ตอนที่แล้วบทที่ 299 ไม่ได้พบกันเนินนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 301 เปิดเผยความสามารถที่แท้จริง

บทที่ 300 เจ้ายังไปไม่ได้ !


บทที่ 300 เจ้ายังไปไม่ได้ !

ซุ่ยเยว่ลู่ว เฉินตั่ว และตงฟางเหอ ต่างก็รู้จัก ฉื่อหยาน ในหมู่พวกเขา มีเพียงซุ่ยเยว่ลู่วเท่านั้นที่ไม่รู้ความสัมพันธุ์ของเขากับตระกูลหยาง

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะเหมินลั่ว เฉินตั่ว และตงฟางเหอ ก็ได้รับแรงกดดันและถูกตำหนิและลงโทษโดยประมุขของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้รู้จักตัวตนของฉื่อหยาน

หลังจากประหลาดใจที่พบกับฉื่อหยาน ซุ่ยเยว่ลู่วก็พลันนึกถึงเรื่องสำคัญที่ หยินไห่ ได้สั่งนาง

หลังจากจ้อง ฉื่อหยาน สักพัก นางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แล้วพูดกับเฉินตั่ว และตงฟางเหอ " เจ้าเด็กนี่กับข้าเคยพูดคุยกันเมื่อปีก่อน ข้าไม่คิดเลยว่า ห้าปีต่อมาเขาจะมาอยู่ที่เกาะสุริยันได้ มันน่าสนใจนัก "

ในขณะที่พูดอมยิ้ม ซุ่ยเยว่ลู่ว ก็แอบขยิบตาให้เฉินตั่ว และตงฟางเหอ นางส่งสัญญาณให้พวกเขาสั่งสอนบทเรียนให้ฉื่อหยาน

" นี่... เราพบกันอีกแล้ว " ไขมันบนใบหน้าของเฉินตั่วก็สั่น เขายิ้มกว้าง " เพราะเจ้า ข้าต้องทนลำบากมากมาย ข้าต้องชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเกาะเหมินลั่ว เจ้าปิดบังตัวตนได้ดีจริงๆ "

" เพราะเจ้า สมาชิกตระกูลตงฟางนับร้อยต้องตาย เกาะทั้งเจ็ดเกาะถูกลบล้างออกไปอย่างไม่เหลือซาก และข้าก็ได้รับโทษสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน " ใบหน้าของตงฟางเหอ ก็กลายเป็นมืดครึ้มในขณะที่พูด

ซุ่ยเยว่ลู่ว ก็ประหลาดใจที่นางเอามือปกคลุมปากด้วยความหวาดกลัว

นางมองฉื่อหยาน แล้วกวาดดวงตามองเฉินตั่ว และตงฟางเหอ ที่กำลังขบฟันแน่นอย่างเกรี้ยวกราด ในที่สุดนางก็ช่วยไม่ได้ที่จะร้องออกมา " นี่ พวกเจ้ารู้จักเขางั้นรึ ? "

ตงฟางเหอกระแอมออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า " ไม่เพียงแต่รู้จัก ข้ายังประทับใจเข้าอีกด้วย”

เฉินตั่ว ไม่ได้ตอบกลับ แม้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจะยังเป็นกันเอง แต่เขาพยักหน้าไปทางคนที่อยู่ข้างหลังเขา

ผู้ติดตามของดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์ก็เข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง พวกเขาเดินกระจายออกมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้าของพวกเขาและจากนั้นก็ล้อมรอบฉื่อหยานในเพียงสามอึดใจ

" เจ้าคือฉื่อหยาน ?" ชั้นไขมันในร่างกายของเฉินตั่ว ก็เขย่าอย่างรุนแรง ดวงตาเท่าเม็ดทั่วของเขาก็ส่องประกายเย็นชาออกมา " ถ้าเป็นเมื่อ 3 ปีก่อน ข้าคงไม่กล้าทำอะไรเจ้า แต่เสียใจด้วยครับ ตอนนี้มันแตกต่างจากเมื่อก่อน หลังจากที่หยางเทียน และจักพรรดิ์หยางชิงตี้ถูกกักขัง ตระกูลหยางปัจจุบันก็เหลือเพียงชื่อเท่านั้น ถ้าข้าต้องการจะทำบางอย่างกับเจ้า ข้าก็ไม่ต้องกลัวใครจะมาช่วยเจ้าแล้ว "

ฉื่อหยานมองไปอย่างเย็นชา และไร้ความรู้สึก รอยยิ้มบางๆปรากฏออกมาจากมุมปากของเขา สายตาของเขากวาดมองคนทั้งห้าที่ล้อมรอบเขาอยู่อย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า " พวกเขาห้าคนไม่เพียงพอจะทำอะไรข้าได้หลอกนะ "

" ไม่เพียงพอ " ? ตอนนั้นเอง เฉินตั่ว ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ไขมันในร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง เขากล่าวว่า , " พวกเขาทั้งหมดและเจ้าต่างก็อยู่ในระดับปฐพีเช่นเดียวกัน เจ้าเพียงคนเดียวสู้พวกเขาทั้งห้าไม่ได้หลอก อย่าเหลิงให้มากนัก !

ตงฟางเหอ ขมวดคิ้วคิ้วของเขาเงียบ ๆเอาก้าวถอยหลังไปไม่กี่ก้าว สายตาสังเกตุไปที่กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน แต่ไม่สามารถสัมพัสได้ถึงระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของพวกเขา ดังนั้น เขาจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย และไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไร

เฉินตั่ว และซุ่ยเยว่ลู่ว ก็เดินถอยมามาอย่างเงียบๆ และไม่ได้ลงมือทำอะไรด้วยตนเอง ในความเป็นจริง เพราะพวกเขาไม่สามารถตรวจสอบระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของกลุ่มอีเทียนโหมวได้ พวกเขาจึงส่งนักรบระดับปฐพีห้าคนไปตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของทั้งสามคน

เฉินตั่วและกลุ่มของเขารู้ดีว่าอูฐผอมยังมีขนากใหญ่กว่าม้า ศักยภาพของตระกูลหยางนั้นมีมากมายนัก แม้ว่า พวกเขาจะรู้ว่าจักพรรดิ์หยางชิงตี้จะถูกกักขังอยู่และตระกูลหยางปัจจุบันก็เหลือเพียงชื่อ พวกเขาก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ลึกๆข้างใน พวกเขาสันนิษฐานว่า อีเทียนโหมว คาป้า และ หยาเมิงเป็นนักรบระดับสูงของตระกูลหยาง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรด้วยตนเอง

" ให้เราฆ่าพวกมันเลยหรือไม่ ? " อีเทียนโหมวหลี่ตาลงเล็กน้อย และใช้จิตสำนึกวิญญานถามฉื่อหยานโดยตรง

ฉื่อหยานส่ายหัว ส่งสัญญาณให้กลุ่มของอีเทียนโหมวถอยไป จนกระทั่งพวกเขาสามคนอยู่ห่างไปประมาณสิบเมตร นักรบระดับปฐพีของดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์กูพุ่งเข้ามา

กลิ่นอายที่น่ากลัวก็ถูกปลดปล่อยไหลออกมาจากร่างกายของเขาในทันที

ฉื่อหยานเปิดใช้ก้าวอัศนี ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยสายฟ้าราวกับสายฟ้าฟาด ทำให้ดูคล้ายกับเจี่ยวหลง ( มังกรในเทพนิยายจีน ) พุ่งออกไป ทางหินอ่อนที่อยู่ใต้เท้าของเขาก็เกิดรอยแตกขึ้น

หินก้อนอิฐขนาดเท่ากำปั้น ก็ถูกซัดออกไปทุกที่ มันลอยอยู่กลางอากาศพร้อมร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา จากนั้นหินก้อนอิฐเหล่านี่นก็พุ่งไปยังเหล่าคนที่อยู่ด้านหน้า

เมื่อทางเดินหินอ่อนแตกกระจาย หินก้อนอิฐก็ถูกปาออกไปด้วยมือใหญ่ ก้อนหินอ่อนนับไม่ถ้วนกระจายอยู่ในอากาศ พร้อมกับเสียงดังที่แทงเข้าไปในรูหู และหินอ่อนขนาดเท่ากับก้อนอิฐก็พุ่งไปยังนักรบทั้งห้า

" แก๊ก แก๊ก "

ร่างกายที่แข็งแกร่งของนักรบคนหนึ่งกลายเป็นหักงอเหมือนกับไม้กอฟ ที่หน้าอกของนักรบระดับปฐพีจากดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์ ก็เกิดเสียงกระดูกแตกขึ้นทั้งร่างกาย ร่างของนักรบคนนี้กลายเป็นเหมือนกับลูกศรพุ่งออกไปยังทิศตรงข้าม

เมื่อนักรบคนนี้รอยอยู่ในอากาศ ก็ปรากฏเจ็ดหลุมบนใบหน้าของเขาที่มีเลือดไหลออกมา เขาได้ตกตายทันทีก่อนที่จะตกลงถึงพื้น

โดยไม่ทันได้ทำอะไร นักรบระดับปฐพีของดินแดนจิตวิญญานสมบัติมมหัศจรรย์ก็ได้ถูกฆ่าตายในเวลาอันสั้น

เขายังไม่ได้มีเวลาที่จะนำสมบัติวิญญานของพวกเขาออกมาเลยด้วยซ้ำ

เฉินตั่ว สีหน้าก็บึ้งตึงด้วยความตกใจ , ดวงตาเท่าเม็ดทั่วของเขาส่องประกายหวาดกลัวออกมา

ตงฟางเหอ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นมืดมน .

ซุ่ยเยว่ลู่ว ก็ตกใจนางถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัวและไม่ได้มองฉื่อหยาน นางถอยห่างจากฉื่อหยาน ในขณะที่ริมฝีปากแดงของนางสั่นสะท้าน

" หวือหวือ "

เศษก้อนหินรับร้อยที่ลอยบนอากาศเป็นเหมือนกับกำปั้นเหล็กนับร้อยที่แข็งแกร่งและรุนแรง มันพุ่งออกมาโดยมีฉื่อหยานเป็นศูนย์กลางและพุ่งออกมาเป็นวงกลม

เส้นสายพลังบริสุทธิ์ที่รุนแรงได้ถูกถ่ายทอดเข้าไปในก้อนหินอ่อน ภายในก้อนหินยังประกอบไปด้วยเส้นสายจิตสำนึกวิญญานบางๆที่แทบจะไม่สามารถสัมพัสได้

ก้อนหินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนกับกำปั้นที่มีดวงตา มันพุ่งออกไปรอบๆอย่างรุนแรงและครอบคลุมไปที่นักรบระดับปฐพีอีกสี่คนของดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์ที่เหลืออยู่

ตามที่คิด ก้อนหินอ่อนก็หมุนควงอยู่ในอากาศและไม่ได้่ตกลงพื้น

หลังจากพุ่งออกไปและหมุนควงอยู่ในอากาสเป็นเวลาสั้นๆ , กลิ่นอายที่น่าเกรงขามในก้อนหินอ่อนก็เพิ่มมากขึ้น พลังของพวกมันรุนแรงขึ้น และอำนาจในการสังหารก็เพิ่มขึ้นตามธรรมชาจิ

ไม่ไกลนัก เหล่านักรบที่เห็นการต่อสู้นี้ ก็ประหลาดใจและตื่นเต้น พวกเขาล้อมเข้ามาใกล้ขึ้น แต่ก็รักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และมองจากที่ไกลๆ

เฉินตั่วดวงตาก็เต็มไปด้วยความโกรธและจิตสังหาร เขาหัวเราะคิกคักออกมาในขณะที่แขนไขมันของเขา ที่เหมือนกับขาหมู ยื่นออกมาจากแขนเสื้อ ดูเหมือนเขาต้องการจะทำอะไรบางอย่าง

ลำแสงสีแดงที่เต็มไปด้วยพลังไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆ และ แสงสีแดงก็พุ่งมาที่แขนของเฉินตั่วที่พึ่งยื่นออกมา

เปลวไฟที่รุนแรงที่ออกมาจากแขนของเฉินตั่ว กว่าห้าพันเปลวไฟอาทิตย์แท้จริงก็ไหลผ่านแขนของเขา มันอัดแน่นในฝ่ามือของเขา แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันดูราวกับว่ามมาเพื่อหยุดเขาไม่ให้ลงมือ

ไขมันบนใบหน้าของเฉินตั่วก็เปลี่ยนไปเพราะความกลัว เขารู้สึกหนาวเย็นจากภายใน ในขณะที่มองไปยังพุ่มไม้ใกล้ๆ

หลี่ฟู่ของพรรคสามเทพก็มองมายังร่างอ้วนของเฉินตั่วและรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏบนหน้าของเขา เขาเดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างเขินอาย , เขาป้องมือและยิ้มให้กับเฉินตัวอย่างเคารพ " ขออภัยด้วย ขออภัยจริงๆ ข้าไม่ได้ต้องการจะขัดเฉินเกอเลย อย่างไรก็ตาม ตามกฎของสำนัก นักรบระดับเดียวกันสามารถสู้กันได้บนเกาะ แต่นักรบคนละรุ่นหรือนักรบที่มีระดับบ่มเพาะต่างกันไม่ได้รับอนุญาต นี้เป็นกฎที่เข้มงวดที่สุด เฉินเกอ ได้โปรดอภัยและปล่อยวางด้วย " .

เฉินตั่วก็มองหลี่ฟู่ด้วยสีหน้าแปลกๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย .

เฉินตั่ว รู้ดีว่าพรรคสามเทพได้ตั้งกฏนี้ไว้ แต่มันก็ไม่ได้เข้มงวดนัก ก็มีคนฝ่าฝืนกฎนี้บ้างเป็นครั้ง แต่พรรคสามเทพก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อวันก่อน เขายังร่วมดื่มกับหลี่ฟู่ พูดคุยและหัวเราะกัน เขาได้พูดถึงแม้แต่ทรัพยากรบ่มเพาะที่หายากต่างๆกัน ในฐานะที่เป็นคนอ้วนที่มีระดับการบ่มเพาะเหมือนกัน ,หลี่ฟู่กับเขานั้นมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน

ตามจริงเขานั้นค่อนข้างสนิทกับหลี่ฟู่ , แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าหลี่ฟู่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ไม่ได้สนใจและเกือบจะลงมือทำร้ายฉื่อหยานแล้ว แต่โดยไม่คาดคิด ทันทีหลี่ฟู่กลับเคลื่อนไหว ,และปรากฏตัวออกมา เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าทำไมหลี่ฟู่ถึงปกป้องฉื่อหยาน

ภายใต้การจ้องมองของเฉินตั่ว ,หลี่ฟู่ก็ยิ่มออกมาพร้อมกับส่ายหัว ป้องมือทักทาย แต่ก็ไม่ได้คลายพลังของเขาที่กดดันเฉินตั่วอยู่

" บูม บูม บูม บูม "

ในตอนนั้นเอง เสียงดังทุ่มก็ดังสะท้อนอย่างต่อเนื่อง สี่นักรบของดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์ก็ถูกโจมตีด้วยก้อนหินอ่อนนับไม่ถ้วน เลือดก็ทะลักออกมาจากร่างของพวกเขา พวกเขาล้มลงบนพื้นดินและไม่ลุกขึ้นอีกทีละคน

ในกลุ่มนักรบทั้งสี่ , มีสามคนที่หัวแบะออก ส่วนอีกคนก็มีหลุมอยู่ที่ดวงตาของเขาเจาะเข้าไปในสมองของเขา พวกเขาทั้งหมดตกตายอย่างสมบูรณ์

หลังจากก้อนหินอ่อนร่วงหล่นลงบนพื้นดิน ฉื่อหยาน ก็ยังคงยืนอยู่อย่างเย็นชา เขาไม่ได้ลงมือทำอะไรต่อ หลังจากได้ฆ่านักรบคนแรกไปด้วยก้อนหินอ่อน ' พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การโจมตีที่รุนแรงครั้งล่าสุดดูราวกับว่ามันไม่ได้เป็นฝีมือของเขา

อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่อยู่รอบๆก็จ้องมาด้วยสายตาเย็นชาและไร้อารมณ์ พวกเขาได้เห็นนักรบทั้งสี่คนจากดินแดนจิตวิญญานสมบัติมหัศจรรย์ตายด้วยน้ำมือของเขา

กลิ่นอายพลังก็ค่อยๆลอยออกมาจากนักรบทั้งห้าเหล่านั้นแล้วค่อยๆไหลเข้าไปในรูขุมขนบนร่างกายของเขา พวกมันถูกดูดซับเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นไปไม่ได้เลยที่คนธรรมดาจะสัมพัสได้

ศพของนักรบทั้งห้าก็ค่อยๆกลายเป็นเหี่ยวย่นราวกับว่าพวกทุกสิ่งในร่างของพวกเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเลือดหรือของเหลวใดๆก็ตาม

หลี่ฟู่ก็ยิ้มออกมาแล้ว แล้วตะโกน " จัดการให้เรียบร้อยเร็วเข้า !

นักรบที่แต่งตายด้วยชุดของพรรคสามเทพก็ปรากฏออกมาจากมุมต่างๆทันที พวกเขาค่อยๆ อุ้มศพทั้งห้าทันที หลังจากหยิบกระเป๋าของนักรบที่ตายส่งให้เฉินตั่ว

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งห้าศพก็หายไป แม้แต่พื้นหินอ่อนที่แตกก็ถูกปูด้วยหินอ่อนใหม่อย่างรวดเร็ว

ฉื่อหยานมองหน้าของหลี่ฟู่อย่างเย็นชา

หลี่ฟู่รู้สึกกระอักกระอ่วน ภายใต้การจ้องมองของฉื่อหยาน เหงื่อก็ไหลท่วมออกมาจากแผ่นหลังของเขา

" ไปกันเถอะ " ตงฟางเหอ ดูเหมือนจะคิดอะไรออก สัญญาณให้เฉินตั่วที่กำลังบ้าคลั่ง เขากล่าวว่า " ดูเหมือนว่า พรรคสามเทพต้องการจะปกป้องเจ้าเด็กนี่ อย่าได้สร้างความวุ่นวายอีกเลย เราต้องได้พบมันอีกแน่ในภายหลัง "

เฉินตั่วกระแอมออกมาและเก็บแขนของเขาเข้าไป

ซุ่ยเยว่ลู่ว มองฉื่อหยานด้วยความงุนงงสุดขึ้น. ทั้งแปลกใจและสงสัย จากนั้นนางก็จากไปพร้อมกับทั้งสองคน

" เจ้ายังไปไม่ได้ " ฉื่อหยานพูดขึ้นอย่างกระทันหันด้วยน้ำเสียงที่ดูรุนแรง

สีผิวของ เฉินตั่ว ตงฟางเหอ และซุ่ยเยว่ลู่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

พวกเขาทั้งสามคนหยุด หันกลับมาด้วยสีหน้าเงียบขรึม ภายใต้สายตาของนักรบที่จ้องมาของนักรบที่อยู่รอบๆ

" เจ้าบัดซบ เจ้าอยากตายงั้นรึ ? " เฉินตั่วก็ยิ้มอย่างเย็นชา รอยยิ้มปกติได้หายไปจากใบหน้าของเขาอย่างสมบูรณ์

" ทำให้พวกมันเชื่อฟัง " ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขาและพยักหน้าส่งสัญญานให้อีเทียนโหมว

กระแสวิญญานที่เหมือนกับพายุที่รุนแรงท่ามกลางทะเลก็พุ่งออกมาจาก อีเทียนโหมว กระจายไปรอบๆและครอบคลุมห้วงจิตสำนึกของเฉินตัว ตงฟางเหอ และซุ่ยเยว่ลู่ว . ทันทีใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาช่วยไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว พวกเขามองไปที่อีเทียนโหมวด้วยความตกตะลึง

" ระดับพระเจ้า ! " พวกเขาสามคนก็ตระโกนออกมาพร้อมกัน

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของอีเทียนโหมวคือระดับใด

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด