ตอนที่แล้วตอนที่ 6-2 อมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 เรื่องราวของทหารรับจ้างอมนุษย์

ตอนที่ 7 กังวลใจ


ตอนที่ 7 กังวลใจ

ดูเหมือนว่าบ่ายนี้จะไม่มีแม้แต่เงาของลูกค้า...

ใช่! ฉันควรใช้โอกาสนี้เพื่ออ่านหนังสือสักหน่อย

ทั้งที่งานอดิเรกของฉันคือการอ่านหนังสือ ทว่าตั้งแต่วันแรกที่ฉันเปิดร้านกาแฟจนถึงตอนนี้ฉันยังไม่มีโอกาสได้นั่งพักผ่อนอ่านหนังสือเลยแม้แต่น้อย ฉันเคยแต่อ่านหนังสือที่ได้รับความนิยมในชนชั้นสูง เช่นหนังสือมารยาท หรือคู่มือการเข้าสังคม ถึงแม้ว่าในตอนนี้ฉันจะมีหนังสือนิยายอยู่ไม่เยอะแต่ฉันก็ไม่มีเวลาอ่านอยู่ดี

แน่นอนว่าเนื้อหาของหนังสือที่ฉันเคยอ่านมักจะเกี่ยวกับงานเลี้ยงและพิธีชงชาของเหล่าขุนนาง ซึ่งในฐานะที่เป็นบุตรสาวของตระกูลกาวิเซล่า ฉันจำเป็นต้องอ่านและรู้เรื่องราวเหล่านั้น ผู้คนในตระกูลจะรู้สึกสูงส่งยิ่งขึ้นเมื่อบุตรสาวของตนมีความรู้เยอะเพียงพอ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องอ่านหนังสือสำหรับชนชั้นสูงอย่างไม่ลดละ หนังสือเหล่านั้นช่างห่างไกลกับหนังสือที่ฉันชื่นชอบยิ่งนัก

โอกาสที่หายากได้มาถึงแล้ว ฉันรักที่จะใช้เวลาอ่านหนังสือในโลกนิยายเพ้อฝันนี้อย่างช้า  ๆ จากนั้นฉันจึงเดินขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อหยิบหนังสือที่ยังอ่านไม่จบลงมาอ่านต่อ แล้วเดินลงมายังชั้นหนึ่งเพื่อชงกาแฟลาเต้...

ฉันนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะต้อนรับ แล้วค่อย ๆ เปิดหนังสืออ่านพร้อมพักผ่อนหย่อนใจ

หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นเกี่ยวกับเด็กสาวที่กำลังผจญภัย นี่ช่างตรงกับรสนิยมการอ่านของฉันเสียจริง

ฉันอ่านและพลิกเปลี่ยนหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง... ในที่สุดฉันอ่านหนังสือจบไปแล้วหนึ่งเล่ม เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีดำ นี่มืดแล้วหรือ... ฉันมองไปยังนาฬิกา...สองทุ่ม ถึงเวลาที่ต้องปิดร้านเสียแล้ว

‘ชิ้งงง!’ วงแหวนเวทมนตร์ปรากฏขึ้น

“ช่วยข้าทำความสะอาดทีนะ” ฉันใช้เวทมนตร์เรียกโลโตะมาช่วยทำความสะอาด ฉันขยี้ตาและบีบขมับอย่างเหนื่อยล้า จากนั้นจึงมีอะไรบางอย่างกระตุกกระโปรงของฉันอย่างแรง

เมื่อมองลงไปที่พื้นก็พบว่าโลโตะกำลังเงยหน้าขึ้นมาจ้องฉันพร้อมกับสีหน้าเป็นห่วง ทว่าฉันได้ส่งยิ้มให้โลโตะพร้อมบอกว่า ‘ข้าสบายดี’ แต่พวกเขาก็ยังคงกระตุกกระโปรงของฉันอย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมพูด ‘เอ๋!’ และลากฉันไปยังบันได เหมือนกับพยายามบอกว่าให้ฉันพักผ่อนเสียเถิด

“วันนี้ข้าไม่เหนื่อยเลยนะ” เพราะอย่างนี้ได้โปรดอย่ากังวลฉันเลย ทว่าโลโตะก็ยังไม่ฟังและบอกกับฉันว่า ‘อือหึ!’ พร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างปฏิเสธ

ฉันมั่นใจว่าพวกมันกังวลเพราะฉันทำหน้าอ่อนล้า ฉันยอมรับว่าการจัดการร้านกาแฟด้วยตัวเองมันเป็นเรื่องที่ยากและเหนื่อยล้าอย่างมาก แล้วฉันก็ต้องขอบคุณโลโตะที่พวกเขามาช่วยฉันจัดเตรียมร้านก่อนที่จะเปิดในวันพรุ่งนี้เช้า

ที่จริงแล้วภูติไม่ควรแสดงท่าทีหรือห่วงใยต่อมนุษย์ ทว่าโลโตะพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่จิตใจดีและขี้อาย

การได้สัมผัสถึงความห่วงใยและจิตใจดีของสัตว์ตัวกระจิ๊ดริดนี้ทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

“ขอบใจเจ้านะ ถ้าอย่างนั้นข้าก็ยินดีจะทำตามข้อเสนอ ในระหว่างที่ข้าพักผ่อนพวกเจ้าช่วยดูแลร้านแทนข้าทีนะ”

ฉันก้มหัวเสมือการโค้งคำนับให้แก่โลโตะ จากนั้นพวกมันก็ใช้มือเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มยกขึ้นมาตะเบ๊ะเหมือนจะบอกฉันว่ารับทราบแล้ว จากนั้นพวกมันก็กระจายตัวกันออกไปทำความสะอาดพร้อมส่งเสียงให้กำลังใจตนเองว่า ‘ฮ๊า! ฮ๊า!’ หลังจากกล่าวขอบคุณพวกโลโตะน้อยฉันก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อตรงไปยังอ่างอาบน้ำ

วันนี้เป็นวันที่แสนวิเศษ แม้ในช่วงเช้าจะช่างวุ่นวาย ทว่าตั้งแต่เมื่อวานที่ฉันได้พบกับลูกค้าอมนุษย์ หลังจากนั้นฉันก็ได้ใช้เวลาแสนผ่อนคลายในช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำ ฉันฮัมเพลงขณะที่กำลังอาบน้ำ แต่ทว่าฉันก็คิดบางสิ่งขึ้นมาได้

ในทางกลับกัน... ถ้าเกิดว่าร้านของฉันถูกมองในทางลบจากผู้คนเล่า...ถ้าในวันพรุ่งนี้ไม่มีลูกค้าคนใดกลับเข้ามาซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ร้านเลย... ร้านกาแฟแห่งนี้คงจะเงียบเหมือนสุสานเป็นแน่ ฉันควรจะทำเช่นไร...

ฉันใช้เวลาทั้งคืนคิดและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้...

เมื่อเช้าขึ้นฉันก็พบว่าความกังวลใจของฉันมันช่างเปล่าประโยชน์ ทันทีที่ร้านเปิดฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันใดหลังจากเห็นความวุ่นวายของลูกค้าที่แห่กันมาซื้อขนมและเครื่องดื่มที่ร้านของฉันเหมือนปกติ ฉันคิดถึงเวลาว่างที่ได้ใช้เมื่อวานนี้เสียจริง แต่ถึงกระนั้นการได้เห็นลูกค้ามีความสุขที่ได้ดื่มและกินขนมที่ฉันทำ ภาพเหล่านี้มันช่างเติมเต็มความสุขในหัวใจของฉันยิ่งนัก

ในขณะที่ฉันกำลังให้บริการลูกค้าด้วยรอยยิ้ม ฉันทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้โดยยังมิได้หยุดพัก

ลูกค้าชายก็ยังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจีบฉันเหมือนเดิม ทว่าพวกเขาก็ไม่แสดงอาการเยอะจนน่าเกียจ ดังนั้นพวกเขาจึงมิใช่ภาระที่ยากเกินจะรับมือ

‘กริ๊ง กริ๊ง!’

เสียงของกระดิ่งหน้าประตูทางเข้าร้านดังขึ้น ฉันนำกระดิ่งไปแขวนเอาไว้ที่หน้าประตูเมื่อเช้านี้ เพื่อจะให้มันแจ้งเตือนฉันทุกครั้งที่มีการเปิดประตู เนื่องจากเมื่อวานมีลูกค้าอมนุษย์เข้ามาในร้านโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว

“เจ้าอยู่นี่รึ! นานแค่ไหนแล้วที่เจ้าทำตัวไร้สาระที่ร้านแห่งนี้!” เสียงที่โกรธเกรี้ยวของภรรยาคนอบขนม เธอเดินเข้ามาพร้อมใบหน้าแสนหงุดหงิดแล้วตรงมาพูดกับสามีที่นั่งอยู่ด้านของโต๊ะสั่งอาหาร

สามีของเธออับอายอย่างมากพร้อมกับถูกเธอดึงหูและพยายามจะลากเขาออกไปจากร้าน

“แค่เพราะรอนย่ามีหน้าตาและนิสัยที่น่ารัก มันไม่ใช่ข้ออ้างที่เจ้าจะมานั่งแช่เป็นเวลานานที่ร้านนี้ได้ มันสร้างความรำคาญให้แก่ลูกค้าคนอื่นและเจ้าก็มีงานที่ต้องทำ กลับบ้าน!”

“รู้แล้ว ข้าเจ็บ!”

ขณะที่เธอกำลังดุด่าสามีของตน เธอได้หันมามองฉันด้วยสีหน้าขอโทษอย่างมาก

“ข้าขออภัยที่สามีของข้ามาสร้างความรำคาญให้แก่เจ้านะ”

“เขามิได้รบกวนอันใดเลยเจ้าค่ะ ข้าดีใจที่เขามาอุดหนุนทุกวัน ท่านจะรับกาแฟสักแก้วดีไหมเจ้าคะ?”

“อืม ข้าขอบคุณและจะขอรับกาแฟแก้วนี้ไว้นะ”

ขณะที่ฉันกำลังชงกาแฟ ภรรยาของเจ้าของร้านอบขนมปังได้หันไปหาลูกค้าชายผู้อื่นและพูดว่า “พวกเจ้าก็กลับไปทำงานของตนสะบ้าง!”

“ข้าพักอยู่” เสียงตอบอย่างอ่อนแอและสั่นไหวไปด้วยความกลัวได้ดังขึ้น นี่ทำให้ฉันหัวเราะเบา ๆ ออกมา

“ขอบใจเจ้านะ รอนย่า”

“มิเป็นไรเจ้าค่ะ ข้าก็ต้องขอบคุณท่านอย่างมากเช่นกัน”

เมื่อชงกาแฟให้แก่พวกเขาเสร็จ คู่รักร้านขนมปังอบก็ได้เดินออกไป ฉันโบกมือลาเขาทั้งสอง

พวกเขาคือคนจัดหาขนมปังที่เป็นวัตถุดิบใช้ทำแซนด์วิชของร้านสำราญรมย์ คนทำขนมปังมักจะมาส่งขนมปังในตอนเช้า และชอบพักดื่มกาแฟที่นี่ จากนั้นภรรยาของเขาก็มักจะมาลากตัวกลับแล้วเดินออกจากร้านพร้อมกันทุกวัน

พูดได้ว่าพวกเราค่อนข้างสนิทกัน เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์นี้ฉันก็ยิ้มออกมาได้ทุกครั้ง ขณะที่ฉันกำลังทำความสะอาดโต๊ะ อยู่ ๆ ชายเจ้าของร้านเครื่องประดับได้เรียกชื่อฉัน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด