ตอนที่แล้วตอนที่ 8 เรื่องราวของทหารรับจ้างอมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 กลุ่มทหารรับจ้างโมฟู

ตอนที่ 9 แปลงกาย


ตอนที่ 9 แปลงกาย

เมืองแสนห่างไกลจากเมืองหลวงอย่างเมืองดอมกาซ่าที่มีทหารรับจ้างอมนุษย์อันแข็งแกร่งคอยปกป้องเมืองอยู่ อมนุษย์ที่มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นมนุษย์ตั้งแต่กำเนิด พวกเขาเป็นสัตว์ที่เดินได้ด้วยสองขาเหมือนมนุษย์ ครึ่งคนครึ่งสัตว์ป่า เนื่องจากพวกเขามีความสามารถและความแข็งแกร่ง จึงทำให้มนุษย์ธรรมดาที่อาศัยอยู่ที่เมืองดอมกาซ่านี้หวาดกลัวจนถึงขนาดถ้าพวกเขาเหลือบไปเห็นชุดเครื่องแบบสีดำที่บ่งบอกได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือทหารรับจ้างอมนุษย์ พวกเขาจะรีบหนีทันที

“หัวหน้าครับวันนี้เราจะไปที่ร้านกาแฟสำราญรมย์ใช่หรือไม่?”

ซีน่า... อมนุษย์ลูกครึ่งสุนัขจิ้งจอกขนสีเขียวพูดขณะกำลังเดิน ขนของเค้าปริวไสวพร้อมกับใบหูที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาเป็นสุนัขจิ้งจอก ห่างสีเขียวของเขาเหยียดยาวโบกสะบัดแกว่งไปมา เขาได้หันไปถามคนที่เดินอยู่ด้านข้างอย่างใจจดใจจ่อ

“เจ้าจำได้ใช่ไหมเรื่องร้านกาแฟที่ข้าพูดให้ฟังเมื่อคืน จำได้หรือไม่?”

เชคือคนที่ตัวสูงกว่าซีน่า เชคืออมนุษย์ลูกครึ่งสิงโต ขนของเขาเป็นสีดำมีหูลักษณะเหมือนสิงโต เชเดินต่อไปโดยมิตอบคำถามใดของซีน่า ทว่าซีน่าก็ไม่ได้สนใจอะไรและพยายามพูดต่อไป

“กาแฟลาเต้ที่ข้าซื้อกลับไปให้ไม่อร่อยหรือ? ร้านกาแฟแห่งนั้นดำเนินกิจการด้วยหญิงสาวตัวคนเดียว ผู้ที่มีข่าวลือว่าหน้าตาสวยดั่งเทพธิดาในนิยายเพ้อฝันยังไงเล่า และนางมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ถึงแม้ว่านางจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนเปิดร้านมาจากบางคนที่ร่ำรวยแต่นางจะต้องเป็นเป้าหมายของพวกโจรเป็นแน่ เพราะหญิงสาวที่อยู่คนเดียวมีหรือจะรอดสายตาพวกโจรไปได้”

เมืองแสนห่างไกลแห่งนี้มีผู้คนมากมายที่ได้รับความประสงค์ร้ายจากคนของประเทศเพื่อนบ้านที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

แต่ถึงอย่างนั้น ตรงเขตชานเมืองของเมืองดอมกาซ่านี้ มีผู้คนมากมายมักร่ำรวยมาจากการเปิดร้านค้า ถึงแม้ว่าเงินที่เก็บมาทั้งหมดของรอนย่าจะถูกใช้ไปในตอนซื้อและตกแต่งร้านกาแฟนี้เสียหมดแล้ว ทว่าทุกคนก็ทราบดีว่าหญิงสาวที่ขยันขันแข็งอย่างรอนย่าจะสามารถหาเงินมาทดแทนส่วนที่ใช้ไปได้หลายเท่าตามที่นางต้องการ

“เราถูกต่อต้านจากร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองมาเสียนาน แล้วจะเป็นอะไรไปถ้าพวกเราจะไปนั่งกินอาหารในร้านกาแฟที่มิขับไล่เรา”

“……..”

จากนั้นเชได้หันหน้าไปหาซีน่าอย่างช้า ๆ เพื่อแสดงความเห็น

“ข้าต้องการเนื้อสัตว์...” เชพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

“ที่นั่นมิมีเนื้อย่าง ทว่าเป็นร้านกาแฟที่ขายเครื่องดื่มและขนมหวานเท่านั้น” ซีน่าตอบอย่างใจเย็น

เชผู้แสนหิวโหยเนื้อย่างได้แต่ยักไหล่และตอบซีน่าไปว่า “ร้านนั่นมันอยู่ตรงไหนเล่า?”

ดูเหมือนว่าเขาจะตกลงไปเยือนยังร้านกาแฟสำราญรมย์เสียแล้ว  ซีน่าคอยบอกทางอยู่ไม่ห่าง ทว่าทันใดนั้นก็มีเสียดังมาจากด้านหลัง...

“เฮ้! พวกเจ้าจะไปเมืองเซดริกหรือ? พวกเจ้าลืมข้าอยู่ตรงนี้!”

เสียงของคนผู้นั้นมิใช่ใครอื่น เขาคือยูลสะอมนุษย์ลูกครึ่งเสือชีต้า ขนของเขาขาวเหมือหิมะและมีหูลักษณะเหมือนเสือชีต้า

“ข้าขอไปด้วย จะดีสักแค่ไหนกันนะที่จะได้เจอหญิงสาวเสียที!” การพูดสวนออกมานี้คงเป็นใครมิได้นอกจากชิเซอมนุษย์ลูกครึ่งหมาป่า หูสีฟ้าของเขากระตุกอย่างต่อเนื่อง

“ทว่ามีแต่หญิงสาวหลงใหลในตัวข้านะ เจ้าอิจฉาไหมเล่า?” ยูลสะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งจนต้องกุมท้อง

เมืองเซดริกคือเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองดอมกาซ่า ทว่าเมื่อเทียบกันแล้วเมืองเซดริกมีชีวิตชีวาและเฟื่องฟูกว่าเมืองดอมกาซ่ามาก ซึ่งผู้คนนิยมไปที่เมืองเซดริกกัน เมื่อครั้งที่กลุ่มทหารโมฟูนี้ไปเยือนเมืองเซดริก หญิงสาวจำนวนมากมักจะเข้าหาและชื่นชมยูลสะเพราะเขาหล่อเหล่าเหมือนชายที่สมบูรณ์แบบ ทว่าผู้คนในเมืองเซดริกไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของพวกเขาเลย แต่ถ้าหากมีใครสักคนรู้ว่าพวกเขาเป็นทหารรับจ้างอมนุษย์ละก็ พวกเขาคงวิ่งหนีกันในทันที ดังนั้นยูลสะมักจะแปลงกายเป็นมนุษย์เวลาเข้าเมืองเซดริกนั่นเอง

“วันนี้พวกเรากำลังจะไปร้านกาแฟชื่อดัง” ซีน่าพูดโดยเมินเฉยต่อความยุ่งยากที่เกิดขึ้นระหว่างยูลสะและชิเซ

“อ่อ... ร้านกาแฟแห่งใหม่นั้นหนะหรือ กาแฟอร่อยหรือ? ใช่ร้านที่มีหญิงสาวที่สวยดั่งเทพธิดาดูแลกิจการคนเดียวใช่หรือไม่? แล้วทำไมพวกเราต้องไปลาดตระเวนที่นั่น? ร้านนั้นคนไปเยอะมิใช่หรือ? พวกเราต้องแปลงการหรือไม่?” คำถามมากมายออกมาจากปากของยูลสะ ทว่าซีน่าตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า...

 

“ข้าไปที่นั่นโดยมิได้แปลงกายเป็นมนุษย์”

“โอ้! พวกลูกค้าในร้านไม่วิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงหรือ!?” ยูลสะไม่ได้ถามแต่เป็นคำถามจากเชผู้ที่กำลังระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ถ้าหากพวกเขาแปลงกายเป็นมนุษย์ธรรมดาพร้อมซ่อนหูและห่างแสนเหยียดยาวของพวกเขาสะ ผู้คนธรรมดาก็คงไม่มีใครรู้ว่า... ที่จริงแล้วพวกเขาคืออมนุษย์ แต่ถ้าหากว่าหูและห่างของพวกเขาเผอิญเด้งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ผู้คนก็จะจำได้ทันทีว่าพวกเขาคือ ‘อมนุษย์แสนน่ากลัว’ ยิ่งน่ากลัวกว่ามากเมื่อตอนพวกเขาอยู่ในร่างสัตว์ป่าแล้วเดินด้วยสองขาเหมือนมนุษย์ ทว่าผู้คนในเมืองดอมกาซ่าทุกคนต่างจำพวกเขาได้แม่นไม่ว่าจะอยู่ในร่างใด

“ไปกันเถิด ร้านนั้นชื่ออะไรหรือ?” ชิเซถามขึ้นมา

“ร้านกาแฟสำเริญ... ไม่ใช่... ฉันขอคิดสักครู่”

“อ่อ! ชื่อร้านกาแฟสำราญรมย์!” คนที่ตอบชื่อร้านคือยูลสะพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เขาถามซีน่าต่อว่า...

“นางสวยดั่งเทพธิดาจริงหรือไม่ เหมือนดั่งในข่าวลือหรือไม่?”

“ข่าวลือนั่นจริงหรือไม่!?”

“เมื่อนางเห็นร่างอมนุษย์ของเจ้านางร้องไห้ออกมาเลยหรือไม่?”

“นางแค่... แปลกใจนิดหน่อย”

“รู้แล้ว! อย่างนั้นพวกเราต้องซ่อนหูและเก็บหางนะ! โอ้ยย! เจ็บจัง” ยูลสะแสดงอาการเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อพยายามพับหูของตนลงไปพร้อมกับสะบัดหาง

“ทว่า... นางไม่กลัวข้าแม้แต่น้อย” ซีน่าพูดเบา ๆ แต่ยูลสะไม่ได้ยิน

“เอาละ ทุกอย่างในร้านล้วนดีหมดรวมถึงอาหารก็อร่อย เรารีบไปกันเถิดก่อนจะต้องถึงเวลาไปทำงานใช่หรือไม่?” ชิเซพูดก่อนที่ยูลสะจะอ้าปากพูดเสียอีก

“ข้าหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว ที่นั่นมีเนื้อย่างใช่หรือไม่?”

“ไม่ ไม่มี”

“แล้วจะให้ข้าทำยังไงเล่า ข้าช่างหิวเสียเหลือเกิน...” ชิเซร้องครวญครางเพราะความหิว เขาตบไปที่ท้องของตนเอง

“ข้าแค่หวังว่าจะได้ผ่อนคลาย... จนกว่าพวกเราจะถูกขับไล่ออกจากร้านแห่งนั้น” เสียงกระซิบเบา ๆ ของยูลสะที่ไม่มีใครได้ยินเพราะถูกลมผัดผ่าน

หลังจากที่เดินไปสักพักพวกเขาก็พบกับร้านกาแฟแห่งนั้น

ร้านกาแฟดูเรียบร้อยเป็นระเบียบ ป้ายด้านหน้าร้านเขียนว่า ‘เปิด’ อมุนษย์ทุกตนเดินเข้าไปในร้านยกเว้นเชที่ยืนมองอยู่หน้าประตูทางเข้าร้าน

ภายในร้านกาแฟสำราญรมย์มีลูกค้าอยู่มากมาย เมื่อพวกเขาเหลือบไปเห็นการปรากฎตัวของอมนุษย์ทั้งหมด สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าเริ่มซีดเสียวพร้อมลุกขึ้นวางเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องจ่ายเอาไว้ที่โต๊ะแล้วเตรียมตัวออกจากร้านในทันที โดยการเดินออกจากร้านของพวกเขานั้นระมัดระวังอมนุษย์อย่างมาก พวกเขาไม่แม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้พวกอมนุษย์เสียด้วยซ้ำ

และเหลือแค่หญิงสาวคนเดียวที่อยู่ในร้าน

คนนั้นคือ... หญิงเจ้าของร้านกาแฟสำราญรมย์

หญิงผู้นี้ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะต้อนรับ นางช่างสวยเสียจริง... ผมของนางเป็นสีเงินราวกับทองคำขาวถักเปียแล้วพาดอยู่ที่ไหล่ข้างหนึ่ง นางสวมชุดสีฟ้าสบายตาโดยสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวทับอยู่... ชุดนี้มันช่างเรียบง่าย แต่เมื่อนางใส่แล้วมันกลายเป็นชุดที่ดูสวยงามเหลือเกิน

ดวงตาสีฟ้าของหญิงผู้นี้เบิกกว้างและแข็งทื่อ ทว่านางก็ค่อย ๆ เผยยิ้มสดใสออกมา

“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ”

นี่คือรอยยิ้มที่มาจากหัวใจของนางโดยแท้จริงที่ยินดีตอนรับ ‘อมนุษย์’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด