ตอนที่แล้วบทที่ 25 เต้นรำครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 นี่ถือเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง?

บทที่ 26 พาหนิงชิงเชวี่ยกลับบ้าน


“อะไรนะ?  เธอพูดว่าหนิงชิงเชวี่ยกับเย่โม่จะแต่งงานกัน  เป็นไปได้อย่างไร?”  เวลาเดียวกันนั้นเองซูจิ้งเหวินก็ตกตะลึงกับคำพูดของหลี่มู่เหมย  เธอไม่นึกว่าหนิงชิงเชวี่ยจะมีแผนบ้าๆ แบบนี้  ความคิดแรกของเธอกลับกลายเป็นไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้

หลี่มู่เหมยมองซูจิ้งเหวินอย่างประหลาดใจ  ซูจิ้งเหวินดูจะออกอาการเยอะไปหน่อยแล้ว

ซูจิ้งเหวินก็ราวกับจะรู้สึกตัวแล้วว่าการตอบสนองของเธอดูจะเกินไปหน่อย  เธอจึงพูดล้อเลียนตัวเองนิดๆ  “ที่ฉันจะพูดคือผู้หญิงดีๆ อย่างหนิงชิงเชวี่ย  เป็นไปได้อย่างไรที่จะแต่งงานกับเย่โม่  อีกอย่างเย่โม่ยัง... ถึงทำไปเพื่อหลีกเลี่ยงการหมั้นกับซ่งเฉ่าเหวิน แต่ก็ไม่ควรจะทำร้ายตัวเองแบบนี้”

หลี่มู่เหมยถอนหายใจ  “ก็เพราะเย่โม่เสื่อมสมรรถภาพนั่นแหละ  ชิงเชวี่ยเลยตัดสินใจได้  พี่ชิงเชวี่ยเองก็น่าสงสารมากจริงๆ แต่จากวันนี้ที่ฉันเห็นเย่โม่แล้ว  เขาดูแตกต่างจากเย่โม่ที่ฉันจำได้อย่างสิ้นเชิง  ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าคนๆ หนึ่งจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้  ถ้าตอนนี้เขาไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่และไม่เป็นหมันก็คงจะดีหรอก”

ซูจิ้งเหวินนิ่งเงียบไป  ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงมักจะรู้สึกไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เย่โม่จะแต่งงานกับ หนิงชิงเชวี่ย  เธอคิดหาเหตุผลไม่ออกจริงๆ เพราะว่าเขาเต้นรำกับเธอ?  หรือเพราะว่าเขาคล้ายกับอาจารย์คนนั้นที่ขายยันต์ให้กับเธอกัน?

“เป็นอะไรไป?  จิ้งเหวิน?”  หลี่มู่เหมยที่เห็นซูจิ้งเหวินนิ่งเงียบไปก็ทักเธอทันที

ซูจิ้งเหวินถูกหลี่มู่เหมยดึงสติกลับสู่ความเป็นจริง  “อ่า… ไม่มีอะไร  แล้วจะให้ฉันช่วยอะไรล่ะ?”

หลี่มู่เหมยเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมซูจิ้งเหวินถึงเหม่อลอยบ่อยขนาดนี้  เธอพูดขึ้น  “ฉันจะเอารูปหนิงชิงเชวี่ยกับเย่โม่อยู่บนเตียงเดียวกันในชุดนอนส่งให้เธอ  หน้าที่ของเธอก็คือหาหนังสือพิมพ์บันเทิงเพื่อตีพิมพ์รูปก็โอเคแล้ว  หลังจากนั้นก็ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าพวกเขาแต่งงานกันแล้ว”

ซูจิ้งเหวินเบิกตากว้างมองหลี่มู่เหมย  ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดขึ้นว่า  “แผนแย่ๆ แบบนี้เธอยังคิดออกมาได้?  นี่ไม่ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงของหนิงชิงเชวี่ยหรือไง?”

หลี่มู่เหมยถอนหายใจซ้ำอีกครั้ง  “ก็แค่ชื่อเสียงเท่านั้น  เทียบกับการตกอยู่ในมือของหมาป่าอย่างซ่งเฉ่าเหวินยังถือว่าดีกว่ากันเยอะ  ตระกูลซูของเธอเองก็อยู่ที่เมืองหลวง  เธอก็คงจะรู้ดีว่าซ่งเฉ่าเหวินมันเป็นหมาป่าหิวโหยประเภทไหน  ถ้าพี่ชิงเชวี่ยเลือกได้  คิดว่าเธออยากทำแบบนี้หรือไง?”

แน่นอนซูจิ้งเหวินรู้ว่าซ่งเฉ่าเหวินเป็นคนแบบไหน  ถ้าบอกว่าเขาเป็นคนเลวทรามก็ยังถือว่าทำให้คำๆ นี้แปดเปื้อนด้วยซ้ำ  เขาเป็นปีศาจที่กินคนโดยไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่กระดูก  ที่ปักกิ่งไม่รู้ว่ามีหญิงสาวกี่คนที่ถูกเขาย่ำยีกับมือ  ซูจิ้งเหวินเข้าใจแล้วว่าทำไมหนิงชิงเชวี่ยจึงเลือกตัดสินใจทำแบบนี้

ผ่านไปครู่ใหญ่  ซูจิ้งเหวินก็พูดขึ้น  “แล้วถ้าเป็นแบบนี้  ไม่ใช่ว่าเย่โม่จะกลายเป็นเหยื่อหรือไง?  เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยนะ”

“ฉันเองก็รู้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้  ตอนแรกก็คิดเอาไว้ว่าถ้าให้เงินไปแล้วเย่โม่จะต้องชอบแน่ๆ   แต่ดูจากเย่โม่วันนี้แล้วฉันยังไม่กล้าเชื่อสายตาเลยว่าเขาคือเย่โม่จริงๆ หรือว่าคนที่ผ่านความทุกข์ยากจะ  เปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้กัน?  ฉันช่วยมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว  ได้แต่เฝ้ารอดูว่าเย่โม่จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจช่วยชิงเชวี่ย  ถ้าเขาไม่ยอมช่วยพวกเราก็หมดหนทางแล้ว”  หลี่มู่เหมยพูดขึ้นด้วยอาการจนใจเล็กน้อย

ซูจิ้งเหวินเปิดปาก  แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก  ทั้ง 2 คนต่างนิ่งเงียบไป

……….

“เธอมีเรื่องอะไรกันแน่ถึงต้องไปพูดที่บ้านของผม?  พูดที่นี่ไม่ได้หรือไง?”  เย่โม่ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

หนิงชิงเชวี่ยก้มหน้าลงต่ำ  เธอไม่รู้จะอธิบายให้เย่โม่ฟังยังไงดี  ถ้าเย่โม่ไม่เห็นด้วยกับแผนการของหลี่มู่เหมยล่ะก็  หนีออกนอกประเทศจะช่วยแก้ปัญหาไหมนะ?  ผ่านไปครู่หนึ่งเธอจึงกัดฟันพูดขึ้น  “ที่ฉันอยากไปก็เพราะมีเรื่องจะพูดกับนายสองต่อสอง”

เมื่อเห็นหนิงชิงเชวี่ยกัดฟันพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นแล้ว  เย่โม่ก็ถอนหายใจ  ถึงเขาจะไม่รู้จุดประสงค์ของหนิงชิงเชวี่ย  แต่เขาเคยเห็นท่าทางแบบนี้จากอาจารย์ลั่วอิ่งมาก่อน  เขาจึงพูดขึ้นอย่างจำใจ  “เอาเถอะ  เธอจะมากับผมก็ได้  ตอนนี้ผมจะกลับแล้ว  รอผมไปบอกลาจิ้งเหวินก่อน”

“นายยอมตกลงแล้ว?”  หนิงชิงเชวี่ยผุดลุกขึ้นด้วยอาการดีใจ  ครั้งแรกที่ได้พบกับเย่โม่  เพราะเขาแตกต่างจากที่หลี่มู่เหมยพูดโดยสิ้นเชิง  เธอจึงเตรียมใจที่จะถูกปฏิเสธเอาไว้แล้ว  คาดไม่ถึงว่าเย่โม่จะตอบตกลงแบบนี้

ตอนที่เย่โม่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนก็เห็นซูจิ้งเหวินเดินมาด้วยกันกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง  เหมือนเขาเคยเห็นเธอมาก่อนแต่จำไม่ได้เลย  “จิ้งเหวิน ผมต้องไปแล้ว  หนิงชิงเชวี่ยมีธุระกับผมพวกเราเลยจะกลับด้วยกัน”

หลี่มู่เหมยเห็นเย่โม่มองมาที่เธอราวกับไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน  เธอคิดในใจว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

“อา… เย่โม่  นาย… ยอมรับข้อเสนอแล้ว?”  ซูจิ้งเหวินมองหนิงชิงเชวี่ยและเย่โม่ด้วยอารมณ์อันแปลกประหลาด  หลังจากถามไปแล้วเธอถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าทำไมเธอถึงได้ถามคำถามนี้ออกไป

เมื่อเย่โม่เห็นสีหน้าของหญิงสาวทั้ง 3 เขาก็รู้ได้ลางๆ ว่ามีเรื่องที่เขายังไม่รู้อยู่อีก  แต่เขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มให้บางๆ ต่อให้มีเรื่องอะไรที่เขายังไม่รู้  เย่โม่ก็ไม่หวาดกลัวทั้งสิ้น

……….

ขณะที่หนิงชิงเชวี่ยนำกระเป๋าเดินทางธรรมดาๆ เดินตามเย่โม่เพื่อนั่งแท็กซี่ไปด้วยกันนั้นเอง  ในใจเธอก็เกิดความรู้สึกอันแปลกประหลาดขึ้น  เมื่อเธอเดินตามเย่โม่ไปบนท้องถนนก็ราวกับว่าความกดดันและความกังวลภายในใจได้จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ทั่วทั้งร่างรู้สึกผ่อนคลาย

“นี่คือที่ๆ นายอาศัยอยู่งั้นหรือ?”  เมื่อหนิงชิงเชวี่ยได้เห็นสวนเล็กที่เย่โม่อาศัยอยู่เธอก็รู้สึกชอบที่นี่ขึ้นมาทันที  ภายในสวนสงบเงียบมาก  อีกทั้งสภาพภายในก็สวยงาม  เขารู้จักหาสถานที่จริงๆ ถึงได้มาเจอที่ดีๆ แบบนี้

เย่โม่พูดยิ้มๆ  “ใช่แล้ว  แต่ว่ามันค่อนข้างโทรมไปหน่อย  เทียบไม่ได้กับบ้านของเธอหรอก”

หนิงชิงเชวี่ยส่ายหัวไปมา  “ไม่หรอก...ฉันชอบที่นี่มาก”

“เย่โม่!  นายกลับมาแล้ว  ฉันมีอะไรจะบอกนาย  ครั้งที่แล้วที่นายไป...หืม  เธอเป็นใคร?”  ครั้งแรกที่ซู่เวยเห็นหนิงชิงเชวี่ย  ความงามของหนิงชิงเชวี่ยทำให้เธอตะลึงงัน  เธอมักถือดีอยู่เสมอว่ารูปร่างหน้าตาของเธอนั้นดูดีใช้ได้  แต่เมื่อนำไปเทียบกับหนิงชิงเชวี่ยแล้วเธอมันก็เป็นแค่ยัยเป็ดอัปลักษณ์ตัวหนึ่งเท่านั้น

ชายเก็บตัวอย่างเย่โม่กลับพาสาวสวยระดับนี้มาได้  ตัดสินคนจากภายนอกไม่ได้จริงๆ แต่ที่จริง  เย่โม่ก็ไม่ได้หน้าตาน่าเกลียดนะเนี่ย

แน่นอนว่าหนิงชิงเชวี่ยก็มองซู่เวยอยู่เช่นกัน  เพื่อนบ้านสาวสวยคนนี้ทำให้คนที่พบเจอรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวา  เธอรู้สึกว่าสายตาของเย่โม่นั้นไม่เลวเลย  ไม่แปลกใจเลยที่ตอนแรกเขาลังเลที่จะพาเธอกลับมาด้วย  คงเพราะเขามีสาวสวยอยู่ที่นี่ด้วยกันแต่แรกแล้ว

หรือว่าเขาไม่ได้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศกัน?  หนิงชิงเชวี่ยเริ่มรู้สึกทันทีว่าความคิดของตัวเองออกจะสกปรกอยู่บ้าง  จริงสิ!  แล้วเธอจะไปกังวลเรื่องของเขาทำไมกัน?  ที่เธอมาที่นี่เพราะต้องการแต่งงานกับเขาเพื่อป้องกันตัวเองจากตระกูลซ่ง... อ่า!  ไม่ถูกสิ ถ้าเธอแต่งงานกับเย่โม่แล้วหญิงสาวคนนี้จะยอมตกลงหรือ?  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นน่าอึดอัดอยู่บ้าง  ขณะที่หญิงสาวทั้งสองคิดว่าเย่โม่จะช่วยแนะนำพวกเธอให้รู้จักกันนั้นเอง  เย่โม่กลับเดินเข้าไปข้างใน  หนิงชิงเชวี่ยมองซู่เวย  เธอได้แต่เดินตามเย่โม่เข้าไป

เย่โม่พาหนิงชิงเชวี่ยมาที่ห้องแล้วพูดขึ้น  “คืนนี้เธอก็อยู่ห้องผมละกัน  ตอนนี้มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาเถอะ”

“อา… แล้วคืนนี้นายจะนอนที่ไหนล่ะ?”  ตอนแรกหนิงชิงเชวี่ยคิดเอาไว้ว่าจะนอนห้องเดียวกับเย่โม่   พอถึงเวลาหาแค่หาโซฟามาให้เธอนอนก็น่าจะได้แล้ว  ขอแค่ให้คนอื่นๆ รู้ว่าเธอนอนห้องเดียวกับเย่โม่ก็พอแล้ว

แต่เมื่อเธอถามออกไปก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมอยู่บ้าง  ไม่ใช่เพราะอายหรือว่าอะไร  เธอเตรียมตัวเตรียมใจมาดีแล้ว  เพียงแต่ว่าเธอดันไปนึกถึงหญิงสาวที่เจอกันหน้าประตูคนนั้น  เธอคิดไม่ถึงว่าเย่โม่จะมีแฟนอยู่แล้ว  การที่เขาอาศัยอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง  ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วจะเป็นอะไรได้อีก?  ในหัวหนิงชิงเชวี่ยไม่ได้คิดว่าพวกเขาเพียงแค่แชร์ที่อยู่ด้วยกันเลยแม้แต่น้อย

“ไม่ต้อง  ผมมีที่พักอยู่แล้ว”  เย่โม่พูดขึ้นอย่างสบายๆ

“ต้องขอโทษด้วยนะเย่โม่  นี่ฉันทำให้แฟนของนายเข้าใจผิดหรือเปล่า?”  หนิงชิงเชวี่ยถามขึ้นด้วยท่าทีอึดอัดใจ  อีกทั้งคำถามของเธอยังเพื่อทดสอบด้วยว่าเธอคนนั้นใช่แฟนของเย่โม่จริงๆ หรือเปล่า

เย่โม่โบกมืออย่างเฉยชา  เขาไม่ได้อธิบายอะไรให้หนิงชิงเชวี่ยฟัง  เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น  “เธอพูดว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย  ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว  เธอพูดได้แล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด