ตอนที่แล้วบทที่ 330 เมฆอสูรกลืนกินท้องฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 332 ชิหยาน

บทที่ 331 ใช้เครื่องผ่าวัวเพื่อแร่ไก่


บทที่ 331 ใช้เครื่องผ่าวัวเพื่อแร่ไก่

ฉื่อหยานสีหน้าก็จริงจังและเคร่งขรึม ในขณะที่เขาเพ้งจิตสำนึกวิญญานของเขาไปที่แขนเขา เขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแขน

เส้นไหมสีเขียวรับหมื่นค่อยๆบิดๆไปมาบนแขนของเขาราวกับว่าพวกมันต้องการทำลายเส้นใยกล้ามเนื้อของเขาและฉีกแขนของเขาออกเป็นชิ้นๆ

ภายในเส้นไหมสีเขียวแต่ละเส้น , เต็มไปด้วยพลังชั่วร้ายเหมือนกับสัตว์ขนาดเล็กที่กัดกร่อนร่างกายฉื่อหยาน , กินเลือดเนื้อของเขา เปลี่ยนแขนของเขาให้เป็นกระดูกสีขาวส่องประกาย

พลังเหล่านี้มาจากประมุขนิกายซากศพ ชิงหมิง

ที่ด้านข้างของภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ , ฉื่อหยาน ใช้ประโยชน์จากเปลวไฟนภาทั้งสาม และพลังวิญญานของกลุ่มอีเทียนโหมว ในขณะที่เขาอยู่ในสภาพไร้ซึ่งพลังปรารลึกลับ ชิงหมิงก็สังเกตุเห็นและซุ่มโจมตีเขา

เพราะวิญญานของชิงหมิงวิญญาณถูกควบคุมด้วยวิญญานของกลุ่มอีเทียนโหมว ดังนั้น เขาจึงได้สูญเสียความสามารถในการควบคุมร่างกายของเขาและ ฉื่อหยานก็เกือบจะโจมตีชิงหมิงอย่างรุนแรงได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม จักพรรดินีแห่งท้องฟ้าและกษัตริย์ปฐพีก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแลขัดขวางช่วยชิงหมิงไว้ทัน หลีกเลี่ยงอันตรายและการบาดเจ็บ ฉื่อหยาน อย่างจริงจัง ในเวลาเดียวกัน ถ้าเขาไม่ได้มีปฏิกิริยารวดเร็ว ชิงหมิงก็คงทำลายเขาไปแล้ว

ในนักรบระดับพระเจ้า ชิงหมิงอาจอ่อนแอที่สุด ไม่ว่าวิญญาน วิชาต่อสู้ หรือ พลังปราณลึกลับ เขาอยู่ในอันดับต่ำสุด เหตุผลคือว่าพลังของเขาส่วยใหญ่มาจากวิญญาณศพ เขาเสียเวลาหลายปีในการเชื่อมต่อกับศพราชันย์ และฝึกฝนเคล็ดวิชาควบคุมศพ ดังนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับพระเจ้า เขาก็นับได้ว่าอ่อนแอที่สุด

หากไม่มีศพราชันย์ ด้วยพลังของชิงหมิงคนเดียวเขาไม่มีทางเทียบได้กับนักรบระดับพระเจ้าคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนั้น ช่องว่างระหว่างเขาและ ฉื่อหยานก็ยังกว้างมากอยู่ดีและที่ ฉื่อหยาน ยังไม่ถูกเขาจัดการ ก็เพราะกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน ถ้าพวกเขาไม่ใช้วิญญาณของตนเพื่อควบคุมชิงหมิงไว้ รวมทั้งถ้าไม่มีเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานกดดันอยู่ ชิงหมิงคงจะฆ่าฉื่อหยานไปแล้ว .

ตอนนี้พลังของชิงหมิงที่หลงเหลืออยู่กำลังที่อยู่ในร่างกายของเขา ทำให้ฉื่อหยานรู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก

มันแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก มันแทรกซึมเข้าไปตามเส้นใยกล้ามเนื้อของเขาและเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งแขนของเขาแทะเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ฉื่อหยาน ร่างก็สั่นสะท้าน เขาอยากหาคนช่วยนำมาออกมา

เขาจะเรียกเปลวเหมันเยือกแข็ง แต่ทันทีเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบนแขนข้างขวาของเขา

คลื่นแสงสีแดงที่สวยงามออกมาจากแขนข้างขวาของเขา ชั่วพริบตา เม็ดเลือดทั่วทั้งแขนขวาของเขาเหมือนกับกำลังฟื้นฟูและสั่นสะท้าน

หลังจากนั้น ร่างของ ฉื่อหยานก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง และด้วยแรงสั่นนี้ แขนข้างขวาของเขาก็เกิดแรงดึงดูดขึ้นมหาศาล มันเหมือนกับว่าเส้นใยกล้ามเนื้อของเขาแต่ละเส้นกลายเป็นน้ำวนในทะเล มันดูดพลังงานทั้งหมดบนแขนซ้ายของเขาและนำไปหล่อเลี้ยงแขนขวา

แสงสีม่วงแดงส่องประกายออกมา

ภายใต้การสังเกตุของ ฉื่อหยาน, คลื่นแสงสีม่วงแดงที่ส่องประกายออกมานั้นดูหรูหราเป็นอย่างมาก และพลังงานสีเขียวก็พลันหายไป มันหลอมและผสม เข้ากับกล้ามเนื้อของ ฉื่อหยาน , และกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา

การกลายพันธุ์ก็เริ่มหยุดลงอย่างช้าๆ

แสงสีม่วงแดงนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ฉื่อหยาน ของแขนขวาที่แต่เดิมเป็นสีของผิวหนัง ตอนนี้มันก็กลายเป็นสีม่วงแดงอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้นที่แสงสีม่วงแดงก็ค่อย ๆกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ฉื่อหยาน ของแขนขวาของเขาก็กลายเป็นเหมือนกับหยกที่มีสีม่วงแดงส่องประกายระยิบระยับ

เขากำมือของเขาเป็นหมัดไปมา และพลังแปลกประหลาดก็ไหลออกมาอย่างรุนแรงและรวมตัวกันอยู่ที่กลางฝ่ามือของเขาในพริบตา

ฉื่อหยานสีหน้ากลายเป็นมั่นใจเขายิ้มและแบกำปั้นออกมาทันที

วงกลมแสงสีม่วงแดงก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

ทันทีที่แสงกระจายออกมา เสียงแปลกประหลาดก็ดังขึ้นในอากาศ แสงนี้กระจายครอบคลุมบ้านหินทั้งห้าหลัง

พร้อมกับเสียงที่ดังก้อง . ภายใต้การจ้องมองของหบายคน บ้านหินสูงหลายสิบเมตรก็พังทลายลง และเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว

ด้วยแสงสีม่วงแดงมหาศาลนี้ เกิดเป็นพลังต้านท้านกวาดข้ามไปมาเหมือนพายุเฮอริเคนหลังจากที่บ้านหินถูกทำลาย พลังนี่ก็ได้พังบ้านหินสองชั้น และในที่สุดก็กลายเป็นจุดแสงสีม่วงแดงขนาดเท่าแสงตะเกียง และหายไปในความว่างเปล่า

ใบหน้าของทุกคนตกตะลึง มองเขาอย่างไร้จุดหมาย .

ฉื่อหยาน ฝืนยิ้ม เขาพยายามใช้พลังทั้งหมดยกแขนขวาของเขาขึ้นแล้วกล่าวว่า " พลังนี้ไม่เลว " .

ทุกคนพยักหน้ามองเขาด้วยหัวใจที่หวาดหวั่น

มันไม่ใช่แค่ ' ไม่เลว ' แล้ว

หมัดนี้ทรงพลังเป็นอย่างมากมันได้ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวและทำลายบ้านหินสิบหลายสิบเมตร  , นักรบทั่วไปมีกำลังพอที่จะทำเช่นนี้รึ ?

โดยไร้พลังปราณลึกลับ และอาศัยกำลังของแขน พลังจากแขนข้างขวาของเขาอย่างเดียวยังสร้างสิ่งทีน่ากลัวเช่นนี้ได้ มันไม่ได้น้อยไปกว่าการโจมตีเต็มกำลังก่อนหน้านี้เลย

ดังนั้น แม้ว่า ฉื่อหยาน จะไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้อีกครั้ง เขาก็ไม่ได้นับว่าอ่อนแอกว่าคนอื่น .

ความคิดก็แว้บในหัวของ ฉื่อหยาน

" ถ่ายทอดพลังเข้ามาในร่างกายของเขา เท่าที่คิดว่าร่างของข้าสามารถทนได้ และข้าจะตรวจสอบดูว่าข้าสามารถใช้พลังปราณลึกลีบได้หรือไม่ "

ฉื่อหยาน ส่งข้อความไปหาเปลวเหมันเยือกแข็ง

" เข้าใจแล้ว " เปลวเหมันเยือกแข็งทันทีก็ตอบสนอง

หลังจากผ่านไปสิบห้านาที พลังความเย็นจากแหวนสายโลหิต ที่มือซ้ายของเขาก็ไหลเข้ามา

พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งไหลเหมือนกับสายน้ำที่เย็นยะเยียบ ซึ่งมันไหลพล่านเหมือนเขื่อนแตก , มันไหลอย่างบ้าคลั่งเข้าไปในร่างกายของเขา

แขนซ้ายของเขาถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วและความหนาวเย็นที่เย็นซานไปถึงกระดูกก็กระจายออกมาอย่างเงียบๆ

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ฉื่อหยาน แสยะยิ้ม อีกครั้ง พลันก้มลงไปและค่อยๆกดแขนขวาลงบนพื้นดิน

พื้นดินถูกแช่แข็งในเวลาเพียงชั่วพริบตา หมอกโปร่งใสลอยออกมาจากแขนซ้ายของเขา โดยมีแขนซ้ายเป็นศูนย์กลาง , หมอกโปร่งใสที่แววววาวก็แทรกซึมเข้าไปในพื้นดินและกระจายออกไปด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง

" แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก"

ที่ใดก็ตามที่การหมอกนี่ไหลผ่านพื้นดินทันทีก็จะกลายเป็นน้ำแข็งหนา . พื้นน้ำแข็งยาวห้าเมตรปรากฏขึ้นและยังคงขยายวงกว้างออกไป .

หลังจากที่หมองนี่ไหลผ่าน , พืชและต้นไม้ทั้งหมดก็กลายเป็นเหมือนเครื่องประดับที่สวยงามที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง

แม้ต้นไม้โบราณสองต้นก็กลายเป็นแสนมหัศจรรย์ , เป็นเหมือนกับต้นคริสมาสต์

หมอกยังคงกระจายไปข้างหน้า อีกหลายสิบเมตร บ้านหินสูงกลายเป็นเป้าหมายต่อไปของมัน

ชั่วพริบตาบ้านหินก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง

ทุกคนหรี่ตาลงและลดลงขากรรไกรของพวกเขาลง

ฉื่อหยานก็หมอบบนพื้นดินในขณะที่แสงระยิบระยับมากมายกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าจากมือซ้ายของเขา

เขาดึงแขนซ้ายของเขาขึ้นในขณะที่แขนข้างขวาของเขากำเป็นหมัดอย่างรวดเร็วเขาก็ชกลงไปที่พื้น

โดยมีเท้าของเขาเป็นศูนย์กลางโลกที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนาก็ถูกพังทลายเป็นเสี่ยงๆ

พื้นดินแตกออก , พืชและต้นไม้ ที่ลายเป็นน้ำแข็ก็งแตกกระจายเต็มท้องฟ้า ต้นไม้โบราณสองต้นก็ระเบิดออก และบ้านก็ถล่มลงเป็นเศษซากน้ำแข็ง

จะให้พูดความจริงก็คือ ฉื่อหยานได้แช่แข็งทุกอย่างราวกับว่ากำลังวางกับดักเพือทำลายฝั่งตรงข้าง

อากาศหนาวเย็นไปถึงกระดูกกระจายออกไปทั่ว จากที่ที่เขายืนอยู่

ข้ารับใช้หญิงในคฤหาสน์หลายคน ทนไม่ได้ ถึงแม้ว่าพวกนางจะได้อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร พวกนางก็ยังรู้สึกหนาว ถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ พวกนางจะต้องแข็งตายแน่นอน .

กลุ่มของอีเทียนโหมว ก็ตาลอยและจากนั้นก็รีบต้านท้านความหนาวเย็น ถึงแม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งมากก็ตาม

ฉื่อหยาน หดแขนข้างขวาของเขา อยู่ๆก็มีความคิดบางอย่างและทำให้เขาสื่อสารกับเปลวเหมันเยือกแข็ง

เขายังขาดประสบการณ์ในการใช้เปวไฟนภา เขาสามารถปลดปล่อยพวกมันออกมาได้ แต่ก็ต้องพบกับปัญหามากมายในการควบคุมและเรียกพวกมัน ในตอนนี้ เขายังไม่อาจทดสอบได้ เขาทำได้เพียงแต่พึ่งเปลวเหมันเยือกแข็ง

จากความคาดหวังของทุกคน เยว่จางเฟิงก็ตะโกน " ต้านทาน ! "

เปลวไฟนับไม่ถ้วนก็ปรากฏออกมาจากร่างกายของเยว่จางเฟิง มันบินอยู่ในท้องฟ้าด้วยความเร็วที่ตาเปล่าแทบจะมองไม่เห็น และครอบคลุมรอบๆสามร้อยเมตร ป้องกันพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งที่แพร่กระจายออกมา

" ชี่… ชี่.. "

เปลวเหมันเยือกแข็งพลังความเย็นประทะเข้ากับเปลวไฟสีแดงที่ลอยอยู่ในอากาศ เกิดเป็นไอน้ำลอยขึ้นมาพร้อมกับเสียงชี่ และเพียงเวลาสั้นๆ พลังก็ถูกลบล้างไป

ฉื่อหยาน ค่อยๆถอนหานใจโล่งอกออกมา เขาร้องออกมาและวิ่งข้างนอกอย่างรวดเร็ว เขารีบไปหาหญิงสาวที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร

หญิงสาวคนนี้นางคิดว่านางจะตายไปแล้ว ใบหน้าของนางตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและดวงตาที่เศร้าหมอง อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นางเห็นวงเปลวไฟป้องกันความเย็น

แต่ก่อนที่นางจะมีปฏิกิริยาใดๆ นางก็เห็น ฉื่อหยาน มายืนอยู่ตรงหน้านางด้วยสีหน้าเป็นห่วง นางจึงรู้สึกอบอุ่นอยู่ในหัวใจ

เขา . . . เขาทำให้หัวใจของข้าเต้นรัว และเขาเป็นคนมุ่งมาหาข้าเอง เขาคงจะมีใจให้ข้า

หญิงสาวคนนี้ก็แอบหวัง เผยพอใจออกมาบนรอยยิ้มบนใบหน้าของนางราวกับว่าต่อให้ฉื่อหยานฆ่านาง นางก็ไม่ว่าอะไร

" ลินดา เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ? " ฉื่อหยานก็เขย่าร่างของนางแสดงสีหน้าที่เป็นกังวล และถามเบาๆ " เจ้าเป็นไรหรือไม่ ? "

หญิงสาวที่มีผมยาวก็เผยรอยยิ้ม ขณะที่ดวงตาก็เต็มไปด้วยความสุข นางตอบว่า "ข้าเป็นศิษย์ของพรรคสามเทพ มีแขกมากมายมาที่เกาะสุริยัน ข้าถูกส่งมาที่นี่เพื่อต้อนรับแจก เพราะข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงขอมาที่นี่

ยิ่งนางพูด ใบหน้าของนางกลายเป็นสีแดงพร้อมกับความเขินอายเล็กน้อย

ฉื่อหยานรู้สึกซาบซึ้ง เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในขณะนั้นเอง ก็เกิดเสียงระเบิดดังก้องมากมายจากท้องฟ้า

ฉื่อหยาน ด้วยสัญชาตญาน เขาก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก

เรือกระดูกขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมาจากกลุ่มเมฆสีดำที่เหมือนกับหมึกบนท้องฟ้า เรือกระดูกขาวราวกับหิมะ มันทำจากกระดูกของมนุษย์ . เรือที่ลอยอยู่ในหมู่เมฆอย่างรวดเร็ว , มันโดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยแสงแดดจากบนฟ้า

ร่างมากมายเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนเรือห่างออกไปพันเมตร เป็นเผ่าอสูรมากมายที่มีลักษณะดุร้ายโหดเหี้ยม , ดวงตา และใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือด พร้อมกับมองลงมาที่เกาะสุริยัน

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด