ตอนที่แล้วบทที่ 295 ไม่ใช่เพราะเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 297 เกาะสุริยัน

บทที่ 296 เชลย


บทที่ 296 เชลย

กลิ่นอายธรรมชาติที่หนาแน่นเป็นเหมือนกับน้ำค้างยามเช้าจางๆที่ปกคลุมทั่วภูเขามังกรเหมัน

กลิ่อายธรรมชาติที่ลอยออยู่สามารถเห็นได้ด้วยเปล่า มันประทุขึ้นมาจากรอยแตกบนภูเขามังกรเหมัน มันรอยไปรอบๆและค่อยขยายวงกว้างออกไปและปกคลุมทั่วพื้นที่หนึ่งร้อยไมล์รอบๆภูเขามังกรเหมัน

กลิ่นอายธรรมชาติคล้ายริบบิ้นหยกสีขาวภายใต้ดวงอาทิตย์และส่องแสงจางๆออกมาบ้างครั้ง หลายคนจากเผ่าเสียงอสูรและเผ่าปีกพวกเขามองไปยังสิ่งอัศจรรย์รอบๆด้วยความปิติยินดี แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดสิ่งมหัศจรรย์และสวยงามเช่นนี้

พลังความเย็นก่อนหน้านี้ได้หายตัวไปเงียบๆ ถึงแม้ว่าบนยอดภูเขามังกรเหมันและรอบๆยังคงเ็ตมไปด้วยน้ำแข็ง แต่ก็ไม่มีพลังความเย็นหรืออากาศที่หนาวเย็นรั่วไหลลงมายังตีนเขาเลย

ดังนั้น เหล่าคนที่อพยพออกไปชั่วคราวจากตีนเขาเนื่องจากพลังความเย็นรั่วไหลมาจากบนยอดเขามังกรเหมัน

ทันทีที่พวกเขาก็มาถึง พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่าพื้นที่ตรงนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากพื้นดินที่สั่นสะเทือน ไม่เพียง แต่กลิ่นอายธรรมชาติเท่านั้นแต่รอบๆภูเขาทั้งหมดดูก็ล้วนเต็มไปด้วยพลัง

เนื่องจากกลิ่นอายธรรมชาติหนาแน่นเป็นอย่างมาก ต้นไม้จึงเริ่มที่จะเติบโตและเขียวขจีขึ้น ในกลุ่มพืชพรรณก็มีสมุนไพรหายากและไม่ซ้ำกันเติบโตเช่นกัน

ตี่ฉาน ยู่โหลว อีเทียนโหมว และ คนอื่น ๆก็รีบพยายามอย่างเต็มที่พื่อสร้ารูปแบบป้องกันมากมาย รูปแบบป้องกันที่ซับซ้อนมากมาก่อตัวขึ้นรอบๆเพื่อส่งเสริมกลิ่นอายธรรมชาติ ด้วยความช่วยเหลือของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์นี่จึงเป็นเรื่องง่ายเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งภูเขามังกรเหมันดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบป้องกันต่างๆ ทั้งใหญ่และขนาดเล็กรูปแบบเหล่านั้นหนาแน่นเหมือนกับดวงดาวบนท้อง ฉื่อหยาน ไม่รู้ว่าพวกเขาทำได้อย่างไร แต่เขาก็ตกใจกับจำนวนรูปแบบป้องกันเป็นอย่างมาก

งานชุมนุมที่พรรคสามเทพนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้ว วันนี้ ฉื่อหยานไปหา อีเทียนโหมวเพื่อถามถึงวิธีที่จะพาเขาไปยังพรรคสามเทพ

ระหว่างผู้นำของเผ่าปีกและเผ่าเสียงอสูร อีเทียนโหมวนับได้ว่ารวดเร็วที่สุด

เกาะมังกรเหมันเป็นหนึ่งในขุมพลังของพรรคสามเทพ จึงอยู่ไม่ไกลจากพรรคสามเทพนัก ถ้าอีเทียนโหมว จะพาเขา เขาก็อาจจะไปถึงพรรคสามเทพเร็วกว่าผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม เมื่อฉื่อหยานกำลังจะออกเดินทาง , เกาะมังกรเหมันก็มีแขกมาเยือน

ซุนหมิง ทูตแห่งแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ penglai .

เขาเคยได้ยินจากกู เชา และยูซินและทราบว่ากระทะเจ๋อถูกกักขังอยู่บนเกาะมังกรเหมัน เขามาเกาะด้วยเจตนาที่ดี และต้องการแลกเปลี่ยนเกาะสิบในท้องฟ้าทะเลสำหรับชีวิตของพานโจว

ทันทีที่เขามาถึงที่เกาะมังกรเหมัน เขาก็กลัวโดยหนาทึบท้องฟ้าและกลิ่นอายแผ่นดินมี

เมื่อเขาไปที่เท้าของภูเขามังกรเหมัน ดูร่า ซึ่งเป็นเหมือนจิตวิญญาณหนักช้าเอาน้ำและหมอกของออร่าที่คล้ายกับสีขาวริบบิ้นโฉบรอบ ซุนหมิงเป็นอย่างคลุมเครือกลัว

ซุนหมิงไม่เคยมาบนเกาะมังกรเหมันมาก่อน เขามักจะฝึกบ่มเพาะอยู่บนเกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์. จากสิ่งที่เขาเห็น แม้แต่เกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจเทียบได้กับเกาะมังกรเหมัน กลิ่นอายธรรมชาติที่ใช้ฝึกฝนและบ่มเพาะของเกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์หนาแน่นไม่เท่ากับเกาะแห่งนี้แม้แต่นิดเดียว

การค้นพบนี้ทำให้ซุนหมิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาส่งข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นและความต่างของเกาะนี้และเกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ออกไป .

เกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ตอนแรกก็ไม่เชื่อข้อมูลที่เขาบอก อย่างไรก็ตาม หลังจากซุนหมิงบอกรายระเอียดสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก

ดังนั้น เกาะเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ จึงตอบข้อความให้ซุนหมิงทำตัวให้มีมารยาทมากขึ้น อย่าได้ไปรบกวนผู้ปกครองเกาะ และบอกให้เขาพานโจวกลับมาทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ และอย่าได้สร้างความขัดแย้งใดๆกับผู้ปกครองเกาะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้ เกาะธรรมดาสองเกาะที่อยู่บนกระดาษในมือของซุนหมิงก็เปลี่ยนเป็นเกาะอื่น กลายเป็นเกาะที่มีทรัพยากรและแร่ธาตุพิเศษมากมาย

เมื่อฉื่อหยานเจอซุนหมิง ซุนหมิงก็โค้งศีรษะก้มลงต่ำมากราวกับว่าเขาเป็นหลานของฉื่อหยาน เขาทักทายฉื่อหยานกับท่าทางที่เป็นมิตร จนอาจจะเรียกได้ว่าประจบสอพลอ

รอยยิ้มมากมายยังคงอยู่บนใบหน้าขอ ซุนหมิง เขายื่นจดหมายที่เขียนชื่อเกาะไว้ออกไปเพื่อแลกกับตัวพานโจว

ฉื่อหยาน ก็ตกตะลึง เขามองซุนหมิงอย่างรอบคอบ หลังจากที่เขาไแน่ใจว่า ซุนหมิงไม่ได้มีเจตนาอื่นใด , ฉื่อหยาน พยักหน้าและตะโกนเรียกพานโจวที่อยู่ในบ้านหลังแรกไกลออกไป " มีคนมาแลกเปลี่ยนตัวเจ้าแล้ว "

พานโจวสีหน้าก็สับสร ; มุมปากของเขาสั่นเล็กน้อย สักพัก เขาก็ลุกขึ้นยืน อย่างว่าง่าย .

"ไว้มีโอกาส ค่อยพบกัน" ฉาวจื่อหลาน ยิ้มออกมาที่มุมปากของนาง นางสวมชุดกำมะหยี่ยาวสีขาวจั๊วะและหมวกขนนกหลากสีสัน นางยืนพิงหน้าต่างและโบกมือให้พานโจว " อย่าลืมบอกเขาให้ถอนรูปแบบวิญญานที่ฝังอยู่ในตัวเจ้าออกด้วย ถ้าอาจารย์ขอเจ้าพบมัน เขาจะตำหนิเจ้าว่าไร้ความสามารถได้ "

หน้าของพานโจวก็มืดมน เขารู้สึกไม่พอใจ และเขาก็มองไปที่ฉื่อหยานที่อยู่ไกลออกไปด้วยความต้องการฆ่า และไร้หัวใจ แต่เขาก็ไม่คิดจะแก้แค้นใดๆ

เขารู้ว่าถ้าเขามีความคิดที่จะแก้แค้น ฉื่อหยานก็จะทราบทันที บางที เขาอาจจะต้องพบเจอกับอันตรายอย่างหมดหนทางก็ได้

ถูกทรมาน ถูกทิ้งไว้ในกับพื้นดิน สิ่งเหล่านี้คือแผลเป็นที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต การเป็นผู้นำของดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต จะต้องมีปัญหาแน่หากเขาต้องเผชิญหน้ากับฉื่อหยาน เขาจะนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา

แผลเป็นที่ฉื่อหยานทำกับเขาลึกซึ้งตราตรึงลงไปในจิตใจของเขา ซึ่งมันไม่สามารถรักษาได้ในเวลาอันสั้น

สีหน้าของพานโจวก็เศร้าใจ เขาโค้งคำนับด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ ขณะที่ค่อยๆเดินออกไป

" เฮ้อ คนดีๆเช่นนี้ต้องถูกทำลายในมือของฉื่อหยาน " ฉาวจื่อหลาน นั้นสงสารเขาเป็นอย่างมาก นางส่ายหน้าออกมาพร้อมกับถอนหายใจและกล่าวว่า " ฉื่อหยานฝังความกลัวลึกลงไปในจิตใจของเขาและเป็นแผลลึกลงไปในหัวใจของเขา บางที เขาอาจจะไม่มีวันที่จะเอาชนะความกลัวนั้นได้ตลอดชั่วชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา บนเส้นทางแห่งการต่อสู้ จิตใจที่ขาดความเชื่อมั่น คือสิ่งที่อันตรายที่สุด เกรงว่าพานโจวต้องประสบกับมันแล้ว”

เหอซิงเหมินสีหน้าก็ตกใจ ตาของนางก็หลี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว นางมองไปยังพานโจวอย่างสับสนและจู่ๆก็พูดขึ้น" แล้วซูหยานซิงและกู่หลินหลงหละ ? "

" นั่นไม่เหมือนกัน " ฉาวจื่อหลานยิ้มอย่างสวยงาม ฟันขาวของเผยออกมาจากริมฝีปากสีแดงเงางาม นางกล่าวว่า " เขานั้นได้ล่วงละเมิดนางทั้งสอง เขาได้สัมผัสทุกส่วนทุกสถานที่บนร่างกายของพวกนาง และเขายังล้อเล่นกับความรู้สึกของพวกนาง และทำให้พวกนางหวาดกลัวผู้ชายไปตลอดชีวิต หึ เขาสมควรโดนหั่นเป็นพันๆชิ้นจริงๆ ”

เหอซิงเหมินก็ทึ่ง นางลังเลสักพักก่อนจะพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ " แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เคยล่วงละเมิดเจ้าเลยนะ ข้ารู้สึกว่า เจ้าอิจฉามากกว่าไม่พอใจเสียอีก . เจ้าโกรธเขาเพราะว่าเขาไม่ทำอะไรเจ้างั้นรึ ? ทำไมข้ารู้สึกว่า . . . . . . . "

แก้มของฉาวจื่อหลานก็กลายเป็นสีแดง ; ดวงตาที่สวยงามของนางแสดงความขวยเขินออกมา นางมองไปที่เหอซิงเหมิน ด้วยความโกรธและกล่าวว่า " ข้าได้ยินว่าเจ้า กับเซี่ยซินหยานเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก เจ้าเคยคิดบางไหมว่า วันหนึ่งเจ้าสองคนจะแย่งผู้ชายคนเดียวกัน มันน่าละอายเป็นอย่างมาก ? เจ้าคิดอย่างนั้นหรือไม่ ? "

เหอซิงเหมินร่างกายที่ทรงเสน่ห์ก็สั่นเล็กน้อยพร้อมกับแววตาที่เขินอายของนาง ขณะที่นางตระหนักถึงคำพูดที่เฉียบคมของฉาวจื่อหลาน นางก็เงียบทันที

" เจ้าจะปล่อยข้าไปเฉยๆงั้นรึ ? " อยู่ข้างล่าง พานโจวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาก็มองไปที่ฉื่อหยานและถามอย่างเย็นชา

ฉื่อหยานตบที่หน้าผาก ราวกับเขาเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วพูดว่า " ขอโทษด้วย ข้าลืมไป "

" ปั่ก ! "

เสียงเล็กๆเหมือนฟองสบู่แตกก็ดังออกมาจากหัวของพานโจว

หลังจากนั้น พานโจวทันทีรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาก็สะดวกสบายมากขึ้น ร่าวกับว่าบางสิ่งที่พันธนาการวิญญานเขาอยู่ได้หายไป เขารู้สึกสดชื่น และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นเล็กน้อย

" ดินแดนเพิ้งหลานศักดิ์สิทธิ์ ใจกว้างเป็นอย่างมาก ดีมาก ดียิ่งนัก . . . . . . " ใบหน้าของฉื่อหยานก็ดูสนุกสนาน จากนั้นเขาก็คิดสักพักก่อนที่จะถามซุนหมิง " ที่ทางเข้าเชื่อมต่อไปยังหุบเหวสนามรบ พวกเจ้าคงส่งคนไปยังหุบเหวสนามรบแล้ว สถานการณ์ปัจจุบันเป็นไงบ้าง ? ที่เทือเขาอสูรนภารอบๆมีอะไรผิดปกติหรือไม่ ? หรือเจ้าเคยเจอหยางมู่บ้างหรือคนอื่นบ้างหรือไม่ ? "

ซุนหมิงกราบตอบด้วยสีหน้าจริงจัง " ที่หุบเหวสนามรบยังเป็นเช่นเดิม ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือใครออกมา เราไม่พบสมาชิกตระกูลหยางในทะเลทั้งสองเลย สัตว์อสูรมากมายรอบๆเทือเขาอสูนนภาได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ;นอกจากนี้ยังมีสัตว์อสูรร้ายและอันตรายเป็นอย่างมากอยู่ที่นั่นด้วย ที่นั่นเป็นดินแดนของสัตว์อสูร , และเราไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้  เราจึงไม่แน่ใจนักว่าที่นั่นเป็นเช่นไร "

ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขาแล้วพยักหน้า หลังจากนั้น เขาเหวี่ยงมือของเขาและกล่าวว่า " เจ้าไปได้แล้ว . "

ซุนหมิงมองพานโจว

พานโจว สูดหายใจลึกๆ จ้องฉื่อหยานก่อนจะพูด " แล้วเจอกัน ! "

หลังจากพูดเสร็จ พานโจวก็พยักหน้ากับซุนหมิง ทั้งสองก็เดินไปที่ท่าเรือของเกาะมังกรเหมันด้วยกัน แล้วเขาก็จากไป

" เหอซิงเหมิน แล้วเจ้าจะเอายังไงต่อ ? เจ้าจะอยู่ที่นี่หรือจะกลับไปยังดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ " ฉื่อหยาน จับหัวของเขามองไปยังบ้านที่อยู่ไม่ไหล หลังจากเงียบไปสักพัก เขาก็ตะโกนถาม

เหอซิงเหมินใบหน้างดงามของนางก็เศร้าหมอง และเต็มไปด้วยความขมขื่น

" ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์กลายเป็นพวกเผ่าอสูรไปแล้ว ' จะเป็นอย่างไรถ้าข้ากลับไปที่นั่น ? ข้าไม่รู้เลยว่าเกาะเมฆาอัคคีเป็นอย่างไร เฮ้อ หวังว่า ตระกูลของข้าจะหลบหนีออกไปจากทะเลเคียร่าพ้นนะ”

" เจ้าจะอยู่ที่เกาะมังกรเหมันชั่วคราวรึ ? "

" อืม . . . "

ฉื่อหยานพยักหน้าครุ่นคิดสักพัก แล้วกล่าวว่า " ไม่เป็นไร แต่ข้าต้องไปที่พรรคสามเทพ ถ้าเจ้าสบายใจก็อยู่ที่นี่ได้ "

" เดี๋ยว ! " ฉาวจื่อหลาน ก็ตะโกนออกมาเล็กน้อย ร่างกายของนางเด้งขึ้นมาเป็ฯสปิง นางพุ่งออกมาจากบ้านและมาอยู่ตรงหน้า ฉื่อหยาน นางเผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และพูดว่า " ข้าขอไปด้วย "

" เจ้า ? " ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ แล้วส่ายหัวขณะพูด " ตระกูลฉาวยังไม่ได้เสนอข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลมา เจ้าจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เจ้าต้อเรียนรู้เหมือนดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาต้องการที่จะช่วยเหลือคนของเขา เขาก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ข้าชอบทัศนคติของผู้คนจากดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์นัก . รอจนกว่าตระกูลฉาวจะส่งคนมายื่นข้อเสนอที่ข้าสนใจ แล้วข้าจะบอกเองว่าเจ้าสมควรไปด้วยหรือไม่ "

" เหตุผลที่คนของตระกูลฉาวยังไม่มาที่นี่ ก็เพาะข้าห้ามพวกเขาไว้ . " ฉาวจื่อหลาน ยิ้มออกมา " ข้าต้องการอยู่ที่นี่เพื่อจับตาดูเจ้า และคิดหาวิธีที่เจ้าจะให้ความร่วมมือกับข้า นั่นคือเหตุผลที่ข้าส่งข้อความไปบอกพวกเขาว่า ไม่ต้องเป็นห่วงข้า อีกอย่าง ข้าก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเอง ตระกูลของข้าจะไม่ขัดขวางการตัดสินใจของข้า ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ส่งคนมาที่นี่

เขารู้ว่าฉาวจื่อหลาน นั้นมีสมบัติพิเศษ แต่เขาไม่ได้มีเจตนาห้ามฉาวจื่อหลาน ความจริงที่ว่า ฉาวจื่อหลาน ได้ติดต่อตระกูล นั่นก็อยู่ในการคาดการณ์ของเขาอยู่แล้ว

สิ่งเดียวที่แปลกคือทัศนคติของตระกูลฉาว

ตระกูลฉาวโฉเชื่อมั่นในตัวนางขนากนั้นเชียวรึ ?

" ข้าอนุญาตให้เจ้าไปด้วยในฐานะตัวแทนจากตระกูลฉาว " ฉื่อหยานคิดสักพักก่อนที่จะพูด

ฉาวจื่อหลานก็พยักหน้าเพื่อยืนยัน

" เยี่ยม ดีมาก เจ้ากับข้าจะไปพรรคสามเทพด้วยกัน”

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด