให้เจ้ามีความสามารถมากกว่านี้ ก็ทำอะไรไม่ได้มากนักหลอก "

" เอ๋ ? "

ฉื่อหยานก็สวมใบหน้าล้อเลียนแล้ว ส่ายหัวพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา " ข้ารอดูอยู่นะว่าเจ้าจะทำอะไรข้า "

3 พลังประหลาดของเปลวเหมันเยือกแข็ง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ และ แกนเพลิง ก็หลอมรวมกันที่ประกายแสงพลังปราณลึกลับของเขา เกิดเป็นพลังที่รุนแรงและแข็งแกร่ง มันเป็นเหมือนกับสายน้ำไหลผ่านไปทั่วร่างของเขา  ห่วงโซ่ของความคิดกระหายเลือดก็ไม่สามารถช่วยได้ที่จะถูกกระตุ้นขึ้นมาในจิตใจของเขา

หมอกสีขาวขุ่นก็ออกมาจากรูขุมขนบนร่างกายทั้งหมดของเขา กลายเป็นหนาครอบคลุมร่างกายของเขาอย่างมิดชิด

กลิ่นอายที่รุนแรงและชั่วร้ายเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งก็กระจายปกคลุมไปทั่วพื้นที่ กีดกันน้ำทะเลที่อยู่รอบๆตัวเขาราวกับเป็นม่านพลัง

" ออกมา ! "

เขาส่งเสียงเรียกไปที่แหวนสายโลหิต แลดาบยักษ์ลึกลับก็ลอยออกมา ในเวลาเดียวกัน ,ราชาแมลงอสูรและตัวไหมสีทองก็กลายเป็นก้อนแสงสองก้อนลอยอยู่เหนือไหล่ของเขาทั้งสองข้าง พวกมันลืมตาขึ้นมองไปยังกลุ่มของจั่วเยว่เฟิงอย่างเย็นชา

เป็นคนของเผ่าทะเลที่รู้สึกพลังชั่วร้ายที่ระเบิดออกมาจากฉื่อหยาน พวกเขาสีหน้าต่างก็เปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัว ที่ด้านหน้าของประตูหลักป้อมปราการ เด็กสาวจากตระกูลหอยหยกก็เอามือคลุมปากด้วยความตกใจ ดวงตาของนางส่องประกายตื่นเต้น

ก่อนหน้านี้ นางเคยล้อเลียน ฉื่อหยาน ทั้งๆที่นางยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงผู้อาวุโสกู่ด้วยซ้ำ ดังนั้น หลังจากงานเลี้ยงเลิกรา นางก็พบคนที่นางรู้จักที่ประตู

แต่นางก็ไม่ได้มีเวลาที่จะคิดเท่าไหร่ เมื่อนางเห็นเขา ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังที่รุนแรงปลดปล่อยออกมา คนนั้นคือฉื่อหยาน

ภายใต้ความผันผวนของพลังที่น่ากลัว นางรู้สึกว่าตัวนางเล็กราวกับมด รู้สึกท้อแท้เพียงแค่มองผ่าน ระดับการบ่มเพาะของนางกับฉื่อหยานั้นต่างกันเป็นอย่างมาก มากเสียจนไม่อาจเทียบได้แม้แต่ไรฝุ่น

ตอนนี้ นางรู้แล้วว่าฉื่อหยานเป็นใคร เขาอันตรายอย่างยิ่ง นางเอานิ้วมือปิดปากของคนด้วยความกลัวิอ นางนึกถึงเวลาที่นาง ไม่เคารพเขา นางรู้สึกกลัว และรีบถอยเข้าไปในเมือง นางกังวลว่า ฉื่อหยานจะมาหานาง

" เขาไม่ได้มีแต่ชื่อจริงๆ ! "

ภายในป้อมหินเงิน อาวุโสกู่สีหน้าก็เปลี่ยนไป ดวงตาก็หดลง เขาก็พยักหน้าด้วยความตกใจ

" เช่นนั้น เจ้ารู้แล้วใช่หรือไม่เหตุใดข้าถึงได้ชื่นชมเขา" หยินหุ้ยยิ้ม

อาวุโสกู่พยักหน้า " หากชายหนุ่มผู้นี้เติบโตมากกว่านี้หละก็ เขาจะต้องเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลไม่มีสิ้นสุดแน่นอน   ! เฮ้อ ในที่สุดข้าก็รู้ว่าทำไมท่านประมุขถึงได้ประเมินเขาสูงเช่นนี้ จักพรรดิหยางเทียนนับว่ามีโชคลาภนักที่มีเขาเป็นทายาม เขาช่างโดดเด่นจริงๆ " โดดเด่นจริงๆ

" อย่าได้ดูถูกพวกตระกูลหยางเป็นอันขาด "

หยินหุ้ยสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง" นู่หลางเคยบอกว่าในทะเลกว้างใหญ่ จักพรรดิหยางเทียนนับได้ว่าเป็นอุปสรรคที่ก้าวผ่านได้ยากที่สุด   ถ้าเจ้ายังไม่เคยเห็นเค้าตายด้วยตาของเจ้าเอง นั่นหมายความว่าเขาจะต้องมีชีวิตอยู่แน่นอน เผ่าทะเลของเราอยู่กันอย่างสงบก็เพราะหวาดกลัวจักพรรดิหยางเทียน กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะกลับมา " .

" ตระกูลหยางนับได้ว่าเป็นปัญหาที่ยากจะกำจัดจริงๆ " อาวุโสกู่อุทานออกมา

“อย่าปล่อยให้มันเขาเตรียมตัวเด็ดขาด !”  จงหลี่ต้วนก็ตะโกนออกมา

เส้นสายจิตสำนึกวิญญานมากมายก็แผ่ออกมาจากเสินตู่เจี่ยเหมือนกับหนวด , มันพุ่งออกไปโดยมีเป้าหมายเป็นห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยาน

จั่วเยว่เฟิงก็ไม่กล้าลังเลและเรียกจิตสำนึกวิญญานของเขา กลายเป็นแสงสีเงินพุ่งออกไป เฉือนลงไปที่ฉื่อหยานจากฟากฟ้า

ในเส้นแสงสีเงินนั้นสามารถเห็นประกายสายฟ้าเล็กๆได้จากภายใน

รูปลักษณ์จิตสำนึกวิญญาน !

ด้วยการที่มีพลังสายฟ้าอยู่ข้างในจิตสำนึกวิญญาณของเขา นี่เห็นได้ว่าเป็นวิชาวิญญานที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก

ดวงตาของจั่วเยว่เฟิงก็สว่างเหมือนดวงดาว พลังปราณลึกลับและพลังวิญญานหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง เขาหลอมรวมมันเข้ากับเส้นสายจิตสำนึกวิญญานจำนวนมาก ควบคุมให้มันกลายเป็นเหมือนกับหอกอัศนีเทพเจ้าที่มีพลังของสายฟ้ารุนแรง หมายมุ่งจะเอาชีวิตฉื่อหยานภายในการโจมตีครั้งเดียว

เก้าอัศนีสวรรค์ นับได้ว่าเป็นจุดอ่อนของดวงวิญญานทั้งหมด เมื่อสายฟ้านี้ผ่าลงห้วงจิตสำนึกและ สัมผัสกับวิญญาณ แม้แต่วิญญานของนักรบระดับพระเจ้าก็ไม่อาจทนได้

หอกอัศนีเทพเจ้า ของจั่วเยว่เฟิงนี้เป็นวิชาสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ด้วยวิชานี้ เขาจึงได้รับการยอมรับในทะเลไม่มีสิ้นสุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้แต่ฉาวเชี่ยวเต้าก็เคยได้รับบาดเจ็บเพราะ หอกอัศนีเทพเจ้า นี้มาแล้ว

เมื่อการโจมตีปรากฏออกมา นักรบที่แข็งแกร่งของเผ่าฉลามเงินที่อยู่ในป้อม ที่สามารถใช้จิตสำนึกวิญญาณได้ จู่ๆพวกเขาสีหน้าก็กลายเป็นซีดเซียว

ฉื่อหยาน ที่ตกเป็นเป้าหมาย จู่ๆเขาก็หลับตาของเขาลง

ในห้วงจิตสำนึก ที่วิญญานหลักของเขา ดวงตาที่สามของเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็ลืมขึ้น มันปลดปล่อยเปลวไฟแปลกประหลาดออกมาทั่วห้วงจิตสำนึกของเขา ในขณะที่จิตสำนึกวิญญานเสินตู่เจีย และจั่วเยว่เฟิงโจมตีมาที่ห้วงจิตสำนึกของเขาอย่างรุนแรง

กลุ่มก้อนเปลวไฟก็พุ่งออกมาราวกับว่าพวกมันได้กลิ่นเลือด , มันเผาผลายจิตสำนึกวิญญานทั้งหมดที่บุกเข้ามาในห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยาน

ซู่ !

ภายใต้เปลวไฟของ เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน จิตสำนึกวิญญานที่เหมือนหนวดของเสินตู่เจี่ยและหอกอัศนีเทพเจ้าของจั่วเยว่เฟิงก็กลายเป็นว่างเปล่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เสินตู่เจี่ยและจั่วเยว่เฟิงก็กระอักเลือดออกมา เพราะจิตสำนึกวิญญานของพวกเขาได้รับการบาดเจ็บอย่างรุนแรง

" ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอ "

ฉื่อหยานสแยะยิ้มแล้วพูดว่า " เสินตู่เจีย , ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร จิตสำนึกวิญญาณของเจ้าเคยบุกเข้ามาในร่างข้าเมื่อตอนที่อยู่บนเกาะสุรยัน . ข้าจำมันได้เมื่อตอนนั้นเจ้าได้ปล่อยจิตสำนึกวิญญานมาที่ข่า  ฮ่าๆๆ ดี ดี ถึงเวลาที่ข้าจะแก้แค้นเสียที ! "

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด