ตอนที่แล้ว215 พาฉันไปเล่นเกมมั่งสิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป217 วันนี้พาฉันไปเล่นเกมได้ไหม

216 เปิดร้านตัดผมไหมลูก


“แม่หนูคนนี้ เฮ้อ ไปอยู่ให้มันเกาะกินชีวิตทำไม คนอย่างเธอขยันใช้ร่างกายทำงาน ไอ้หมอนี่ที่วันๆ เล่นแต่เกม เกาะเธอกิน อาพูดถูกใช่ไหมล่ะ” เพื่อนของพ่ออีกคนพูดออกมา “มาอยู่กับอาไหมล่ะ ส่งเสียให้หนูได้มากกว่ามันซะอีก”

“แม่งเอ๊ย!” ซิสกำหมัดแน่น “พอได้แล้ว!!” แม่พูดเสียงดัง

“ไอ้คนที่เอาตัวเองไม่รอด ก็ไม่สมควรอยู่ ฉันรู้สึกอายชาวบ้านเขา” พ่อพูดเส้นเลือดปูดขึ้นมา “ฉันเสียเงินส่งแกเรียนมหาวิทยาลัย ฉันบอกแล้วให้ไปทำงาน มันก็เลือกงานที่ไร้สาระ ขยันวางแผนใส่สมุดโง่ๆ ห้องสมุดแจกหนังสือสำหรับคนยากจน โถ่ ตัวเองยังไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อหนังสืออ่าน อาหารสำหรับคนสู้ชีวิต โถ่ ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด สร้างสนามเด็กเล่น งั้นเหรอ”

“เฮ้อ น่าจะเป็นพวกเล่นเกม ดูการ์ตูนเยอะน่ะบอส” เพื่อนพ่อเสริม “ปกป้องโลก ช่วยเหลือคนอื่น ไร้สาระ!”

“เขาเรียกอะไรนะ ฮีโร่” เพื่อนพ่อสองคนหัวเราะออกมา

“เพราะเอาแต่แคร์คนอื่น ไม่เคยแคร์คนในครอบครัวเลยสักนิด” ซิสกำหมัดแน่นพุ่งเข้าไป แม่เข้ามาห้ามเอาไว้ “อย่านะซิส”

“ก็เพราะคนอย่างพวกคุณไง ที่ทำให้โลกนี้แม่งไม่น่าอยู่” ซิสตะโกนเสียงดัง “ความเพลิดเพลินของเด็กๆ จินตนาการของเด็ก ต้องถูกทำลายด้วยน้ำลายผู้ใหญ่บางคน!” ซิสใช้หมัดชกไปที่พื้น ‘กำแพงน้ำแข็ง กำแพงน้ำแข็ง กำแพงน้ำแข็ง’

“คนอย่างพวกฉันมันไม่ดีตรงไหน” เพื่อนพ่อพูด เอียงคอไปมา “อย่างน้อยก็มีอาหารกิน มีเงินใช้” เพื่อนพ่อหัวเราะเสียงดังลั่น

“ไม่มีใครฟังแกหรอก ซิส เลิกเพ้อฝันได้สักที” พ่อพูด “เขียนหนังสือ วาดรูปการ์ตูน ฝันไปเถอะ อีกอย่าง เลิกบ้าบอกับจินตนาการไร้สาระได้แล้ว เมื่อไหร่แกจะเห็นความเป็นจริง ทำงาน ทำงาน ทำงาน เงินเท่านั้น เข้าใจไหม”

“อยู่กับความเป็นจริง เข้าใจไหม” พ่อซิสเดินออกไป เสียงหัวเราะอีกสองคนก็ดังขึ้นก่อนจะดีดบุหรี่ลงพื้น ขึ้นรถคันสีดำเงา เสียงเร่งเครื่องรถออกไปด้วยความเร็ว ฝุ่นลอยฟุ้งในอากาศ

“เจ็บไหมลูก” แม่ใช้มือลูบหน้าซิสด้วยน้ำตาที่ไหลมาข้างแก้มก่อนจะหันไปหาคิร่า “โถ่ แม่หนู มาบ้านครั้งแรกก็เจอเรื่องแย่ๆ แล้ว”

“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนที่หนูไปทำภารกิจก็เจอเรื่องแย่ๆ เหมือนกัน” คิร่าตอบ “นักผจญภัยบางคนก็เหมือนปีศาจ”

“เข้ามาในบ้านก่อนสิ” แม่พูด “หวังว่าซิสจะไม่ให้หนูกินแต่กล้วยนะ เขาน่ะ อดทนกัดฟันสู้หลายปี ดิ้นรน สุดท้ายก็พังลงมา และอีกครั้งที่เขาลาออกจากงานมาทำงานในหมู่บ้าน แม่ก็อดห่วงไม่ได้เลย เรื่องหนี้สินของพ่อเขาอีก ตัวของเขาอีก เขาเป็นห่วงหลายเรื่องเกินไป”

“แม่ ไม่ต้องละเอียดขนาดนั้นก็ได้” ซิสพูด คิร่าเสริม “แม่เก่งมากเลยค่ะ รู้ด้วยว่าซิส ซื้อกล้วยกินระหว่างนั่งยานพาหนะเต่าเหล็ก”

“อะไรคือเต่าเหล็ก” แม่ซิสถามระหว่างเปิดประตู “รถเมล์น่ะแม่ ช่างเถอะ คิร่า เขาจินตนาการเก่งพอๆ กับผม” คิร่ายิ้มเช่นเดียวกับซิส

แสงไฟจากตะเกียงถูกจุดขึ้น เสียงมีดหั่นผัก ‘กร๊อบ กร๊อบ’ ซิสบอกให้แม่รับรู้ว่าคิร่าจะนอนพักที่นี่ด้วย

“แล้วลูกจะกลับไปทำงานวันไหน” แม่ถาม “แม่จะไม่ถามหรอกว่าซิสทำอะไรอยู่ เพราะรู้ว่าลูกจะเล่าเมื่อลูกพร้อม”

“ครับ ผมว่าจะไปพรุ่งนี้เย็นครับ” ซิสตอบ “แล้วแม่จะไปไหนครับ”

“แม่ทำขนมในหมู่บ้านต้องไปเตรียมของตอนกลางคืน” แม่ถือกระเป๋าผ้าหันมาพูดกับคิร่า “พักผ่อนให้สบายนะ โทษทีนะที่บ้านแคบไปหน่อย” ซิสคิดในใจ ‘ขณะที่เกิดเรื่องๆ แย่ๆ แม่ยังดำเนินชีวิตต่อไป ไม่ย่อท้อ’ ‘เราก็ควรที่จะก้าวต่อไป’

“ไม่เป็นไรค่ะ” คิร่าพูด “บางครั้งหนูก็นอนบนต้นไม้”

แม่หัวเราะและยิ้ม มองไปที่ซิส “แม่ไปล่ะนะ ดูแลกันและกันด้วยนะ เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป” แม่หยุดและหันมาพูดประโยคสุดท้ายก่อนเจอเดินออกไป “เปิดร้านตัดผมไหมลูก”

“แม่!” ซิสร้องเสียงออกมาจากลำคอ “ลำพังตัวผมเองยังไม่ตัดเลย ผมชอบไว้ผมยาว” แม่ยิ้มและเดินต่อไป

“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ อร่อยมาก” คิร่าโบกมือ “ซิส แม่เธอจะไม่เป็นอะไรนะ กลางคืนสัตว์ประหลาดจะอันตรายกว่ากลางวัน”

“ในหมู่บ้านนี้ปลอดภัย แม่ไม่ออกไปนอกหมู่บ้านหรอก” ซิสพูด ในสมองเต็มไปด้วยหลายเรื่อง

หลังจากที่ซิสล้างจานและตักน้ำในตุ่มออกมาใส่กระบอก เทใส่แก้วให้คิร่าดื่ม หล่อนก็เดินออกมาหน้าบ้าน

“ฉันนั่งตรงนี้ได้ไหม” คิร่าเดินมาบนสนามหญ้าเล็กๆ “ดาวสวยมาก ตอนที่ฉันอยู่หมู่บ้านทานตะวันก็ชอบออกมานอนดูดาว”

‘แม่ต้องมาลำบาก เป็นเพราะเราสินะ’ ‘เมื่อไหร่เราจะทำให้แม่เลิกเป็นห่วงสักที’ ‘ทำไมเรามันไม่ได้เรื่องแบบนี้ แค่ห้องเช่ายังไม่มีปัญญาจะเช่า’ ‘คิว ฉันน่าจะยืมกุญแจบ้านนาย อับอายต่อหน้าคิร่าซะได้’ ‘ช่างเถอะ คิดมากไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน’

“นายเหม่ออีกแล้ว” คิร่าพูด “อย่าคิดมากน่า เสื้อผ้าของแม่นายก็พอใส่ได้ อีกอย่างฉันนอนได้ หมูย่างก็อร่อยกว่าที่เคยกินมาซะอีก” หล่อนเงียบไปสักพัก “ถ้าฉันมีพ่อแบบนี้ ฉันไม่มีดีกว่า แต่ฉันชอบแม่นายนะ”

“ขอบใจ คิร่า และขอโทษที่พามาเจอเรื่องแบบนี้” ซิสมองคิร่าที่กำลังใช้ความคิดเช่นกัน ‘นี่เหละคงเป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะให้ใครเข้ามาในชีวิต เพราะชีวิตฉันมันเต็มไปด้วย… เฮ้อ’ “จะให้ทำยังไงได้ ฉันพลาด ดันใช้บันไดไปทำเชื้อเพลิง และตอนนี้ก็โผล่ออกมาจากหลุมไม่ได้ซะแล้ว ไม่สิ ยกบันไดให้คนอื่นไป ฉันมันโง่จริงๆ”

“ไม่เป็นไรหรอก เชื่อเถอะ ฉันเจออะไรแย่ๆ กว่านี้มาแล้ว” คิร่าพูดต่อ “แต่ดูเหมือนนายผ่านเรื่องราวมาพอสมควร ความเจ็บปวดที่โผล่ออกมาครั้งแรกในบ้านของฉัน และการต่อสู้บนเวที ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราในสมาคมใบไม้สีม่วงจะต้องไม่ทิ้งกัน”

‘คิร่า เธอน่ารักเกินไปแล้ว’

“ปู่ฉันสอนการใช้ธนูก่อนที่ท่านจะจากไป หนึ่งสิ่งที่จำได้ขึ้นใจเลยก็คือ บางครั้งชีวิตก็ถูกดึงไปด้านหลัง นั่นหมายถึงมันจะพุ่งไปด้านหน้าไกลขึ้น” คิร่าพูด

“เหมือนกับลูกธนู!” ซิสเสริม

“ถูกต้อง!” คิร่ายิ้มให้ซิส “ฉะนั้น นึกก่อนนะ ปู่พูดว่า ขอเพียงควรจะเล็งให้ดีว่าจะยิงไปทางไหน”

“เพราะบางทีโอกาสอาจจะมีเพียงแค่ลูกธนูในกระบอกเท่านั้น” ซิสพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว คิร่าหันมามองซิสโดยไม่พูดอะไรต่อ ‘จงใช้มันอย่างคุ้มค่า’ ‘แม่นยำ’ ‘ให้ตายเถอะ เธอจะรู้ไหมคิร่า ฉันยิงธนูได้ห่วยที่สุด แต่อย่ารู้เลย’ ดวงดาวบนฟ้าระยิบระยับ

เช้าวันรุ่งขึ้นซิสพาคิร่าไปริมทะเล คิร่ารู้สึกตื่นเต้นกับคลื่นทะเล บอกกับซิสว่ายายซานไม่เคยให้ไปเล่นน้ำทะเลในดินแดนที่หก ซึ่งหล่อนก็เคยแอบไป แค่ดูเท่านั้น เสียงคลื่นซัดชายฝั่ง ปูตัวเล็กวิ่งลงไปในรู นกสีขาวบินอยู่บนท้องฟ้า และวันนี้ก็ได้เล่นทะเลของจริง

“เค็ม เหมือนเกลือที่หมักเนื้อสัตว์” คิร่าลองใช้นิ้วจิ้มน้ำทะเลแตะที่ปลายลิ้น

“ฮ่า ฮ่า” ซิสหัวเราะ “ฉันก็ชอบเล่นทะเล นึกถึงเมื่อก่อนคิวมาช่วยฉันสร้างปราสาททราย เราเคยหาหอยกันด้วย”

“นายกับคิวคงเป็นเพื่อนมานานสินะ” คิร่าพูด “ฉันไม่เคยมีเพื่อนเลย นอกจากคุณปู่ ยายซานและดอกทานตะวัน , ให้ฉันเป็นเพื่อนนายและคิวด้วยได้ไหม” คิร่าสาดน้ำขึ้นบนอากาศ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด