ตอนที่แล้วบทที่ 283 จุดสูงสุดของระดับปฐพี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 285 เผชิญหน้า

บทที่ 284 ผู้มาเยือน


บทที่ 284 ผู้มาเยือน

อีเทียนโหมว และสองคนก็นั่งบนพื้นด้วยใบหน้าจริงจัง แม้ว่าจะไม่มีพลังปราณลึกลับโคจรอยู่ในร่างกายของพวกเขา แต่หิมะที่อยู่รอบๆพวกเขาก็เริ่มละลาย ขณะเดียวกันจิตสำนึกวิญญาณก็เจาะลงไปในพื้นดินลึกและกระจายออกไปอย่างกว้างขวางในภูเขามังกรเหมัน

ร่างของคนเผ่าเสียงอสูรนั้นแตกต่างจากที่ของมนุษยชาติ พวกเขามีประกอบไปด้วยคุณสมบัติพลังหยิน โครงสร้างร่างกายของพวกเขาถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถใช้พลังวิญญานของตนได้สูงสุด

พวกเขาทั้งสามคนเป็นสามผู้นำของเผ่าเสียงอสูร ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิยญานของพวกเขาไปไกลกว่าฉื่อหยานมาก  ตี่ฉาน และ ยู่โหลว แม้จะมีระดับการบ่มเพาะที่ระดับพระเจ้า แต่ในด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญานยังห่างไกลจากผู้นำทั้งสามของเผ่าเสียงอสูรมาก

หากมีใครที่ใช้วิญญานต่อสู้กับพวกเขาโดยตรง เป็นไปได้ว่านักรบในทะเลเคียร่าทั้งหมด 80-90 เปอเซนต์ต้องแพ้ให้กับพวกเขาแน่นอน

ถึงแม้ร่างกานจะอ่อนแอ แต่ด้านวิญญานนั้น แม้แต่ ฉื่อหยาน ตี่ฉาน และ ยู่โหลวก็ไม่อาจเทียบได้ มีการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ รอบๆ ภูเขามังกรเหมัน ลึกลงไปภายในภูเขาทะลุไปยังตีนเขาพวกเขาสัมพัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่

บนภูเขามังกรเหมัน สามารถเห็นสัตว์อสูรระดับสี่และห้าน หรือแมลงหลบที่ซ่อนอยู่ลึกไปใต้ดินได้อย่างชัดเจน ตราบใดที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันก็จะส่งกลิ่นอายชีวิตออกมา .

เมื่ออี้เทียนโมและผู้นำอีกสองคนสัมพัสได้ถึงคลื่นนวิญญานที่ผันผวน พวกเขาก็สัมพัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตมากมาย ในตอนนี้ จิตสำนึกวิญญานของพวกเขากำลังเคลื่อนไหวไปทั่วภูเขามังกรเหมัน เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถสัมพัสถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ท่ามกลางความผันผวนของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน การค้นหาสิ่งๆหนึ่งที่มีคุณสมบัติเย็นและซ้อนอยู่ลึกลงไปนั้นจะต้องใช้พลังเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ด้วยจิตสำนึกวิญญานของเขาที่กว้างออกไป ความคิดของเขาก็สงบลง ฉื่อหยานรู้สึกถึงสิ่งเล็กๆมากมาย ความผันผวนนี้ขึ้นมาจากส่วนลึกภายใต้พื้นโลก ซึ่งเป็นเหมือนกับหัวใจของแผ่นดินรุ่งเรือง อย่างไรก็ตาม ความผันผวนนี้อยู่ไกลออกไปเป็นอย่างมาก เมื่อมันถูกส่งมายังเท้าของเขามันก็กลายเป็นบางเยา และ ยาก ที่ จะ รู้สึกได้ไปแล้ว

แต่เขาก็ยังคงสามารถสัมผัสมันได้

ดังนั้น สิ่งมหัศจรรย์นี้ที่ฉื่อหยานสัมพัสได้นั้นมันจึงคล้ายกันกับเสียงการเคลื่อนไหวของพื้นโลกที่ปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกของเขา นอกจากนี้ กลิ่นอายพลังปราณลึกลับในร่างกายของเขาจะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกว่าจุดสูงสุดของระดับปฐพีนั้นอยู่ไกลจากระดับรู้แจ้งนัก

แม้ว่าฉื่อหยานจะใช้เวลาสังเกตมานานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่พบหนทางก้าวผ่านไปเลย แต่เขาก็ยังไม่หมดหวัง เขามีเคล็ดการดูดซับพลังธรรมชาติจากท้องฟ้าและพื้นดินผ่านรอยสักดอกบัวทมัฬ รอยสักบนหน้าอกของเขาทำให้ความเร็วในการฝึกบ่มเพาะเร็วกว่าคนอื่นหลายเท่านัก หลังจากที่หลอมรวมกับกลิ่นอายวิญญานและการกลั่นเป็นพลังปราณลึกลับ มันค่อยๆไหลเข้าไปและกลายเป็นกลิ่นอายพลังปราณลึกลับที่อยู่ตรงท้องของเขา

โดยไม่ต้องเหนื่อยอะไร เขาใช้เวลาไม่นานเพื่อฝึกบ่มเพาะพลังปราณลึกลับ ทุกครั้งที่ระดับของเขาถูกยกขึ้น ปริมาณพลังปราณลึกลับที่ต้องใช้เองก็มากขึ้นเช่นกัน ในเวลานี้ เขาต้องฝึกบ่มเพาะอย่างหนักและต้องอดอทนพลังปราณลึกลับของเขาจึงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่กลิ่นอายธรรมชาติไหลเข้าไปในหน้าอกของเขา ฉื่อหยานอย่างเงียบๆ เขาก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของรอยสักดอกบัวทมัฬ ; จากนั้นเขาก็สังเกตุกลิ่นอายธรรมชาติที่ไหลเข้ามาในรอยสักอย่างรอบคอบ

" โอ้ ! "

ความรู้สึกแปลกประหลาดที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้นบรรอยสักบนหน้าอกของเขา กลิ่นอายธรรมชาติหนาแน่นที่อยู่รอบภูเขามังกรเหมันไหลรวมเข้ามายังรอยสักบนหน้าอกของเขา แล้วเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ กลิ่นอายที่สดชื่นที่เป็นเหมือนกัลงพลังความเย็นก็เริ่มปรากฏออกมาและไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา

หลังจากสัมผัสกลิ่นอายนี้อย่างระมัดระวัง เขาก็สามารถมองเห็นเส้นแสงต่างๆที่มีพลังความเย็นไหลอยู่ อย่างช้าๆมันก็หลอมรวมเข้ากับกลิ่นอายพลังปราณลึกลับบนหน้าท้องของเขา

พลังความเย็นนั้นไม่แข็งแกร่งเท่าของเปลวเหมันเยือกแข็ง แต่มันก็นับได้ว่าแข็งแกร่ง เมื่อมันไหลเข้าไปยังชีพจรของเขา ฉื่อหยานสัมพัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของพลังที่อยู่ภายในเส้นประสาทของเขาอย่างช้าๆ

" หวือหวือหวือ "

การสั่นสะเทือนแปลกประหลาดก็ออกมาจากร่างของฉื่อหยาน กลิ่นอายสดชื่นที่ซ่อนอยู่ภายในชีพจรของเขาก็เริ่มหลอมรวมกันทีละนิดและกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ

" !@#$%^& "

กลิ่นอายสดชื่นถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว หลอมรวมอัดแน่นกันเป็นหนึ่งเดียว และกลายเป็นหยดน้ำแข็งขนาดเล็กไหลไปทั่วทุกมุมในร่างของฉื่อหยานราวกับว่ามันกำลังหาอะไรบางอย่าง

สิ่งที่เหมือนกับมีจิตสำนึกนี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไหลไปมาในชีพจรของเขา

ฉื่อหยานจิตสำนึกวิญญานของเขาก็ตามมันไปอย่างใกล้ชิด มันเคลื่อนไหววนเวียนไปมาอยู่ภายในร่างกายของเขาไม่หยุด และค่อยๆ เข้าไปใกล้กับแหวนสายโลหิตทีละน้อย

" อะไรนะ ? "

ฉื่อหยานก็สะดุ้ง ทันทีเขาก็คิดบางอย่างออก ทันทีเขาก็ส่งข้อความไปหาเปลวเหมันเยือกแข็ง“มีกลิ่นอายที่คล้ายกับเจ้ากำลังไปยังแหวนอย่างรวดเร็ว เจ้าสัมพัสถึงมันได้หรือไม่ ?”

พลังความเย็นที่หนาวไปถึงกระดูกก็แผ่ออกมาจากแหวนสายโลหิต อย่างรวดเร็วนิ้วของเขาก็กลายเป็นผลึกน้ำแข็งที่ส่องประกายออกมาอย่างรวดเร็ว

หลานเส้นสายพลังความเย็นเล็กๆที่เป็นสีดำก็ส่องประกายขึ้นที่นิ้ว จากนั้นมันก็เคลื่อนไหวเล็กน้อยดูเหมือนมันกำลังหวาดกลัวบางสิ่งและเจ้าสิ่งนี้ก็หลบซ่อนตัวเองอย่างทันทีท่วงที

" ซูด "

เจ้าสิ่งนี้ ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายสดชื่นก็เปลี่ยนเป็นเส้นใยสีขาวเล็กๆและออกมาจากนิ้วของเขาทันที จากนั้นมันก็มุดกลับลงไปยังใต้ดินทันที

" ใต้พื้นดิน กำลังมีบางอย่างกำลังมุดลงไปใต้ดิน ตามมันไป !" ฉื่อหยานตะโกนออกมาในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย

อีเทียนโหมว คาป้า และ หยสเมิงที่นั่งอยู่ก็พลันลืมตาขึ้น และมองไปยังทิศทางที่ฉื่อหยานชี้นิ่วและพยักหน้าและปลดพลังวิญญานทั้งหมดออกมาเพื่อตามมันไป

" มันหลบหนีข้า ! . " เปลวเหมันเยือกแข็งภายในแหวนสายโลหิตก็หงุดหงิดเล็กน้อยและกลายเป็นเปลวไฟสีขาวที่หนาวไปถึงกระดูก“ข้าสัมพัสได้ถึงกลิ่นอายของมันและมันเองก็สัมพัสถึงข้าได้ด้วยเช่นกัน มันฉลาดมาก มันไม่พยายามหลบหนีข้าทันที มันกระจายกลิ่นอายของตัวเองออกเป็นหลายส่วน แล้วใช้ช่วงเวลาที่เจ้าดูดซับกลิ่นอายธรรมชาติแฝนเข้ามาในร่างของเจ้าอย่างเงียบๆและแผลงฤทธิ์ในร่างกายของเจ้าหลังจากที่มันเข้ามา ความสามารถด้านพลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย”

" กลิ่นอายสดชื่อนี่เป็นเหมือนกับงูน้ำ . . . . . . . "

ฉื่อหยาน พึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น เขาแอบคิดว่า " เป็นไปได้ไหวว่ามันคือ มังกรผลึกเหมัน ? ในตำนาน เกาะมังกรเหมันเคยเป็นที่อยู่ของมังกรผลึกเหมัน เจ้าสัมพัสได้ถึงกลิ่นอายสัตว์อสูรจากมันหรือไม่ ? "

" มังกรผลึกเหมัน . . . . . . . " เปลวเหมันเยือกแข็งก็รำพึงสักครู่ มันไม่ได้ตอบฉื่อหยานทันที“มันดูต่างออกไป มังกรผลึกเหมันเป็นสัตว์อสูรที่มีปัญญาต่ำ แม้ว่ามันจะมีระดับ 8 , ความสามารถในการใช้พลังของมันก็ไม่อาจเทียบเท่าเจ้าสิ่งนี้ได้ . . . บางทีมันอาจจะไม่ใช่มังกรผลึกเหมัน”

ฉื่อหยาน ไม่ได้พูดขัดความคิดเห็นของเปลวเหมันเยือกแข็ง เพราะเห็นได้ชัดว่าเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์อสูรไม่เท่าเปลวเหมันเยือกแข็ง เขามีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับมังกรผลึกเหมันผ่านตำนานที่ลินดาเล่าเท่านั้น ดังนั้น เขาจึงไม่อาจรู้ได้เท่ากับเปลวเหมันเยือกแข็ง

" ข้ารู้สึกว่า เจ้านั่นดูไม่เหมือนกับสัตว์อสูร เพราะสัตว์อสูรจะมีขนาดใหญ่กว่านี้ หากมีสัตว์อสูรภายในภูเขานี้จริงมันเป็นเรื่องง่ายที่จะค้นพบพวกมัน " เปลวเหมันเยือกแข็งคิดสักพัก แล้วพูดต่อว่า " เจ้าควรระวังตัวไว้ ถ้าเจ้านั้นสามารถใช้พลังความเย็นได้แข็งแกร่งเช่นนี้ แปลว่าพลังของมันต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ถ้ามันก้าวร้าวขึ้นมา อาจจะไม่ง่ายที่จะจัดการมัน . "

ฉื่อหยานพยักหน้าเงียบๆ

เมื่อฉื่อหยานและเปลวเหมันเยือกแข็งพูดคุยกัน อีเทียนโหมวและผู้นำอีกสองคน ก็ยังคงส่งจิตสำนึกวิญญานค้นหาลงไปอย่างต่อเนื่อง ฉื่อหยานมองไปที่พวกเขาอย่างเงียบ ๆและก็เห็นว่าทั้งสามคนต่างก็ขมวดคิ้วแน่นราวกับว่ากำลังเจอเรื่องลำบากอยู่

อีเทียนโหมวดวงตาก็ส่องประกายมืดมนออกมา

ฉื่อหยานถามขึ้นด้วยความกงัวล " ท่านพบอะไรไหม ? "

อีเทีนรโหมวพยักหน้า แต่แล้วก็ส่ายหน้า การกระทำเช่นนี้ทำให้ฉื่อหยานสับสน จากนั้นเขาก็กล่าวว่า " แน่นอนว่าข้าพบบางสิ่ง แต่มันไม่เกี่ยวกับเจ้าสิ่งที่มีกลิ่นอายสดชื่น ข้าสัมพัสได้ถึงนักรบระดับพระเจ้าบนเกาะมังกรเหมันแห่งนี้ "

" นักรบระดับพระเจ้า . . . . . . . " ฉื่อหยาน ก็พึมพำกับตัวเองเบาๆและยิ้ม " ตอนนี้แขกของเรามาแล้วสินะ เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วไปดูกันว่าแแขกของเราเป็นใครกัน "

หยาเมิงและคาป้าก็ดึงพลังจิตสำนึกวิญญานของพวกเขากลับมาหลังจากที่ได้ยินของฉื่อหยานพูดเช่นนั้น พวกเขามีสีหน้ามืดมนและท้อใจ .

" มันแปลกนัก แม้แต่วิญญานของพวกข้าสามคน ก็ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเจ้านั่นได้ มันช่างหลบซ่อยเก่งนัก แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่สัตว์อสูรที่มีปัญญาต่ำแน่ๆ " คาป้าพูดออกมาเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า " โชคดีที่เรายังอยู่บนเกาะนี้ต่อ ครั้งต่อไปข้าสามารถใช้คัมภีร์ลับได้ บางทีเราอาจจะพบอะไรบางอย่าง "

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ หยาเมิงและอีเทียนโหมวดวงตาก็สว่างขึ้น

ฉื่อหยานเมื่อสังเกตุเห็นถึงความมั่นใจของคาป้า เขาก็ไม่ได้พูดถึงมันและ เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม " ไปดูแขกของเรากันเถอะ "

ชายชราในชุดสีน้ำเงิน และหญิงชราคนหนึ่งก็กำลังเดินอยู่ด้วยกันบนอากาศที่ว่างเปล่าเหนือเกาะมังกรเหมัน ดูเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเดินลงบันไดมาสู่พื้นดิน

" นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้มายังเกาะมังกรเหมัน อ่า ดูเหมือนจะมีที่อยู่อาศัยมากมายถูกสร้างขึ้น และที่อยู่อาศัยเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็สามารถปิดกั้นการสังเกตุจากจิคสำนึกวิญญานด้วย มันค่อนข้างพิเศษจริงๆ "

ชายชราในเสื้อสีน้ำเงินพยักหน้าช้าๆ แล้วคุยกับหญิงชรา" เจ้าบอกข้าว่า เจ้าเศษเดนจากตระกูลหยางนี่มาจากหุบเหวสนามรบใช่หรือไม่ ?

" ราชาอสูรทั้งสองได้ยืนกรานว่าจักพรรดิหยางชิงตี้ตอนนี้อยู่ที่ดินแดนสี่อสูร " ใบหน้าของหญิงชราก็กลายเป็นโหดร้าย“ข้าได้ยินมาว่า ดินแดนสี่อสูรและช่องว่างของหุบเหวสนามรบนั้นเชื่อมต่อกัน นอกจากนี้ แม้ว่าพวกมันจะเชื่อมต่อกันและกัน จักพรรดิ์หยางชิงตี้ก็ไม่สามารถออกมาได้อยู่ดี เราไม่อาจรู้ได้เลยสินะว่าใครคือนักรบระดับสูงที่อยู่ระดับพระเจ้าบนเกาะมังกรเหมันตอนนี้ ?”

" ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้ ตระกูลหยางกลับก่อความวุ่นวายเสียได้ หึ ช่างน่าปวดหัวนัก "

ชายชราชุดสีฟ้าก็ยิ้มออกอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายหัว ประกายแสงที่เหมือนดาบเล็กๆส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา เขาคุยกับหญิงชนา " ถ้านี้จะทำให้เรามีปัญหามากขึ้น เราควรจะร่วมมือกับพวกเขาและรับมือเผ่าอสูร ท่านคิดอย่างไร ?

หญิงชราพูดด้วยสีหน้าจริงจัง " นอกจากท่านกับข้าแล้ว คนจากพรรคสามเทพเองก็จะมาถึงที่นี่ในอีกไม่ช้า ฉันได้ยินมาว่ามีไม่เพียงหนึ่งพระเจ้าอาณาจักรนักรบที่นี่เลย ข้าได้ยินมาว่าไม่ได้มีนักรบระดับพระเจ้าเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เราควรจะระมัดระวัง ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าจะมีนักรบระดับพระเจ้าอยู่ บางทีมันอาจเป็นเพียงภาพลวงตา ที่ทำให้คนของเราผิดพลาดและคิดว่ามีนักรบระดับพระเจ้ามากกว่าหนึ่งก็ได้”

" ข้าก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น . " ชายชราในชุดสีฟ้าก็ยิ้มและพูดขึ้น

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด