ตอนที่แล้วตอนที่ 1 จุดจบด้วยคําถามของอิสรภาพ (End with Question of Freedom)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 โลกใหม่ (New World)

ตอนที่ 2 สถานที่ที่ไม่รู้จัก (Unknow Place)


สถานที่ที่ไม่รู้จัก

(Unknow Place)

ป่าต้นสนผสมเมเปิลที่แปลกหาได้ยาก ท่ามกลางพวกมันนั้น จู่ๆกำเนิดแสงสีเหลือทองมากมาย ค่อยๆก่อกำเนิดรวมตัวกันอย่างไร้เหตุผล พวกมันลอยอย่างเชื่องช้า ข้างต้นสนต้นใหญ่กว่ารรอบๆบริเวณนั้น แสงสีทองเริ่มกลายเป็นรูปร่างมนุษย์วัยรุ่นเพศชาย

ก่อนที่ร่างนั้นจะรู้สึกตัว และลุกขึ้นยืน อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ไม่ได้มีท่าทีที่กระตือรือร้นมาก เฉกเช่นอาการสะลึมสะลือของคนเพิ่งตื่น ชายหนุ่มค่อยๆเบิกดวงตากว้าง แต่ก็ต้องนำมือขึ้นมาปกปิดแสงแดดที่ส่องลงมาบริเวณใบหน้าของเขา

นัยน์ตาสีฟ้าอมเขียว ผมจากสีดำยาวกลายเป็นสีขี้เถ้าอ่อนเหมือนคนอายุมาก ชายหนุ่มยังคงอยู่ในชุดสูทพร้อมกับแว่นสายตาบนใบหน้า หน้าตาที่เย็นชาเหมือนคนพูดน้อย ดูรวมๆแล้วน่ารักเหมือนหญิงมากกว่าจะเป็นผู้ชาย

ไม่ช้าร่างบางก็มีสีหน้าที่มึนงงพร้อมคําถามที่เริ่มถาโถมเข้ามามากมาย

...เอ๋…เอ๋อ… ?

เกิดอะไรขึ้น? ที่นี่ที่ไหนกัน? ไม่ใช่ว่าโดนพวกมันยิงที่หัวแล้วไม่ใช่หรือไงกัน… ระ เราน่าตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

ร่างเล็กคิดในใจอย่างสับสน หันหัวซ้ายขวามองไปรอบๆตัวเอง ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นให้มั่นคงและสำรวจตัวเองเพื่อความแน่ใจว่า เขาไม่ได้ฝันหรืออยู่บนสวรรค์ ถึงแม้ว่าอันหลังเขาจะไม่ค่อยเชื่อก็ตาม

ใบหน้าที่เรียบเฉยเปลี่ยนไปเป็นอาการตกใจและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่าชายหนุ่มยังคงกังวลกับตัวเองที่พาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้

หลังจากสำรวจตัวเองก็พบว่าร่างเขาดูเล็กลง หมายถึง… ส่วนสูงที่ถูกลดลงมา ไม่แน่อายุก็น่าจะลดลงด้วย ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ยืนคิดว่าจะทำอะไรต่อ

‘ เกิดอะไรขึ้นหลังโดนยิง? ที่นี่ที่ไหน? ’ แต่คิดไปคิดมาทำให้ความเครียดที่เริ่มถาโถมเข้ามามันทำให้ร่างบางปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเป็นไมเกรน

ทุกอย่างมันโคตรจะไร้เหตุผลเลยไม่ใช่เหรอ!?

แปะๆ เสียงมือกระทบกับใบหน้าขาวจนกลายเป็นรอยแดงเล็กน้อย

" โธ่เอ๊ย! ลาส ไม่สมกับเป็นตัวนายเลย " นักการเมืองหนุ่มใช้มือของตนเรียกสติโดยไม่ลืมพูดเรียกชื่อของตนเอง น้ำตายังคงมีให้เห็นอยู่ อาจจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่นี้ ใครจะไปคิดกันว่าจะโดนดักรุมทำร้าย แล้วจะมีใครไม่กลัวคนจำนวนที่มากกว่าจู่ๆเข้าลงมือทำร้าย โดยที่ไม่รู้จักหน้ากันด้วยซํ่า?

…ถ้ารู้ว่าจะเจออะไรแย่ๆแบบนั้น ก็คงจ้างรถแท็กซี่มารับกลับที่พักตั้งแต่แรก ไม่อยากจะสติแตกเกินไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มรวบรวมข้อมูลรอบตัวและพิจารณาอยู่ชั่วครู่

‘ นี้มันต้องบ้ามากๆแน่เลย ตอนแรกรู้สึกว่ากำลังจะตายแต่ตอนนี้กลับโผล่มาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เรื่อง แบบนี้มันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติชัดๆเลย ’ เฮ้อ.. ลาสถอนหายใจหนักหน่วงก่อนก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า โดยที่คิดอะไรเรื่อยเปือยไปด้วย อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ต้องหาเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ และขอความช่วยเหลือ

ระหว่างเดินด้วยเท้า ชายหนุ่มก็มองพระอาทิตย์ไปด้วย อย่างน้อยก็เดินก็ต้องลองเสี่ยงเดินตามทิศตะวันตก หรือ ออกไปก่อน ลาสเลือกเดินไปทางทิศตะวันตก… นัยน์ตาสีฟ้าสังเกตได้ว่าต้นไม้ส่วนใหญ่คับคล้ายคับคลาเหมือนต้นสนโดยมีพรรณไมอื่นผสมอยู่ด้วย ยกเว้นเสียแต่ว่า ไอเจ้าต้นสนบางต้นมันมีรูปร่างที่ใหญ่โต้ยิ่งกว่า ต้นสนที่เคยเห็นมาก่อน น่าจะ... 2 เท่า?

ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์หาได้ยาก บัดนี้มีอยู่เต็มไปหมด ดอกไม้พืชพรรณที่ดูแปลกตา ซึ่งเขาไม่เคยเห็น ทำให้ชายหนุ่มเริ่มที่จะเชื่อว่านี้ไม่ใช่โลกที่เขารู้จัก.. อย่างน้อยก็ในตอนนี้

… !? !? เสียงดังมาจากพุ่มไม้

ลาสหันไปหาเสียงที่มาจากพุ่มไม้หนาใกล้ๆ แน่นอนว่ามันทำให้เขาตื่นตระหนก เพราะว่าเขานั้นอยู่ในดงป่าไม้ที่ไม่รู้จัก  แถมดูเหมือนว่าตอนนี้เขาอยู่ลึกกลางดงพงไพรอีกด้วย! มันเป็นไปได้หลายอย่างจากที่ได้ยินเมื่อสักครู่ จึงต้องกลัวเป็นเรื่องธรรมดา จ้องมองพุ่มไม้สักพัก ก่อนที่จะต้องเบิกตากว้าง

โฮก โฮก โฮก ร่างของสัตว์ร้ายตัวใหญ่พอๆกับเสือดำ แต่มีใบหน้าที่เหมือนหมาป่าขนนํ้าตาล มันเดินทะลุพุ่มไม้ออกมาอย่างช้า มันมองลาสเหมือนกับสังเกตอยู่ขณะหนึ่ง แต่เพียงแค่เจอสัตว์ร้ายในป่าก็ทำให้ลาสถึงกับต้องหน้าซีดขาวด้วยความกลัว

“มะ หมาป่า!? แต่ตัวใหญ่เกินไปแล้วเฟ้ย!” ลาสออกตัวสับตีนแตกวิ่งหนีสุดแรงเกิดทันที! จะอยู่ให้เป็นอาหารเที่ยงของมันหรือไงห๊ะ!? แค่เห็นก็จะฉี่แตกอยู่แล้ว จะให้แกล้งตายก็คงไม่ใช่! หมาป่ามันฉลาด ไม่ได้โง่ซะหน่อย

บูววววห์ เมื่อเห็นเหยื่อของมันวิ่งหนี สัตว์ร้ายก็หอนเสียงดังพร้อมออกเท้าหลังและหน้าแรงวิ่งตามด้วยความเร็วสูง แค่ความเร็วก็แตกต่างกันมากแล้ว เห็นทีคงต้องกลายเป็นก้อนเนื้อให้มันกินอย่างแน่นอน ลาสทำได้แค่วิ่งไปเรื่อยๆ ถ้าจะวิ่งซิกแซกก็คงสะดุดรากไม้ใหญ่ของต้นสนแน่ๆ !

ขณะที่คิดว่าตัวเองวิ่งหนีได้เร็วพอ จู่ๆมันก็พุ่งด้วยความเร็วที่เหนือชายหนุ่มไปอีก! ปากที่แข็งแรงพุ่งเข้ากัดหมายที่จะขย้ำเหยื่ออย่างทันที

โอ๊ย!!  " แม่งเอ๊ย! " ลาสที่วิ่งอยู่ถูกแรงของหมาป่าตัวใหญ่ตะครุบเข้าใส่จากข้างหลังทำให้ ชายหนุ่มล้มลงไปนอนอยู่ข้างล่างแทน จะดิ้นให้หลุดก็ถูกจับกดเอาไว้ ลาสทำได้เพียงแค่สบถด่าปากเปล่าเท่านั้น….

“บัดซบปล่อยนะไอหมาเวร!” สายตาที่ของนักล่าจับจ้องไปที่ร่างของลาสอย่างมีชัยทำเอาลาสขนลุกฟู่

เมื่อมันจับเยื่อได้มันก็ได้ใช้ลิ้นของมัน เลียหน้าของเหยื่อเสมือนกับเป็นแค่กินเล่นของมัน “อ้ากกกกก..!!! ปล่อยนะ! ปล่อย!!” ลาสดิ้นไปมาอย่างสุดชีวิตแต่ก็ดูไม่เป็นผล เพราะมันใช้เท้าหน้ากดหัวลาสเอาไว้ ลาสที่โดนเลียไปมาก็เกิดความกลัวมากขึ้น ตัวเริ่มสั่นด้วยความที่เคยดูหนังแนวสัตว์ประหลาดกินคน ชายหนุ่มพยายามอย่างหนักที่จะไม่ถูกกิน ไม่ว่าจะใช้เท้าทีบเพื่อให้หลุด แต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไร ในที่สุดเจ้าหมามันก็หมดความอดทน พุ่งไปกระชากไหล่ซ้าย ดึงเนื้อหนังและเสื้อสูทออกอย่างเมามัน

“!@#@!#!@#!” มนุษย์เราเวลาเจ็บมากๆบางครั้งก็ตะโกนร้องอะไรออกไม่เป็นภาษาเสียเท่าไหร่

เลือดของเขาพุ่งกระฉูดเต็มหน้าใบเจ้าหมาป่า พร้อมลากตัวลาสไปมาหวังจะให้หมดแรงตาย แน่นอนว่ามนุษย์นั้นมีสัญชาตญาณที่ต้องการเอาตัวรอดสูง ลาสที่ดิ้นไปดิ้นมาพยายามทุบเจ้าหมาป่าเพื่อให้ตัวเองรอด ความเจ็บปวดมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ มันเป็นประสบการณ์แรกที่เจ็บปวดเหมือนแขนจะหลุดขาดออกจากร่างกาย นํ้าตาไหลริน สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แรงกายเริ่มหมดจนท้ายที่สุดดวงตาก็ค่อยๆปิดลงพร้อมคําพูดในหัว…

ประสบการณ์ก่อนตายสองรอบรึไง ?

จะตายรอบสองก็ขอให้มันไม่เจ็บเหมือนตอนแรกไม่ได้หรือไง!

ปัง! ปัง!

เสียงปืนจำนวนสองนัด จากสองกระบอก พร้อมกับรูที่หัวและตรงลูกตาของหมาป่า อีกครั้งที่เลือดพุ่งอาบเป็นหน้าของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างล่าง แต่เลือดมันเป็นของเจ้าหมาป่า ก่อนลาสจะได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็หมดสตินอนสลบไปแล้ว…

ฟูว~ “คุณโชคดีจริงๆ ไอ้หนู” เสียงชายชรากล่าวพูดด้วยความโล่งอกโล่งใจ ก่อนจะมีเด็กสาวอีกคนเดินมายืนอยู่ข้างๆของชายชรา ในมือของเด็กสาวมีปืนคาบศิลาสมัยโบราณ เขม่าควันปืนบงบอกว่ามันพึงถูกใช้งานได้มาเมื่อไม่นานมากนัก

“ท่านลุงค่ะ... ข้าว่ารีบช่วยนางก่อนเถอะ ถ้าเกิดว่าเสียเลือดมากกว่านี้นางอาจจะไม่รอดก็เป็นไปได้นะคะ” สาวน้อยรีบเข้าไปห้ามเลือดพร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น แม้ว่าเจ้าตัวจะตัวสั่นงึกๆด้วยความกลัว แต่ก็มีความกล้าที่จะช่วย

“แผลลึกเช่นนี้ ไปไม่รอดหรอก เดี๋ยวข้าจะพาไปที่พัก แล้วไปเรียกคนที่อาจารย์เจ้ามาช่วยจะดีกว่า” ผู้เป็นลุงเก็บอาวุธไว้ที่หลังของตน ก่อนจะอุ้มลาสขึ้นมาแทนด้วยสองมือ ก้มหัวลงมาจ้องมองที่มือเล็กของเด็กสาว มือทั้งสองข้างนั้นกําลังสั่นคลอน แสดงให้เห็นว่าเธอพึ่งเคยได้ฆ่าหมาป่าเป็นครั้งแรก ไม่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอห้ามเลือดของผู้บาดเจ็บ

“อย่าลืมแล่เนื้อเอาหนังมาด้วยก็ดีนะ กิลด์น่าจะจ่ายให้เจ้าได้อยู่เล็กน้อย เดียวข้ากลับไปรอที่พัก” สาวน้อยพยักหน้าก่อนที่จะแล่เนื้อหมาตัวใหญ่ตรงหน้า โดยที่บ่นออกมาเล็กน้อย “ทำไมข้าต้องใช้ปืนกันด้วยค่ะ? ข้าว่าเวทมนตร์ยังดีกว่าตั้งเยอะ”

แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้บ่นยาวไปมากกว่านี้ ชายชราที่เป็นลุงของสาวน้อยหันกลับไปมองแล้วก็กล่าวขัด

“หากเจ้ายังมิหยุดบ่น ข้าจะให้เจ้าไปหาฝืน… คนเดียวในป่า ไม่มีผู้ช่วยเหลือ จนกว่าเจ้าจะหาสมุนไพรครบตามรายการของคำร้อง?” สาวน้อยส่ายหน้าพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก โดยที่มือนั้นรีบแร่หนังออกอย่างรวดเร็ว ส่วนลุงของเธอก็เดินกลับ ปล่อยให้สาวน้อยใช้สมาธิกับการแล่เนื้อต่อไป

……

.

.

.

.

.

.

ภายในห้องนอนที่ไม่ได้ใหญ่มาก ร่างของคนเจ็บที่นอนไม่ได้สติถูกปล่อยทิ้งไว้บนเตียงไม้อันแข็งจนปวดหลัง ร่างนั้นคือลาสที่ถูกหมาป่ากัด นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงเหมือนคนตาย

เฮือกก!?

" อะ โอ๊ย! เจ็บ... " ลาสสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจสักพักก่อนจะได้ลงไปนอนเหมือนเดิมเพราะแผลที่ไหล่ซ้าย ลาสค่อยๆหันไปมองแขนซ้ายของตน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความปลอดโปร่ง แขนของเขายังอยู่ดี ไม่ได้ถูกฉีกขาดหายไปไหน ลาสหันไปมองรอบๆห้องที่เจ้าตัวนอนอยู่

“โดนช่วยไว้สินะ โชคดีจริงๆตัวเรา” ลาสพึมพําพอคิดเรื่อยเปื่อยจนหันไปมองที่หน้าต่าง… ภายในหน้าตาที่เย็นชากับมีความตกใจและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ด้านนอกหน้าต่างที่เธอเห็นคือเผ่าพันธุ์ที่ไม่เคยเห็นในชีวิตมาก่อน มนุษย์ที่หูสัตว์ บางคนก็มีหูเป็นจิ้งจอก บางคนมีหางแมว ' นี่มันโคตรจะเป็นโลกแฟนตาซี ฉันหวังว่าคงไม่ใช่ เดอะลอร์ด**** ' ไม่ทันได้คิดก็มีคนมาขัดเสียก่อน

“ไม่เคยเห็นมนุษย์สัตว์หรือไง?” เสียงพูดดังมาจากทางประตู ลาสหันไปมองก็เจอกับเด็ก? อายุน่าจะ 12 13 ผมบลอนด์ทองอ่อน ใบหน้าน่ารักดูขี้เล่น นัยน์ตาสีแดงฉาน แต่ลาสกลับจ้องมองไปที่อย่างอื่นแทน สิ่งที่ดุกดิกๆอยู่บนหัวของเธอ

ใช่ หูจิ้งจอก เด็กข้างหน้าเขามีหูสัตว์อยู่ ลาสจ้องหูที่ขยับไปมาอยู่นาน นานเสียจนคนโดนจ้องเรียกลาสให้ตั้งสติดีๆหน่อย

" ขะ..ขอบใจที่ช่วยพี่ชายนะ... คือว่า- " ชายหนุ่มที่กำลังจะถามไถ่แต่จิ้งจอกน้อยตรงหน้าดันพูดตัดหน้าไปเสียก่อน

ตัวเรามีนามว่า ไวท์ ไอเซนฮาวร์

" ส่วนอายุขัยของเรานั้นมากกว่าเจ้า อย่าได้เรียกตัวเองว่าพี่ แต่จงเรียกเราว่าพี่สาวแทน " ลาสตกใจกับเด็กสาว(?)ข้างหน้าที่มีอายุมากกว่าเขาไม่ ชายหนุ่มไม่เชื่อแต่ว่า

' แฟนตาซีอะไรๆก็เกิดขึ้นได้จริงๆใช่ไหมนะ? จิ้งจอกเทพ? หรือจิ้งจอกทั่วไปกันแน่ เสียดายฉันไม่ได้จบชีววิทยา… '

“เป็นใบ้หรือไง เงียบอยู่ได้ มีปากก็พูดนามของเจ้ามา มันเสียมารยาทหากเจ้ารู้ชื่อของข้าแล้วเจ้าไม่บอกกลับ” ไวท์ที่เห็นสีหน้าของลาสที่เหมือนเสียดายอะไรสักอย่างก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่หงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างอารมณ์เสีย

ลาสที่ลังเลนิดหน่อยก็จะพูดอย่างกระตุกกระตัก เป็นเพราะพิษบาดแผล หรือตกใจนํ้าเสียงของจิ้งจอกตรงหน้า

“ ผ..ผมชื่อ

ดักลาส แมรี่แลนด์

เอ่ยขานนามของตนเสร็จ ก็ยืนมือขวาไปข้างหน้า สร้างความงุนงงให้กับจิ้งจอกตรงหน้า เธอมองไปที่มือลาสสลับกับใบหน้าของชายหนุ่ม ซึ่งเจ้าตัวพึงสังเหตุความผิดปกตินั้น ก็รู้ได้ทันทีว่า เขาไม่ได้อยู่บนโลกเดิมแล้ว ไวท์ก็คงไม่รู้จักการทักทายในประเทศที่เขาเคยอยู่ จึงได้ตอบไป

อะแฮ่ม! “คือว่า นี้เป็นการทักทายในที่ๆผมจากมานะครับ ฮ่ะๆ” ไวท์พยักหน้ายอมรับก่อนจะยืนมือไปจับ กับมือของลาสไม่พอต้องกล่าวออกมาอย่างแปลกใจ “แปลกดีแท้ การทักทายของเจ้ามันดูเรื่องมากอย่างยิ่ง เพียงแค่พูดสวัสดีทักทายก็ได้แท้ๆ?”

หลังจากทักกันหอมปากหอมคอไวท์ก็บอกให้นอนพักไปก่อน แน่นอนว่าต่อให้ออกไปจากห้องนอน ลาสก็คงจะไม่ทำตามอย่างแน่นอน ใครไปอยากเดินออกจากที่พักโดยที่ยังมีบาดแผลที่ใหญ่อยู่กัน?

เขารอจนไวท์เดินออกไป ก่อนจะกลับมาพร้อมกับชายชราอายุมากคนหนึ่งใส่ชุดเหมือนพวกชอบคอสเป็นนักเวทย์ ก็ได้เดินเข้ามาในห้อง

“โอ้… เจ้าตื่นแล้วหรือ มาๆเดียวข้าจะรักษาบาดแผลให้เจ้าเอง นอนนิ่งๆอย่าขยับไปไหน” ชายแก่เดินมานั่งลงข้างๆเตียงไม้ ก่อนจะพูดภาษาแปลกๆออกมา เว้นเสียแต่ว่าคนที่เรียนจบฝรั่งเศสมาจะมาได้ยินภาษาที่ชายชราพูด นั้นก็เพราะว่า มันเป็นภาษาฝรั่งเศสต่างหาก!

ลาสตกใจนิดหน่อยเพราะอาการเจ็บที่ไหล่ซ้ายเริ่มเบาลง หลังจากพูดหรือร่ายเวทมนตร์เสร็จก็ค่อยๆถอดผ้าพันแผลออก เผยให้เห็นผิวขาวไร้ที่ติ รอยแผลขนาดใหญ่ที่ถูกฟันของสัตว์ร้ายกระชากก็หายไปหมด

“โดนพวกชนพื้นเมืองเลี้ยงมาหรือไงกัน? เหตุใดเจ้าถึงได้ตกใจกะอีแค่เวทรักษา…” ไวท์อดไม่ได้ที่จะบ่นลาส เพราะว่าไม่มีใครที่ไหนเขาตกใจกับเวทมนต์พื้นฐานอย่างเวทมนตร์รักษาอย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะรู้จัก แม้ว่าลาสจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดกล่าวตอบโต้อะไรไป

“เอาเถอะๆ ข้าต้องไปทำงานต่อ คราวหน้าคราวหลังก็อย่าหลงเข้าไปลึกในเขตชายแดนก็แล้วกัน” ชายแก่ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกประตูไป ลาสหันไปมองไวท์ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเจ้าตัวยังคงมึนงงกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรวมไปถึงทั้งเรื่องเมื่อสักครู่

“คือว่า เอ่อ… คุณไวท์ครับ ที่นี่คือที่ไหนเหรอครับ?” ลาสเปิดประเด็นเรื่องสถานที่ ในการสทนาครั้งนี้เป็นคนแรก แต่โวท์ที่กําลังจะตอบก็คิดอะไรแปลกๆ กับลาสก่อนจะ สายตาที่จ้องลาสอย่างกับอาจารย์สอบวินัยที่จับได้ว่าเขาหนีเรียน ไวท์เริ่มรู้สึกตงิดๆ กับความพูดลงท้ายของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างมาก เสริมพร้อมไปกับใบหน้าตางามที่ไม่น่าจะเข้ากันได้กับเสียงพูด

เจ้าเป็นเด็กผู้หญิงแท้ๆ เหตุไฉนทำไมถึงใช้คำพูดเช่นเดียวกับเด็กผู้ชาย

ลาสที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำสีหน้าเหมือนโดนปืนยิงทะลุตัวด้วยความที่โลกนอกจากจะโดนหาว่าหน้าหวานแล้ว หากได้แต่งหญิงก็คงแยกไม่ออกว่าจริงๆแล้วเป็นผู้ชาย สมหญิงมากกว่าชายจนเคยมีผู้ชายมาขอแต่งงาน ประมาณสองคนแล้วละมั้ง?

“คือว่านะครับ ผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงครับ…” ลาสพูดด้วยสีหน้าตายด้าน

“ช่างมันเถอะ….” จิ้งจอกสาวบิดขี้เกียจนิดหน่อย ปล่อยให้ลาสพักอยู่สักพัก ก่อนจะชวนเขาออกไปข้างนอก เพื่อหาร้านอาหารกิน ก่อนจะเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ฟังเสียงของลาสที่พยายามจะท้วงซักกะนิด

ในอดีตโลกเดิมที่แล้วของเขา เป็นเพียงแค่นักการเมืองฝ่ายค้านแต่กลับถูกฆ่าตายอย่างไร้ประโยชน์ กลับมาต่างโลกซะงั้น หรือนี่จะเป็นชาติใหม่ที่เขาจะได้เริ่มต้นอีกครั้ง? อ๊ะ แล้วใครกันที่อยู่เบื้องหลัง… เอเลี่ยนมนุษย์ต่างดาว พระเจ้าหรือลิขิตชะตาชีวิตของเขากันแน่…


(แก้ไข 9/8/22)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด