ตอนที่แล้วบทที่ 41: เมืองแห่งรุ่งอรุณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43: อย่าเกรงกลัวไป ข้าไม่เคยข่มเหงผู้อื่น

บทที่ 42: Gods: เกมสำหรับผู้ใหญ่


ตาแก่แฮงค์นั่งอยู่บนเก้าอี้โยก มองไปยังกลุ่มคนแคระซึ่งมองมาที่เขาด้วยความเคารพราวกับกำลังคิดว่าจะทักทายเขาดีหรือไม่

เขายกคิ้วขึ้นและตะโกนตรงไปยังเหล่าคนแคระให้ขยับข้าวของอุปกรณ์ของเขา เพราะว่าร้านตีเหล็กร้านเดิมนั้นใช้การไม่ได้แล้ว

ขณะเดียวกันโอดอมก็กำลังขยายเมือง เขาสร้างโรงตีเหล็กขนาดใหญ่ห้าโรง ซึ่งสามารถรองรับช่างตีเหล็กกว่าร้อยคนในการทำงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

เหตุผลที่คนแคระเหล่านี้ให้ความเคารพแก่เขานั้นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าชายแก่คนนี้เป็นมนุษย์ช่างเหล็กระดับแกรนด์มาสเตอร์

แนวคิดนี้ของคนแคระนั้นบริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าการเคารพคนที่แข็งแกร่ง

“บ้าจริง แต่เริ่มเดิมทีข้าเป็นช่างเหล็กคนเดียวในเมืองและสามารถทำงานได้ตามต้องการ แต่ตอนนี้ คนมากกว่าร้อยคนที่ทำอาชีพเดียวกันจู่ๆ ก็โผล่ออกมา แล้วตอนนี้ข้าจะทำอะไรกินล่ะนี่?”

ตาแก่แฮงค์ที่กำลังเกาหัวทรงรังนกของเขารู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา เขาดูไม่พอใจ เขายอมรับคำเชิญของวิลเลียมเพียงเพราะในตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก

มันเป็นเรื่องดีที่เขาสามารถเป็นหนึ่งในเจ้าของโรงตีเหล็กอันหนึ่ง

“เจ้าของ? นี่ฟังดูเยี่ยมมากๆ…”

ก่อนหน้านี้เมืองชายแดนไม่ได้ต้องการอุปกรณ์หรือชุดเกราะมากนัก

ช่างเหล็กระดับแกรนด์มาสเตอร์อย่างเขาจึงทำได้เพียงช่วยเหลือชาวเมืองทำเครื่องมือเกษตรกรรมเท่านั้น

แม่ม่ายหลายคนที่โสดและไม่ต้องการเสียเงินก็จะทำเป็นตาบอด แล้วยอมให้เขาเอาเปรียบพวกหล่อน

แต่ตอนนี้มีช่างตีเหล็กมากมาย รวมทั้งการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของช่างเหล็กระดับมาสเตอร์ อีกทั้งยังมีระดับแกรนด์มาสเตอร์อีกด้วย นี่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงวิกฤต

อีกอย่าง ทุกๆวันรองเจ้าเมืองแคระโอดอมยังทำงานด้วยร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าพร้อมกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ซึ่งสามารถดึงดูดเหล่าแม่ม่ายสาวสวยจำนวนนับไม่ถ้วน เขามีผมเป็นลอนสีบลอนด์ทองและหน้าตาที่หล่อเหลา แม้เขาจะตัวเตี้ยแต่เขาก็มีออร่าที่ทรงพลัง

ตาแก่แฮงค์ผู้ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักรักของเหล่าแม่ม่ายในเมืองก็ต้องการที่จะแข่งกับโอดอมเป็นธรรมดา

วิลเลียมมาที่ห้องตีเหล็กพร้อมกับถือไวน์แดงขวดหนึ่งซึ่งมีราคา 30 เหรียญเงินเพื่อมาเจอคนรู้จักเก่าแก่ของเขา

ตาแก่แฮงค์

เขาไม่มีนามสกุลอื่นๆ แต่ความเชี่ยวชาญหลักของเขาคืออาชีพลับ นักรบค้อนศักดิ์สิทธิ์

ความเชี่ยวชาญที่หายากอันนี้ทั้งพิเศษและทรงพลังอย่างมาก แถมยังเป็นที่นิยมอีกด้วย แต่ถ้าต้องทำอาชีพนี้เต็มเวลาก็หมายความว่ามันมีข้อกำหนดที่ยุ่งยากอีกมาก และหนึ่งในนั้นก็ทะลึ่งมากๆ อีกด้วย

นั่นก็พูดได้ว่า อาชีพเสริมของคนเหล่านี้ต้องเป็นช่างเหล็กและจะสามารถเปลี่ยนเป็นอาชีพนี้ได้ก็ต่อเมื่ออาชีพตีเหล็กถึงระดับแกรนด์มาสเตอร์

คำถาม

ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าผู้เล่นไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องอาชีพลับ ดังนั้นแล้วจะมีสักกี่คนที่จะยอมละเลยอาชีพหลักและอาชีพที่ฝึกฝนมาทั้งชีวิตจนเป็นระดับแกรนด์มาสเตอร์ แล้วไปเปลี่ยนมัน?

ในช่วงสุดท้ายของยุคของเอลฟ์ ก่อนที่มนุษย์จะกลายมาเป็นลอร์ดของดินแดนต่างๆ ตอนนั้นมีการปรากฏตัวของนักบุญทั้งสิบสองเกิดขึ้น!

แต่ละคนเป็นผู้ทรงพลังซึ่งเป็นคนทำลายเมือง, อาณาจักรต่างๆ, ท้องฟ้า และแผ่นดิน

อันที่จริง นักรบค้อนศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในพวกเขา

วิลเลียมจำได้ว่านักรบค้อนศักดิ์สิทธิ์นั้นควรจะมีอุปกรณ์ที่ครบครัน…

แต่เขาไม่รู้ว่าสหายแก่คนนี้ผู้มีเพียงสายเลือดระดับอีปิคนั้นสามารถได้รับสืบทอดความเชี่ยวชาญนี้ได้อย่างไร

ภูมิหลังของสหายแก่คนนี้เป็นความลับและเขาไม่เคยหลุดมันออกมาเลย ตั้งแต่เมืองชายแดนล่มสลายลงและถูกรวมเข้ากับเขตปกครองเหล็ก เขาก็ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาทุกวันแทนที่จะทำงานตีเหล็ก

และหลังจากเขตปกครองเหล็กถูกทำลายโดยสิ่งมีชีวิตจากความมืด เขาก็ติดตามผู้เล่นเข้าไปในราชอาณาจักรและยังคงปรากฏตัวให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

“เอาล่ะ เราควรจะพูดอย่างไรดี ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนจะสามารถฆ่าเหล่าบอสได้ และไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนจะได้มีโอกาสรู้จักกับคนแคระที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย หรือแม้แต่อุปกรณ์ระดับอีปิค”

“แต่ตาแก่แฮงค์ NPCคนนี้ที่ไม่เคยปฏิเสธงานจากใคร กลับสามารถสร้างอุปกรณ์ระดับทองที่มีเอกลักษณ์ และแม้แต่อุปกรณ์ระดับอีปิคได้”

“คนประเภทนี้ก็เหมือนกับNPCคนหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อถูกแต่งตั้งโดยหน่วยงานของเกม ดังนั้นจึงทำให้ผู้เล่นไม่เสียความมั่นใจในหาอุปกรณ์…” วิลเลียมเล่นจนถึงตายในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาและไม่เคยมีประสบการณ์กับเควสของตาแก่แฮงค์

บางทีเควสของตาแก่แฮงค์อาจถูกทำให้สำเร็จโดยผู้เล่นคนอื่น และตาแก่แฮงค์คนที่อยู่เหนือคลื่นลมคนนี้กลับไม่เคยตาย เขายังน่าประทับใจยิ่งกว่าโมเสส ผู้วิเศษรอบด้านอีก

มีอุปกรณ์หลากหลายระดับในเกม Gods เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ระดับอีปิคและรีเจนดารี ค่าคุณสมบัตินั้นแทบไม่ต่างกัน เพียงแค่เอฟเฟคพิเศษบางอย่างเท่านั้นที่มีประโยชน์

ในแต่ละระดับก็มีอุปกรณ์ระดับสูงประจำระดับนั้นๆ

ยกตัวอย่างเช่น วิลเลียมยังอยู่ในระดับเริ่มต้นซึ่งก็คือก่อนระดับ 40

ไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้น, ระดับกลาง หรือระดับสูง ระดับอุปกรณ์ของอีปิคและรีเจนดารีก็เหมือนๆกัน

แต่เมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปภายในเลเวล 40 มันก็จะเป็นการเสียวัสดุระดับสูงเพื่อมาใช้กับอุปกรณ์ระดับต่ำ

และนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่วิลเลียมไม่มุ่งหาอุปกรณ์ที่ระดับดีกว่า

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มันต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการหาข้อมูลของภารกิจเพื่อให้ได้รับอุปกรณ์ระดับรีเจนดารีสักชิ้น มีภารกิจที่ซับซ้อนอีกเป็นทอดๆ และถ้าคุณทำภารกิจล้มเหลวแม้แต่อันเดียว อุปกรณ์ระดับรีเจนดารีก็จะไม่มีทางเป็นของคุณ

ถ้าคุณต้องการที่จะขายข้อมูลของภารกิจ รายละเอียดที่ต้องทำในภารกิจก็จะเปลี่ยนไป…

และแม้ว่าคุณจะมีโอกาสทำภารกิจทั้งหมดนั่นสำเร็จ ในตอนที่คุณได้รับอุปกรณ์รีเจนดารีแล้ว คุณก็ต้องผ่าระดับถัดไปต่ออีก

ดังนั้นในเกม Gods อันนี้ มันจึงจะดีที่สุดถ้าไม่ไปเสาะหาอุปกรณ์ระดับรีเจนดารีตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ผู้เล่นระดับท็อปตัวจริงจะหาชิ้นส่วนของอุปกรณ์ระดับอีปิคและนำมาประกอบกันตามความเหมาะสม

“แต่สำหรับบอสระดับรีเจนดารีคนหนึ่งแล้ว ฉันไม่ได้รับอุปกรณ์ระดับรีเจนดารีติดตัวมาสักชุดหนึ่งได้ยังไงกัน?” วิลเลียมโยนขวดไวน์แดงไปที่ตาแก่แฮงค์ แล้วพูด “เฮ้ มีทั้งไวน์, เหล็ก, และของแลกเปลี่ยนสำหรับช่างเหล็กระดับแกรนด์มาสเตอร์แล้ว ทำไมท่านยังดูไม่พอใจอีก?”

ตาแก่แฮงค์กรอกตาของเขา ก่อนจะยืนขึ้นและยืดตัวขึ้นเล็กน้อย “ท่านลอร์ดแห่งข้า ท่านไม่รู้…”

“อย่าพูดอะไรเลย เรารู้!” วิลเลียมหยุดตาแก่แฮงค์จากการพูดเรื่องไร้สาระ ก่อนจะเดินไปที่เข้าข้างตัวของตาแก่และกระซิบความลับบางอย่างแก่เขา ตาแก่แฮงค์เบิกตากว้างเมื่อเขาได้ยินที่วิลเลียมพูดและเลียมุมปากของเขา

เขาจับแขนของวิลเลียมด้วยความตื่นเต้น แล้วถาม “จริงเหรอนี่? เราเป็นแค่เมืองเล็กๆ ไม่ใช่รึ?”

วิลเลียมขมวดคิ้ว “ในอีกครึ่งปี มันจะกลายเป็นเมืองที่เจริญ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีประชากรเป็นสิบๆหมื่น และเราก็จะได้รับการพิจารณาให้เป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง!”

“นั่นฟังดูไม่เลวเลย ท่านลอร์ด ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าแข็งแรงอย่างเต็มที่ขึ้นมา”

“จงเต็มไปด้วยความแข็งแรงอย่างนี้ตลอดครึ่งปี เรากลัวว่าถ้าพวกเราสร้างหอนางโลมตอนนี้ ผู้คนที่กำลังขยายเมืองจะไม่เหลือพลังมาทำงาน” วิลเลียมยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

การมีหอนางโลมไว้ดีกว่าการจำกัดความต้องการของพวกเขา ชายโสดผู้หิวโหยนั้นเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้

ในยุคนี้ไม่มีวิดีโอ

การเผยแพร่ของนิยายก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า

ส่วนสำหรับรูปภาพ? พวกเขาคงจะจ้องได้ไม่นานนานนัก เพราะมันมีผลกระทบอย่างมากต่อประสาทการมองเห็น

ดังนั้น

หอนางโลมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ชายในยุคนี้

ไม่มีทางเลือก วิลเลียมไม่รู้ว่าเกมนี้ถูกมองอย่างไร…

แต่นี่มันเยี่ยมไปเลย…

แต่มันดูเหมือนว่ามันเป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่ ที่ผู้เล่นอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถเล่นได้…

ในฐานะลอร์ด เขาจึงไม่จำเป็นต้องบังคับผู้คน ตราบใดที่หอนางโลมยังเปิด ผู้หญิงจากเขตปกครองข้างๆ ส่วนใหญ่จะต้องการทำงานนี้

ดูเหมือนว่าผู้คนบางส่วนในเมืองชายแดนก็ไปที่หอนางโลมในเขตปกครองทั้งสองเพื่อหางาน…

ที่สุดแล้ว มันก็ค่อนข้างอึดอัดใจอยู่ดีในการที่ต้องมาเห็นหน้าคนคุ้นเคย…

ส่วนสำหรับตาแก่แฮงค์

มันจะใช้ไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ ตาแก่แฮงค์ก็จะแอนหลังไปกับเตียงพร้อมกับคาบบุหรี่ไว้ที่ริมฝีปากอย่างแน่นอน เขาคงจะถอนหายใจว่าความเป็นชายของเขายังคงดีเหมือนเก่าอยู่

เหล่านางโลมจะได้รับ 4 เหรียญเงินจาก 5 เหรียญเงิน, และวิลเลียมก็จะได้รับ 1 เหรียญเงินเป็นส่วนแบ่งภายใน 2 นาที จะมีวิธีไหนที่หาเงินง่ายกว่านี้อีกน่ะหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด