ตอนที่แล้วบทที่ 363 ผู้ชายสาม และ ผู้หญิงสอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 365 สัตว์อสูร ,กับดักอันตราย และ มนุษย์

บทที่ 364 คุณธรรมและความชั่วร้าย


บทที่ 364 คุณธรรมและความชั่วร้าย

ชายหนุ่มที่ชื่อบอคทันทีก็ตระหนักได้ถึงกลิ่นอายในร่างของนาง

ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า " อายหยา ข้าไม่อยากมอบผลึกอสูรให้กับใคร ข้ารู้สึกว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ในนี้หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬมีเพียงผลึกอสูรเท่านั้นที่ใช้เพิ่มพลังปราณลึกลับได้ ผลึกอสูรแต่ละชิ้นมีค่ามากที่นี่ เราเพิ่งเข้ามาที่นี่ เราต้องพยายามให้ที่ดีที่สุดเพื่อรวบรวมผลึกปีศาจมากเข้าไว้ และไม่ควรมันให้กับใคร . "

หลังจากคุยกัน เขาก็เปลี่ยนสายตาไปจ้องมองฉื่อหยาน และกล่าวอย่างอวดดี " เจ้านี่มันมาจากพื้นที่กันดารยังไงเขาก็ตาย การมอบผลึกอสูรให้เขาไปช่างเป็นเรื่องน่าเสียดาย"

ฉื่อหยาน ขมวดคิ้วเล็กน้อย .

ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจในผลึกอสูรของมังกรเนตรทองเหมัน และตั้งใจจะปฏิเสธน้ำใจ อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินคนที่ชื่อบอคพูดว่า ผลึกอสูรสามารถเพิ่มพลังปราณลึกลับในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬได้ ทันทีความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เขาก็ตัดสินใจพยายามเพื่อที่จะได้มันมา

นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ปฏิเสธ แต่เขาก็มองไปที่อายหยา

" ข้าบอกว่าข้าจะให้เขา เจ้าไม่ได้ยินรึ ? " แต่เป็นสีหน้าเริ่มแย่ลงและแย่ลง .

บอค แอบสูดลมหายใจเข้าขณะที่สายตาของเขาปรากฏความเย็นชา จากนั้นเขาก็โยนชิ้นส่วนผลึกในมือของเขาให้ ฉื่อหยาน ความเร็วที่ของผลึกที่พุ่งมานั้นเร็วมาก จนทำให้ผลึกส่งเสียงกรีดสายลมเหมือนอาวุธเจาะผ่านอากาศราวกับเป็นดาวตก

สีหน้าฉื่อหยานก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มองผลึกที่พุ่งเข้ามา เขาโบกมือของเขาและกำนิ้วมือของเขา แสงก็ไหลอยู่ภายในนิ้ว

" หวือหวือหวือ " .

ทันทีที่ผลึกตกอยู่ในมือกลุ่มก้อนพลังก็สั่นสะท้านไปทั่วมือของฉื่อหยาน

ฉื่อหยานเปิดเผยรอยยิ้มบางๆอย่างรวดเร็วและใช้พลังของเขาเพื่อควบคุมผลึกอสูร แสงบนปลายนิ้วของเขาก็หดลงกลายเป็นบางสิ่งที่ดูเหมือนเป็นถุงมือสีขาวที่ครอบคลุมมือของเขาแล้วจับไปที่ผลึก เมื่อผลึกเข้ามาที่มืิอ ,ทันทีมันก็หายเข้าไปในแหวนสายโลหิต โดยไม่ต้องพูดอะไรต่อไป ฉื่อหยาน พยักหน้าตามแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร บอคหันกลับไปมองฉื่อหยานอย่างแข็งกร้าว

" เดี๋ยวก่อน " ช่ายอี้ ยิ้มอย่างเหนือกว่าและพูดออกมา

ฉื่อหยาน ก็หันหลังกลับไป ถามอย่างหงุดหงิด " มีอะไรรึ ? "

" สหาย อยู่คนเดียวในที่มืดๆแบบนี้ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนั้นอันตรายอยู่มาก ข้าอยากจะถามว่าเจ้าสนใจร่วมเดินทางไปกับเราชั่วคราวหรือไม่"

หน้ารูปไข่ ไชอี้นั้นมีเสน่ห์มาก ; ริมฝีปากของนางเปล่งประกายแดงฉ่ำสามารถสะกดจิตใจคนอื่นได้

" อันตรายมีทุกที่ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ถ้าเจ้าไปคนเดียว เจ้าอาจจะใช้พลังปราณลึกลับจนหมดหรืออาจจะถูกคนชั่วฆ่าได้ ถ้าเจ้าไปกับเรา อย่างน้อยเจ้าก็ลดปัญหาเหล่านั้นลงไปได้ สนใจหรือไม่ ?

" พี่สาว ! " บอค พูดขัดขึ้น ช่วยไม่ได้ที่เขาจะตะโกนออกมา " ทำไมท่านต้องเอาเจ้าภาระนี่มาด้วย ถ้าเขาทำอะไรไม่ยั้งคิด เขาจะทำร้ายเราทุกคน เหตุใดท่านถึงทำเช่นนี้ ?

ไชอี้ ยิ้มหวาน ขยิบตาส่งสัญญาณให้เขา และ นาง ก็มอง ฉื่อหยาน เพื่รอการตัดสินใจของเขา

อายหยาขมวดคิ้วของนาง มองไปที่ ไชอี้ ด้วยใบหน้าตกตะลึง และไม่พูดอะไรต่อไปอีก

ชายหนุ่มแข็งแรงสองคนที่มีผมสีบลอนด์และตาสีเขียวยืนอยู่ด้านข้างก็ยิ้มและพยักหน้าเบาๆเล็กน้อย

ฉื่อหยาน มองอย่างสงสัยไปที่คนเหล่านั้นและคิดจะปฏิเสธพวกเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้เห็นทัศนคติเช่นนี้เขาก็ลังเล

เขารู้ว่า ไชอี้ ไม่ได้มีเจตนาดีที่ ชวนเขาไปด้วย ในความเป็นจริง นางเพียงต้องการจะใช้เขาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งเข้ามาที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่นี้ เขาได้ยินถึงความลึกลับของมันมาจากเซี่ยซินหยานเล็กน้อย  แต่สำหรับรายละเอียดนางเองก็ไม่รู้

ในกรณีนี้ การเดินทางคนเดียวในที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนับได้ว่าเป็นอันตราย

นักรบกลุ่มนี้มีระดับการบ่มเพาะที่สูง รวมทั้งความเข้าใจในสถานที่แห่งนี้ยังลึกซึ้ง ถึงแม้ว่าจะไปกับพวกเขาจะทำให้เขาพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เขาก็ยังสามารถได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้บอกโดยตรง เขาก็เข้าใจสถานการณ์เช่นนี้ดี โดยให้ความสนใจกับบทสนทนาของพวกเขา เขาก็แค่ต้องระวังให้มากไว้ ถ้าสถานการณ์ไม่ค่อยดี การทิ้งจากพวกเขาไป ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

ด้วยความคิดนี้ ฉื่อหยาน ที่พิจารณาอย่างเงียบๆก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกล่าวว่า " ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้เลย คงต้องรบกวนพวกเจ้าแล้ว”

หลังจากพูด เขาหยุดเดิน และรักษาระยะห่างกับกลุ่มนักรบทั้งห้าคน และยิ้มออกมา

" เอาล่ะ เราต้องการพักผ่อนก่อนเพื่อเรียกคืนความแข็งแรงของเรา ในขณะที่เจ้าเองก็จะได้คุ้นเคยกับการใข้ผลึกอสูร " ไชอี้ ยิ้มบางๆ พยักหน้า และบอกว่า " น้องชาย เจ้าช่วยเฝ้ายามได้หรือไม่ เพื่อรับมือกับการโจมตีอย่างไม่คาดคิดของสัตว์อสูร "

หลังจากพูด ไชอี้ ก็ค่อยๆบินออกไป บอคหันไปมองอย่างไม่เต็มใจด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่พึมพำอะไรบางอย่างแล้วตามไชอี้ไป

" พี่สาว ท่านจะทำอะไรรึ ? " บอค เดินเข้าไปหานางด้วยใบหน้าไม่พอใจและบ่นว่า " จะไม่ดีกว่าเหรอ ที่จะให้ข้าฆ่าเจ้านั่นเพื่อเอาชิ้นส่วนผลึกมา เราได้พูดคุยกันก่อนแล้ว แต่อายหยากลับแกล้งทำเป็นมีคุณธรรมและใจดี ท่านเองก็ต้องการทำเหมือนนางงั้นรึ ?

หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนั้นค่อนข้างพิเศษหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการเก็บเสียง . ต้องขอบคุณสถานที่แห่งนี้ , แม้ว่าพวกเขาสองคนยืนอยู่ห่างจาก ฉื่อหยานเพียงแค่ร้อยเมตร , พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่า ฉื่อหยาน จะสามารถแอบฟังการสนทนาของพวกเขาได้ พวกเขาจึงพูดอย่างไม่ลดเสียงลง

" เจ้าโง่ " ทันทีที่ ไชอี้ บินออกไป นางก็ยิ้ม ทันทีดวงตาคู่สวยก็กลายเป็นเย็นชา นางปดลปล่อยกลิ่นอายเย็นยะเยือกออกมา " เขานั้นเป็นเพียงนักรบนภาที่สองในระดับรู้แจ้ง เจ้าสามารถฆ่าเขาได้ แต่ถ้าเจ้าทำเช่นนั้น เจ้าจะสูญเสียพลังปราณลึกลับมากเกินไปป เจ้ารู้มั้ยว่พลังปราณลึกลับสำคัญแค่ไหนที่นี่ ? นานแค่ไหนที่เราสามารถอยู่รอดกับมัน การสูญเสียมันหมายความว่าเจ้าจะตายเร็วขึ้น เจ้าโง่หรืออย่างไร ?"

เห็นใบหน้าที่เย็นชาของนาง บอคก็กลัวเล็กน้อย และไม่สามารถแม้แต่จะพูดได้เต็มคำ" แต่ผลึกอสูร . . . "

" หนึ่งในสามของผลึกอสูรเพียงพอที่จะเทียบกับพลังปราณลึกลับที่เจ้าต้องใช้ฆ่าเขารึ ?"  ไชอี้ สูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา

บอค ตะลึงเล็กน้อยแล้วพูดว่า " ไม่เลย "

" เจ้าโง่ ! " ไชอี้ ก่นดา " เจ้าคิดว่า อายหยา จริงๆอยากให้ชิ้นส่วนผลึกอสูรงั้นรึ นางแค่ต้องการหลอกล่อฝ่ายตรงข้าม เพื่อลดทอนความแข็งแกร่งของเรา ด้วยบุคลิกของเจ้า หลังจากถูกนางด่า เจ้าจะต้องแอบฆ่ามันแน่ ถ้าเจ้าทำแบบนั้น เจ้าก็ตกอยู่ในกับดักของนางแล้ว " .

ใบหน้าบอคก็เปลี่ยนไปทันที

"ถ้าเจ้าทำเช่นนี้อีกมันจะเป็นผลร้ายต่อเจ้า สิ่งที่เจ้าได้รับนั้นมันน้อยยิ่งกว่าสิ่งที่เจ้าต้องเสีย แม้นั่นจะเป็นผลึกอสูรก็ตาม หลังจากนี้ ถ้าเจ้าพบนักรบอื่น หรือสัตว์อสูร หรือกับดักใด ๆอีกในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ , เจ้าแทบจะไม่สามารถรอดชีวิตได้แน่นอน . " ไชอี้ พูดอย่างต่อเนื่อง " อายหยา เพิ่งใช้หนึ่งในสามของผลึกอสูรล่อเจ้าให้ลงมือกับเจ้าเด็กนั่น และนางก็จะลงมือกับเจ้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะโชคดีที่มีชีวิตอยู่ แต่เจ้าก็ได้สูญเสียพลังปราณลึกลับไปบางส่วนแล้ว ดังนั้น ก็เท่าว่านางได้รับสิ่งที่ต้องการ เจ้าโง่ ! "

หลังจาก บอค ได้ฟัง ไชอี้ ก่นด่าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป . เขากลัว และเหงือเย็นก็ไหลออกมา สักพักก่อนจะขบฟันของเขาและพูด , " หัวใจของหญิงสาวคนนี้ช่างโหดเหี้ยมนัก . "

" หลังจากที่เข้ามายังหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ กลุ่มของเราก็เหลือ 5 คน แต่ยังคงมีอำนาจและทำผลผลิตได้มากที่สุด ในเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เจ้าจะผลักคนอื่นให้ตายก่อนตัวเองรึ นางมักจะใช้แรงของนางน้อยที่สุดเพื่อที่จะได้รับพลประโยชน์จำนวนมาก ถ้าเจ้ายังทำตัวโง่ ๆ แบบนี้ เจ้าจะต้องถูกฆ่าแน่ไม่ช้าก็เร็ว ข้าเตือนเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าก็ไม่เคยฟังข้าเลย เจ้าไม่รู้รึอะไรคือชีวิตและความตาบ " ไชอี้พูดอย่างไม่สบอารมณ์

บอคพยักหน้าอย่างอับอับ " พี่สาวข้าผิดไปแล้ว"

" จำไว้ว่า เต่อไปนี้เจ้าอย่าได้ประมาทเด็ดขาด เจ้าเห็นว่าสองพี่น้องลั่วหลันพูดอะไรบางรึ ? "

ไชอี้ ให้บทเรียนน้องชายของนางในขณะที่การขมวดคิ้วของนางมองสองหนุ่มผมทองตาฟ้า ในเวลาเดียวกัน นางก็ลดเสียงของนางและกล่าวว่า " เมื่อเจ้าลงมือ ระมัดระวังสองพี่น้องลั่วหลันไว้ให้ดี . แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะอยู่ในนภาที่สามของระดับรู้แจ้ง ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน พลังที่แท้จริงของพวกเขาสามารถเทียบได้กับนักรบระดับนภา ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าข้าจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรือไม่ ดังนั้น เจ้าไม่ควรประมาทพวกเขา”

บอค ก็สั่นสะท้าน เขาก็เงียบและตื่นตัวมากขึ้น พยักหน้าของเขาและถามว่า " พี่สาว ทำไมท่านถึงขอให้เจ้าเด็กนั่นมากับเรา? "

"เจ้าโง่ ! " ไชอี้ แสดงออกอย่างผิดหวัง " เจ้าและพี่น้องลั่วหลัน เดินในเส้นทางเดียวกันใช่หรือไม่ ?? "

บอค พยักหน้า

"ผู้เบิกทาง เป็นงานที่อันตรายที่สุด ถ้าถูกล้อมรอบด้วยฝูงสัตว์อสูร ผู้เบิกทางจะถูกฆ่าตายแน่ ถ้าหากหลงเข้าไปในกับดัก ผู้เบิกทางจะไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้นาน ดังนั้น ข้าจึงให้เจ้าเด็กนั่นมากับเราเพื่อติดตามเจ้าไป , เพื่อใช้มันปกป้องชีวิตของเจ้า เจ้าจะต้องขอบคุณเขาที่ต้องเสี่ยงชีวิตแทนเจ้า เข้าใจมั้ย ? เจ้าคนโง่ " ไชอี้ กล่าวด้วยความผิดหวัง

" ขอบคุณท่านพี่ " บอคเคลื่อนไหวขณะที่พูด

" พูดให้น้อย สังเกตให้มาก อย่าทำให้ตัสเองตาบอดถูกหลอกหรือถูกควบคุมโดยผู้อื่น " ไชอี้ ด่าเขาแล้วหลับตา " เฝ้าข้าให้ดี อย่าให้ใครเข้าใกล้ โดยเฉพาะอย่างอายหยา "

" ข้าเข้ามตแล้ว " บอค โค้งหัวของเขาและก้มลงคอยยืนอยู่ข้างๆ นาง โดยไม่ประมาท

เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สาวของเขาดูแลเขาและเห็นค่าของเขา ถ้าเขาทำหน้าที่ได้ไม่ดี เค้าก็จะกลายเป็นไร้ค่า และบางที พี่สาวของเขาจะอาจจะไม่สนใจและไม่เป็นห่วงเขาอีกต่อไป

ด้วยความคิดนั้น เขาก็ยิ่งจริงจัง เขาแอบเฝ้าสังเกตุอายหยาอยู่ไกลๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นอายหยาค่อยๆเดินไปที่เจ้าเด็กแปลกหน้า เพราะคิดว่านางกำลังวางแผนบางอย่าง

อยากยิมพลังของเจ้าเด็กนั่นรึ ?

เขาทันทีก็ได้สติ หลังจากถูกไชอี้ก่นด่า

ดังนั้น ตอนนี้ เขาจึงมอง ฉื่อหยาน ไม่ใช่ศัตรูอีกต่อไปแต่น่าสงสารแทร เด็กนี่โชคร้ายจริงๆที่เขาถูกหลอกโดยพี่สาวของเขา และมารร้ายอายหยา และเด็กนั่นยัง ขอบคุณพวกเขาอีก

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด