ตอนที่แล้วบทที่ 279 ถอนราก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 281 ฟังการเคลื่อนไหวของโลก

บทที่ 280 เข้าเฝ้าจักพรรดิ์


บทที่ 280 เข้าเฝ้าจักพรรดิ์

เกาะวายุเมฆาตั้งอยู่ระหว่างกลางของสองขุมพลังตระกูลกู่ และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลกู่อยู่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของทะเลเหิงลั่ว ดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ อยู่ทางตะวันออกของทะเลทมิฒ และเกาะวายุเมฆาก็อยู่ระหว่างสองทะเล ซึ่งมักจะถูกปล้นโดยโจรสลัด มาเป็นเวลานาน

เพราะกลิ่นอายธรรมชาติและวิญญานที่อยู่รอบๆเกาะวายุเมฆาค่อนข้างเจือจาง มันยากที่จะหานักรบระดับสูงในกลุ่มคนธรรมดาที่อยู่ที่นี่ได้ นักรบที่มีพื้นฐานหรือพรสวรรค์จะไม่สามารถพบได้ ; พวกเขาเลือกไปที่จะยังเกาะอื่นซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ หรือตระกูลกู่แทน

ในทางตรงกันข้าม โจรสลัดมักเดินทางผ่านทะเลที่กว้างใหญ่นี้ หลังจากเสร็จสิ้นการปล้นสะดมในทะเลใด พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะปรากฎตัวที่นั่นอีก พวกเขาจะหยุดชั่วคราวและซ่อนตัวอยู๋ที่เกาะอื่น เพราะเหตุผลหนึ่งคือ พวกเขาต้องแบ่งสิ่งของกัน อีกเหตุผลก็คือพวกเขาต้องรอจนกระทั่งทุกอย่างสงบลงก่อน พวกเขาจึงจะจากไป

หลังจากตระกูลเซี่ยออกจากทะเลเคียร่า พวกเขาก็ได้ใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อพาคนในตระกูลมาอยู่ที่เกาะวายุเมฆา

เกาะเล็กๆแห่งนี้ที่มีเพียงโจรสลัดผ่านไปมาในตอนนี้กลายเป็นที่พักพิงของตระกูลเซี่ย .เป็นเรื่องง่ายมาก ที่ตระกูลเซี่ยจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสบาย

ก่อนหน้านี้ ตระกูลเซี่ยได้พึ่งพาตระกูลหยางเพื่อมีชีวิตรอดในทะเคียร่าเพราะอำนาจที่แข็งแกร่งของตระกูลหยาง ทำให้ตระกูลเซี่ยต้องกลายเป็นศัตรูกับขุมกำลังอื่นอีกมากมาย

เมื่อตระกูลหยางเสื่อมโทรมลง ตระกูลเซี่ยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน พวกเขาถูกกดขี่จากดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น อำนาจของพวกเขาจึงอ่อนแอลง

เมื่อเผ่าอสูรบุกมาที่ตระกูลเซี่ย อย่างรวดเร็วพวกเขาก็หลีกเลี่ยงและหลบหนีออกจากทะเลเคียร่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทะเลเหิงลั่วหรือทะเลทมิฒ ทั้งหมดต่างก็เป็นศัตรูของตระกูลเซี่ย.

ถ้าตระกูลเซี่ยคิดที่จะเสี่ยงและเข้าไปยังพื้นที่เหลานั้น พวกเขาอาจจะทำให้อีกฝ่ายระคายเคืองได้ ดังนั้นตระกูลเซี่ยจึงไม่กล้าที่จะเสี่ยงเข้าไปด้วยเพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกมาอยู่ที่เกาะวายุเมฆา

อย่างไรก็ตาม นักรบของตระกูลกู่ ตระกูลตงฟาง และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ก็มักจะมาที่เกาะวายุเมฆาเพื่อ ก่อกวนยั่วยุและกระตุ้นตระกูลเซี่ยอยู่เสมอ . ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขากำลังพบเจอกับปัญหาใหญ่เรี่องเผ่าอสูรบุกมา บางทีพวกเขาอาจจะทำลายตระกูลเซี่ยไปแล้ว

เซี่ยเสินชวน กังวลเป็นอย่างมาก . ใบหน้าของเขาดูเศร้าหมองและผิดหวัง เขาขมวดคิ้วตลอดเวลา และ ถอนหายใจทั้งวัน

" นายท่าน คนจากตระกูลกู่และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์มาอีกแล้ว ครั้งนี้เราควรจะไปเจรจากับพวกเขาดีหรือไม่ ? ท่านก็เห็นการหลบซ่อนไม่ใช่ทางออกที่ดี คนของเราเริ่มใจร้อน ในสถานที่แบบนี้ แม้แต่โจรสลัดก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ มันไม่เหมาะกับการฝึกบ่มเพาะเลย "

บนเนินเขาที่ว่างเปล่า โจวยี่ เป็นนักรบระดับนภาของตระกูลเซี่ยงร่างของเขาก้มอยู่และพูดแนะนำนายท่านของเขาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

บนเนินเขาว่างเปล่าสูงสองร้อยเมตร ไม่มีสมุนไพร ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกบ่มเพาะเลย หรือแม้แต่สัตว์อสูรเองก็ไม่มี; กลิ่นอายธรรมชาติก็แสนจะเจือจาง มันไม่น่าจะเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการฝึกบ่มเพาะแม้แต่นิดเดียว

มีเนินเขาที่ว่างเปล่าเช่นนี้อยู่ 10 เนินรอบๆ ที่นี่ไม่มีทรัพยากรที่มีประโยชน์ หรือสามารถใช้ประโยชน์ได้่เลย

มีเพียงสัตว์อสูรระดับต่ำเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในป่ารอบๆ ๆ พวกเขาไม่สามารถฝึกบ่มเพาะใดๆได้แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าสัตว์อสูรเหล่านั้นทั้งหมด

คนของตระกูลเซี่ยอาศัยอยู่ในถ้ำเนินเขารอบๆเนินเขาที่่ว่างเปล่าเหล่านี้ บางคนก็เลือกำพเนจรในป่า

พวกเขาเคยเป็นหนึ่งในขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของทะเลเคียร่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ตระกูลเซี่ยตอนนี้กลายเป็นแร้งแค้งเป็นอย่างมากและพวกเขาก็รู้สึกอับอายเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อพวกเขาได้มีช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของพวกเขา หลายคนของตระกูลเซี่ย คุ้นเคยกับชีวิตที่สะดวกสบายทั้งชีวิตของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป พวกเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่น่าสมเพช บนเกาะนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาจำนวนมากจึงต้องการจะจากไป

ตระกูลกู่และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์เพิ่งจะส่งข้อความมาที่ตระกูลเซี่ย . ว่าพวกเขาตลอดเวลาที่ผ่านมาต้องการจะเป็นพันธมิตรด้วย ด้วยงานแต่งงานของเซี่ยซินหยาน ของตระกูลเซี่ย และกู่ยี่ของตระกูลกู่ และฟงไห่แห่งดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าตระกูลเซี่ยตกลง ตระกูลกู่และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ทันทีก็จะยกใเกาะบางส่วนที่มีกลิ่นอายธรรมชาติและกลิ่นอายวิญญาณที่หนาแน่นให้ตระกูลเซี่ยอาศัยอยู่

ข้อเสนอของตระกูลกู่ และดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ อย่างรวดเร็วก็ทำให้หลายคนของตระกูลเซี่ยที่อยู่บนเกาะวายุเมฆากลายเป็นตื่นเต้น พวกเขาทนชีวิตที่อนาถบนเกาะวายุเมฆไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พวกเขาจึงไปอ้อนวอน เซี่ยเสินชวน ให้เห็นด้วยกับอีกสองขุมพลังเพื่อแลกความสุขของเซี่ยซินหยานทั้งชีวิตกับความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตของพวกเขา

" เจ้าพวกสวะ ! " เซี่ยเสินชวน กระแอมออกมา . แน่นอนว่าเขาเองก็ได้รู้ข้อเสนอนี้เช่นกันและรู้ด้วยว่าคนในตระกูลของเขากำลังคิดอะไรที่น่ารังเกียจอยู่

" อย่าให้พวกมันหลอกเจ้าได้ ตอนนี้สถานการณ์ในทะเลเคียร่ายังไม่แน่นอน หากตระกูลกู่หรือดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ได้พวกเราทั้งหมดไว้ในกำมือด้วยการจัดงานแต่งงานปลอมๆ พวกมันก็จะใช่ตระกูลเซี่ยเป็นโล่ให้กับพวกมัน

โจวยี่พยักหน้า " เราสามารถมองข้ามได้ แต่คนของเราดูเหมือนจะไม่เห็นด้วย เมื่อพวกเขาอยู่ที่ทะเลเคียร่า พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่เมื่อพวกเขาได้ย้ายมาอยู่เกาะวายุเมฆา , แน่นอนว่าพวกเขามิอาจปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตได้ ข้าเกรงว่าหลังจากนี้ไม่นานพวกเขาอาจจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ ถ้าเป็นแบบนั้น . . . . . . . "

สีหน้าของเซี่ยเสินชวนก็เปลี่ยนไป” เช่นนั้นรึ ?

โจวยี่ฝืนยิ้มและค่อยๆพยักหน้า

ใบหน้าของเซี่ยเสินชวน ก็เศร้าหมอง ในสายตาของเขาก็กลายเป็นรุนแรง“จับตาดูพวกเขาไว้ ถ้าพวกเขาไม่ทำตามคำสั่ง ก็ฆ่าพวกเขาแค่หนึ่งหรือสองของพวกเขาเพื่อขู่คนที่เหลือพอ นี่ก็เพื่อเตือนให้พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของข้า .”

ร่างของโจวยี่ก็สั่นสะท้าน เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ " นายท่าน ถ้าเราฆ่าคนของเราเอง สถานการณ์อาจจะแย่กว่านี้ก็เป็นได้ "

" อย่าได้กังวลมากไป . . . " ใบหน้าของเซี่ยเสินชวน ก็กลายเป็นเย็นยะเยือกมากขึ้นในขณะที่พูด . " สถานการณ์ของทะเลเคียร่าซับซ้อนเป็นอย่างมากมากตอนนี้ ถึงแม้ทะเลิงเหิงลั่วหรือทะเลทมิฬจะปลอดภัยอยู่ แต่เมื่อใดที่เผ่าอสูรลงมือ ข้าเชื่อว่าพวกเขาก็แทบไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แม้แต่ริดเดียว มีหรือที่พวกเขาจะปกป้องเรา ดังนั้น ถ้าตระกูลของเราตกลงที่จะคบหากับพวกเขา เราก็จะกลายเป็นโล่มนุษย์เพื่อให้พวกเขารอดจากคมเขี้ยวของเผ่าอสูร"

โจวยี่คิดสักพัก แล้วค่อยๆพยักหน้า

ตระกูลกู่ ที่ยอดภูเขาพันดาบ

ดาบจำนวนมากพุ่งไปทั่วอยู่บนยอดเขา . ภายใต้แสงแดด ดาบนั้นเป็นประกายสะท้อนสีรุ้งที่มีสีสันสดใส

นับไม่ถ้วนออกมาจากดาบจำนวนมากซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับทะเลดาบ ท่ามกลางดาบเหล่านี่นบางเล่มก็จิตสำนึก บางครั้งมันก็ส่งเสียงออกมา

ที่ยอดเขาพันดาบแห่งนี้นับได้ว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลกู่ ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติซึ่งพลังธรรมชาติเหล่านี้ได้หล่อเลี้ยงดาบเหล่านี้ ทำให้ดาบระดับสูงเหล่านี้เต็มไปด้วยพลังธรรมชาติ ดังนั้นดาบที่อยู่บนยอดสุดของภูเขาพันดาบจึงสามารถทนต่อลมต่อฝนและต่อแสงแดดได้

หลังจากหล่อหลอมดาบเหล่านั้นเป็นเวลาเนินนาน ดาบก็จะมีจิตสำนึก

มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก ไม่มีใครรู้ว่าทำไมที่ยอดเขาภูเขาพันดายถึงได้มีความสามารถเช่นนี้ หลังจากได้ครอบครองภูเขาพันดาบนี่ ตระกูลกู่ทันที ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทะเล

ภูเขาพันดายถือได้ว่าเป็นรากฐานของตระกูลกู่

ชายชราในเสื้อสีน้ำเงิน นั่งอยู่ตรงปลายดาบแหลมคมด้วยใบหน้าที่ผอมแห้ง ท่ามกลางประกายแสงจากดาบนับพัน สีหน้าของเขานิ่งราวกับว่าเขากำลังตั้งใจหลอมรวมกลิ่นอายดาบและฝึกเคล็ดวิชาลับบางอย่าง จิตวิญญานดาบที่หลอมรวมกันก็กระพริบและลอยออกมานอกกร่างกายของเขาอย่างลึกลับ

" วุช"

นักรบอ้วนขี่ดาบสีเงินยาวสามจี่[1 จี่ = 33.33 เซนติเมตร]ผ่านลมมาด้วยความรวดเร็ว จนเกิดเป็นเสียงลมบาดหูปกคลุมยอดทั่วภูเขาพันดาบ

" ต้าเกอ [ ต้าเกอใช้เรียกคนที่แก่กว่า ] " กู๋จี่ ก็เขย่งปลายเท้าบนดาบสีเงิน และเขาก็ล่อนลงอยู่หลังชายชราในชุดสำน้ำเงินด้วยความสุภาพ และพูดด้วยเสียงต่ำ " ฮั่วเมิงถูกจับตัวไปขณะที่เขาเดินทางไปพรรคสามเทพ เสี่ยวหลินหลงเองก็ถูกจับอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน . . . . . . . "

คิ้วของชายชราในชุดสีน้ำเงินก็ขมวดเสื้อของเขาสะบัด แต่สายตาของเขาก็ยังคงปิดอยูา เขาพูดอย่างไม่แยแส " หลิงหลงไปยังหุบเหวสนามรบ นางอยู่ที่นั่นได้อย่างไร ? นอกจากนี้ ใครกันที่จับฮั่วเมิงได้ เผ่าอสูรลงมือแล้วรึ ? "

" ไม่ขอรับ ฮั่วเมิงส่งข่าวมาบอกว่า นี่เป็น . . . . . . . เป็นฝีมือของคนจากตระกูลหยางที่กลับมาแล้ว " กู๋จี่ ก็พูด

" คนจากตระกูลหยางรึ ?" ชายชราก็อุทานออกมาเล็กน้อยและในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาลึกซึ้งและสงบนิ่งเหมือนน้ำอย่างสมบูรณ์

" มีคนจากตระกูลหยางอยู่ที่ทะเลเหิ่งลั่วด้วยรึ ? ฮั่วเมิงอยู่ในนภาที่สองระดับนภา ดังนั้น คนจากตระกูลหยางที่สามารถจับฮั่วเมิง สมควรต้องมีชื่อเสียงโดดเด่น เขาคือใครกัน ? "

ท่านต้องไม่เคยพบเขามาก่อนแน่นอน กู๋จี่ส่ายหัวแล้วพูดว่า " ฮั่วเมิง ส่งข้อความมา บอกว่าคนๆนั้นมาจากหุบเหวสนามรบ คนๆนั้นบอกว่าถ้าท่านการคนของท่านกลับไป ท่านต้องไปที่นั่นด้วยตนเอง "

" เขาบอกให้ข้าไปที่นั่นรึ ? "ชายชรากระแอมออกมา “จักพรรดิ์หยางชิงตี้งั้นรึ  ?”

" ไม่ใช่ จักพรรดิ์หยางชิงตี้ ขอรับ แต่ฮั่วเมิง . . . . . . . บอกว่าเป็นนักรบระดับพระเจ้า”

" นักรบระดับพระเจ้า ?

" ขอรับ เขาบอกว่าไม่ได้มีเพียงคนเดียวด้วย "

" ไม่ได้มีคนเดียว ?" ดวงตาของชราก็ปลดปล่อยกลิ่นอายดาบออกมามากมาย เกิดระเบิดขึ้นเจ็ดครั้งติดต่อกัน จนเกิดเสียงดังออกมาจากยอดเขา ซึ่งภูเขาที่อยู่ตรงข้ามกับภูเขาพันดาบ ก้อนหินลาวามากมายบนยอดเขาก็ถูกบดกลายเป็นขี้เถ้า ที่ยอดภูเขาเกิดการสั่นสะเทือนดตลอดเวลาราวกับว่ามันกำลังจะพังทลายลงอีกไม่นาน

กู๋จี่ก็ลดหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรต่อไปอีก

" ข้าต้องไปที่นั่นจริงๆสินะ "

กู่ฉาว หัวหน้าของตระกูลกู่ก็ ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะกระโจนขึ้น ไปยังดาบมากมายที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นทะเลดาบที่อบู่รอบๆพวกมันก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาแล้วหายเข้าไปในร่างของเขา

ในเวลาเดียวกัน

ที่ดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ จักพรรดิ์นีของดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์เองก็ได้รับยังเป็นข้อมูลเช่นเดียวกัน หลังจากประหลาดใจสักพัก นางก็มุ่งตรงไปยังเกาะมังกรเหมันจากดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์

ก่อนที่จะไปเกาะมังกรเหมัน กูฉาว และจักพรรดิ์นีของดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ส่งข้อมูลให้กับพรรคสามเทพรู้

หลังจากนั้นไม่นาน ขุมพลังทั้งหมดของพรรคสามเทพก็ได้รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันบนเกาะมังกรเหมัน

เหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นบนเกาะมังกรเหมันได้รับการถ่ายทอดออกไปทั่วทั้งทะเลเหิงลั่ว

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

เกาะมังกรเหมัน

ภายใต้คำแนะนำของตี่ฉาน ยู่โหลว หยาเมิง อีเทียนโหมว ผู้คนของเผ่าเสียงอสูรและเผ่าปีกได้อย่างรวดเร็วก็ได้กระจายกันไปรอบๆพื้นที่ของตระกูลเคอเล่อ . พวกเขาเริ่มตั้งรกรากและที่พักพิงขึ้นทีละชั้น และพื้นที่แห่งนี้ก็กลายเป็นที่หวงห้าม

ในเวลาอันสั้น ด้านข้างภูเขามังกรเหมันก็ถูกขุดกลายเป็นถ้ำ

คนจากเผ่าเสียงอสูรนั้นต้องการพื้นที่ที่เย็นและมีพลังหยิน พวกเขาจึงจุดถ้ำเข้าไปและฝึกบ่มเพาะภายในนั้น

ส่วนคนจากเผ่าปีกพวกเขาก็ได้ตัดต้นไม้มาสร้างบ้าน และทำกิจกรรมร่วมกันจนเกิดเป็นเสียงคุยกันไปทั่ว และเกาะมังกรเหมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย

" หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าต้องการจะทำอะไรกัน ?" ที่ด้านข้าง มีทะเลสาบเทียมของตระกูลเคอเล่ออยู่ กู่หลินหลงจ้องฉื่อหยานอย่างดุร้าย ." เผ่าอสูรที่อยู่ในทะเลเคียร่าต้องการจะทำอะไรกัน ? . ทะเลทุกแห่งตอนนี้ล้วนอันตราย เจ้าควรปล่อยเราไปและร่วมมือกับเราจัดการกับเผ่าอสูร . ทำไมเจ้าถึงยังทำกับเราเช่นนี้อยู่ ? "

" ร่วมมือกับเจ้า?" ฉื่อหยานยิ้มชั่วร้าย “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเจ้า เผ่าอสูรจะบุกมาได้งั้นรึ ? เจ้าคิดว่าเพียงเพราะมีเผ่าอสูรบุกมา แล้วข้าจะแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ ? การร่วมมือกับพวกเจ้าเพื่อรับมือกับเผ่าอสูร ถือว่าเป็นเรื่องไร้สารถที่สุด !”

" แล้ว . . . . . . . เจ้าต้องการอะไรกันหละ ?" กู่หลินหลงรู้สึกหนาวเย็นในหัวใจ และแอบรู้สึกไม่มั่นคง .

" เด๋วเจ้าก็รู้เร็วๆนี้ " ฉื่อหยานตอบอย่างใจเย็น

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด