ตอนที่แล้วบทที่ 239 ภูเขาเสียงอสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 241 มนุษย์วิหค

บทที่ 240 ทุกอย่างย่อมมีสิ่งที่แพ้ทาง


บทที่ 240  ทุกอย่างย่อมมีสิ่งที่แพ้ทาง

ร่างที่ผอมแห้งพุ่งมาพร้อมกับกลุ่มก้อนพลังหยินสีเทา อย่างรวดเร็วมันก็กระจายไปรอบๆ มีกลิ่นอายพลังหยินล้อมรอบฉื่อหยานและอีฉู่ปี่อย่างแน่นหนา

ภายในพลังหยินที่คลุมเคลือ ร่างผอมยาวมากมายเริ่มปรากฏมากขึ้นและชัดเจนมากขึ้น พวกมันเหล่านี้เป็นสัตว์อสูรที่พิเศษ ใบหน้าของมันเหมือนกับเด็กทารกที่มี่สีผิวซีดเซียวดูมืดมน ปากของมันเต็มไปด้วยเขี้ยว

สัตว์อสูรนี้สูงสามเมตรมีร่างกายที่ผอมแห้ง ใบหน้าขาวซีดเหมือนกับทารก และมีเขี้วยาวมากมายอยู่ในปากดูน่าหวาดกลั่ว

ร่างของอสูรทารกมีกลิ่นอายพลังหยินที่แข็งแกร่งลอยออกมา วิญญานของสิ่งมีชีวิตนี้พิเศษเป็นอย่างยิ่ง ในสมองของพวกมัน ดูเหมือนจะมีชั้นเนื้อพิเศษที่มีไว้เพื่อป้องกันการโจมตีทางวิญญาน

การเคลื่อนไหวของพวกมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพียงขยับเล็กน้อย พวกมันก็ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าห่างสี่ร้อยเมตร

ในตอนนี้เอง สามอสูรทารกก็ปรากฏตัวขึ้นและระเบิดพลังออกมาพร้อมกับเข้ามาใกล้ฉื่อหยานและอีฉู่ปี่ที่อยู่ด้านล่างเรื่อยๆ

ระดับวิญญาณของอีฉู่ปี่อาจจะเทียบได้เท่ากับนักรบระดับนภา แต่เมื่อเผชิญกับอสูรทารก มันก็ยากที่จะโจมตีวิญญานของมัน จากนั้นนางก็คว้าฉื่อหยาน และรีบพุ่งออกไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที

" เราหนีไม่พ้นแน่นอน ความเร็วของเจ้าเห็นได้ชัดว่ารวเร็ว แต่ก็ไม่เร็วเท่าเจ้าพวกสัตว์อสูรประหลาดนั่น . " ฉื่อหยานยืนปล่อยตัวเฉยๆ เขานั้นใจเย็นเป็นอย่างมาก . ตามคำพูดของเขา แม้ว่าพวกอสูรทารกจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็ยังคงมีจุดอ่อนของตนเอง พลังหยินที่หนาวเย็นในร่างกายของพวกมันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พลังชีวิตของพวกมันแข็งแกร่งมาก แต่สูงสุดพวกมันก็มีเพียงระดับห้าและหกเท่านั้น มันเทียบได้กับนักรบมนุษย์ระดับปฐพีและระดับรู้แจ้ง

และด้วยระดับของฉื่อหยานตอนนี้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวแม้แต่นิดเดียว

" ฮืออออ... ”

สามอสูรทารกร้องออกมาเหมือนกับเสียงเด็กร้องไห้ เขี้ยวสีขาวของพวกมันได้ได้แยกออกมาอ และสักครู่ ก็มีเส้นสายที่เหมือนกับเลือดสีแดงไหลออกมาจากมุมปาก มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก .

" อสูรทารกนั้นไม่เกรงกลัวพวกเราเผ่าเสียงอสูร . พวกมันถือได้ว่าเป็นศัตรูของพวกเรา เมื่อพวกมันปรากฏออกมา , พวกเราจะทำเพียงซ่อนอยู่ภายในเมืองโบราณเท่านั้น " ใบหน้าของอีฉู่ปี่กลายเป็นซีดเซียวมากขึ้น

ในเวลานี้ สามอสูรทารกเข้ามาใกล้กับฉื่อหยาน โดยอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก พวกมันดูเหมือนไม่พอใจ และล้อมรอบอีฉู่ปี่และฉื่อหยานเป็นรูปสามเหลี่ยม

อสูรทารกบินไปรอบ ๆ ตามเส้นทางที่มันบินเกิดเป็นหมอกควันขึ้น ความเร็วของพวกมันนั้นเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่สายตาของฉื่อหยานก็ไม่สามารถเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจน เขาเพียงแค่อาศัยห้วงจิตสำนึกในการรับรู้ถึงพวกมันเท่านั้น

เพราะสามอสูรทารกรู้สึกได้ถึงพลังไฟที่รุนแรงในร่างของฉื่อหยาน พวกมันจึงทำเพียงแค่ล้อมเขาไว้ แต่ไม่กล้าโจมตีเขาทันที พวกมันอยู่เหนือหัวฉื่อหยานและอีฉู่ปี่เหมือนกับกำลังรอบางสิ่งบางอย่าง

อีฉู่ปี่หวาดกลัวเป็นอย่างมาก ด้วยดวงตาสีครามสดของสามอสูรทารกที่จ้องมองมาที่พวกเขา ใบหน้าที่งดงามจึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แตกต่างจากเมื่อตอนที่นางเจอกับฉื่อหยานก่อนหน้านี้มาก ดูเหมือนนางจะหวาดกลัวจริงๆ

" ไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าลืมไปแล้วรึ ว่าทำไมเราถึงมาที่นี่กัน ? สามอสูรทารกเหล่านี้ต่างก็อยู่ในระดับห้า ถึงแม้เผ่าเสียงอสูรของเจ้าจะไม่สามารถเอาชนะมันได้ แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับข้าที่จะจัดการมัน . " ฉื่อหยานมองไปอย่างเย็นชา เขาเผชิญหน้ากับสามอสูรทารกโดยไม่หวาดกลัว

" มากับข้า ! " .

" ฮือออ…. " สามอสูรทารกเอาแต่กรีดร้องคร่ำครวญออกมา . ตอนนั้นเองจากถ้ำแห่งหนึ่งในภูเขาเสียงอสูรซึ่งไมไกลจากที่นี่ ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นเป็นครั้งคร่าว

" พวกมันกำลังเรียกสัตว์อสูรเสียง ! " อีฉู่ปี่รู้สึกได้ถึงอันตราย " ผนึกที่อยู่รอบภูเขาดูเหมือนจะอ่อนแอลง ข้ารู้สึกได้ว่ากำลังจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น เราต้องกลับไปที่เมืองโบราณเดี๋ยวนี้ ! ที่นั่นมีม่านอาขมที่สามารถป้องกันสัตว์อสูรเสียงและผู้บุกรุกได้.

" ข้าต้องการทำตามข้อตกลงของเราให้เสร็จก่อนจะจากไป " ฉื่อหยานขมวดคิ้ว . " พวกมันนั้นไม่สามารถทำอะไรวิญญานของข้าได้ ตอนนี้ ข้าจะสู้กับพวกมัน "

เมื่อพูดเสร็จ ฉื่อหยานทันทีก็ส่งจิตสำนึกเข้าไปหาแกนเพลิงในแหวนสายโลหิต

คลื่นพลังไฟแพร่กระจายอย่างรวดเร็วออกมาจากแหวนสายโลหิต จากนั้นก็ไหลเข้าไปในร่างกายของ ฉื่อหยานในพริบตา หลังจากนั้นร่างของฉื่อหยานก็ลุกโชนเป็นสีแดง ; ร่างกายเกิดประกายไฟลุกขึ้นมา

แกนเพลิงที่ดูดซับพลังแสงอาทิตย์มาจากตะวันกลั่นวิญญาน เปลวไฟของมันก็เปลี่ยนแปลงไป สติปัญญาของมันได้เพิ่มขึ้นพร้อมกับพลังไฟของมันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ตามที่ฉื่อหยานคิด พลังของมันนั้นเกือบจะเทียบเท่าได้กับพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็ง

เมื่อมีเปลวไฟนภาลุกโชนออกมา ร่างของฉื่อหยานก็เปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์ เขานั้นสามารถรับพลังไฟจากแกนเพลิงได้มากกว่าเดิม คลื่นพลังไฟจากแกนเพลิงได้ซึมซับเข้าไปในทุกเส้นประสาทและเส้นเลือดของเขา ฉื่อหยานรู้สึกอบอุ่นและไร้ซึ่งความเจ็บปวด มันต่างออกจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก

เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

"หวีดดดดดดดดด……..." สามอสูรทารกก็กรีดร้องเสียงแหลมแปลกประหลาดออกมา เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโชน ดวงตาสีฟ้าสดของอสูรทารกทั้งสามดูหวาดกลัว และพวกมันก็พยายามที่จะหลบหนี

" จะไปไหน ! " ฉื่อหยานตะโกนออกมา วิญญาณของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

คลื่นพลังไฟระเบิดออกมา มันกลายเป็นเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนลุกโชนขึ้นมาและปกคลุมไปทั่วบริเวณรอบๆเหมือนทะเลเพลิง เปลวเพลิงหนาแน่นเหมือนกับว่ามีฝนเพลิงตกไปรอบๆ ครอบคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ หลังจากระเบิดออกมา พลังไฟที่นับได้ว่าเป็นจุดอ่อนของอสูรทารกก็ปกคลุมไปรอบๆพวกมัน ทำให้พวกมันไม่สามารถพวกมันทั้งสามไม่สามารถหลบหนีได้

" ฟู ! " ร่างของอสูรทารกทั้งสามถูกโจมตีพลังไฟทันทีก็มีควันสีขาวรอยขึ้นมา

ร่างของอสูรทารกนั้นเกิดขึ้นมาจากพลังหยินที่เต็มไปด้วยความเย็น ,ด้วยพลังไฟที่แข็งแกร่งของแกนเพลิงที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับพวกมัน ร่างที่เน่าเหม็นของอสูรทารก เมื่อสัมพัสเข้ากับพลังไฟ ร่างกายของพวกมันก็ถูกเผาไหม้กลายเป็นบาดแผลหลุมใหญ่ขึ้น

เหล่าอสูรทารกร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมด้วยพลังไฟของแกนเพลิง เปลวเพลิงลุกโชนไปทั่วท้องฟ้า สามอสูรทารกร้องโหยหวนออกมาอย่างรุนแรง ปรากฏเป็นควันลอยออกมาจากร่างกายของพวกมัน , การเคลื่อนไหวของพวกมันกลายเป็นเอื่อยเฉื่อยคล้ายกับหยุดนิ่ง

" นี่นะรึ ความแข็งแกร่งของอสูรทารกทั้งสามที่น่ากลัว ? " ฉื่อหยาน หันหน้าไปทางอีฉู่ปี่ นางมองมาพร้อมกับที่ นางเริ่มขยับห่างออกไปจากเขา อีฉู่ปี่ตอบคำถามฉื่อหยานพร้อมกับพยักหน้า

" เจ้ามันปีศาจ ! "

เปลวไฟนภา ! มันต้องเป็นพลังของเปลวไฟนภาแน่ๆ !

คลื่นความคิดสับสนใหญ่เกิดขึ้นในความคิดของอีฉู่ปี่ ดวงตาสดใสของนางจ้องมองไปอย่างหวาดกลัว . นางนั้นเริ่มที่จะกลัวฉื่อหยาน นางนั้นรู้ถึงความน่ากลัวของอสูรทารกดี . ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรเสียงทุกตัว หรือ อสูรทารกพวกมันต่างก็มีพลังทีใช้ป้องกันจากพลังไฟ เปลวไฟปกติไม่สามารถเผาผลาญพวกมันได้ ดังนั้นพวกมันจึงกล้าทีจะโจมตีและฆ่าคนของเผ่าเสียงอสูร

อย่างไรก็ตาม เปลวไฟที่ลุกโชนออกมาจากร่างของฉื่อหยานกลับสามารถเผาผลาญอสูรทารกได้ พวกมันถูกปิดกั้นและเกือบกลายเป็นเถ้าถ่าน พลังนี่คืออะไรกันแน่ ?

มีเพียงเจ้าแห่งสัตว์อสูรเสียงในตำนวนเท่านั้น ที่สามารถรับมือกับพลังของเปลวไฟนภาระดับนี้ได้ !

อีฉู่ปี่นั้นไม่เคยเห็นเปลวไฟนภามาก่อน นางเพียงรู้มากจากพ่อของนางเท่านั้น มันเป็นตำนวนเกี่ยวกับเปลวไฟนภาที่อยู่เหนือสัตว์อสูรเสียง พลังไฟของเปลวไฟนภานั้นร้อนแรงเป็นอย่างมากมันเป็นสิ่งทีอยู่เหนือสัตว์อสูรเสียงทั้งปวง

แล้วอย่างนี้เหตุใดเผ่าเสียงอสูรจึงจะไม่หวาดกลัวกัน ?

ร่างกายของคนเผ่าเสียงอสูรเต็มไปด้วยพลังหยิน เย็น แม้ว่าวิญญาณของพวกเขาจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมีเปลวไฟนภาที่แสนร้อนสัมผัสพวกเขา ผลกระทบที่พวกเขาได้รับก็ไม่ต่างไปจากพวกสัตว์อสูรเสียงเลย

จะให้พูดอีกอย่างก็คือ ด้วยเปลวไฟที่ลุกโชนออกมาจากร่างของฉื่อหยาน , ถ้าเขาใช้ไฟเหล่านั้นโจมตีนาง นางก็จะกลายเป็นเหมือนอสูรทารกเหล่านั้น , เปลวไฟนั้นจะเผาผลาญนางอย่างรวดเร็ว พลังหยินในร่างของคนเผ่าเสียงอสูรนั้นไม่สามารถต้านทานการเผาไหม้ของเปลวไฟนภาได้แน่นอน

ถ้าเผ่าเสียงอสูรไม่ได้มีข้อได้เปรียบด้านวิญญานที่เหมือนกับพรจากสวรรค์ และถ้าฉือหยานนั้นไม่ได้หวาดกลัวว่าวิญญานของเขาจะถูกปิดกั้นโดยคนจากเผ่าเสียงอสูร ด้วยพลังจากเปลวไฟนภาในร่างของเขา เพียงแค่เขาคนเดียว ก็สามารถอยู่เหนือทุกอย่างในเมืองโบราณได้

เขาสามารถใช้พลังของเปลวไฟนภาฆ่าคนเผ่าเสียงอสูรได้อย่างง่ายดาย !

เว้นแต่ว่า เผ่าเสียงอสูรจะมีสมบัติลับบางอย่างที่มีพลังหนนาวเย็นแข็งแกร่งซึ่งสามารถรับมือกับเปลวไฟนภาได้ .ไม่อย่างนั้น ร่างกายของพวกเขาเมื่อตกอยู่ภายใต้เปลวไฟนภา ก็จะกลายเป็นเหมือนไอน้ำนและระเหยไปอย่างสมบูรณ์

อีฉู่ปี่รู้สึกตกใจอเป็นอย่างมาก ภายในจิตใจ

มองไปที่ฉื่อหยานที่กำลังควบคุมพลังไฟของแกนเพลิงเพื่อเผาผลาญเหล่าอสูรทารก ด้วยเสียงร้องโหยหวนที่พวกมันร้องออกมาอย่างน่าเวทนา ดวงตาของนางก็ประกายด้วยความกลัวและมีความคิดต่างๆนาๆผุดขึ้นมา

ตอนนี้ข้าควรฆ่าเขาดีหรือไม่ ?

สายตาของนางคอดลง ; ความปรารถนาของนางที่จะฆ่าฉื่อหยานทันที ก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา นางต้องตัดสินใจให้ดีที่สุด ถ้าไม่เช่นนั้น เมื่อฉื่อหยานรู้วิธีที่จะป้องกันการโจมตีวิญญานจากเผ่าเสียงอสูรได้เมื่อไหร่ ; ตัวตนของเขาจะต้องกลายเป็นฝันร้ายของเผ่าเสียงอสูรแน่นอน

" ง่ายยิ่งนัก " ขณะที่นางกำลังคิดอยู่ ฉื่อหยานก็พูดออกมาพร้อมกับฆ่าอสูรทารกทั้งสามอย่างใจเย็น ไม่นานผลึกอสูรสีฟ้าทั้งสามก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นมันก็ลอยลงมาในมือของเขาด้วยพลังปราณลึกลับ

" นี่ . ผลึกอสูรทั้งสามนี้เป็นของเจ้า หึ ! ไม่ต้องห่วง ข้าจะหาผลึกอสูรเหล่านั้นให้เจ้าเอง " ฉื่อหยานยิ้ม เมื่อเขาเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของอีฉู่ปี่ เขาก็พูดขึ้น " โลกนี้มันลึกลับนัก ด้วยวิญญานที่ลึกซึ้งของเผ่าเสียงอสูร พวกเจ้านั้นสามารถฆ่าข้าได้อย่างง่ายดาย แต่กับเหล่าอสูรทารกนั้นพวกเจ้ากลับไร้ทางต่อต้าน พวกมันสามารถฉีกกระชากพวกเข้าเป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย แต่ข้ากลับสามารถฆ่าเหล่าอสูรทารกได้อย่างง่ายดาย โดยเพียงแค่ใช้พลังไฟฆ่าพวกมัน ทุกอย่างล้วนมีสิ่งที่แพ้ทาง . นี่คงเป็นกฎของธรรมชาติสินะ ? " [TL. เช่น น้ำ ชนะ ไฟ แต่ ไฟ ชนะ ลม แต่ ลม ชนะ น้ำ อ่าวงงกันไป 555]

ใบหน้าของอีฉู่ปี่กำลังสับสนและนางก็ยื่นมือของนางออกไปเพื่อรับผลึกอสูรสีฟ้าทั้งสามและกล่าวว่า " ผลึกอสูรของอสูรทารกนั้นมีค่ามากกว่าผลึกอสูรของสัตว์อสูรเสียงมาก ผลึกอสูรของอสูรทารกที่ชั่วร้ายนี้เต็มไปด้วยพลังวิญญานและพลังหยิน มันเป็นประโยชน์มากสำหรับการบ่มเพาะของเรา ถ้าใช้เพียงแค่คนของเผ่าเสียงอสูร คงไม่มีทางรวบรวมผลึกอสูรนี้ได้อย่างแน่นอน มีเพียงเผ่าปีกเท่านั้นที่สามารถรับมือกับอสูรทารกได้ พวกเขามักจะใช้ผลึกอสูรของอสูรทารกเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของที่มีค่าจากเผ่าเสียงอสูร . . . . . . . "

" ข้าจะหาผลึกอสูรนี่ให้เจ้าเอง . " ฉื่อหยานขมวดคิ้วเล็กน้อย " แต่นั้นก็เป็นเพราะข้อคกลงของเรา หึ ! ถึงข้าจะรู้สึกอีดอัดที่มีเจ้าคอยควบคุม แต่ข้าก็เป็นชายที่รักษาคำพูด " .

" เจ้าเกลียดเรางั้นรึ ? " ฉียู่่ปี่ได้ยินดังนั้นก็รีบถามขึ้นทันที

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด